บทที่ 561 เฉินชาง? ไม่ใช่ซย่าเกาเฟิงเหรอครับ
หลังจากเฉินชางกลับมาที่แผนก ก็เห็นดอกเตอร์สองคนกล่าวทักทาย เก่อฮว๋ายดูซึมๆ นิดหน่อย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เฉินชางก็เข้าใจดี อย่างไรเสีย ชั่วพริบตาเดียวด็อกเตอร์เก่อก็จะอายุสามสิบห้าสามสิบหกแล้ว เห็นปี 2020 ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที นับวันผมก็ยิ่งน้อยลง จิตใจย่อมว้าวุ่นมากอยู่แล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งมีชีวิตอย่างผู้ชายก็มี ‘รอบประจำเดือน’ เหมือนกัน จะมีวัฏจักรการเปลี่ยนแปลงของการหลั่งสารบางอย่างภายในร่างกาย สิ่งที่ตามมายังมีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นระยะ แม้จะแตกต่างกับผู้หญิงโดยสิ้นเชิง แต่เนื้อแท้ต่างกันไม่มาก
พอเมิ่งซีเห็นเฉินชางมาแล้ว เธอก็ตาเป็นประกายเช่นกัน ทักทายด้วยรอยยิ้มว่า “นี่! หัวหน้าแผนกเฉินวันนี้มีเวลาว่างแล้วเหรอคะ”
เฉินชางเหงื่อแตกทันที “สบายดีไหมครับอาจารย์เมิ่ง”
เมิ่งซียิ้ม “สบายดีสิ สบายดีอยู่แล้วละ ไปกันเถอะ คุณจะได้ตามฉันไปเดินตรวจผู้ป่วยในวอร์ดพอดีเลย”
“หมอเก่อ ไปกันเถอะค่ะ เดินตรวจผู้ป่วยในวอร์ดสิบห้าเตียง เตรียมผ่าตัด”
เก่อฮว๋ายได้ยินเมิ่งซีพูดแล้วรีบลุกทันที สีหน้าหดหู่เปลี่ยนเป็นสดใสในชั่วพริบตาเดียว
เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือ แล้วเขียนในบันทึกประจำวันของตัวเองว่า
‘วันที่หนึ่งธันวาคม ในที่สุดวันนี้หัวหน้าแผนกเมิ่งก็ยิ้มแล้ว เมฆอึมครึมทั้งสัปดาห์เปลี่ยนเป็นท้องฟ้าสดใส แสงอาทิตย์สาดส่องอีกครั้ง…’
ด้านบนเป็น ‘หัวหน้าแผนกเมิ่งอารมณ์ไม่ดีมาแปดวันแล้ว วันนี้จู่ๆ ฉันก็รู้สึกแย่มาก…’
เมื่อเห็นอาจารย์เมิ่งอารมณ์ดี เก่อฮว๋ายก็ย่อมมีความสุขสุดๆ แม้ระหว่างทั้งสองจะมีเฉินชางมาคั่นกลางก็ตาม
แต่นั่นก็ไม่สำคัญ
วอร์ดผู้ป่วยที่แห้งแล้งเปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวาเพราะรอยยิ้มของหัวหน้าแผนกเมิ่ง วันนี้เก่อฮว๋ายแสดงความสามารถออกมาเกินระดับทักษะของตัวเอง เล่นมุกตลกขบขันให้ผู้ป่วยฟังสามคนแบบไม่ซ้ำกัน ทำให้ผู้ป่วยอารมณ์ดีขึ้นเยอะ ถ้าจำเป็นต้องมีการให้คะแนนแพทย์ ความพยายามของตนเมื่อครู่นี้น่าจะได้ห้าดาว
เฉินชางเดินตามอยู่ข้างหลังเงียบๆ ดูเมิ่งซีกับเก่อฮว๋ายตรวจผู้ป่วย สำหรับเฉินชาง นี่คือการเรียนรู้และการฝึกฝนเหมือนกัน
งานของหมอไม่ได้มีแค่ผ่าตัดอย่างเดียวเท่านั้น ยังรวมถึงการตรวจวินิจฉัยโรคและสื่อสารกับผู้ป่วยด้วย…
……
……
หลังจากตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบเกลียว[1] ไป่เจี้ยนหมิงก็ตัดสินใจว่าจะไม่บันทึกภาพเอกซเรย์ จะผ่าตัดเปิดหน้าอกเพื่อตรวจดูโดยตรง
นี่อาจจะเป็นวิธีการที่ตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว
หวังเซี่ยงจวินไม่ได้เข้าร่วมการผ่าตัด ไป่เจี้ยนหมิงจึงโทรหาหมอจางซึ่งเป็นแพทย์ภายใต้ความดูแลของตัวเองเสียเลย หรือที่เรียกกันว่าหมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สองนั่นเอง
แผนกศัลยกรรมหัวใจตอนนี้ ส่วนใหญ่มีแพทย์อาวุโสนำทีม รองหัวหน้าแผนกทุกคนจะมีหมอในความดูแลอยู่ไม่กี่คน ทุกคนล้วนนำทีมไปดูแลคนไข้และผ่าตัด
ถ้าเกิดความเสียหายที่หลอดเลือดแดงอินโนมิเนท อาร์เทอรี่ ไป่เจี้ยนหมิงก็ย่อมต้องเป็นกังวลมากอยู่แล้ว
แม้จะมีระดับความยาก แต่ก็ไม่ยากมาก!
ถ้ามีเขากับหมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สอง โดยทั่วไปก็แก้ปัญหาได้ อู๋เผิงที่อยู่แผนกฉุกเฉินก็เข้าร่วมการผ่าตัดนี้ด้วยเช่นกัน
ตอนล้างมือก่อนเริ่มผ่าตัด ในหัวของไป่เจี้ยนหมิงยังมีใบหน้าของเฉินชางลอยขึ้นมา ในความรู้สึกทึ่งเจือปนด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
ที่จริงถ้าจะพูดให้ถูก ไป่เจี้ยนหมิงกับเมิ่งซีถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นคู่แข่งกัน พวกเขาเป็นคู่แข่งกันเมื่อหนึ่งปีก่อน
ตอนนั้นไม่น่าเชื่อว่ารองหัวหน้าแผนกจะถูกโรงพยาบาลเอกชนซื้อตัวไป โดยทั่วไป คนที่ย้ายงานมากที่สุดในโรงพยาบาลก็คือ ‘รองหัวหน้าแผนก’
เพราะโดยส่วนใหญ่ รองหัวหน้าแผนกล้วนเป็นเครื่องสังเวยเมื่อมีการต่อสู้กันในแผนก ได้แต่รางวัลปลอบใจ ตอนนี้รองหัวหน้าแผนกเป็นเหมือนแพะรับบาป กรรมกรตัวอย่าง…และอีกมากมาย
คุณลองคิดดูสิ คู่ต่อสู้ของคุณกลายเป็นหัวหน้าแผนกแล้ว คุณยังจะใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายอีกหรือ
อีกทั้งความสามารถของรองหัวหน้าแผนกก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่มีโอกาสได้เป็นคู่ต่อสู้ของหัวหน้าแผนกหรอก
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงสถานการณ์หนึ่งเท่านั้น
สำหรับคนหนุ่มสาว ถ้าใครได้เป็นรองหัวหน้าแผนก ก็แสดงว่าเป็นคนที่หัวหน้าให้ความสำคัญและเลี้ยงดูไว้ด้วย
คนในแผนกของโรงพยาบาลให้ความสำคัญกับระดับความสามารถและลำดับอาวุโส สถานการณ์ที่น่ากลัวที่สุดก็คือการขาดแคลนบุคลากร
ดังนั้น ในด้านการคัดเลือกบุคคลากรที่เป็นกำลังหลัก โรงพยาบาลจะเลือกคนที่มีความสามารถโดดเด่นจำนวนหนึ่ง แล้วเลื่อนทำแหน่งให้เป็นรองหัวหน้าแผนก
ตอนนั้นไป่เจี้ยนหมิงก็เป็นกำลังหลักและดาวจรัสแสงเช่นกัน
แต่ดาวจรัสแสงก็สู้ฝนดาวตกที่พุ่งลงมาจากฟ้าไม่ได้อยู่ดี
สำหรับกาารกระโดดร่มอันทรงพลังของเมิ่งซี ภายในหนึ่งปี ‘มีดกรีด’ กับหัวข้อโครงการวิจัยของมูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนของเธอทำให้ไป่เจี้ยนหมิงยอมแพ้จากใจ
พอไป่เจี้ยนหมิงนึกถึงจุดนี้ ก็รู้สึกว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรม!
แค่คุณมีความสามารถก็พอแล้ว ประวัติการศึกษาก็ไม่มีปัญหา ทำไมต้องหน้าตาดีขนาดนี้ด้วยล่ะ
แล้วคุณจะให้คนที่อยู่ในฐานะคู่ต่อสู้อย่างผมทนความรู้สึกนี้ได้ยังไง
แค่เห็นคุณผมก็ซึมแล้ว จะเอาแรงที่ไหนไปแข่งขันด้วย…
แค่ที่พูดมาก็ว่าหนักแล้ว ทำไมคุณยังได้นักเรียนที่โดดเด่นขนาดนี้อีก
พอนึกถึงตรงนี้ ไป่เจี้ยนหมิงก็รู้สึกว่า ตอนที่พระเจ้าปั้นเธอออกมา เธอต้องยัดเงินติดสินบนพระเจ้าแน่นอน!
การผ่าตัดเริ่มขึ้นแล้ว!
ไป่เจี้ยนหมิงสะบัดศีรษะ แล้วรับมีดผ่าตัดมาจากพยาบาล
หมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สองรู้งานมาก เตรียมตัวเป็นผู้ช่วยเรียบร้อยแล้ว
ดูจากภาพซีทีสแกนก็เห็นตำแหน่งฉีกขาดคร่าวๆ แล้ว ไป่เจี้ยนหมิงยกมีดขึ้นมา เริ่มกรีดผ่าตรงกลางหน้าอก จากนั้นก็ค่อยๆ กรีดยาวไปทางคอข้างจุดที่บาดเจ็บ
การผ่าตัดบริเวณนี้จะทำให้เนื้อเยื่อและเส้นประสาทบริเวณอื่นเสียหายไปด้วยได้ง่ายมาก ไป่เจี้ยนหมิงผ่าด้วยความจริงจังตั้งใจมาก
การผ่าตัดนี้ไม่เหมือนกับการกรีดผ่าตามปกติ เพราะต้องใช้วิธีการกรีดผ่าหน้าอกร่วมกับคอ เพื่อให้ส่วนโค้งเอออร์ติกและสาขาของมันแสดงออกมา
นี่คือทักษะที่ทดสอบระดับของแพทย์แผนกศัลยกรรมหัวใจคนหนึ่งได้เลย
แผลกรีดผ่าไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่กลับแม่นยำมาก
ไป่เจี้ยนหมิงมีพื้นฐานเรื่องการผ่าตัดแน่นมาก!
หลอดเลือดแดงอินโนมิเนท อาร์เทอรี่ถูกหุ้มอยู่ในเยื่อหุ้มหัวใจ เนื่องจากการบาดเจ็บครั้งนี้ จึงทำให้เกิดภาวะบีบรัดหัวใจได้ง่ายมาก
ตอนที่เพิ่งกรีดผ่าเยื่อหุ้มหัวใจ ไป่เจี้ยนหมิงก็รีบบอกหมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สองว่า “เตรียมล้างเลือด!”
เป็นอย่างที่คาดไว้ ตอนที่แผลกรีดผ่าปรากฏขึ้นก็เริ่มมีเลือดซึมออกมาไม่หยุดจากจุดลึกของหลอดเลือดแดงอินโนมิเนท อาร์เทอรี่ที่ฟกช้ำ
แต่ตอนนี้เอง!
ไป่เจี้ยนหมิงค้นพบเรื่องเรื่องหนึ่งแล้วตกใจมาก เขาพบว่าเยื่อหุ้มหัวใจไม่ได้สะอาดหมดจดเลย…
นี่คือ…เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเรื้อรังงั้นเหรอ
ทั้งยังเป็นเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเรื้อรังชนิดซับซ้อนด้วย
ตอนนี้ไป่เจี้ยนหมิงเข้าใจกระจ่างทันที!
มิน่าล่ะ!
ไม่แปลกใจที่เกิดสถานการณ์อย่างนี้ขึ้น เมื่อเกิดเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเรื้อรัง หลอดเลือดแดงอินโนมิเนท อาร์เทอรี่ที่ถูกห่อไว้ได้รับความเสียหาย ทำให้หลอดเลือดแดงอินโนมิเนท อาร์เทอรี่ที่เดิมทีก็บาดเจ็บอยู่แล้วมีเลือดไหลออกมาอย่างรวดเร็ว…
แบบนี้ก็ได้เหรอ
ร่างกายมนุษย์ช่างซับซ้อนจริงๆ
ผู้ป่วยเอาแต่บอกว่าตอนที่ตัวเองตรวจสุขภาพครั้งก่อน ไม่มีอาการเจ็บป่วยอย่างอื่น
แบบนี้ไม่ใช่หลอกลวงกันหรอกหรือ
เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเรื้อรังถึงขั้นนี้แล้ว
ถ้าคิดจะผ่าตัดซ่อมแซมหลอดเลือดแดงอินโนมิเนท อาร์เทอรี่ ก็ต้องผ่านด่านยากที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาไปให้ได้เสียก่อน นั่นก็คือจะเลาะเยื่อหุ้มหัวใจที่เล็กแคบนี้ได้อย่างไร
ไป่เจี้ยนหมิงค่อนข้างโชคร้าย หลอดเลือดแดงอินโนมิเนท อาร์เทอรี่เสียหายธรรมดาๆ ทำไมถึงไปรวมกับเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเรื้อรังได้
นี่ฉันดวงซวยขนาดนี้เลยหรือไง
ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เจอล่ะ!
แปลกพิลึกจริงๆ!
เรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นทุกวัน แต่วันนี้เยอะหน่อย!
พอคิดถึงตรงนี้ ในหัวไป่เจี้ยนหมิงก็ปรากฏเงาร่างของคนคนหนึ่ง…
เฉินชาง!
ใช่แล้ว!
ตอนนั้นเขาเห็นเองกับตาว่าเฉินชางนำกลุ่มหัวหน้าแผนกไปผ่าตัดเลาะเยื่อหุ้มหัวใจ ตอนนั้นทำได้ดีกว่าหัวหน้าแผนกเสียอีก!
พอนึกถึงตรงนี้ เขาก็มองหมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สองพร้อมบอกว่า “โทรหาเฉินชาง!”
หมอดีกรีปริญญาเอกเบอร์สองงงทันที “เฉินชาง? ไม่ใช่หัวหน้าแผนกซย่าเกาเฟิงเหรอครับ”
[1] เอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบเกลียว (Spiral/Helical CT Scan) เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะหมุนเป็นวงอยางต่อเนื่องรอบตัวผู้ป่วย เมื่อรังสีเอกซเรย์ผ่านตัวผู้ป่วยจะได้ภาพหลายภาพ ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าแบบพื้นฐาน และได้ภาพที่มีความแม่นยำสูงกว่า