ตอนที่ 395 ล้างเอ็นคลายเส้น
ลงมาจากชั้นบน น่าหลานรั่วหงกับน้องชายก็พามู่เถาเยากับถังถังไปเก็บสมุนไพร
รถขับผ่านกลางทุ่งนา ประหนึ่งท่องเที่ยวท่ามกลางภาพวาด
ถังถังมองทัศนียภาพผ่านหน้าต่างรถ ท่องกลอนโบราณอย่างอารมณ์ดี “ฟ้าใสโอบท้องทุ่ง มองไปสุดลูกตา บ้านติดท่าเรือ หมู่บ้านเชื่อมสายน้ำ น้ำใสไหลริมทุ่ง สีเขียวชอุ่มเขา เดือนเพาะปลูกไร้คนคร้าน ต่างช่วยกันขมีขมัน”
ใบหน้าของมู่เถาเยามีรอยยิ้ม “ทิวทัศน์ท้องทุ่งก็ให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง คนที่ชอบจะชอบมาก คนไม่ชอบจะรู้สึกว่าลำบาก”
น่าหลานรั่วเซิงมองผ่านกระจกมองหลัง ยิ้มพูด “ในความเป็นจริงสำหรับคนทั่วไปแล้ว งานเกษตรกรรมไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งยังทำเงินได้ไม่เยอะ ดังนั้นร่างกายจึงรู้สึกลำบาก จิตใจก็เหน็ดเหนื่อย”
น่าหลานรั่วหงพูดต่อ “ถูกต้อง พวกเราคนฝึกยุทธ์ ทำงานเกษตรไม่ใช่เรื่องยาก แต่กลับต้องใช้เวลาเยอะมาก…ลงทุนลงแรงเยอะ รายได้น้อย ชาวนาชาวสวนก็เลยยอมออกไปหางานทำข้างนอกดีกว่าอยู่เฝ้าเรือกสวนไร่นา…”
ถังถังยิ้มถาม “คุณอาทั้งสองก็เคยทำงานสวนเหรอคะ”
“ทำครับ ทุกคนในบ้านถ้าว่างก็จะช่วยทำตลอด”
น่าหลานรั่วเซิงพยักหน้า “เมื่อก่อนทำแปลงเกษตรแค่เพื่อประทังรายจ่ายของครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกเยอะ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ราคาสินค้าเกษตรขึ้น ขายง่าย ขอแค่ขยันหน่อยก็มีคุณภาพชีวิตแบบคนทั่วไปได้”
มู่เถาเยายิ้มบาง “แบบนี้ก็ถือว่าดีมากแล้วค่ะ บางที่จนกว่าที่นี่เยอะ”
อย่างบ้านเกิดของอาจารย์สาม ตอนนี้ต้องดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอด
เด็กผู้หญิงออกไปทำงานข้างนอกก็ไม่อยากกลับไปอีก คนโสดในหมู่บ้านนี้จึงมีเยอะมาก
ตี้อู๋เปียนเริ่มลงมือเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มจากหมู่บ้านนั้น
น่าหลานรั่วเซิงถอนหายใจ “อืม หมู่บ้านเรานับว่าดีมากแล้ว ยิ่งไปทางตะวันตกยิ่งยากจน…ถึงขั้นที่ขาดการศึกษา”
ประเทศเหยียนหวงกว้างใหญ่ ลำพังตัวคนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทั้งหมดได้ ต้องอาศัยทุกคนช่วยกัน
ถังถังยิ้มพูด “ต่อไปจะต้องดีขึ้นแน่ค่ะ”
ทุกคนพยักหน้า
ช่วงหลายปีมานี้โครงการช่วยเหลือคนยากจนของรัฐบาลทำได้ยอดเยี่ยมมาก ความคิดของพลเมืองก็ตามทัน งานพัฒนาไม่ได้ยากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว…
ค่อยเป็นค่อยไป วันหน้าต้องดีขึ้นแน่
ทุกคนคุยเรื่องชาวบ้านกับการพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ไปถึงล่างเขา
เทือกเขาหลายลูกเรียงราย ป่าไม้เขียวชอุ่ม กลิ่นป่าอบอวล
ถังถังมองเส้นทางเล็กๆ ที่ทอดยาวขึ้นไปบนเขาแล้วพูด “ตรงนี้มีทางด้วยค่ะ ดูท่าปกติก็มีคนขึ้นเขา”
น่าหลานรั่วเซิงยิ้มพูด “ที่นี่เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่ง หมู่บ้านนี้เล็กมาก มีแค่สามสิบกว่าครัวเรือน กระจุกตัวอยู่ตรงตีนเขา พื้นที่เกษตรของพวกเขาก็ให้พวกเราเช่าแล้ว การดำรงชีวิตในตอนนี้ก็ถือว่าพอผ่านไปได้ คนที่ขึ้นเขาส่วนใหญ่จะไปเก็บฟืน หาผลไม้ป่าเห็ดป่า”
น่าหลานรั่วหง “หมู่บ้านนี้ไม่มีคนรู้เรื่องการแพทย์ ไม่น่าจะมีคนขึ้นไปเก็บสมุนไพรนะ เสี่ยวเยาเยา เสี่ยวถังถัง สมุนไพรที่พวกเราต้องใช้มันหายากไหม”
มู่เถาเยายิ้มตาโค้งพลางส่ายหน้า “ค่อนข้างเป็นสมุนไพรทั่วไปค่ะ น่าจะหาในภูเขานี้ได้ พวกเราลองไปตรงจุดที่คุณนายผู้เฒ่าบอกดูหน่อยแล้วเดินเข้าไปข้างในอีก”
ทุกคนพยักหน้า
ผู้ชายวัยกลางคนสองคนสะพายเข่ง ถือจอบกับเสียม ให้เด็กสาวสองคนเดินตรงกลางเพื่อป้องกันอันตราย
คนของตระกูลน่าหลานชอบมาฝึกวิชาตัวเบาในป่า รู้ว่าตรงไหนมีของป่า แต่ขอแค่ไม่มีอันตรายก็พอแล้ว
ทุกครั้งที่มู่เถาเยากับถังถังเก็บสมุนไพรได้ก็เอาให้สองพี่น้องดู
“คุณอาทั้งสองคะ วันหน้าถ้าเข้าป่าแล้วเจอสมุนไพรพวกนี้ก็เก็บกลับไปได้นะคะ เอาไปตากเก็บไว้ ถึงจะไม่อยากให้มีวันที่ได้ใช้ แต่เตรียมไว้ก็ย่อมดีกว่าค่ะ”
สองพี่น้องพยักหน้าต่อเนื่อง
ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไปทั้งสี่คนก็เดินไปถึงบริเวณที่คุณนายผู้เฒ่าบอก
มู่เถาเยาเสนอ “พวกเราสี่คนหาสี่ทิศทาง ใครเจอดอกหลานหลัวก็ตะโกนบอกนะคะ”
น่าหลานรั่วหงปฏิเสธทันที “ไม่ได้ พวกเราต้องปกป้องพวกเธอสองคน”
ถังถังยิ้มพูด “คุณอาใหญ่คะ พวกเรามีวิชาต่อสู้ติดตัว ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ”
น่าหลานรั่วเซิง “ให้เด็กสาวอย่างพวกเธอไปตามลำพังพวกเราไม่วางใจ เอาแบบนี้ พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่มแยกกันไปสองทางดีไหม”
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “คุณอาน่าหลานคะ วางใจได้เลยค่ะ ฉันฝีมือดีกว่าอาจารย์รอง พี่ถังถังก็ใช้ได้ พวกเราเดินในป่านี้ไม่เป็นอะไรแน่นอนค่ะ”
น่าหลานรั่วหงครุ่นคิดแล้วพูดขึ้น “ไม่งั้นเอาแบบนี้ พวกเธอสองคนไปด้วยกัน อากับอาเซิงจะแยกกันไปคนละทาง”
มู่เถาเยาพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ถ้าหาเจอแล้วก็อย่าเพิ่งแตะ รอพวกเราไปสมทบก่อน จะได้ไม่ถูกแมลงหลานกู่ต่อยเอา”
“ได้”
ครั้นแล้วทั้งสี่คนก็แยกกันไป
สองพี่น้องไปซ้ายขวา มู่เถาเยากับถังถังเดินไปข้างหน้า
“เสี่ยวเยาเยา สมุนไพรในป่าทางตะวันตกไม่เหมือนทางหมู่บ้านพวกเรากับหมู่บ้านตงจี๋เลยเนอะ”
“แน่นอนค่ะ แต่ละที่ล้วนมีความพิเศษต่างกัน ที่นี่มีสมุนไพรหลายชนิดที่แม้แต่หมู่บ้านเถาหยวนซานก็ยังมีอยู่น้อยมาก”
“นั่นสิ พวกเราเก็บเยอะหน่อย”
“ค่ะ พรุ่งนี้เช้ามาอีกได้”
“ใช่ พรุ่งนี้เช้ามาอีก ตอนบ่ายค่อยกลับ”
“ค่ะ”
ทั้งสองคนคุยไปเก็บสมุนไพรไป หนึ่งชั่วโมงผ่านไปถังถังก็ร้องด้วยความดีใจ “เสี่ยวเยาเยา ดูนั่นสิ!”
