เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช – บทที่ 310 ช่วยคน

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

บทที่ 310 ช่วยคน

บทที่ 310 ช่วยคน

ค่ายสยงเฟิงอันเป็นที่หวาดหวั่นมาอย่างยาวนาน กลับถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นภายในเวลาสั้น ๆ ไม่กี่ชั่วยาม

หัวหน้าใหญ่พร้อมทั้งลูกน้องกว่าสองร้อยคนถูกจับ ยกเว้นนายท่านรองที่ไม่ถูกจับ โจรทั้งหมดในค่ายสยงเฟิงที่ยังมีชีวิตล้วนอยู่ที่นี่แล้ว

เสือทั้งสองมีความพยาบาทอยู่บ้าง ดังนั้นนายท่านสามจึงไม่อาจหนีพ้นจากชะตากรรมในปากเสือได้ ศพของเขาถูกวางกองรวมไว้กับศพอื่น ๆ

หนานกงหลีปิดจมูกแล้วออกคำสั่งด้วยสีหน้ารังเกียจ “ให้คนเผาศพเหล่านี้ให้หมด”

เจี่ยเจินเอามือไพล่หลังพร้อมส่ายหัว “ข้ายังไม่ทันได้ลองใช้ยาเลย เกรงว่าชื่อเสียงของค่ายสยงเฟิงจะเกินจริงไปมาก”

นายท่านใหญ่ค่ายสยงเฟิงรู้สึกอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะถูกมัดเอาไว้ก็ยังคงสบถถ้อยคำหยาบคายหลายชุดใส่เจี่ยเจิน ทำให้ถูกเข็มเงินฝังจุดโดยไม่ทันตั้งตัว นายท่านใหญ่ถึงกับเป็นอัมพาตไปในพริบตา

คราวนี้แววตาของนายท่านใหญ่เริ่มปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว

“ปากเจ้าค่อนข้างดีเลยนะ ตอนนี้เป็นอย่างไร ก็พูดไม่ได้แล้ว ฮ่า ๆ”

ท่าทางของเขาเหมือนคนแก่ที่ทำตัวเป็นเด็กซุกซน

“นี่คือสารของนายท่านรอง”

องครักษ์เงาผู้หนึ่งนำสารลับที่รวบรวมได้ออกมา “หลังจากเปรียบเทียบแล้ว ลายมือเหมือนกับเจ้าเมืองหลี่”

ในมือของพวกเขายังมีจดหมายบางส่วนของเจ้าเมืองหลี่ที่รวบรวมมาจากตระกูลอวี๋ ตอนนี้นับว่ามีประโยชน์แล้ว

นายท่านใหญ่ที่นอนเป็นอัมพาตขยับไม่ได้อยู่บนพื้นพลันดิ้นพล่านขึ้นมา ปากเอาแต่ส่งเสียงอืออาไม่หยุด

หนานกงหลีแสยะยิ้มชั่วร้าย “ดูเหมือนว่านายท่านใหญ่จะไม่รู้เลยว่านายท่านรองของพวกเจ้าเป็นเจ้าเมืองหลี่สินะ?”

หลังจากที่เขาเอ่ยจบ นายท่านใหญ่ผู้นั้นก็พลันมีท่าทางไม่อยู่นิ่งมากยิ่งขึ้น

เจี่ยเจิน ‘ใจดี’ ดึงเข็มออกมาเล็กน้อย ทำให้ตอนนี้นายท่านใหญ่สามารถพูดได้แล้ว

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าเมืองหลี่นั่นคือน้องรองของข้าหรือ เขาเพียงบอกว่าตนเองรู้จักกับเจ้าเมืองหลี่ สามารถเป็นคนกลางระหว่างพวกเราได้…”

หลังเอ่ยออกมาสักพัก ในที่สุดสมองของนายท่านใหญ่ก็กลับมาทำงาน ทั้งเขาและค่ายสยงเฟิง ล้วนถูกเจ้าเมืองหลี่ผู้นั้นใช้เป็นคมดาบ

มิน่าเล่า น้องรองของเขาถึงมักออกไปข้างนอกบ่อย ๆ อีกทั้งยังกล่าวด้วยว่าไปหาเจ้าเมืองเพื่อปรึกษาหารือเรื่องสำคัญอย่างการพัฒนาค่ายสยงเฟิงให้มากขึ้น

หนานกงหลีโบกมือ “นำตัวคนไป”

รวบรวมหลักฐานเพียงพอแล้ว พวกเขาก็สามารถเริ่มจัดการกับเจ้าเมืองหลี่ได้

“เสี่ยวเป่าเล่า”

เหตุใดหันกลับมาอีกที หลานสาวตัวน้อยของเขาก็หายไปเสียแล้ว!

ตอนนี้เสี่ยวเป่ากำลังช่วยเหลือคนอยู่

โจรภูเขาเหล่านั้นจับแรงงานและผู้หญิงบางส่วนมา

เหล่าสตรีได้รับการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ฝากต่อให้ท่านพ่อจัดการ ส่วนเด็กน้อยพาเสือทั้งสองตัวไปอาบน้ำ และถือโอกาสใช้เสือทั้งสองช่วยตามหาเหล่าผู้ที่ถูกจับมาเป็นแรงงาน

ตามคำบอกเล่าแล้ว คนเหล่านั้นเมื่อถูกจับมาก็จะถูกจัดสรรให้ไปทำงานลับในสถานที่ที่แม้กระทั่งหัวหน้าโจรภูเขาเองก็ไม่รับรู้ ดังนั้นจึงต้องพึ่งพาจมูกของเสือทั้งสองตัว

เสี่ยวเป่าเอ๋ย…นี่คือการใช้เสือสองตัวเป็นสุนัขโดยแท้

ทว่าอย่างไรเสียสัตว์ป่าก็มีความไวต่อกลิ่น พวกมันไม่ได้แยกแยะคนโดยใช้สายตา แต่ใช้กลิ่นและการได้ยิน

เสี่ยวเป่าและเสือสองตัวเดินไปรอบ ๆ ภูเขา แม้มีสัตว์ป่าอยู่แต่พวกมันล้วนไม่กล้าเข้าใกล้

“ไม่มีหรือ”

นางจับคางตนเอง ใบหน้าบอบบางมุ่ยจนยู่ยี่

แล้วคนเหล่านั้นถูกส่งไปที่ใดกัน

นางรู้เรื่องตัวตนของแรงงานเหล่านี้จากปากของหญิงสาวที่ได้รับการช่วยเหลือ

ได้ยินมาว่ามีคนจากหลายหมู่บ้าน ทั้งชาย หญิง เด็ก และคนแก่ถูกจับมา

คนเหล่านั้นนายท่านรองเป็นผู้จัดสรร แม้กระทั่งนายใหญ่ก็ไม่รู้ว่าเขาให้คนเหล่านี้ไปทำสิ่งใด

ทันใดนั้นเอง เฮยอู๋ฉางก็แหงนหน้าขึ้นพร้อมทำจมูกสูดอากาศฟุดฟิด

มันคาบเสี่ยวเป่าขึ้นมาวางลงบนหลังของน้องชาย จากนั้นก็ออกวิ่งนำหน้าไป

เสี่ยวเป่ารีบจับแผงคอของเสือขาวเอาไว้อย่างรวดเร็ว นางถูกมันพาวิ่งเข้าไปในป่า

หลังผ่านเส้นทางขรุขระบนหน้าผามา ในที่สุดเสี่ยวเป่าก็ได้ยินเสียงคนพูด

“เร็วเข้า อย่าขี้เกียจ!”

เสียงนั้นมาพร้อมกับเสียงแส้เฆี่ยนตีและคนที่กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

ในที่ราบระหว่างภูเขาซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากพวกเสี่ยวเป่า มีเหล่าชายชุดมอมแมมลงจอบขุดครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยสีหน้าหม่นหมอง บางคนแบกไม้คานหาบแร่เงินจนไหล่เปรอะไปด้วยเลือด

ใช่แล้ว สถานที่แห่งนี้คือเหมืองเงิน

หลังจากค้นพบเหมืองเงินแห่งนี้โดยบังเอิญ เจ้าเมืองหลี่ก็ดีใจแทบคลั่งบราวนี่ออนไลน์

ด้วยความละโมบและทะเยอทะยานภายในใจ ทำให้เขาไม่รายงานการค้นพบเหมืองไปในทันที อีกทั้งยังเกิดความคิดอันแสนล้ำเลิศขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เขาสวมรอยเป็นบัณฑิตที่ตายตกไปแล้วผู้หนึ่ง สุดท้ายก็กลายมาเป็นนายท่านรองของค่ายสยงเฟิง ใช้ค่ายสยงเฟิงของโจรป่าเหล่านี้เป็นดังสุนัขเฝ้าบ้าน เริ่มแผนการขุดเหมืองของเขาทีละขั้น ๆ

หลังจากที่เขาเกือบจะควบคุมทั้งค่ายสยงเฟิงเอาไว้ได้แล้ว เขาก็ใช้โจรเหล่านี้บังหน้า เริ่มจับคนมาเป็นแรงงานขุดเหมืองเงินให้เขา

เขาเพียงแค่ต้องจัดการอยู่เบื้องหลัง และให้พวกโจรภูเขารับหน้ากับความผิดไป เช่นนี้ก็จะสามารถปกปิดเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์

