บทที่ 220 คุณไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง
การประชุมประจำปีสิ้นสุดลงแล้ว
ต่างคนต่างเดินทางกลับประเทศไปจัดการประชุมเร่งด่วนที่หน่วยงานของตน
งานวิจัยเรื่องสมดุลยภาพของสภาพแวดล้อมภายในลำไส้เปรียบเสมือนหน่อไม้หลังฝนยามฤดูใบไม้ผลิที่กำลังแตกหน่อ
วันนั้นเจียลี่โทรหาไป๋เยี่ยและบอกทุกอย่างให้เขาฟัง
หลังจากวางสายไป ไป๋เยี่ยก็ส่ายหัวไปมา โชคดีที่เขาไม่ได้เผยแพร่ข้อมูลทั้งหมดไป มิฉะนั้นเกียรติยศนี้คงไม่ตกเป็นของเขาแน่ๆ!
คำพูดที่ว่าการเลื่อนการมอบรางวัลออกไปเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แข่งขันกันช่างฟังดูสวยหรู
อันที่จริงไป๋เยี่ยก็เข้าใจความคิดของเจียลี่ เพียงคนคนเดียวจะค้นคว้าองค์ความรู้ใหม่ ต่อให้เป็นอัจฉริยะก็ย่อมมีขีดจำกัด
อย่างไรก็ตาม หากทุกคนร่วมมือกันค้นคว้าก็จะเกิดปรากฏการณ์เมธีร้อยสำนัก[1]นี่ถือเป็นวงจรที่ดี เป็นผลดีต่อการพัฒนาองค์ความรู้ด้านโรคบริเวณทวารหนัก
แต่ในเมื่อทุกคนตัดสินใจลงแข่งแล้วก็ไม่เป็นไร กรณีนี้ทุกคนคงพอให้อภัยกับการที่ไป๋เยี่ยไม่เปิดเผยสิ่งที่ค้นคว้ามาทั้งหมดได้ ถึงตอนนั้นถ้าใครต้องการข้อมูลก็แค่ขายพวกเขาไปเท่านั้น!
ไป๋เยี่ยยิ้ม เขาไม่สนใจการแข่งขันพรรค์นั้นเลยสักนิด ได้แต่ก้มหน้าก้มตาสังเกตความคืบหน้าของการทดลอง จากนั้นก็ทำเครื่องหมายถูกลงบนแบบฟอร์ม ทำให้การวิจัยตัวชี้วัดนั้นเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์!
เขามั่นใจว่าตนเองอยู่ในระดับแนวหน้าของนานาชาติแล้ว
อย่างไรก็ตาม…ไป๋เยี่ยก็พลันนึกอะไรขึ้นได้ การประชุมจบลงแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเคลียร์ภารกิจแล้วสินะ
[ติ๊ง! ภารกิจไม่จำกัดเวลา ภารกิจการเดินทางอันคุ้มค่าสำเร็จลุล่วง! การเดินทางมาเยือนโตเกียวครั้งนี้คุณได้รับชัยชนะมาอย่างยากลำบาก ระบบจะประเมินคะแนนตามผลงานของคุณ
แจ้งเตือน: นี่คือภารกิจไม่จำกัดเวลา โปรดพยายามพัฒนาศักยภาพและสร้างอิทธิพลต่อไป ยิ่งคุณมีอิทธิพลและผลงานอันน่าทึ่งมากเท่าใด รางวัลของคุณก็จะเพิ่มขึ้นด้วย จงกล้าหาญเข้าไว้ ยิ่งคุณกล้าระบบก็ยิ่งตอบแทนคุณมากเท่านั้น!]
