“คุณการุโด!”
“โกหกน่า…! จัดการกับนักผจญภัยระดับ S มือเก๋าได้ง่ายๆ แบบนี้…”
ฟู่ว… เอาเป็นว่า แผนครึ่งแรกของเราก็จบเรียบร้อย
ฉันฆ่านักเวทนั่นด้วยการดึงความสนใจด้วยจดหมายแปลกๆ ทำให้เจ้านั่นมองไปทางดวงจันทร์ที่อยู่ด้านตรงข้าม แล้วใช้ชั่วขณะที่ละสายตานั่น เข้าประชิดตัวของนักเวทคนนั้นซะ
จากนั้น ระหว่างที่พวกมันเสียสมาธิ คุณเทียน่ากับคุณเฟเรียก็ลักพาตัว 12 อัครสาวกทั้ง 2 ตัวนั่นไป วางกับดักซ้อนกับดักอีกทีนึง
ตอนนี้ อัซบาร์กับทรัซท์คงกำลังกินยำตีนจากพวกผู้บริหารที่อยู่ที่ปราสาทจอมมารอยู่นั่นแหละ ยังไงซะพวกเราก็มีทั้งคุณเกรย์ ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพจอมมาร ทั้งคุณเรน ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับ 2 ในกองทัพจอมมารอยู่ด้วย
“ทุกท่านคะ! โปรดระวังตัวให้ดีด้วย คืนนี้ดวงจันทร์เต็มดวง แวมไพร์น่ะเป็นเผ่าพันธุ์น่ารำคาญที่ได้พลังเพิ่มตามข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์! ถ้าเกิดต้องเจอกันในคืนจันทร์เต็มดวงล่ะก็ คิดไว้ก่อนได้เลยค่ะว่าพลังเพิ่มขึ้นมาอย่างน้อย 10 เท่าแน่ๆ!”
“10 เท่า!?… บ้าน่า!”
ใช่แล้ว นั่นมันเรื่องโกหก เพราะพลังของฉันเพิ่มขึ้นมา 20 เท่าเลยต่างหากล่ะ
ฉันฆ่านักรบไปแล้ว งั้นก็เหลืออีก 4 คนสินะ เจ้าผู้ชายดูเหลาะแหละนั่นคงเป็นจอมยุทธิ์ เจ้าผู้หญิงที่ดูโง่ๆ นั่นน่าจะเป็นผู้วิเศษ ส่วนผู้หญิงที่ดูเข้มงวดนั่งคงเป็นนักบุญ ส่วนผู้กล้าก็ไม่ขยับตัวซักนิดเลยมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว
ใช่ เธอไม่ได้ขยับร่างกายส่วนไหนเลยมาซักพักแล้ว เอ แปลกๆ แฮะ
…เธอคนนั้นคือผู้กล้าสินะ?
รูปร่างเป็นอย่างในข้อมูลเลย ผมสีเงินยุ่งเหยิง ดวงตาไร้แววเหมือนคนตาย ไม่ได้สวมเกราะสักชิ้น มีแค่ผ้าขาดรุ่งริ่งคลุมตัวเอาไว้เฉยๆ
และที่เอวนั่นก็มีดาบยาวเล่มหนึ่ง ถ้าตามที่ข้อมูลระบุไว้ นั่นคงเป็นหนึ่งใน [สมบัติศักดิ์สิทธิ์] สินะ แต่ฉันไม่รู้หรอกว่ามันเป็นของจริงหรือเปล่า
…นี่ที่เธอไม่ขยับตัว เพราะไม่มีคำสั่งจาก 12 อัครสาวกงั้นเหรอ?
ถ้าเป็นงั้นจริง ก็รีบจบเรื่องตรงนี้ ฆ่าอีก 3 คนนี่เร็ว แล้วเรียกคุณเทียน่าให้ช่วยพาเราเคลื่อนย้ายแล้วกัน
“ทีนี้ ฉันจะฆ่าใครก่อนดีนะ!?!?”
…ตอนที่ฉันคิดเรื่องนั้น
พริบตาที่ฉันละสายตาจากผู้กล้า ฉันก็เกือบถูกตัดคอจากท่าฟันอิไอที่พุ่งมาหาฉันด้วยความเร็วสูงลิบ
อะไรกันน่ะ? นั่นมันบ้าอะไร?!
นี่ถ้าฉันรู้ตัวช้ากว่านี้ซัก 0.1 วินาทีล่ะก็ ฉันต้องตายไปแล้วแน่เลย!
…เจ้านี่เล็งเป้าฉันไว้ตลอดจนกระทั่งฉันลดความระวังลงแล้วละสายตาออกจากเธองั้นเหรอ!
