วันศุกร์
ตอนนี้การนินทาเรื่องที่ผมกับซาเองุสะซังเรียกชื่อเล่นกันเริ่มจะซาลงจนเป็นปกติแล้ว
แต่ที่เปลี่ยนไปก็คือพวกสาวๆที่เริ่มจะเข้าหาซาเองุสะซังมากกว่าเมื่อก่อน
ดูเหมือรว่าพวกนั้นจะเคยคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงชั้นสูง แต่ก็ได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดเมื่อได้เห็นเธอสนิทกับพวกเราได้เหมือนคนทั่วไป
ไม่ใช่แค่ซาเองุสะ แต่ชิมิซุที่ปกติจะอยู่คนเดียวก็ได้เริ่มทำความรู้จักกับคนอื่นๆบ้างแล้ว
ทั้งผมและทาคายูกิต่างก็ดีใจที่ได้เห็นทั้งสองคนเข้ากับคนในห้องได้ดีขึ้น ก็มีบางครั้งที่พวกเราจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่
แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองคนก็ยังคงตั้งกำแพงกันพวกผู้ชายไว้เหมือนเดิม ทำให้พวกนั้นยังคงจ้องเราแบบอิจฉาอยู่ประจำ
“กิจกรรมชมรมทั้งหมดจะถูกพักไว้ เพื่อให้ทุกคนเนรียมตัวสอบนะจ๊ะ เพราะงั้นก็ตั้งใจเรียนกันด้วยล่ะเดี๋ยวจะไม่ผ่านเอานะ”
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่อาจารย์กล่าวก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
ใช่ครับตอนนี้ใกล้ถึงเวลาสอบกลางภาคแล้ว
ก่อนหน้านี้ผมก็ได้ตั้งใจเรียนอย่างหนัก แม้ว่าผมจะต้องทำงานไปด้วยก็ตาม
เพราะงั้นตอนนี้ก็ได้เวลาวัดผลกันแล้วล่ะ
มีความไม่สบายใจมากมายออกมาจากคนในห้อง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราจะได้สอบหลังจากที่ได้เข้าเรียนมา
แต่ว่าผมนั้นตรงข้าม ผมตั้งใจจะทำให้ตัวเองติดท็อปให้ได้
ที่คือเวลาที่ชมรมกลับบ้านจะได้สำแดงฤทธิ์!
ทันใดนั้นผมก็รู้สึกถึงการจ้องมองจากด้านข้าง พอผมไปมองก็พบกับซาเองุสะซังที่กำลังยิ้มแบบแปลกๆอยู่ ราวกับกำลังวางแผนการบางอย่าง
ขนาดเราอยู่ในห้องเธอยังทำตัวน่าสงสัยได้อีก ซาเองุสะซังดูจะมีความสุขนะวันนี้ ถึงผมจะไม่รู้ว่าทำไมก็เถอะ
—ตึ๊ง-ตึ่ง-ตึง-ตึ่ง(เสียงระฆัง)
เสียงระฆังดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าโรงเรียนได้เลิกแล้ว
ช่วงนี้ผมลดการทำงานพาร์ทไทม์ลง เพื่อให้ผมใช้เวลาเตรียมสอบได้อย่างเต็มที่ เพราะงั้นวันนี้ผมจะรีบกลับบ้านไปตั้งใจอ่านหนังสือต่อ
“ทัคคุง!”
ซาเองุสะซังกล่าวเสียงดัง
แต่ขอโทษนะซาเองุสะซัง ผมต้องอ่านหนังสือตั้งแต่วันนี้ เพราะงั้นผมคงไปข้างนอกด้วยไม่ได้ ผมหันกลับไปกล่าวขอโทษ แต่เธอกลับยิ้มออกมาราวกับว่าคิดไว้อยู่แล้ว
ผมรอคำตอบของเธออย่างรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำสิ่งที่เธอจะขอได้
“งั้นพวกเรามาติวด้วยกันเถอะ!”
“ขอโท……เอ๊ะ? ติวเหรอครับ?”
ผมคาดไม่ถึงมาก่อนเลย มันทำเอาคำตอบที่ผมเตรียมไว้แล้วหายไปในพริบตา
“ใช่แล้ว! ติวสำหรับการสอบไง! ฉันอยากลองทำมานานแล้ว!”
ดูเหมือนว่าการได้ติวสอบกับเพื่อนจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ซาเองุสะอยากทำงั้นสินะ
ก็จริงที่การติวกับเพื่อนนั้นส่วนมากจะเห็นแต่ในมังงะ แต่ผมไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อนเลย ยิ่งอีกฝ่ายเป็นเด็กผู้หญิงด้วยแล้ว
…..แต่พอซาเองุสะซังมองมาที่ผมด้วยแววตาที่เป็นประกายและตื่นเต้นแบบนี้ จะให้ผมปฏิเสธลงได้ยังไงกัน
“ถ้างั้นก็ได้ครับ”
“จริงเหรอ? เย่!”
เมื่อผมตอบไปซาเองุสะก็ยิ้มออกมาด้วยความสุขใจ
รอยยิ้มราวกับนางฟ้าของเธอทำให้ผมหน้าแดงเลย
—ผมว่าผมคงจะพ่ายแพ้ให้กับรอยยิ้มนั่นตลอดกาลแน่ๆ
หลังเลิกเรียนเราก็ไปที่ห้องสมุดกัน
พวกเราได้ชวนทาคายูกิกับซิมิซุให้มากด้วย เนื่องจากพวกเราอยู่กลุ่มเดียวกัน
มีนักเรียนหลายคนที่มาติวที่นี่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่พวกเราที่มาติวเป็นกลุ่มแบบนี้
พวกเราไม่อยากรบกวนคนอื่นมากนัก จึงไปนั่งกันที่โต๊ะหลังสุดของห้อง ก่อนที่พวกเราจะหยิบหนังสือออกมาเริ่มติวกัน
พวกเราเริ่มทบทวนวิชาที่ต้องการ โดยผมเริ่มจากวิชาที่ผมอ่อนที่สุดซึ่งก็คือคณิตศาสตร์
แล้วซาเองุสะซังที่นั่งข้างๆผมก็เอาหนังสือคณิตศาสตร์ออกมาอ่านเหมือนกัน แถมยังยิ้มบางๆออกมาด้วย
เธอดูจะตั้งใจกว่าที่ผมคิดไว้นะเนี่ย ผมจึงคิดว่าจะไม่ยอมแพ้เธอแน่ๆ
ที่จริงแล้วในการสอบย่อยนั้น ซาเองุสะทำคะแนนได้เกือบเต็มอยู่ตลอด
ผมว่าผมก็หัวดีแล้วนะ แต่ว่าการได้มาเห็นความต่างแบบนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าความสามารภของเธอนั้นมีมากเกินกว่าโรงเรียนของพวกเราจริงๆ
ตอนนี้ซาเองุสะซังกำลังนั่งแก้โจทย์อยู่ข้างๆผม
เหมือนว่าเธอจะทำนำหน้าผมไปแล้ว แล้วเธอจก็เหล่มองมาทางผม
อีกด้านนึงทาคายูกิกับชิมิซุซังซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าผม กำลังปรึกษากันเรื่องวิชาภาษาญี่ปุ่นอยู่
ได้เป็บแบบนั้นผมก็คิดได้ถึงเป้าหมายของการติวแบบกลุ่ม ผมจึงหันไปหาซาเองุสะซังที่นั่งข้างๆ
“ชิจังช่วยดูข้อนี้ให้หน่อยครับ”
“ข้อไหนเหรอ? อ๋อ! ข้อนั้นใช้สูตรนี้!”
เธอรีบตอบมาทันทีราวกับว่าเธอรออยู่แล้ว พร้อมกับเอาวิธีทำมาให้ผมดูด้วย
การอธิบายของเธอนั้นเข้าใจได้ง่ายมาก จนผมอดจะทึ่งไม่ได้
“ขอบคุณมากครับ! ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว!”
“อ-อื้ม! ด-ดีใจด้วยนะ!”
เธแหน้าแดงและเอามือมาปิดแก้มตัวเอง
แล้วเธอก็พูดออกมาเบาๆว่า “เยี่ยม!” ซึ่งมันโคตรจะเป็นปริศนา แต่ผมก็ดีใจที่เธอช่วยสอนผมนะ
จากนั้นพวกเราก็ติวกันไปสองชั่วโมงเต็ม ต่างคนก็ต่างสอนให้กับคนอื่นๆ
ต้องขอบคุณซาเองุสะซังที่ทำให้เราเข้าใจอะไรๆได้ง่ายขึ้นมาก
ทาคสยูกิกับชิมิซุซังก็ทึ่งที่ได้เห็นว่าสกิลการสองของซาเองุสะซังนั้นดีมาก
ส่วนทางด้านเจ้าตัวก็ยิ้มออกมาอย่างเปี่ยมสุข
ผมรู้สึกแย่จังที่เอาแต่ให้เธอสอนอยู่ฝ่ายเดียว แต่ผมก็ดีใจที่เธอดูจะสนุกกับมัน
เพราะงั้นก่อนจะแยกย้ายกันกลับ ผมจึงตัดสินใจที่จะกล่าวขอบคุณเธอ
“ขอบคุณสำหรับวันนี้ครับ ผมดีใจมากๆที่มีคุณอยู่ด้วยนะชิจัง”
“ฟุ~!? อ-อื้ม! ฉันก็ดีใจเหมือนกัน!”
หืม? เธอดีใจเรื่องไรหว่า? แต่พอผมเห็นเธอเดินและยิ้มออกมา มันก็พาให้ผมยิ้มตามไปด้วย