[ติ๊ง! ภารกิจไม่จำกัดเวลา ภารกิจการเดินทางอันคุ้มค่าสิ้นสุดลงแล้ว
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ: ระหว่างทำภารกิจระบบจะจับตามองคุณทุกคำพูดและการกระทำ ยิ่งคุณมีอิทธิพลมากเท่าใด รางวัลก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น ระบบกำลังอยู่ในขั้นตอนประเมินคะแนน:
1. เสนอให้มีการแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาของวิทยาการการรักษาโรคบริเวณทวารหนักบนไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์โดยย่อต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ ได้คะแนน: 95 คะแนน!
2. เสนอทฤษฎีสมดุลยภาพของสภาพแวดล้อมภายในลำไส้ เสนอวิธีการล้างแผลแบบใหม่, เปิดตัวผลิตภัณฑ์สเปรย์ลิโดเคนและโฟมปิดแผลต่อหน้าที่ประชุม ได้คะแนน: 99 คะแนน
3. ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานกองบรรณาธิการแนวทางปฏิบัติของการแพทย์สาขาทวารหนักในการประชุมประจำปีสองพันสิบเจ็ด ได้คะแนน: 100 คะแนน
4. ได้รับรางวัลผลงานดีเด่น ได้คะแนน: 95 คะแนน
5. เนื่องด้วยเหตุสุดวิสัยทำให้การมอบรางวัลผลงานดีเด่นถูกเลื่อนออกไป แต่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ได้ส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการแพทย์สาขาทวารหนักให้กับผู้คนในแวดวงทั่วทั้งโลก ได้คะแนน: 100 คะแนน]
[ติ๊ง! ประเมินเสร็จสิ้น คะแนนรวมคือ 589 คะแนน ตามที่ระบบได้แจ้งไว้คุณจะได้รับ:
1. ค่าประสบการณ์ทั่วไป 58900 แต้ม
2. โอกาสจับรางวัลระดับ 6 ดาว
3. แต้มสมาชิก 589 แต้ม]
ไป๋เยี่ยมองรางวัลที่ได้รับด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ทั้งไม่อยากเชื่อสายตา ทั้งประหลาดใจไปในคราเดียวกัน
ค่าประสบการณ์ทั่วไปเกือบหกหมื่นแต้ม หมายความว่าเขาจะอัปเกรดทักษะวิชาไหนก็ตามขึ้นเป็นเลเวลห้าได้อย่างง่ายดาย!
ไหนจะโอกาสจับรางวัลหกดาวอีก แค่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตื่นเต้นแล้ว
รางวัลระดับหกดาวจะอิงตามไอเท็มที่มีระดับเดียวกัน นั่นคือระดับปรมาจารย์ แน่นอนว่ามันต้องเป็นของดี!
ข้อที่สาม แต้มสมาชิกห้าร้อยแปดสิบเก้าแต้ม!
ไป๋เยี่ยพบว่าตั้งแต่เขาอัปเกรดเลเวลสมาชิกถึงเลเวลสาม ภารกิจที่ได้รางวัลเป็นแต้มสมาชิกก็ลดลงเรื่อยๆ ทว่าตอนนี้เขากลับได้แต้มสมาชิกมาตั้งห้าร้อยแปดสิบเก้าแต้ม! 艾琳小說
เขาลองเปิดดูเลเวลสมาชิก พบว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เลเวลสาม 888/1000 อีกหนึ่งร้อยกว่าคะแนนก็อัปเกรดขึ้นเป็นเลเวลสี่ได้แล้ว
เลเวลสามว่าโกงแล้ว เลเวลสี่ก็คงเรียกว่าตัวบั๊กได้แล้วแหละ!
ไป๋เยี่ยยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าตนยังเหลือภารกิจอีกหนึ่งอย่าง!
ใช่แล้ว!
