บทที่ 1012 ทะลวงระดับ ผู้สร้างมรรคา
“เช่นนั้นท่านก็เทศนาธรรมให้ข้าเถอะ ช่วงล้านปีมานี้ตบะของข้าไม่ก้าวหน้าขึ้นเลย”
เซียนซีเสวียนครุ่นคิดพลางเอ่ยออกมา หานเจวี๋ยได้ฟังก็พยักหน้ารับ แต่ในใจกลับรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างอย่างไม่ทราบสาเหตุ
หานเจวี๋ยเริ่มเทศนาธรรม เซียนซีเสวียนรับฟังอย่างตั้งใจ
การเทศนาธรรมครั้งนี้ดำเนินอยู่หนึ่งพันปี หลังจากเซียนซีเสวียนฝ่าขั้นเล็กได้สำเร็จ หานเจวี๋ยถึงจากไป
พอกลับมาถึงอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม หานเจวี๋ยก็เข้าสู่สภาวะฝึกบำเพ็ญทันที
เขารู้สึกว่าตนอยู่ไม่ไกลจากระดับผู้สร้างมรรคาแล้ว
นี่คือระดับที่เป็นอมตะมิวางวายโดยแท้ เขามุ่งมาดปรารถนาอย่างยิ่ง อีกอย่างผู้สร้างมรรคาก็ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายที่เขาต้องการไขว่คว้า
หมื่นล้านปีผ่านไปรอบแล้วรอบเล่า จักรวาลโลกดาราอันเป็นที่ตั้งของอาณาเขตเต๋าแห่งที่สามเปลี่ยนแปลงไปเปี่ยมด้วยไอชีวิต กระแสการบำเพ็ญก็เฟื่องฟูขึ้นมา
ดำเนินไปเช่นเดียวกับแดนเซียนในอดีต มีเผ่าพันธุ์ต่างๆ ปรากฏขึ้นมา
เพียงพริบตาเดียว เวลาผ่านพ้นไปอีกห้าล้านปี
[ตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุครบสามสิบล้านปีบริบูรณ์ ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขึ้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง บุกเบิกอนธการขึ้นแทนฟ้าบุพกาล จะได้รับชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน หินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]
[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ รักษาปณิธานเดิม จะได้รับชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
[ท่านได้โอกาสใช้งานสวรรค์ประทานโชคหนึ่งครั้ง]
ไม่ต่างไปจากตอนอายุครบยี่สิบล้านปีมากนัก เพียงแต่มียอดสมบัติหนึ่งชิ้นเพิ่มเข้ามาในตัวเลือกที่สอง
หานเจวี๋ยเลือกข้อที่สองอย่างเงียบๆ
[ท่านเลือกเก็บตัวบำเพ็ญ รักษาปณิธานเดิม ได้รับชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
[ท่านได้รับยอดสมบัติเลิศมรรคา…ธนูปฐมเทพทลายโลกา]
[ธนูปฐมเทพทลายโลกา: ยอดสมบัติเลิศมรรคา ก่อกำเนิดขึ้นจากการฟูมฟักของปราณปฐมยุค ผสานพลังทำลายล้างโลกมหามรรคไว้ ผูกวิญญาณจดจำนายได้ ทว่าหลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้ยอดสมบัติเลิศมรรคาชิ้นอื่นได้อีก]
สมบัติเลิศมรรคา ไม่เลวเลย!
สามารถทำลายล้างโลกมหามรรคได้ ร้ายกาจมาก!
เพียงแต่คุณสมบัติในข้อสุดท้ายทำให้เขาไม่พอใจ การผูกมัดเช่นนี้ไม่เหมาะกับเขา
เก็บไว้ก่อนแล้วกัน จะใช้หรือไม่ใช้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ด้วยพลังของเขาขอเพียงไม่มีผู้สร้างมรรคามาขัดขวาง การทำลายโลกมหามรรคก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย
หานเจวี๋ยไม่ได้นำสมบัติวิเศษออกมา แต่ฝึกบำเพ็ญต่อ
ผู้สร้างมรรคาอยู่แค่เอื้อมแล้ว!
เวลานี้เอง ปราณปฐมยุคแดงฉานปกคลุมไปทั่ว จักรวาลมากมายนับไม่ถ้วนตั้งอยู่ท่ามกลางปราณปฐมยุคหนาแน่น เสถียรมั่นคงอย่างยิ่ง
โลกปฐมยุคเริ่มให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตด้วยตัวเองแล้ว ทำให้เหล่าเทพมารฟ้าบุพกาลที่ล้มเหลวในการสรรค์สร้างสิ่งมีชีวิตต่างก็แปลกใจเป็นล้นพ้น
หานเจวี๋ยคาดคะเนได้ว่ากำลังจะฝ่าทะลวงแล้วจึงเอ่ยขึ้นว่า “หลิงเอ๋อร์ ออกไปรอด้านนอกสักระยะเถิด”
หานหลิงผงะไปเล็กน้อย เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ท่านพ่อบอกให้นางออกไป
นางไม่ถามให้มากความ รีบลุกขึ้นเดินออกไปทันที
ภายในอารามเต๋าเหลือเพียงหานเจวี๋ยคนเดียว ลวดลายสีแดงสายหนึ่งผุดขึ้นกลางหว่างคิ้วเขา ดูคล้ายรอยปริแยกของผิวหนัง ลูกแสงสีดำแดงดวงหนึ่งลอยออกมา
โลกปฐมยุค!
