สูตรโกงฉบับเด็กเรียน – บทที่ 217-2 ปัญหาของเส้นโค้ง (2)

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 217-2 ปัญหาของเส้นโค้ง (2)

ทันทีที่ไป๋เยี่ยกลับมาถึงห้อง เขาก็ปิดประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เปิดหน้าจอโปร่งแสงขึ้นมา

[จัดตั้งห้องแล็บระดับพื้นฐาน

แจ้งเตือน: หลังเปิดใช้งานจะได้รับห้องแล็บครบเครื่อง (ระดับพื้นฐาน) 1 ห้อง

เงื่อนไขการเปิดใช้งาน: เงินสด 5000000 หยวน, ห้องที่มีพื้นที่มากกว่า 500 ตารางเมตร]

ไป๋เยี่ยกดปุ่มเปิดใช้งานด้านล่างข้อความนั้น

ทันใดนั้นข้อความแจ้งเตือนจากระบบก็ปรากฏขึ้น

[ติ๊ง! ต้องการจัดตั้งห้องแล็บระดับพื้นฐานหรือไม่ หลังเปิดใช้งานระบบจะทำการเปลี่ยนห้องดังกล่าวให้กลายเป็นห้องแล็บระดับพื้นฐานและจะหักค่าใช้จ่ายจำนวน 5 ล้านหยวนอัตโนมัติ]

ไป๋เยี่ยกดตกลงไปโดยไม่ลังเล!

[ติ๊ง! หลังจากเปิดใช้งานครั้งแรก คุณจะเลือกทิศทางการวิจัยหลักสำหรับการทดลองที่จะเกิดขึ้นในห้องแล็บแห่งนี้ได้ เครื่องมือต่างๆ ภายในห้องแล็บจะถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ!]

ทิศทางงานวิจัยเหรอ

ไป๋เยี่ยใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจเลือกทิศทางการวิจัยเรื่องจุลินทรีย์ อย่างไรตอนนี้มันก็เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด

[ติ๊ง! กำลังก่อสร้าง…โปรดรอสักครู่…]

เวลาผ่านไปช้าๆ หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทั่วทั้งห้องก็มีวัตถุเปล่งแสงสว่างวูบวาบปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาไป๋เยี่ย!

ผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมง วัตถุเหล่านั้นก็กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้!

[ติ๊ง! การก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว ทิศทางการวิจัยสำหรับห้องแล็บนี้คือพันธุวิศวกรรมของจุลินทรีย์ขั้นพื้นฐาน]

หลังจากที่เสียงสัญญาณสิ้นสุดลง ไป๋เยี่ยก็สัมผัสได้ถึงข้อมูลจำนวนมากที่กำลังไหลเข้ามาในหัวของเขา เป็นคำแนะนำในการใช้เครื่องมือต่างๆ ในห้องแล็บ

ไป๋เยี่ยลุกขึ้นเดินไปรอบๆ สักสองสามรอบพลางมองเครื่องมือสุดล้ำยุคเหล่านั้นด้วยความประหลาดใจ!

ห้าล้านถูกเกินไป!

มันถูกเกินไปจริงๆ ทั้งเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพ[1] เครื่องสเปกโตรโฟโตมิเตอร์[2] เครื่องทดลองปฏิกิริยาหลากหลายฟังก์ชั่น เครื่องเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ รังจำลองสภาพแวดล้อมและตู้อบจำลองสภาพแวดล้อมของลำไส้มนุษย์…

ไป๋เยี่ยมองอุปกรณ์อันเป็นวิทยาการระดับแนวหน้าของชาติยุโรปและอเมริกาเหล่านี้!

ของพวกนี้คงมีราคาในตลาดไม่น้อยเลย

นอกจากนี้ยังมีเครื่องบำบัดน้ำเสียที่เป็นช่องทางพิเศษสำหรับการบำบัดหลังใช้ยาและสารพิเศษต่างๆ

เพราะว่าขยะจากครัวเรือนและขยะจากการทดลองนั้นต่างกัน

หลังจากวุ่นมาแทบทั้งวัน ไป๋เยี่ยก็สำรวมท่าทีขี้เล่นของตนเองและเริ่มทำตามแผนการทดลองและไอเดียที่ร่างไว้

จุดประสงค์ของเขาคือต้องแสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมภายในลำไส้ที่มีเสถียรภาพนั้นมีผลกระทบต่อโรคในลำไส้

เขาได้รับทักษะจุลชีววิทยาเลเวลห้ามาจากคาร์ล คาร์ลถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยทางจุลชีววิทยาคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

แต่ถึงกระนั้น ต่างคนก็ต่างแสดงศักยภาพออกมาได้แตกต่างกัน

เมื่อไป๋เยี่ยได้รับทักษะวิศวกรรมชีวภาพของจุลินทรีย์เลเวลห้า ผสานกับทักษะสาขาทวารหนักเลเวลห้าและทักษะสรีรวิทยาเลเวลหก…เขาก็ได้ค้นพบหลายอย่าง

นั่นคือการใช้จุลินทรีย์ที่มีงานวิจัยออกมาแล้วในการสำรวจความสมดุลของสภาพแวดล้อมภายในลำไส้ จากนั้นก็ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความสมดุลและโรคในลำไส้

ก็เพราะฝั่งนั้นเขาอยากได้หลักฐานนี่นา

ไป๋เยี่ยใช้เพียงจุลินทรีย์บางชนิด จากนั้นก็ที่จำลองสภาพแวดล้อมภายในลำไส้ของมนุษย์ เขาสำรวจได้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆ ต่อลำไส้เลย แล้วสาเหตุของโรคเกิดจากอะไรล่ะ

จะต้องเป็นเพราะการปรับสมดุลในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันภายในระบบทางเดินอาหารมีแน่นอน

ไป๋เยี่ยเรียกการทดลองนี้ว่า ‘สมดุลยภาพของสภาพแวดล้อมภายในลำไส้’

เพราะว่าจุลินทรีย์ในลำไส้เหล่านี้ไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิด แต่มันเกิดขึ้นมาพร้อมกับกระบวนการหายใจ การดื่มนมแม่ อาหารการกิน และจุลินทรีย์ที่หลงเหลืออยู่ภายในลำไส้ จุลินทรีย์เหล่านี้เริ่มสร้างถิ่นฐานภายในร่างกายมนุษย์โดยอาศัยทั้งอากาศ น้ำและอาหาร จนในที่สุดพวกมันก็กลายเป็นจุลชีพที่มีเสถียรภาพ

โดยจะมีสามประเภทหลักๆ ประเภทแรกคือโพรไบโอติกส์[3] ได้แก่ แบคเทอโรไดเตส[4] คาร์บอกซิโดโทรปิกแบคทีเรีย[5] บิฟิโดแบคทีเรียม[6] และแลคโตบาซิลลัส[7] พวกมันมีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ โดยมีส่วนช่วยในการย่อยอาหารและปกป้องลำไส้ของเรา

ประเภทที่สองคือแบคทีเรียก่อโรคแบบมีเงื่อนไข ส่วนใหญ่จะเป็นแบคทีเรีย เช่น เอนเทอโรคอคคัส[8]และ แบคทีเรียวงศ์เอนเทอร์โรแบคทีเรียซีอี[9] เป็นต้น ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้มีจำนวนไม่มากนัก แต่เป็นปัจจัยที่แปรผันได้ เมื่อลำไส้มีสุขภาพแข็งแรงดี มีโพรไบโอติกส์อาศัยอยู่ล้นหลาม แบคทีเรียชนิดนี้ก็จะดำรงอยู่อย่างสงบ แต่ถ้าโพรไบโอติกส์มีจำนวนน้อยลง แบคทีเรียเหล่านี้ก็จะเริ่มก่อปัญหาต่างๆ ทำให้เกิดโรคภายในลำไส้หลากหลายชนิด

ประเภทที่สามคือแบคทีเรียก่อโรค เช่น ซัลโมเนลลา[10]และอีโคไล[11] พวกมันเป็นตัวทำลายสุขภาพและไม่ได้อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ตั้งแต่ต้น หากแบคทีเรียพวกนี้เข้าสู่ร่างกายก็จะก่อให้เกิดโรค!

ไป๋เยี่ยไม่ต้องการศึกษาจุลชีพทุกชนิดเพราะมันจะเป็นงานยากที่กินเวลาอย่างแน่นอน ศึกษาได้หรือไม่ แน่นอนว่าได้ แต่มันต้องใช้เวลานาน!

เพียงแต่ตัวเขาแค่ต้องการพิสูจน์ว่าเมื่อจุลชีพภายในลำไส้อยู่ในสภาวะไม่สมดุล จุลชีพเหล่านั้นจะแปรสภาพไปและก่อให้เกิดโรคได้!

ไป๋เยี่ยหยิบจานเพาะเชื้อขึ้นมาแล้วกลับไปที่แผนกทวารหนักของโรงพยาบาล ผู่เจ๋อ เขาติดต่อซ่งเจี๋ยแล้วขอบางอย่างมาจากห้องผ่าตัด จากนั้นด้วยความช่วยเหลือของซ่งเจี๋ย เขาก็ได้ไปที่แผนกทวารหนักของสถานพยาบาลหลายแห่งและรวบรวมตัวอย่างหลากหลายประเภทมาได้ 艾琳小說

เมื่อมีแนวทางแล้ว ไป๋เยี่ยก็เริ่มฝึกฝนและทำการทดลองต่างๆ กล่าวได้ว่าตอนนี้เขาดึงประสิทธิภาพอันล้ำเลิศของอุปกรณ์ในห้องแล็บออกมาได้แล้ว

อันที่จริงไป๋เยี่ยก็ยังรับประกันไม่ได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร เขาได้แต่ตั้งสมมติฐาน จากนั้นก็ทำการทดลอง พอได้ข้อสรุปก็กลับไปตั้งสมมติฐานใหม่…เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

มีการทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า สมมติฐานถูกปัดตกและสร้างขึ้นมาใหม่

สามวันต่อมา!

ไป๋เยี่ยอ่านข้อความแจ้งเตือนบนเครื่องวิเคราะห์ ได้ผลลัพธ์แล้ว!

เขาได้รับสิ่งแทนสภาวะสมดุลของสภาพแวดล้อมภายในลำไส้ สิ่งนี้เป็นสารที่ยังไม่ถูกค้นพบมาก่อนและยังไม่มีชื่อมาจนถึงปัจจุบัน ไป๋เยี่ยจึงตั้งชื่อมันว่า ‘สารฟทาริกชนิดอาร์’

สารนี้ชี้ถึงสมดุลยภาพของเชื้อภายในลำไส้ได้ ยิ่งค่าของสารชนิดนี้สูง สมดุลภายในลำไส้ก็ยิ่งต่ำ ง่ายต่อการเกิดโรคยิ่งขึ้น ยิ่งค่าของสารต่ำเท่าใด สมดุลก็ยิ่งมากเท่านั้น โอกาสที่จะเกิดโรคก็จะน้อยลง

แล้วสารนี้มีความสำคัญอย่างไร

เรียกได้ว่ามันมีความสำคัญอย่างยิ่ง!

มันเหมือนกับการใช้เอนไซม์การทำงานของหัวใจ[12]ในการตรวจสุขภาพของหัวใจ เหมือนสารโฮโมซิสเทอีน[13] ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการตรวจหาโรคหลอดเลือดสมองและเหมือนการใช้สารเอเอสที[14] ในการตรวจสอบการทำงานของตับ

ฟทาริกชนิดอาร์ก็เป็นสารที่ช่วยบ่งชี้ถึงสมดุลยภาพภายในลำไส้ได้

เมื่อมีสารฟทาริกชนิดอาร์จำนวนน้อย จุลินทรีย์ภายในลำไส้ก็จะดำรงอยู่ได้ ทำให้ลำไส้มีสุขภาพดี แต่ถ้าฟทาริกชนิดอาร์เพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่งย่อมหมายความว่าเริ่มมีการรุกรานของแบคทีเรียก่อโรคหรือแบคทีเรียก่อโรคแบบมีเงื่อนไข ชี้ให้เห็นถึงสภาพสมดุลภายในลำไส้ได้

เช่นนี้ก็จะป้องกันโรคภายในลำไส้ได้แล้ว หากเกิดโรคขึ้นแล้วก็ป้องกันและรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

สิ่งที่ไป๋เยี่ยต้องทำต่อไปคือวิเคราะห์แบคทีเรียก่อโรคหลายชนิด เพื่อดูว่าแบคทีเรียเหล่านี้ก่อให้เกิดโรคชนิดใดได้บ้าง

และเมื่อได้คำตอบแล้ว เช่น แบคทีเรียชนิดเออาจทำให้เกิดติ่งเนื้อภายในลำไส้ได้ เมื่อแบคทีเรียชนิดเอเกิดภาวะไม่สมดุลก็อาจจะเกิดสารอื่นๆ ขึ้นมาด้วย ส่งผลให้เกิดปัจจัยในการเกิดโรคอื่นๆ ตามมา

สารฟทาริกชนิดอาร์ก็เป็นเพียงดัชนีชี้วัดสมดุลยภาพอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่แบ่งประเภทแยกย่อยไปอีก งานต่อไปของไป๋เยี่ยก็คือการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคต่างๆ ที่เกิดจากจุลชีพและปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นถึงจุลชีพเหล่านี้ จนท้ายที่สุดก็คิดค้นวิธีการรักษาอันเยี่ยมยอดออกมาได้

[1] เครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพ (Bioreactor) คือ อุปกรณ์หรือระบบที่สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการตื่นตัวทางชีวภาพ

[2] เครื่องสเปกโตรโฟโตมิเตอร์ (Spectrophotometer) คือ เครื่องวัดคุณภาพน้ำโดยอาศัยหลักการส่องผ่านและดูดกลืนแสง