ยังมีภารกิจลับด้วย! เขาจึงเปิดแถบภารกิจขึ้นมา
[ภารกิจลับ เงื่อนไขภารกิจ:
1. ได้รับรางวัลผลงานดีเด่นในการประชุมประจำปีของสาขาทวารหนัก
2. เข้าไปมีส่วนร่วมในการกำกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับการแพทย์บริเวณทวารหนักฉบับล่าสุดประจำปีนี้
แจ้งเตือน: การเลื่อนการมอบรางวัลผลงานดีเด่นมีค่าความสำเร็จ 50%
ได้รับตำแหน่งประธานกองบรรณาธิการแนวทางปฏิบัติสำหรับการแพทย์บริเวณทวารหนักมีค่าความสำเร็จ 100%]
[คุณจะสำเร็จภารกิจทันทีเลยหรือไม่]
[แจ้งเตือน ภารกิจลับมีรางวัลรออยู่มากมาย ค่าความสำเร็จปัจจุบันคือ 150% รางวัลจะถูกหักลงไปด้วย คุณต้องการรับรางวัลเลยหรือไม่]
ไป๋เยี่ยเบิกตากว้าง เพราะพวกญี่ปุ่นนั่นแหละที่ทำให้การมอบรางวัลถูกเลื่อนออกไป ทำให้ภารกิจไม่สำเร็จไปด้วยเลยเนี่ย
ไป๋เยี่ยลองครุ่นคิดดูอีกครั้งหนึ่ง เลื่อนการมอบรางวัลออกไปทำให้ผู้คนทั่วโลกมีโอกาสเพิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นความคิดของพวกเขาได้ด้วย ถ้าทำให้ภารกิจไม่จำกัดเวลาได้คะแนนเต็มร้อย รางวัลก็จะมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าในความโชคร้ายยังพอมีความโชคดีอยู่!
ยังไงซะต่อให้ภารกิจนี้จะเสร็จช้าไปหน่อย มันก็ยังเป็นภารกิจของเราอยู่ดี!
ทว่า…เมื่อไป๋เยี่ยเหลือบตามองการทดลองตรงหน้า เขาก็ได้พบกับปัญหา
เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วการทดลองนี้ก็เป็นการทดลองทางการแพทย์ ในห้องแล็บดำเนินการได้ไม่มากนัก ต่อไปคงจะต้องทำการทดลองในวอร์ดผู้ป่วยบ้างแล้ว
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกับการทดลองที่ทำด้วยตนเอง
ในขณะที่ตัวแทนจากต่างประเทศเดินทางกลับไปประชุมกันเองแล้ว ตัวแทนจากประเทศจีนที่ไปเข้าร่วมการประชุมที่ญี่ปุ่นกลับมารวมตัวกันหารือกันถึงประเด็นหนึ่ง
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าแผนกทวารหนักของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์ยูเนียน หลี่มู่หยางถือได้ว่าเป็นคนหนึ่งที่มีการศึกษาสูงมาก เขามองไปยังผู้คนรอบๆ ก่อนจะเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เหล่าเพื่อนร่วมอาชีพร่วมสาขาของผมล้วนเป็นผู้บุกเบิกองค์ความรู้ในสาขาวิชา วันนี้ผมเรียกพวกคุณมาเพราะผมเชื่อว่าพวกคุณน่าจะพอเดาอะไรออกแล้ว”
ผู้คนรอบข้างมองหน้ากันพลางพยักหน้าลงพร้อมกัน ทุกคนรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หลี่มู่หยางกล่าวต่อ “ทฤษฎีสมดุลยภาพของสภาพแวดล้อมภายในลำไส้ถูกเสนอขึ้นโดยไป๋เยี่ย ถ้าประเทศอื่นคิดชิงรางวัลนี้ไปก็คงเป็นเรื่องอัปยศสำหรับชาติเรา!”
