บทที่ 259 ความจริงถูกเปิดเผย! (2)
ภาพตัดไปตอนที่ไป๋เยี่ยเดินกลับเข้ามาพบซองจดหมาย เขาหยิบซองจดหมายขึ้นมาเปิดดูแล้วเห็นว่าด้านในมีเงินสด
ไป๋เยี่ยถามขึ้น “ใครคือพยาบาลของคุณหวงจิ้งเหรอครับ”
คราวนี้มีพยาบาลสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา “มีอะไรเหรอคะ หมอไป๋”
ไป๋เยี่ยพูดต่อ “คุณเอาเงินนี่ไปจ่ายเป็นค่ามัดจำการรักษาพยาบาลให้คุณหวงจิ้งที่โถงผู้ป่วยชั้นหนึ่งทีครับ รอให้ทางนั้นทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลก่อนถึงจะคืนเงินให้”
พยาบาลพยักหน้าแล้วเดินลงไปพร้อมเงิน
จากนั้นกล้องวงจรปิดก็บันทึกภาพตอนที่พยาบาลคนนั้นนำเงินไปจ่ายที่ห้องทะเบียนชั้นหนึ่งไว้
ตอนนี้ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว!
ในที่สุดทุกคนในโลกออนไลน์ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
ที่แท้เรื่องราวก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไป๋เยี่ยถึงไม่ยอมรักษาหวงจิ้ง!
เงินซื้อไป๋เยี่ยไม่ได้ ไม่มีการลัดคิวรักษาให้ก่อนเพียงเพราะว่าคุณเป็นดาราผู้ร่ำรวยและมีสถานะสูงส่ง
ไป๋เยี่ยไม่มีทางทำเช่นนั้น กลับกัน เขาเลือกที่จะยึดถือจรรยาบรรณของตนเองและรักษาผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตามคำวินิจฉัยของแพทย์
นี่คือหลักการและความเป็นมืออาชีพที่แพทย์พึงมี!
ไม่ว่าจะมีฐานะรวยหรือจน เป็นคนดังหรือคนธรรมดา ย่อมไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจใดๆ ทั้งนั้น แพทย์จะไม่ให้สิทธิ์รักษาคุณก่อนเพียงเพราะว่าคุณเป็นคนรวย!
นี่คือสิ่งที่แพทย์ควรทำ!
เป็นแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศชาติเรา!
หลังจากวิดีโอถูกเผยแพร่ออกไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง มันก็ถูกแชร์ออกไปโดยฟอรัม เว็บเพจ เวยป๋อ แอ็กเคาท์ทางการต่างๆ และอีกหลายช่องทางนับไม่ถ้วน!
ความจริงปรากฏออกมาแล้ว!
ต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นนี้นี่เอง!
ที่แท้หวงจิ้งก็คือคนที่ก่อเรื่องตั้งแต่แรก!
ตอนนี้ทุกคนที่กำลังหลับหูหลับตาเชื่อก็ตาสว่างกันแล้ว
คนเหล่านั้นก็เป็นเพียงคนธรรมดา เมื่อเห็นว่าหมอรับเงินมาก็ต้องโกรธอยู่แล้ว แต่สุดท้ายกลับพบว่าคนที่ตนด่าไปเป็นแพทย์ผู้ทรงคุณธรรม ปฏิเสธอภิสิทธิ์ชนและเลือกคนที่ต้องได้รับการรักษามากกว่า
นี่แหละคือแพทย์!
นี่คือสิ่งที่แพทย์ต้องการ พวกเขาเป็นเทวทูตชุดขาวผู้น่าเลื่อมใส!
ระหว่างที่วิดิโอดังกล่าวถูกแชร์ออกไปเรื่อยๆ ก็มีผู้คนจำนวนมากออกมาโพสต์ขอโทษขอโพยกันใหญ่
[ขอโทษสำหรับสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ฉันผิดไปแล้ว หมอไป๋ คุณคือหมอจริงๆ คุณสมควรได้รับความเคารพจากเรา ฉันขอโทษ!]
[โชคดีที่ฉันตาสว่างก่อนจะเกิดเรื่องซองแดง ทำให้ฉันยืนหยัดฝั่งไป๋เยี่ยและพูดได้อย่างเต็มปากว่า สุดยอดมากพี่ชาย!]
[ในฐานะคนไข้คนหนึ่ง เราก็คาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติที่ยุติธรรม เราเกลียดพวกอภิสิทธิ์ชนมากจริงๆ แต่พอได้เห็นหมอไป๋แล้ว ฉันก็เข้าใจได้ว่าบนโลกใบนี้ฉันยัง…]
วันนี้มีความคิดเห็นมากมายไหลมาจากสื่อต่างๆ ทำให้ไป๋เยี่ยกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอีกครั้งหนึ่ง
แถมตอนนี้ไป๋เยี่ยยังได้เป็นถึงตัวแทนด้านภาพลักษณ์เชิงบวกของแพทย์อีกด้วย
แน่นอนว่าโชคคงไม่เข้าข้างหวงจิ้งแล้ว คำอธิบายใดๆ กลับกลายเป็นเรื่องน่าขันเมื่อมีหลักฐานตำตา ช่างน่าตลกจริงๆ!
[หวงจิ้ง ฉันล่ะขายหน้าแทนคุณจริงๆ! คุณไม่คู่ควรกับการเป็นไอดอลหรือดาราเลยสักนิด!]
[ออกไปจากวงการบันเทิงซะ พวกเราไม่ต้องการดาราแบบคุณหรอก!]
[ชอบเปลี่ยนดำเป็นขาว บ้าบอที่สุด คนแบบนี้น่ะนะ ไม่สิ อาจจะไม่ใช่คนด้วยซ้ำ เพราะแม้แต่เรื่องพื้นฐานอย่างความสำนึกในบุญคุณยังไม่เข้าใจเลย]
ไม่เพียงแต่คนธรรมดาที่ออกมาโพสต์เท่านั้น แต่ยังมีคนดังหลายๆ คนออกมาแสดงความคิดเห็นด้วย
นักวิจารณ์ภาพยนตร์มืออาชีพ ‘หวังหลุน’ [หลังจากที่ผมเห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้แล้ว ผมอยากจะถามคุณหวงจิ้งจริงๆ คุณยังมีจิตสำนึกอยู่บ้างไหมครับ]
นักสังคมวิทยา xx [พอได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ฉันก็คิดว่าคนชั่วไม่ได้น่ารังเกียจอีกต่อไปแล้ว แต่คนชั่วที่แสร้งเป็นคนดีน่ะน่ารังเกียจยิ่งกว่าอีก เลิกเสแสร้งได้แล้วคุณหวง!]
นักแสดงที่เคยร่วมงานกับหวงจิ้ง [รู้สึกอายที่ต้องอยู่สังกัดเดียวกับหล่อนชะมัด!]
ทันทีที่วิดีโอถูกเผยแพร่และความจริงถูกเปิดเผย ธาตุแท้ของหวงจิ้งก็ถูกเปิดเผยตามไปด้วย
เรื่องราวยังไม่จบ ต่อไปก็ถึงคราซ้ำเติม
เริ่มจากบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างเฉินอ้ายซึ่งทำงานเป็นสแตนอินมืออาชีพก็ได้โพสต์บางอย่าง
[ขอบคุณคุณหมอไป๋ที่รักษาฉันมากนะคะ ขาของฉันดีขึ้นมาเลย แต่ฉันมีอะไรอยากจะบอกทุกคนเกี่ยวกับคุณหวงจิ้ง สาเหตุที่ฉันขาหักก็มาจากคุณหวงนี่แหละค่ะ ตอนนั้นเรากำลังถ่ายทำฉากต่อสู้หนังพีเรียด คุณหวงไปถ่ายทำทั้งหมดสามวัน วันแรกเป็นการเซ็นสัญญา วันที่สองคือการถ่ายบทเปิดเรื่อง และวันที่สามก็คือวันที่พวกเราได้รับบาดเจ็บและต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลค่ะ เพราะความอยากรู้อยากเห็นของคุณหวงโดยที่ไม่สนใจทีมพร็อพ…ก็เลยเกิดอุบัติเหตุกับทีมงาน แต่ว่าคุณหวงมีชื่อเสียงมาก ทีมงานอย่างเราๆ เลยต้องฟังเธอค่ะ…]
[ครั้งนี้คุณหวงใช้สแตนอินตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ บางทีนี่อาจจะเป็นความเป็นมืออาชีพของคุณหวงมั้งคะ]
ข่าวนี้ทำให้ทุกคนรู้ข้อมูลเบื้องลึกอีก
แต่นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเรื่องราว ‘เติ้งจั๋ว‘ ปาปารัสซี่อันดับหนึ่งของจีนผู้คอยแพร่ข่าวอื้อฉาวของคนดังก็ได้ออกมาเปิดโปงประวัติอันดำมืดของหวงจิ้งด้วย
[เช้าวันที่ 12 กันยายน ปี 2009 เมืองเป่ยเหอ เธอเมาแล้วขับรถชนคนบาดเจ็บสองคนก่อนจะหลบหนีไป…]
[หลีกเลี่ยงภาษีสามร้อยหกสิบล้านหยวน ตั้งแต่ปี 2008 ถึง 2017 รวมถึง…]
[ปี 20…]
หลังจากมีข่าวฉาวหลุดออกมามากมาย ทุกคนก็ถึงกับช็อก นี่หล่อน…ยังเหลือความเป็นคนอยู่บ้างไหม
นี่เหรอ เทพธิดาที่เราฝันถึงทุกวัน
นี่เหรอไอดอลที่ฉันตามเชียร์มาตลอด!
ให้ตายเถอะ เราต้องตาบอดไปแล้วแน่ๆ!
อยู่ดีๆ วงการบันเทิงก็วุ่นวายไปหมด!
ในขณะเดียวกัน หลายบริษัทก็ออกมาโพสต์แถลงการณ์ต่อสาธารณะ
[สัญญาเกิดขึ้นจากการยอมรับข้อตกลงร่วมกัน…บริษัทของเราได้ทราบว่าคุณหวงจิ้งมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมตามที่พรีเซนต์เตอร์ของบริษัทเราพึ่งมี ทั้งยังละเมิดข้อตกลง ถือเป็นการละเมิดสัญญาโดยพลการ บริษัทของเราจะดำเนินการตามกฎหมายกับคุณหวงจิ้ง]
บริษัทซิงเย่ว์มีเดีย [นักแสดงหญิง คุณหวงจิ้ง…ได้ละเมิดสัญญาอย่างร้ายแรง ทางเราขอแจ้งยุติสัญญาให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน! และทางเราจะดำเนินการทันที!]
แม้แต่ต้นสังกัดของหวงจิ้งก็ออกแถลงการณ์อย่างเด็ดขาด ทั้งยุติความร่วมมือกับหวงจิ้งที่ละเมิดสัญญาอย่างร้ายแรง
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับหวงจิ้งต่างกำลังหารือกันเรื่องความร่วมมือกับบริษัทแห่งหนึ่ง ทว่าจู่ๆ ก็มีสายเข้า
“คุณหวง เราของยกเลิกสัญญากับคุณ!”
หวงจิ้งชะงักไป เกิดอะไรขึ้น ทว่าไม่ทันจะโต้ตอบอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งและเป็นการยกเลิกสัญญาแบบเดิม!
ตอนนี้หวงจิ้งกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที นี่มันเรื่องอะไรกัน
ทำไมถึงมีแต่คนมายกเลิกสัญญา
แต่เมื่อเธอกดเข้าหน้าเวยป๋อ เธอก็ต้องนิ่งงันไป
มือของเธอสั่นระริก ริมฝีปากของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงด้วยความหวาดกลัว ทำเอาเธอเริ่มยืนไม่อยู่จนแทบล้มลงไปกองกับพื้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น