ลูกแสงสีดำแดงลูกนี้เริ่มควบรวมก่อตัวพัฒนาจนมีตัวตนขึ้นมาอย่างแท้จริง
หานเจวี๋ยประคองมันไว้กลางฝ่ามือ ทำความเข้าใจต่อไป
โลกมหามรรคสมบูรณ์ ผู้สร้างมรรคาก็อยู่ตรงหน้าแล้ว!
ด้วยการทำความเข้าใจในช่วงหลายปีมานี้ เขาทราบแล้วว่ากฎเกณฑ์เหนือธรรมชาตินั้นคือสิ่งใด
โลกมหามรรคทุกแห่งล้วนมีกฎเกณฑ์เหนือธรรมชาติอยู่ กฎเกณฑ์นี้ผสานรวมหลักการแห่งมหามรรคสามพันวิถีไว้ ทั้งยังมีความมหัศจรรย์ของตัวโลกมหามรรคเองอยู่ด้วย มันสามารถรองรับการถือกำเนิดของตัวตนต่างๆ ได้และสามารถกำจัดปัจจัยที่ไม่มั่นคงภายในโลกมหามรรคได้ แทบจะมีอำนาจครอบคลุมรอบด้าน
นี่คือกฎแห่งการรังสรรค์!
รอจนกฎเกณฑ์แห่งการรังสรรค์ของโลกปฐมยุคก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ เข้าควบคุมโลกปฐมยุคแล้วผสานรวมกับหานเจวี๋ยต่อ เขาก็จะบรรลุถึงระดับผู้สร้างมรรคาที่เฝ้าปรารถนามาเนิ่นนาน!
ดูเหมือนจะอยู่ใกล้ยิ่ง แต่ก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
เกือบหนึ่งแสนปีต่อมา กฎแห่งการรังสรรค์ก่อตัวสำเร็จ!
หนึ่งล้านปีต่อมา กฎแห่งการรังสรรค์เข้าควบคุมโลกปฐมยุค เชื่อมต่อกับมหามรรคสามพันวิถี!
ห้าแสนปีต่อมา หานเจวี๋ยผสานรวมกับกฎแห่งการรังสรรค์!
เริ่มทะลวงระดับ!
หนึ่งแสนปีให้หลัง หานเจวี๋ยทะลวงระดับสำเร็จ พลังเวทเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง กายเนื้อและวิญญาณเองก็เช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงนี้ดำเนินอยู่หนึ่งแสนปีเช่นกัน
ทั่วทั้งร่างของหานเจวี๋ยยกระดับสู่สภาวะสูงสุด จิตรับรู้ของเขาครอบคลุมทั่วทั้งโลกปฐมยุค
ถึงแม้โลกปฐมยุคจะไม่ใหญ่โตเท่าฟ้าบุพกาล แต่ก็กว้างใหญ่ไพศาลมากพอ ทุกสิ่งทุกอย่างในแต่ละซอกมุมล้วนปรากฏต่อสายตาของเขา ชั่วพริบตานั้นเขาสอดส่องได้ทั่วทุกซอกมุม ซ้ำยังเป็นการสอดส่องไปพร้อมกันในครั้งเดียวด้วย มุมมองเช่นนี้น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง มิใช่การแบ่งจิตทำสองอย่างพร้อมกัน แต่เป็นการทำสารพัดสิ่งอย่างไปพร้อมกัน
ด้วยความช่วยเหลือของกฎเกณฑ์แห่งการรังสรรค์ อำนาจควบคุมที่หานเจวี๋ยมีต่อโลกปฐมยุคเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม โลกปฐมยุคกลายเป็นส่วนหนึ่งของพลังเวทเขา เพียงเขาใช้ความคิดก็สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในโลกปฐมยุคได้แล้ว
ไม่แปลกเลยที่เจ้านวฟ้าบุพกาลจะฟื้นคืนชีพสรรพสิ่งฟ้าบุพกาลได้สบายๆ!
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานแค่ไหน
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ร่างกายเปลี่ยนไปอยู่ในสภาพปราณปฐมยุคแล้ว ดูคล้ายเงาร่างสีแดงดำร่างหนึ่ง
[ตรวจสอบพบว่าท่านทะลวงสู่ระดับผู้สร้างมรรคาแล้ว ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง ปลดปล่อยโลกปฐมยุคสู่ดินแดนเวิ้งว้าง จะได้รับโอกาสใช้สวรรค์ประทานโชคห้าครั้ง]
[สอง เก็บตัวต่อไป ซ่อนเร้นโลกปฐมยุคไว้ในวิญญาณต่อไป จะได้รับยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
แค่นี้หรือ?