ทุกคนพยักหน้า จริงที่ไป๋เยี่ยเป็นอัจฉริยะผู้คิดค้นทฤษฎีล้ำยุคขึ้นมา
หากสุดท้ายแล้วทฤษฎีนี้ไม่ได้ถูกพัฒนาให้สมบูรณ์แบบโดยพวกเราคนใดคนหนึ่ง แต่กลับถูกใช้และเผยแพร่ต่อโดยชาติอื่น ท้ายที่สุดเราก็ต้องเสียเงินเพื่อนำเข้าเทคโนโลยีเหล่านั้นอีกที
ต่างอะไรกับยุคสมัยที่ชาวจีนต้องซื้อดินปืนจากต่างชาติกัน
หลี่มู่หยางกำหมัดแน่น “เพราะฉะนั้น! พวกเราต้องพยายามให้หนัก เราจะไม่ทำให้ชาติเราขายขี้หน้า ต้องไม่ทำให้ทฤษฎีนี้เสื่อมเสีย และต้องไม่ละทิ้งเกียรติยศของเรา!”
หลี่มู่หยางเข้าประเด็น “ผมได้ปรึกษาเรื่องนี้กับหัวหน้าแผนกพานเซี่ยงเหนียนจากโรงพยาบาลผู่เจ๋อแล้ว จึงตัดสินใจจัดตั้งโครงการวิจัยพิเศษขึ้น เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าร่วม เราจะร่วมมือกันค้นคว้าทฤษฎีนี้ ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าชาวจีนอย่างเราจะศึกษาเรื่องนี้ไม่สำเร็จ!”
หลี่มู่หยางพูดจบ ผู้คนรอบตัวก็เริ่มมีท่าทีตื่นตัว!
“ถูกต้อง เราจะปล่อยให้เด็กคนหนึ่งแบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้ไม่ได้!”
“ใช่แล้ว พึ่งแต่เด็กมันน่าอาย!”
“ถึงเราจะไม่ล้ำโลกแต่เราก็ไม่ล้าหลัง!”
“ขอสนับสนุนและร่วมมือเต็มกำลัง!”
ไม่เพียงแต่เหล่าตัวแทนเท่านั้น หยางเฮ่อยังส่งเนื้อหาข่าวที่บันทึกไว้กลับมาด้วย เมื่อหัวหน้าบรรณาธิการของวารสารการแพทย์แห่งประเทศจีนทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในที่ประชุม เขาก็ได้ติดต่อหากองทุนวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที และในวันเดียวกัน ‘เฉินรุ่ยเจิน‘ รองผู้อำนวยการคณะกรรมการวางแผนสุขภาพและครอบครัวแห่งชาติก็ได้จัดการประชุมเร่งด่วนขึ้น
เมื่อพานเซี่ยงเหนียนและคนอื่นๆ เดินทางกลับมาถึงจีนก็ถูกเรียกให้เข้าไปประชุมที่ปักกิ่งทันที
รวมถึงไป๋เยี่ยที่กำลังวุ่นอยู่กับการทดลองด้วย
ในวันนั้นมีการจัดตั้งโครงการวิจัยพิเศษในหัวข้อ ‘การวิจัยจุลชีพภายในลำไส้‘ ซึ่งไป๋เยี่ยก็ได้รับตำแหน่งเป็นผู้นำทีมวิจัย
ทุกคนที่เข้าร่วมการประชุมได้รับความไว้วางใจให้ทำภารกิจแสนสำคัญนี้ร่วมกับไป๋เยี่ยจนเสร็จสิ้น
หลังจากที่ไป๋เยี่ยออกมาจากห้องประชุม เขาก็สัมผัสได้ถึงใบหน้าอันแดงก่ำของตน เขาถูมือไปมาเพื่อสงบสติอารมณ์อยู่สักพักหนึ่ง!
คราวนี้ไป๋เยี่ยไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง!
ด้านหลังเขายังมีคนทั้งประเทศร่วมด้วย!
[1] เมธีร้อยสำนัก คือช่วงเวลาที่นักปราชญ์หลายสำนักออกมาเผยแพร่แนวคิดปรัชญาต่างๆ ในยุคชุนชิว ความหมายเชิงเปรียบเทียบคือผู้มีความรู้จำนวนมากมาพูดคุยโต้เถียงกันอย่างอิสระ