“………”
“โ―――โอ้! ท่านผู้กล้านี่นา!”
“เราไม่เป็นไรหรอกถ้ามีท่านผู้กล้าอยู่ด้วย! ดีล่ะ! มาฆ่าพวกมารกันเลย!”
“ดูคำพูดด้วยสิคะ… ไม่ใช่ซักหน่อย เราจะต้องแก้แค้นให้คุณการุโดกับคุณมาริสค่ะ”
บ้าหรือเปล่า ถ้าสู้กับหนึ่งต่อหนึ่ง พวกแกอยู่ได้ไม่ถึง 1 วิหรอกนะเฮ่ย! ไอ้พวกยืมจมูกคนอื่นหายใจเอ๊ย!
…ไม่สิ ฉันพูดเองก็จริง แต่ต่อให้ไม่มีพลังจากดวงจันทร์เต็มดวงล่ะก็ สเตตัสของฉันก็สูงกว่าไอ้เจ้าพวกนี้อยู่ดีนั่นแหละ!
ลีน บลัดลอร์ด/เซนโจ โยนะ, เจ้าหญิงแวมไพร์ Lv 78
คลาส (อาชีพ) : ผู้ชำระแค้น
สภาพ : สมบูรณ์, การอวยพรจากดวงจันทร์ (จันทร์เต็มดวง, กำลังทำงาน)
ความแข็งแกร่ง: 85,000 (4,250)
การป้องกัน: 79,600 (3,980)
พลังเวท: 90,000 (4,500)
การป้องกันเวท: 84,000 (4,200)
ความเร็ว: 87,600 (4,380)
เวทมนตร์: เวทมนตร์ธาตุ (ทั้งหมด), เวทมนตร์ความมืด, เวทจิตใจ, เวทฟื้นฟู
…ก็ ถ้าให้พูดเอง สเตตัสนี่ก็ขี้โกงมากเลยล่ะ
ถึงจะใช้พลังนี้ได้แค่เดือนละครั้งก็เถอะ แต่พลังขนาดนี้ก็สูงกว่าผู้บริหารเกือบทุกคนได้เลย
…แต่ถึงอย่างงั้น ฉันก็ประมาทผู้กล้าไม่ได้เลยซักนิด
เหตุผลที่ฉันหลบการฟันของผู้กล้าได้แบบเฉียดฉิวเป็นผลจากการรับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณล้วนๆ ว่าต้องตายแน่ถ้าโดนการโจมตีนั่นเข้าไป แล้วร่างกายก็ขยับไปเอง
พูดง่ายๆ ถึงการป้องฉันจะสูงมาก แต่ยังไม่พอจะป้องกันดาบของเธอได้
ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นทักษะของผู้กล้าเอง หรือเป็นความสามารถของดาบเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตาม ถ้าฉันถูกตัดคอจากดาบนั้น ฉันต้องตายแน่ๆ
…เอาล่ะ ชักจะแย่ล่ะสิ ฉันควรจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?
“โอเค! ฉันจะให้อะไรดีๆ กับแกเอง!”
ผู้วิเศษนั่นตะโกน พลางเริ่มร่ายอะไรซักอย่าง
โอ่ย แค่ผู้กล้าคนเดียวก็หนักหนาพอแล้ว นี่ยังจะมีอะไรมาเพิ่มปัญหาให้มันเยอะกว่านี้อีกเหรอ!
แต่ถ้าฉันรีบไปฆ่าไอ้ผู้วิเศษนั่น… ผู้กล้าต้องโจมตีใส่ฉันอีกแน่
“โว้ โว้! เฮ้…”
“………”
“…พูดอะไรหน่อยสิ!”
ฉันหลบดาบนั่นได้ทันเวลา ก่อนจะเข้าไปในจุดบอดและพุ่งหมัดตรงใส่ลิ้นปี่ของเธอ… ฉันพยายามแล้วล่ะ แต่เธอก็ถอยหลังไปทันที
นี่เธอสติพังทลายไปแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย? การเคลื่อนไหวร่างกายนี่มันดีเกินไปแล้วมั้ง!?
“{เอนเชนท์ สเตตัสบูสท์ (เสริมกำลัง เพิ่มขีดความสามารถ)} !”
ไอ้การเพิ่มสเตตัสทั้งหมดหรืออะไรนั่น… อดีตนักผจญภัยระดับ S ที่ถูกเลือกมาเป็นคณะผู้กล้าสินะ แม้ว่าแกจะเน่าเฟะแค่ไหนก็เถอะ!
“โธ่เว้ย! น่ารำคาญ! {เฟลม แดกเกอร์ (มีดสั้นเปลวเพลิง)} !”