[3] โพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือ จุลินทรีย์ดีที่มีหน้าที่ปรับสมดุลกรดเบสภายในลำไส้

[4] แบคเทอโรไดเตส (Bacterodetes) คือ แบคทีเรียภายในลำไส้ที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญและลดการดูดซึมไขมัน

[5] คาร์บอกซิโดโทรปิกแบคทีเรีย (Carboxydotrophic Bacteria) คือ แบคทีเรียที่มีส่วนช่วยในกระบวนการออกซิไดซ์ของคาร์บอนมอนออกไซด์

[6] บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) คือ แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่และช่องคลอด ช่วยป้องกันการเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียก่อโรค โดยไปยึดเกาะผนังลำไส้ คอยเพิ่มจำนวนและแย่งสารอาหารจากจุลินทรีย์ชนิดที่ไม่ดี

[7] แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) คือ แบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มักพบในนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ช่วยลดอาการท้องเสียได้

[8] เอนเทอโรคอคคัส (Enterococcus) คือ แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเน่าเสียของอาหาร

[9] เอนเทอร์โรแบคทีเรียซีอี (Enterobacteriaceae) คือ วงศ์ของแบคทีเรียเชื้อประจำถิ่นที่มีมากในลำไส้ จึงเป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยง

[10] ซัลโมเนลลา (Salmonella) คือ แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ

[11] อีโคไล (E.coli) คือ แบคทีเรียเชื้อประจำถิ่นในลำไส้ ปกติจะไม่ก่อโรค แต่ในบางเคสก็อาจจะเป็นสาเหตุของโรคท้องเดินและโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้

[12] เอนไซม์การทำงานของหัวใจ หรือ เอนไซม์การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiac Enzyme/Heart Enzyme) คือ สารเคมีที่หลั่งจากกล้ามเนื้อหัวใจเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย

[13] สารโฮโมซิสเทอีน (Homocysteine) คือ สารที่เกิดจากการย่อยสลายของอาหารประเภทโปรตีนที่เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

[14] สารเอเอสที/แอสพาร์เทต ทรานสมิเนส (AST/Aspartate transaminase) คือ เอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้นเมื่ออวัยวะในร่างกายเกิดความเสียหาย หากพบในปริมาณมากจะเป็นสัญญาณว่าอวัยวะภายในมีปัญหา พบมากโดยเฉพาะในตับ

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

Status: Ongoing
สูตรโกงฉบับเด็กเรียน แฟนตาซีระบบเรื่องใหม่จากผู้เขียนเดียวกับ “เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ”ถูกหลอกดูดเงินจนหมดบัญชี สิ่งที่ได้มากลับเป็นระบบเด็กเรียน?! เป็นเด็กเรียนน่ะไม่น่ากลัวเท่าไหร่หรอก แต่เกรงว่าเด็กเรียนผู้นี้จะต้องใช้สูตรโกงเสียแล้ว![สวัสดี คุณไป๋เยี่ยที่เคารพ สมาชิก QQ เดือนนี้ของท่านกำลังจะหมดอายุโปรดต่ออายุสมาชิกทันทีเพื่อคงเลเวลสมาชิกของท่านไว้]ไป๋เยี่ย แค่อยากจะต่ออายุสมาชิก QQ เท่านั้นแต่เขากลับถูกตัดเงิน! ตัดเงิน!! ตัดเงิน!!!จนยอดเงินในบัญชีธนาคารเหลืออยู่เพียง 0.01 หยวน?!นี่หรือว่า…เขาจะเจอมิจฉาชีพหลอกดูดเงินเข้าแล้ว?!!แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีหน้าต่างประหลาดปรากฏขึ้นตรงหน้า[ติ๊ง! ต่ออายุสมาชิกสำเร็จ เลเวลสมาชิกปัจจุบัน: 1][ติ๊ง! ยินดีด้วย ท่านได้เปิดใช้แผนสมาชิกตลอดชีพแล้ว โปรดรับสิทธิประโยชน์สมาชิกของท่าน]และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำภารกิจเด็กเรียนเพื่อพิชิตการเป็นสุดยอดแพทย์แผนจีนผันตัวกลายเป็นเด็กเรียนเบอร์ต้นๆ ของมหาวิทยาลัยเพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ฟันฝ่าอุปสรรคทำภารกิจที่ระบบมอบหมายให้สำเร็จและขวนขวายหาวิชาความรู้ด้วยตนเองท้ายที่สุดแล้วเขาจะเอาตัวรอดได้ด้วยตนเองหรือจะต้องใช้ ‘สูตรโกง’ กันนะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท