แน่นอนว่าถ้าพวกเขาอยากให้อาหารปลา พวกเขาต้องเรียกปีศาจและสัตว์อสูรเหล่านั้นออกมา
แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ส่งสายตาแทนสัญญาณเตือนไม่ให้พวกมันพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด
ปีศาจเหล่านั้นแสดงสีหน้าที่อ่านได้ว่า ”ข้าจะทำตัวดีๆ ขอรับ ข้าไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าปลาทองขอรับ”
หงส์เพลิงรู้สึกว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ดี เพราะมีหลายสิ่งรอให้นางค้นพบอยู่มากมาย
ยิ่งกว่านั้น ปีศาจที่เขาเลี้ยงไว้ก็ยังเชื่อฟังเป็นอย่างยิ่ง พวกมันพร้อมทำทุกอย่างตามที่เขาสั่ง
ชายหนุ่มหัวเราะ แล้วประสานมือไว้ที่ด้านหลังศีรษะ ”เจ้าคงไม่ได้ตั้งใจจะให้อาหารปลาทองตลอดทั้งคืนหรอกใช่ไหม”
”แน่นอนว่าไม่ใช่” หงส์เพลิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเคลื่อนสายตาไปมองใบหน้าของชายหนุ่ม ทันใดนั้นนางก็หันหน้าไปจูบหน้าผากของเขาพร้อมกับพึมพำว่า ”แล้วนี่ก็จูบ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์”
ตี้จวินคาดไม่ถึงว่านางจะจูบเขา บนใบหน้าอันหล่อเหลาที่เย็นชาเป็นปกติของชายหนุ่มปรากฏร่องรอยแห่งความประหลาดใจขึ้นมาครู่หนึ่ง
แม้กระทั่งปีศาจและสัตว์อสูรที่กลายร่างเป็นปลาทองก็ยังตะลึงกับการกระทำของหงส์เพลิง
บอกตามตรง พวกมันไม่นึกเลยว่าเรื่องเช่นนี้ หงส์เพลิงจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน!
พวกเขาเตรียมใจจะได้เห็นภาพตี้จวินถูกหงส์เพลิงออกคำสั่ง… แต่ทำไมมันถึงไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ล่ะ!
หลังจากจูบนั้น ชายหนุ่มก็จ้องมองนางอย่างเย็นชา ท่าทางของเขาราวกับบอกว่านางกำลังล้ำเส้น
นางรู้สึกว่านางจำเป็นต้องอธิบาย ”พวกเราต้องจูบกันไม่ใช่หรือ มันมีเขียนไว้ในม้วนกระดาษม้วนนั้น”
”จริงอยู่ที่เราต้องจูบกัน แต่เจ้าไร้เดียงสาเกินไป” ชายหนุ่มยื่นมือออกไป และรั้งร่างนางเข้าหาตัว ”คู่รักในโลกมนุษย์ไม่เคยทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ เวลาที่พวกเขาคบหาดูใจกัน ถ้าเจ้าไม่เก่งเรื่องนี้ ข้าสามารถสอนเจ้าได้”
หงส์เพลิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า
นางเห็นด้วยกับเขาจริงๆ!
บรรดาปีศาจถึงกับอึ้งกับเรื่องนี้!
หงส์เพลิงเป็นผู้หญิงฉลาดมาโดยตลอด แต่พอเป็นเรื่องความสัมพันธ์ ทำไมนางถึงได้โง่เขลาเช่นนี้
ตี้จวินกำลังหลอกนางอยู่ชัดๆ!
ชายหนุ่มดูค่อนข้างประหลาดใจเช่นกัน ”เจ้าเห็นด้วยหรือ”
”ข้าได้ยินมาว่าท่านเก่งเรื่องพวกนี้มากทีเดียว” หงส์เพลิงเงียบไป ก่อนจะพูดต่อ ”อีกอย่างหนึ่ง นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าได้มาบ้านคนอื่นด้วย ดังนั้นข้าคงปล่อยให้คนอื่นคิดว่าข้าเป็นคนขี้ขลาดไม่ได้”
ชายหนุ่มมองใบหน้าเล็กๆ ขึงขังจริงจังที่อยู่ตรงหน้า แล้วทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมา ”น่าสนใจ ใครบอกเจ้าหรือว่าข้าเก่งเรื่องนี้”
”อ๋อ ตอนที่ข้าไปล่าสัตว์อสูรที่แดนหิมะ ข้าบังเอิญได้พบกับเซียนที่เป็นพ่อสื่อให้กับท่านเข้าโดยบังเอิญ เขาเอาแต่ย้ำเรื่องนี้ไม่หยุดในตอนที่คุยกับบิดาของเทพธิดาภูเขาหิมะ ปีศาจที่ข้าต้องการฆ่าอยู่ในละแวกนั้น ข้าจึงบังเอิญได้ยินที่พวกเขาคุยกันเข้า แต่สุดท้ายพวกเขาก็สังเกตเห็นข้าแล้วก็พากันหน้าแดงด้วยความอับอาย” จะว่าไปแล้ว หงส์เพลิงก็นึกสงสัย ”แต่จนถึงตอนนี้ ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องหน้าแดงด้วย”
ปีศาจทุกตนยกมือขึ้นปิดหน้า เป็นใครก็ต้องอายอยู่แล้วหากมีสตรีมาได้ยินตอนที่พวกเขาคุยเรื่องแบบนั้นกันอยู่!
”หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นหรือ” ชายหนุ่มรู้สึกสนใจ เขาอยากรู้ว่านางรับมือกับมันอย่างไร
หงส์เพลิงมองเขา ”จากนั้นข้าก็จับปีศาจต่อหน้าพวกเขา และพามันกลับไปดัดนิสัยที่แดนพระพุทธศาสนา”
บรรดาปีศาจ : … ตอนนั้นคนพวกนั้นคงอยากขุดหลุมแล้วมุดลงไปอยู่ข้างในแทบไม่ไหว ท่านยังมีอารมณ์มาล่าปีศาจต่อได้อย่างไร!
ชายหนุ่มไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองได้อีกต่อไป เขาฝังใบหน้าเข้ากับซอกคอของนาง แล้วเขาก็หยุดในสิ่งที่ตั้งใจจะทำไปเสียก่อน
”ทำไมท่านถึงหัวเราะดังเช่นนี้ล่ะ ข้าทำอะไรผิดหรือ” หงส์เพลิงขมวดคิ้ว ”ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดบทสนทนาของพวกเขาเสียหน่อย แต่ท่านก็รู้ว่าข้าไม่สามารถอยู่นอกพระพุทธศาสนาได้นานนัก ยิ่งกว่านั้นปีศาจชั่วร้ายนั่นก็ยังลอยนวลอยู่ตรงหน้าพวกเขา และความอดทนของข้าก็ใกล้หมดเต็มที ดังนั้นข้าก็เลยบอกให้พวกเขาคุยกันต่อ ไม่ต้องสนใจข้า ใครจะไปรู้ว่านั่นจะกลายเป็นการทำให้พวกเขากลัวได้”
ชายหนุ่มยื่นมือออกไปแล้วดึงมือของหงส์เพลิงมาจับไว้ น้ำเสียงของเขาดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ”จริงทีเดียว พวกเขาขี้ขลาดยิ่งนัก”
”ตอนนั้นเองที่ข้าตระหนักได้ว่าจุดขายของท่านก็คือท่านเก่งเรื่องนั้น ไม่แปลกใจเลยที่มีคนมากมายพยายามทำตัวเป็นพ่อสื่อแม่สื่อให้กับท่าน” หงส์เพลิงยกผ้าห่มขึ้นคลุมร่าง นางแทบไม่มีโอกาสได้นอนคุยกับใครมาก่อน ดังนั้นนางจึงมีเรื่องให้พูดคุยเยอะทีเดียว
นางไม่ทันสังเกตเลยว่าคำพูดประโยคสุดท้ายของนางทำให้สายตาของชายหนุ่มลึกล้ำขึ้น ”จุดขายของข้าคือข้าเก่งเรื่องนั้นหรือ”
”ไม่ใช่หรอกหรือ” หงส์เพลิงถามกลับ
นี่มันคำถามอะไรกัน… ผู้ชายที่ไหนจะยอมรับว่าตัวเองไม่เก่งเรื่องพวกนี้
บรรดาปีศาจต่างมองหน้ากัน จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองฟ้าโดยพร้อมเพรียง หากว่ากันตามจริงแล้ว การรับมือกับหงส์เพลิงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับตี้จวินเอาเสียเลย
แต่อย่างน้อยตี้จวินก็ไม่ได้โหดร้ายกับนาง
ดูเหมือนการเป็นคนเซ่อซ่าก็มีประโยชน์เหมือนกัน ยิ่งกว่านั้นหงส์เพลิงก็ยังเป็นคนฉลาด แม้นางจะไม่ค่อยฉลาดในเรื่องที่คุยกันมามากนัก แต่ประโยคสุดท้ายของนางก็จัดว่ายอดเยี่ยม
สายตาของชายหนุ่มลึกล้ำ แต่บนใบหน้าของเขากลับมีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้น ”เจ้าอยากลองดูหรือเปล่า”
”อะไรนะ” หงส์เพลิงเลิกคิ้ว
ชายหนุ่มใช้นิ้วปลดเสื้อคลุมของนางออกพร้อมกับกระตุกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย ”ฝีมือของข้า”
ชายหนุ่มใช้ค่ายกลก่อนที่จะทันได้พูดประโยคนี้จบเสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือเทพธิดาก็ไม่มีใครสามารถเข้ามาหรือทำลายค่ายกลนี้ได้
เป็นอย่างที่หงส์เพลิงว่าไว้ ชายคนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ตกอยู่ใต้การควบคุมของพระพุทธศาสนา
ผิวของหงส์เพลิงขาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เสื้อคลุมที่เคลื่อนตกลงเผยให้เห็นผิวบริเวณกระดูกไหปลาร้าและช่วงอกของนางจึงยิ่งทำให้ภาพที่เกิดขึ้นน่าหลงใหลจนแทบลืมหายใจ
เมื่อเห็นภาพนี้ สายตาของเขาก็ยิ่งลุ่มลึก น้ำเสียงของเขาฟังดูอบอุ่นขึ้น ”ช่างงดงามจริงๆ น่าเสียดายที่คนเช่นเจ้าถูกเลี้ยงดูมาในพระพุทธศาสนา”
หงส์เพลิงนึกไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ นางมองดวงตาที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นลูกประคำของนางก็กลายร่างเป็นดาบวงพระจันทร์
ชายหนุ่มหัวเราะ เขาปรายตามองร่างด้านข้างของนาง จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งออกแรงกดลงไปบนไหล่ของนาง ”ทำไมเจ้าถึงใช้อาวุธบนเตียงเล่า เจ้าไม่อยากให้ข้าสอนหรือ อย่าลืมสิว่าเจ้ามาที่นี่ในฐานะแขก”
หงส์เพลิงรู้สึกว่านางทำเกินไปเมื่อนางได้ยินคำว่า ’แขก’ นางเก็บดาบวงพระจันทร์แล้วเอ่ยว่า ”ข้าไม่อยากลอง” หงส์เพลิงกำลังจะยกมือขึ้นผลักเขาออก แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้แตะต้องร่างของเขา ชายหนุ่มก็ดึงนางเข้ามากอดเสียก่อน
นางไม่รู้ว่านี่เป็นเพราะนางทำผิดพุทธบัญญัติของพระพุทธศาสนาหรือไม่
สายฟ้าแลบผ่านท้องฟ้า ก่อนจะฟาดลงมาที่ด้านหลังของพวกเขา นางได้ยินเสียงเหมือนของแตก ท่ามกลางประกายไฟจากแสงนั้น ทุกสิ่งก็ราวกับถูกแช่แข็ง
ในวินาทีต่อมา เขาก็หัวเราะขึ้น แล้วใช้นิ้วมือสัมผัสริมฝีปากของนางโดยไม่สนใจรอบตัวแม้แต่น้อย ”ถ้าเจ้าไม่อยากลองก็ไม่เป็นไร แต่พวกเรายังต้องฝึกจูบกันอยู่ จริงไหม”
ริมฝีปากของเขาอยู่ห่างจากนางเพียงไม่กี่ชุ่น นิ้วของเขาให้ความรู้สึกอุ่นร้อน
หงส์เพลิงไม่รู้ว่าทำไมหัวใจของนางถึงได้เต้นแรงขึ้นเช่นนี้
ระยะห่างระหว่างทั้งสองใกล้ชิดกันอย่างมาก
นางไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
ก่อนที่นางจะทันได้ทำความเข้าใจกับความรู้สึกของตัวเอง ริมฝีปากบางของนางก็ถูกปกคลุมไปด้วยลมหายใจของอีกฝ่าย
กลิ่นไม้จันทน์อันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มรุกล้ำเข้ามาในโพรงปากของนาง
ดวงตาของหงส์เพลิงเบิกกว้าง!
นางทำได้เพียงจ้องมองเขาอย่างตกตะลึง ขณะที่ชายหนุ่มกลับค่อยๆ หลับตาลง ขนตาของเขาสั่นไหวเมื่อสันจมูกโด่งรั้นของเขาแนบเข้ากับสันจมูกของนางพร้อมกับรอยยิ้มมีชีวิตชีวาที่ปรากฏขึ้นที่หางตาและคิ้วของเขา…