เวทมนต์ถูกยิงพุ่งเข้าหาผู้วิเศษคนนั้น
ถึงจะไม่ได้เป็นเวทที่แข็งแกร่งขนาดนั้น แต่เวทคุณสมบัติธาตุไฟนั้นมีจุดเด่นที่ความเร็ว
และด้วยพลังเวทที่ฉันมีในตอนนี้ ขนาดเวทเบาๆ แค่นี้ก็สร้างแผลฉกรรจ์ได้แล้ว
“อะไรน่ะ? อ๊าาาาาา!”
โอเค ทีนี้ก็เหลือแค่ผู้กล้ากับอีกสอง… นั่นคือที่ฉันคิด
ก่อนที่ {มีดสั้นเปลวเพลิง} จะไปถึงผู้วิเศษคนนั้น ผู้กล้าก็เข้ามาขวางกลางทางก่อนจะพุ่งดาบของเธอมาข้างหน้า แล้ว {มีดสั้นเปลวเพลิง} ก็เข้าปะทะกับดาบเล่มนั้น แล้วก็… เวทมนตร์ก็ถูกปัดออกไปได้สำเร็จโดยผู้กล้าที่สามารถขยับดาบของเธอได้อย่างชำนาญ ว้าว~ ปรบมือ แปะ แปะ
…หา?
“เดี๋ยวสิ… นี่เธอปัดเวทมนตร์ได้ยังไงน่ะ… ไม่สิ ทำไมถึงปัดไฟที่ไม่ได้เป็นสสารได้กันล่ะ… ได้ไงกันเนี่ย?!”
นี่คนเราจะปัดไฟทิ้งด้วยดาบได้ยังไงกันเล่า?
มันไม่ใช่อะไรที่จะทำได้ด้วยแค่ [กระบวนดาบ] เลยนะ!
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เห็นหรือยังล่ะ เจ้าพวกเผ่ามาร นี่แหละพลังของท่านผู้กล้าของพวกเราไงเล่า! เอานี่ไปกินซะ!”
คนที่พุ่งเข้ามาพร้อมแหกปากน้ำท้วมทุ่งอยู่นั่นเป็นชายไซส์ไลท์เวทที่น่าจะเป็นจอมยุทธ์ล่ะมั้ง
มันพยายามจะโจมตีใส่ฉันด้วยหมัดรัวๆ แต่… พูดจากใจเลยนะ เทียบกับผู้กล้าแล้ว ไอ้หมอนี่มันอ่อนกว่าซัก 2 เท่า 3 เท่า ไม่สิอ่อนกว่าเป็น 10 เท่าเลย
สเตตัส [ความเร็ว] น่ะไม่ใช่แค่แสดงว่าตัวเราจะเร็วได้แค่ไหน แต่ยังแสดงให้เห็นว่าตัวเองสามารถมองเห็นภาพรอบข้างได้เร็วแค่ไหน หรือตอบสนองได้เร็วมากขนาดไหนด้วย ค่าสเตตัส [ความเร็ว] ของฉันเกือบถึง 90,000 ซึ่งอยู่ในระดับที่แทบจะมองเห็นมันหยุดนิ่งได้ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่นับผลจาก [ผู้ชำระแค้น] ที่ทำงานกับทุกคนเลย นอกจาก [ผู้กล้า] เท่านั้นเอง
ไอ้หมอนี่มันเป็นอดีตนักผจญภัยระดับ S จริงดิ? จะประมาทไปแล้วนะ เจ้าโง่นี่
“ฮ่า!”
“อั๊กกก!”
ฉันเลยโน้มตัวไปข้างหน้า ก่อนที่มันจะมาถึงตัวฉัน แล้วก็ซัดหัวมันระเบิดกระเด็นไป ฆ่ามันตายคาที่
โอเค ลิ่วล้อเหลือแค่ 2 คนจริงๆ ซะที
“โอเค ทีนี้… เอ๊ะ?”
แต่ค่าตอบแทนจากการทำแบบนี้มันสูงมาก…
พริบตานั้น แค่ชั่วพริบตานั้น ชั่วขณะที่ฉันถูกไอ้จอมยุทธ์นั่นดึงความสนใจไป ผู้กล้าก็พุ่งเข้าประชิดตัวฉันแล้ว
ฉันไม่ได้ตั้งใจประมาทเลยซักนิด ไม่แม้แต่นิดเดียว… แต่ดูเหมือนฉันจะยังเผลอประเมินเธอต่ำเกินไปหน่อยอยู่ดี
ฉันคิดเรื่องนี้ในระหว่างที่กำลังตกใจ พลางมองดูมือขวาของตัวเองที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ…