บทที่ 229 โอกาสมาถึงแล้ว! (2)
การประชุมสิ้นสุดลงเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง ซึ่งตรงกับช่วงพักเที่ยง ไป๋เยี่ยและพี่หวังเดินไปที่ร้านอาหารด้วยกัน เป็นบุฟเฟต์อาหารเที่ยงสุดหรู เต็มไปด้วยด้วยอาหารและเครื่องดื่มเลิศรส
ไป๋เยี่ยเลือกอาหารเสร็จก็มานั่งที่โต๊ะ ส่วนพี่หวังก็พาชายวัยกลางคนผู้หนึ่งมาแนะนำตัวกับไป๋เยี่ย
“หัวหน้า นี่คือหัวหน้าบรรณาธิการของวารสารวิศวกรรมประยุกต์ของมหาวิทยาลัยชิงหวา คุณ จ้าวซู่ซิน”
“คุณจ้าวคะ นี่คือคุณไป๋เยี่ย หัวหน้าบรรณาธิการคนใหม่ของเรา”
จ้าวซู่ซินเป็นชายอายุราวๆ ห้าสิบปี มีนิสัยตรงไปตรงมา รูปร่างสูงใหญ่ดั่งทหาร ไป๋เยี่ยลุกขึ้นจับมือเขาอย่างรวดเร็ว “สวัสดีครับหัวหน้าจ้าว ผมไป๋เยี่ย”
ชายผู้นั้นยิ้มพลางตบไหล่ไป๋เยี่ย “ไม่เลวๆ ได้รับตำแหน่งนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ภาระไม่เบาเลย เหลาสวี่แบกรับหน้าที่รักษาหน้าตาของผู่เจ๋อมาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณต้องพยายามเข้าล่ะ!”
ไป๋เยี่ยพยักหน้า “ผมจะพยายามนะครับ! คุณลุงจ้าวโปรดให้ความช่วยเหลือด้วย”
จ้าวซู่ซินพึมพำ “แน่นอนอยู่แล้ว แต่…เสี่ยวเยี่ย จะว่าไปผมว่ามีหลายคนไม่ค่อยพอใจที่ผู่เจ๋อระงับการตีพิมพ์ไปดื้อๆ นะ”
ไป๋เยี่ยชะงัก หรือว่านี่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ ด้วย เขาจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “คุณลุงจ้าวช่วยอธิบายทีครับ”
จ้าวซู่ซินดึงไป๋เยี่ยให้นั่งลงพลางจิบชา “ฐานข้อมูลเอซีไอซีต่างจากฐานข้อมูลอื่นๆ มาก เกณฑ์ขั้นต่ำของพวกเขาคือ 0.8 ก็จริง แต่! พวกเขาจะรับแค่วารสารที่ติดสามร้อยอันดับแรกเท่านั้น พูดอีกอย่างคือพวกเขาต้องการจำกัดจำนวนวารสารไว้แค่สามร้อยฉบับ ทุกๆ ปีวารสารสามร้อยอันดับแรกในเอเชียจะถูกนำเข้าฐานข้อมูล ส่วนอันดับหลังจากนั้นจะถูกถอดออก”
“อันที่จริง นี่เป็นความคิดที่หลีอวี่หรานเสนอตอนที่เข้ามาทำงานในเอซีไออี จุดประสงค์คือเพื่อส่งเสริมการพัฒนาวารสารในเอเชียให้มีบทบาทในการแข่งขันมากขึ้น ปัจจุบันหลีอวี่หรานกลายเป็นผู้รับผิดชอบแล้ว ขั้นตอนต่างๆ จะต้องเข้มงวดมากขึ้นแน่นอน”
“แต่วารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ที่ถูกนำเข้าฐานข้อมูลเป็นกรณีพิเศษกลับสร้างความไม่พอใจให้ผู้คนจำนวนมาก หลายคนคงยกประเด็นนี้ขึ้นมาบีบให้ถอดผู่เจ๋อออดจากฐานข้อมูลเป็นแน่ หลังจากนั้นก็จะมีที่ว่างให้พวกเขาอีกที่หนึ่ง“
ทันใดนั้นไป๋เยี่ยก็ตระหนักได้ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้! เพราะว่าไป๋เยี่ยเคยเห็นวารสารจากเอสซีไอมาเยอะจนมองข้ามเอซีไออีไป ต้องทราบว่าหลังจากที่เอซีไออีนำวารสารเข้าฐานมูลไปแล้ว สถานะของวารสารฉบับนั้นย่อมสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ มูลค่าของวารสารจากบริษัทเอกชนเหล่านั้นก็ยิ่งพุ่งกระฉูด
วารสารจำพวกนั้นมีอยู่อย่างแพร่หลาย ตัวอย่างเช่น บริษัทเอมีวารสารในเครืออยู่หนึ่งฉบับ เป็นวารสารทั่วๆ ไปในประเทศและไม่ได้ถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล แต่ถ้าวารสารฉบับนี้ถูกบันทึกลงฐานข้อมูล หรือกลายเป็นวารสารของเอซีไออีเมื่อไหร่ หุ้นของบริษัทเอก็จะสูงขึ้น มูลค่าทางการตลาดก็เช่นกัน
แต่ไหนแต่ไรข้อพิพาทด้านผลประโยชน์ก็ถือเป็นความขัดแย้งมาโดยตลอด
ระหว่างมื้อกลางวัน ไป๋เยี่ยได้พบกับสายสัมพันธ์เก่าๆ ของผู่เจ๋อผ่านจ้าวซู่ซิน วารสารเหล่านั้นไม่ใช่แค่วารสารจากเอไอซีอี แต่บางฉบับก็เป็นถึงวารสารจากเอสซีไอ
ผู้คนเหล่านี้ต่างมีทัศนคติที่ดีต่อไป๋เยี่ยและผู่เจ๋อ อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงหัวหน้าบรรณาธิการของโรงพยาบาลแห่งชาติ ทว่าสิ่งที่ทุกคนมองนั้นไม่ใช่ไป๋เยี่ย แต่เป็นโรงพยาบาลผู่เจ๋อต่างหาก ไม่ว่าหัวหน้าสวี่จะลาออกไปแล้วมีไป๋เยี่ยมาแทนที่ หรือว่าจะเป็นหัวหน้าหยาง หัวหน้าหลี่ใครก็ตามแต่ พวกเขาก็ยังคงหยิบยื่นมิตรไมตรีที่ดีมาให้
ทว่าตอนนี้ ไป๋เยี่ยกลับเหลือบไปเห็นใบหน้าอันแสนคุ้นเคย ไอดะ ทามะ?
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่
จ้าวซู่ซินเห็นไอดะ ทามะก็เสริมขึ้น ”ไอดะ ทามะไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นปรมาจารย์แห่งวงการวิชาการ ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เขาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ เกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ของญี่ปุ่นมายาวนาน แถมยังเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของวารสาร ‘การแพทย์แห่งเอเชีย’ ด้วย”
ที่แท้ไอดะ ทามะก็เป็นหัวหน้าบรรณาธิการนี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมครั้งที่แล้วเขาถึงตีพิมพ์บทความได้มากมายขนาดนั้น
ไอดะ ทามะก็สังเกตเห็นไป๋เยี่ยเช่นกัน นัยน์ตาของเขาฉายประกายเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาไป๋เยี่ย
“ไม่เจอกันนานเลยนะ คุณไป๋เยี่ย!”
ไป๋เยี่ยยิ้มแห้งพลางเอ่ยออกไปอย่างไร้อารมณ์ “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”
ไอดะ ทามะลอบเขม่น “ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน ช่างน่าประทับใจจริงๆ นะครับที่ได้เห็นคุณไป๋เยี่ยกลายเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของ ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ผมเดาว่าคุณคงจะเป็นบรรณาธิการที่อายุน้อยที่สุดแล้ว! มาเถอะ แก้วนี้แทนความเคารพ ขอให้คุณมีอนาคตอันสดใส”
ไป๋เยี่ยยิ้มประชด “ครับ ขอบคุณ ซาบซึ้งกับคำอวยพรของคุณจริงๆ”
พูดจบทั้งคู่ก็ชนแก้วกัน ช่วงบ่ายยังมีการประชุมรออยู่ เครื่องดื่มมื้อกลางวันจึงเป็นเพียงค็อกเทลเบาๆ
ไอดะ ทามะพูดต่อ “เพียงแต่ว่าตอนนี้สถานการณ์ของผู่เจ๋อดูจะไม่สู้ดีเท่าไหร่นะครับ ใกล้จะถูกถอดออกจากเอซีไออีอยู่แล้วแท้ๆ คุณไป๋เยี่ยสนใจเข้าร่วมวารสาร ‘การแพทย์แห่งเอเชีย’ ของผมไหม ผมจะให้คุณเป็นรองบรรณาธิการเลยนะ คิดว่าไง คนญี่ปุ่นอย่างพวกผมไม่ตระหนี่กับคนมีความสามารถอยู่แล้ว”
ไป๋เยี่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง “อ้อ เรื่องถูกถอดเหรอ ฮ่าๆ ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ ผมคิดว่าวารสารของพวกผมไปได้ไกลกว่านั้น ไม่แน่เราอาจจะได้ไปแข่งขันกันบนเวทีนานาชาตินะครับ”
ไอดะ ทามะยังคงยิ้ม “ผมจะตั้งตารอวันนั้นนะครับ แต่เท่าที่รู้มา คุณหยุดตีพิมพ์วารสารไปหนึ่งเดือนนี่นา คงไม่ใช่เพราะทำต่อไม่ไหวหรอกนะ สู้ให้ทางผมแบ่งบทความต้นฉบับไปให้หน่อยดีไหม“
ไป๋เยี่ยส่ายหัวและเบือนหน้าหนีไอดะ ทามะทันที กลับกัน เขาก็เดินไปบอกพี่หวังว่าจะออกจากงานแล้ว
ไป๋เยี่ยบรรลุจุดประสงค์ของการประชุมวันนี้แล้ว ได้รู้จักหัวหน้าบรรณาธิการของวารสารในประเทศที่ถูกปรับปรุงมาค่อนข้างดี ได้เรียนรู้เงื่อนไขการนำเข้าวารสารของฐานข้อมูล ไป๋เยี่ยไม่มีความจำเป็นต้องเข้าร่วมการประชุมช่วงบ่ายอีกต่อไป แทนที่จะเสียเวลานั่งดูคนอื่นรับรางวัล สู้กลับไปทำสิ่งที่ควรทำยังดีเสียกว่า
ไป๋เยี่ยกลับมาถึงกองบรรณาธิการของผู่เจ๋อในช่วงบ่าย ทุกคนต่างกำลังทำโอทีแยกเอกสารในโรงพยาบาลและคัดเลือกเอกสารบางส่วนมาใช้เป็นเนื้อหาที่จะตีพิมพ์ครั้งนี้ ซึ่งทุกคนต่างก็กำลังรอคอยการตัดสินใจของไป๋เยี่ยอยู่
ช่วงห้าโมงเย็น พี่หวังโทรมาหาไป๋เยี่ย น้ำเสียงของเธอฟังดูไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก ‘ผู่เจ๋อถูกถอดออกจากเอซีไออีแล้ว’
ไป๋เยี่ยยังคงยิ้มและมั่นใจว่ามันไม่เป็นไร
เขาคาดเดาไว้แล้วว่าผลลัพธ์ต้องเป็นเช่นนี้ เขาจึงออกจากที่ประชุมมาก่อน ทันทีที่เขาวางสายจากพี่หวัง จ้าวซู่ซินและคนอื่นๆ ต่างก็โทรมาปลอบใจเขาพร้อมทั้งทิ้งท้ายไว้ว่าหากขาดเหลืออะไรก็ติดต่อมาได้เสมอ
ไป๋เยี่ยพยักหน้าและวางสายโทรศัพท์ลง
วารสารจะถูกเอซีไออีเก็บเข้าฐานะข้อมูลหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ ที่สำคัญคือวารสารจะถูกตีพิมพ์ในอีกห้าวันข้างหน้า ไป๋เยี่ยคิดได้ดังนั้นก็ส่งบทความไปให้คาร์ล เจียลี่ เอ็นเดอร์สและคนอื่นๆ
ทุกอย่างพร้อมแล้ว แค่ช้าไปหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
ทันทีที่คาร์ลรู้ข่าวก็รีบส่งข้อความมาหาไป๋เยี่ยทันที
[เมื่อสิ้นเดือนธันวาคม เอสซีไอเพิ่งจะนับการอ้างอิงวารสารของสองปีที่แล้วไปน่ะ จะมีการประเมินวารสารครั้งใหม่เร็วๆ นี้และมีการพิจารณารายชื่อของวารสารที่จะถูกนำเข้าฐานข้อมูลในปี 2018 ผมช่วยคุณเสนอชื่อได้นะ]
แววตาของไป๋เยี่ยเป็นประกาย!
โอกาสดีๆ มาถึงแล้ว