มู่เถาเยามองตามถังถัง ดอกหลานหลัวขึ้นเป็นกระจุกอยู่ข้างหน้า
ทั้งสองคนดีใจมาก
ถังถังตะโกนโดยใช้กำลังภายใน “คุณอาทั้งสองคะ”
สองพี่น้องน่าหลานใช้กำลังภายในเหาะมาตามเสียง จากนั้นก็ต้องตกใจ
สีหน้าของทั้งสองคนเหมือนกับมู่เถาเยาที่ตอนนั้นถูกราชาหมาป่าขาวพาไปเจอทุ่งดอกจื่อตันในป่าพิษหมาป่า
น่าหลานรั่วเซิงยิ้มถาม “เสี่ยวเยาเยา ถังถัง เยอะขนาดนี้เอาไปหมดเลยเหรอ”
“ค่ะ เอาหมด ล้างเอ็นคลายเส้น มีเยอะๆ ไม่รังเกียจหรอกค่ะ”
“งั้นพวกเราไปเก็บ”
อย่างไรเสียมีหมอเทวดาอยู่ ต่อให้ถูกแมลงหลานกู่ต่อยก็ไม่เป็นไร
มู่เถาเยารีบยื่นมือออกไปห้าม “อย่าเพิ่งค่ะ เดี๋ยวฉันล่อแมลงหลานกู่ออกมาก่อนค่อยเก็บ”
น่าหลานรั่วหง “ล่อออกมาได้ด้วยเหรอ”
“ได้ค่ะ ฉันมีสิ่งที่พวกมันชอบมากกว่า”
เมื่อวานหลังจากที่ฟังอารองน่าหลานเล่าเรื่องที่เมืองเย่ว์ตู เธอก็นึกถึงแมลงหลานกู่ เมื่อคืนเลยทำยามีกลิ่นที่พวกมันชอบกับพี่ถังถัง
มู่เถาเยาเปิดกล่องยาใบน้อยของตัวเอง หยิบขวดเซรามิกที่ภายในบรรจุของเหลวได้ประมาณสามร้อยมิลลิลิตร
เปิดฝาออก เมื่อกลิ่นหอมลอยอบอวลเธอก็เอาขวดวางไว้กลางหมู่ดอกหลานหลัว
ผ่านไปประมาณสิบห้านาทีมู่เถาเยาก็ไปเก็บขวด
สองพี่น้องน่าหลานรู้สึกงงงวย
พวกเขาไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย
ถังถังยิ้ม “ถึงแม้แมลงหลานกู่จะไม่ถือว่าเล็กมาก แต่พวกมันตัวเบา คืบคลานเหมือนหิมะตก ไม่มีเสียงเลยสักนิดค่ะ ถูกต่อยก็แทบจะไม่รู้สึก ถ้าไม่เห็นจุดเล็กสีน้ำเงินที่เล็กกว่ารูเข็มก็จะไม่รู้เลยค่ะว่าถูกต่อย”
มู่เถาเยาเก็บขวดกลับมาให้สองพี่น้องดู
แมลงหลานกู่ยั้วเยี้ยคืบคลานอยู่เต็มขวดสีขาว
น่าหลานรั่วหงพูด “เยอะมาก!”
“ดอกละตัว”
น่าหลานรั่วเซิง “เสี่ยวเยาเยา งั้นดอกหลานหลัวยังมีประโยชน์อยู่ไหม”
“มีค่ะ บนดอกมีของเหลวของเสียจากตัวแมลงหลานกู่ พวกเราเก็บกลับไปผสมทำยา มันเป็นตัวชี้นำได้อย่างดีค่ะ”
“…ได้”
ถึงแม้คำว่าของเสียจะชวนสะอิดสะเอียน แต่หมอเทวดาบอกว่ามีประโยชน์ งั้นก็เก็บเถอะ