หานเจวี๋ยรู้สึกผิดหวังยิ่ง แต่ตัวเลือกข้อแรกอันตรายเกินไป หากนำออกมามีความเสี่ยงสูงที่จะถูกเจ้านวฟ้าบุพกาลสะกดไว้
เขาอาจจะมีกำลังพอต่อกรกับเจ้านวฟ้าบุพกาลแล้ว แต่หากทำเช่นนั้นก็วุ่นวายไม่จบไม่สิ้น จะฝึกบำเพ็ญได้อย่างไร ส่วนสวรรค์ประทานโชค เขาค่อยๆ สะสมไปตามกาลเวลาได้
หานเจวี๋ยเลือกตัวเลือกข้อที่สองอย่างเงียบๆ
[ท่านเลือกเก็บตัวต่อไป ได้รับยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
[ท่านได้รับสุดยอดสมบัติ…กงล้อสวรรค์เลิศรังสรรค์]
[กงล้อสวรรค์เลิศรังสรรค์: สุดยอดสมบัติ ใช้ได้ทั้งโจมตีและป้องกัน ผสานพลังป้องกันสุดแข็งแกร่งของตัวตนที่ทราบถึงการมีอยู่ ไม่สามารถทำลายทิ้งได้ สามารถย้อนทวนพลังแห่งบ่วงกรรมได้]
ยอดเยี่ยม!
สุดยอดสมบัติ!
หานเจวี๋ยใจเต้นแรง กำไรมหาศาลแล้ว!
พลังป้องกันสุดแข็งแกร่ง แค่ฟังก็ชวนให้ตื่นเต้นแล้ว!
หานเจวี๋ยไม่ได้นำสุดยอดสมบัติชิ้นนี้ออกมา แต่เริ่มปรับตบะให้มั่นคงพร้อมกับเรียกหน้าต่างค่าสถานะออกมาตรวจดู
[ชื่อ: หานเจวี๋ย]
[อายุขัย: 31,800,128/12,199,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999, 999,999]
[เผ่าพันธุ์: เทพมารปฐมยุค (มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต)]
[ตบะ: ผู้สร้างมรรคาระยะต้น (อริยะสมบูรณ์แบบ)]
[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ (ระดับมหามรรค), วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]
[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด, มหามรรคแห่งกรรม, มหามรรคต้นกำเนิด]
[คุณสมบัติกาย: กายเลิศมรรคาปฐมยุค]
….
อายุขัยยาวนานเหลือเกิน เยี่ยมมาก!
หานเจวี๋ยคร้านจะนับแล้วว่ามีทั้งหมดกี่ปีกันแน่ เขารู้เพียงว่าชีวิตตนยืนยาวอย่างยิ่ง
อายุขัยดั้งเดิมนี้ หากถึงยามที่หานเจวี๋ยเหลืออายุขัยเพียงปีเดียวก็สามารถใช้ประโยชน์จากฎเกณฑ์แห่งการเวลายืดอายุขัยออกไปจนไร้ขีดจำกัดได้ เทียบเท่ากับเป็นอมตะไม่มีวันตาย
ความหมายของอายุขัยดั้งเดิมขึ้นอยู่กับหลักเหตุผล มีวิธีโจมตีทำลายอายุขัยดั้งเดิมได้หลายวิธีนัก
หานเจวี๋ยใช้เวลาห้าหมื่นปีถึงปรับตบะให้มั่นคงได้
หลังจากตบะมั่นคงแล้ว เรื่องแรกที่หานเจวี๋ยทำคือท้าสู้กับมหาเทวาพ้นนิวรณ์
ส่วนพลังวิเศษมรรคกระบี่เหล่านั้น เขาคร้านจะยกระดับแล้ว อาศัยเพียงฝ่ามือสวรรค์มหาเกรียงไกร ปฐมยุคประทับนภาและปฐมยุคสิ้นสูญก็เพียงพอจะถล่มทำลายล้างแล้ว!
เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้!
สังหารได้ในเสี้ยววินาที!
ไม่มีข้อจำกัดพะวงใดๆ!
เมื่ออยู่ในระดับเดียวกันแล้ว ไม่มีเหตุผลใดเลยที่หานเจวี๋ยจะพ่ายแพ้ให้แก่มหาเทวาพ้นนิวรณ์!
แต่นี่เป็นเพียงในแบบจำลองการทดสอบเท่านั้น เพียงตัดสินชัยชนะของเขาได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้สร้างมรรคาไม่มีทางตาย
หากกฎเกณฑ์แห่งการรังสรรค์ไม่ล่มสลาย ผู้สร้างมรรคาก็คงอยู่ชั่วนิรันดร์
กฎเกณฑ์แห่งการรังสรรค์เป็นกฎเกณฑ์ที่มีเพียงเจ้าของโลกมหามรรคที่สัมผัสรับรู้ถึงตัวตนของมันได้ ส่วนตัวมันก็สามารถแบ่งตัวแยกตัวจากโลกมหามรรคได้ ดังนั้นหากคิดจะจัดการมัน นับว่าเป็นไปไม่ได้เลย
………………………………………………………………