สถานที่แห่งนี้ถูกซุกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี อีกทั้งเขายังส่งคนสนิทของตนเองมาคอยเฝ้าเอาไว้ ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ๆ เลย กระทั่งหัวหน้าใหญ่ของค่ายสยงเฟิงยังถูกเขาปิดตาเอาไว้ได้

เจ้าเมืองหลี่มั่นใจว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่ถูกคนค้นพบ หากมีผู้บังเอิญหลงเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจก็จะถูกคนสนิทของเขาจับไม่ก็สังหารทิ้ง

เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลย ว่าเสี่ยวเป่าจะมาถึงที่นี่ได้เพราะเทพสังหารผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง

ภายในเหมือง ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่กำลังแบกไม้หาบพลันวิงเวียนจากความหิวโหย จนล้มลงกับพื้นพร้อมหอบหายใจเข้าอย่างรุนแรง ดูแล้วราวกับเขากำลังจะตาย ทว่าสิ่งนี้ไม่อาจกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจของผู้คุมได้เลย มิหนำซ้ำยังยกแส้ขึ้นฟาดไปยังบริเวณหัวและใบหน้าของเขาไม่ยั้ง

“ลูกข้า อย่าตีเขาเลย เขากำลังจะตายแล้ว ท่านช่วยหาของให้เขากินสักนิดเถิด เขากำลังจะหิวตายแล้ว!”

ชายชราร่างผอมแห้งรีบวิ่งเข้าไปขวางแส้เอาไว้ สีหน้าของเขาทนทุกข์ทั้งยังมีความวิงวอน ทว่ากระทำของเขากลับกระตุ้นให้ผู้คุมแสดงท่าทีโหดร้ายมากยิ่งขึ้น

“หากตายก็แค่โยนออกไปให้เป็นอาหารสัตว์ป่า”

ขณะที่ผู้คุมยกแส้ขึ้นเพื่อจะตีอีกครั้ง ตัวต่อก็พุ่งมาจากแห่งหนใดไม่อาจทราบตรงเข้าต่อยมือเขาอย่างแม่นยำ

ความรู้สึกเจ็บปวดเสียดแทงหัวใจ ทำให้เขาปล่อยแส้ในมือลงแล้วเริ่มส่งเสียงกรีดร้องออกมา

ทว่านี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

พยัคฆ์สองตัวปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน พวกมันลงมือสังหารผู้คุมด้วยความเร็วปานอสนีบาต จากนั้นทั่วทั้งบริเวณเหมืองก็กลายเป็นเหตุการณ์โกลาหล

เหล่าแรงงานใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายทิ้งข้าวของในมือแล้ววิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก

ชายชรากอดบุตรชายเอาไว้แน่นด้วยความสิ้นหวังยามเห็นเสือตัวใหญ่พุ่งทะยานเข้ามาหา

บรรพชนบนสวรรค์ ท่านช่างไม่ไยดีกันเลย เหตุใดชีวิตของพวกเขาถึงต้องทนทุกข์เพียงนี้!

เดิมทีคิดว่าครั้งนี้ตนเองกับบุตรชายจะต้องสิ้นชีพในปากเสือเสียแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าเสือตัวใหญ่จะพุ่งผ่านพวกเขาสองพ่อลูก ตรงเข้าใส่ผู้คุมที่เฆี่ยนตีพวกเขาอย่างโหดร้ายเมื่อครู่

โลหิตกระเซ็นเปรอะใบหน้า ชายชรามองดูผู้คุมถูกเสือตัวใหญ่กัดคออย่างเหม่อลอยไร้ซึ่งสุ้มเสียงใดเอื้อนเอ่ย เขาเห็นเสือโยนศพของผู้คุมทิ้งด้วยความรังเกียจ ก่อนจะตรงเข้ากัดผู้คุมคนต่อไป

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

Status: Ongoing
จากลูกเป็ดขี้เหร่สู่การเป็นองค์หญิงคนสุดท้องแห่งราชวงศ์ ความน่ารักของซูเสี่ยวเป่าพร้อมจะพิชิตใจทุกคนแล้ว!หลังจากภูตพฤกษาตัวน้อยตายลง นางก็มาเกิดในยุคสมัยโบราณ และหลงคิดไปว่าตนเองเป็นเพียงเด็กลูกชาวบ้านแถบชนบทธรรมดา ๆ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าท่านพ่อที่นางไม่เคยพบหน้ามาก่อนจะมีภูมิหลังยิ่งใหญ่ปานนี้เขา…ถึงกับเป็นราชาของแผ่นดิน!เสี่ยวเป่าที่อายุเพียงสามขวบถูกพาตัวไปยังพระราชวังทันทีหลังจากที่แม่ของนางสิ้นชีพลง แล้วนางก็กลายเป็นองค์หญิงน้อย สตรีเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางพี่ชายแปดคน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท