ตอนที่ 00 สังหารสิ่งมีชีวิตต่างโลกเป็นคนแรก
แสงอาทิตย์ส่องลอดผ่านหน้าต่าง
ชายหนุ่ม ‘ทราเวียร์’ เพียงนั่งนิ่งเงียบขณะมือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์เอาไว้แนบแน่น สายตาจดจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ภายในแววตาราบเรียบกับแอบแฝงไปด้วยความคิดโหดเหี้ยม
ยิ่งรับฟังสิ่งที่ปลายสายกล่าวข่มขู่ยิ่งทำให้แววตาทวีความเย็นชา
“จำเอาไว้ให้ดี”
“จดจำให้ขึ้นใจ”
“และช่วยทำตามที่ฉันบอกด้วย”
“…”
“ไม่งั้นตอนกลางคืนฉันคนนี้จะไปเยี่ยมที่ห้องของแก” น้ำเสียงโหดเหี้ยมยังคงดังต่อเนื่องไม่มีหยุด “หวังว่าแกจะตัดสินใจถูกต้อง ไม่ทำอะไรที่มันหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัว”
ฝ่ามือชายหนุ่มกำโทรศัพท์แน่น
“คุณต้องการเท่าไหร่?”
“หนึ่งหมื่นขาดตัว”
“…ได้ครับ” เวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “แต่ผมอยากเปลี่ยนสถานที่นัดพบ สถานที่เก่าเหมือนจะไม่ค่อยปลอดภัยสักเท่าไหร่ อีกอย่างผมไม่อยากให้ใครคนอื่นมารับรู้เรื่องนี้ด้วย”
“หากคุณรับปากยอมรับได้”
“…”
“เงินหนึ่งหมื่นก็จะเป็นของคุณ”
“เรื่องเล็กน้อยไม่มีปัญหา” อีกฝ่ายยอมรับง่ายดายก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงข่มขู่ “ถึงจะเปลี่ยนสถานที่ยังไง แกก็หนีเงื้อมมือของฉันไม่รอดอยู่ดี ฉะนั้นจะทำอะไรก็คิดให้ดี”
“อย่าได้หาเรื่องใส่ตัวเด็ดขาด มันไม่คุ้มหรอกเชื่อดิ”
ไม่มีสุ้มเสียงโต้ตอบตอบกลับ
“…” เวียร์กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “สามโมงเย็น สถานที่ันัดรับเงิน เป็นป่าหลังโรงเรียน เมื่อถึงเวลาผมจะส่งตำแหน่งไปให้ ขอให้มารับของให้ตรงเวลาด้วย”
“น่ารำคาญจริง จะทำอะไรก็ทำ”
หลังจากกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
อีกฝ่ายปลายสายก็ตัดสายทิ้งหน้าตาเฉย ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งโดยไม่มีเปิดโอกาสปล่อยให้ชายหนุ่มบอกกล่าวอะไรเป็นอื่นเลยแม้แต่น้อย ดวงตากะพริบมองมากไปด้วยอารมณ์
เต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่อัดแน่นอยู่ในแววตาขั้นสุด
มือวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแผ่วเบา
“…”
ข้างโทรศัพท์กับมีของสิ่งหนึ่งวางอยู่ก่อน
หากปลายสายได้มาเห็นคงได้มีตื่นตระหนกตกใจเป็นแน่ มันก็คือปืนพกพร้อมกับแมกกาซีนบรรจุกระสุนที่หลงเหลือกระสุนอยู่นอกซองสามนัด นิ้วมือหยิบเอากระสุนทั้งสามนัด
ใส่กลับเข้าไปอัดแน่นให้เต็มครบถ้วนไม่มีปล่อยให้ขาดเหลือ
“…”
พร้อมใส่แมกกาซีนเข้าไปในปืนเตรียมพร้อมใช้งาน
ขีดจำกัดความอดทนอดกลั้นทั้งหมดทั้งมวล กำลังจะจบลงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เมื่อถึงเวลานัดพบ เมื่อถึงเวลาตอนนั้นนั่นจะเป็นวันสุดท้ายของเหล่าเศษเดนเศษสวะที่น่ารังเกียจ
นอกจากปืนที่พร้อมใช้งานใช้การ ก็ยังมีหน้าไม้ และอุปกรณ์อีกเพียบ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีเยี่ยมว่า นี่ไม่ใช่การกระทำหุนหันพลันแล่น ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ ไม่ใช่ชั่วขณะจิต
แต่เป็นการเตรียมการมาเป็นอย่างดี
[ 14 : 20 ]
…‘ใกล้จะได้เวลาแล้ว’
“…”
เวียร์หยิบของทั้งหมดใส่กระเป๋าสะพายใบใหญ่
ไม่ว่าจะทั้งปืนหรือแมกกาซีนสองซองที่บรรจุกระสุนเต็มสิบห้านัด หรือจะเป็นหน้าไม้ที่มาพร้อมกับลูกธนูสิบลูก และของกินอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับเก็บกวาด
หลังจากเตรียมการเสร็จสิ้นฝ่ามือก็หยิบพลั่วติดมือมาด้วย
“…”
แล้วเขาก็เดินออกจากกระท่อมไม้ที่สร้างอยู่ในภูเขา
—
ไม่มีหนี้ที่ปราศจากเจ้าหนี้
เฉกเช่นเดียวกัน ไม่มีความรังเกียจเคียดแค้นใด ที่ปราศจากต้นสายปลายเหตุ ปราศจากเหยื่อผู้ถูกกระทำกับผู้กระทำอันเป็นจุดเริ่มต้นกำเนิดสายสัมพันธ์อันบิดเบี้ยวเฉกเช่นนี้ เรื่องราวมันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เขาพบเจอชายหนุ่มรูปหล่อ มันชื่อ ‘โอลิเวอร์’ เพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของเขาในโรงเรียน ‘สวนพฤกษาที่หนึ่ง’ ความสัมพันธ์แรกเริ่มก็เหมือนทั่วไป
เหมือนเพื่อนปรกติธรรมดา แต่แล้วหลังจากรู้จักกันได้ไม่กี่เดือน สันดานแท้จริงของมันก็เริ่มเปิดเผยออกมาให้เห็น จากเดิมที่กลายเป็นเพื่อนอยู่ ๆ ก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นทาสไปโดยไม่รู้ตัว ถูกขอให้ช่วยเหลือเรื่องราวมากมาย ไม่ว่าจะทั้งซื้อของให้ ขอให้ทำการบ้านให้ ถูกใช้ให้ไปทำเรื่องราวไร้สาระมากมาย หากไม่ทำหรือทำไม่ถูกใจก็จะถูกโมโหเดือดดาลใส่ไม่มีหยุด
แน่นอนว่าเขาอดทนอดกลั้นได้ดีเยี่ยม ขอเพียงมันไม่เกินเลยไม่มากจนเกินไป เขาก็คงปล่อยผ่านไม่ทำอะไรหรอก แต่แล้วเหตุการณ์พลิกผันในชีวิตของเขาก็เกิดขึ้น เมื่อครอบครัวของเขาประสบอุบัติเหตุจากกลายเป็นครอบครัวอบอุ่นก็ไม่หลงเหลือใครเลยแม้แต่คนเดียว ช่างเป็นฉากภาพเหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิตของเขาเหลือเกิน
และมันก็เดินเข้ามาพูดคุยกับเขา
“…”
“ไม่เป็นไร” พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นที่สุด “หลังจากนี้ฉันจะอยู่กับนายเอง นายไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวหรอก นายยังมีฉัน นายยังมีพวกเราทุกคนอยู่ มาสิ มาอยู่กับพวกเรา”
อาศัยช่วงจังหวะเวลาหัวใจเปราะบางเป็นที่สุดเข้ามาแทรกแซง
แล้วเขาก็หลวมตัวเข้าไป เข้าไปในโลกที่ไม่สมควรเหยียบย่างเข้าไป เป็นโลกที่เข้าไปแล้วไม่อาจออกไปได้อีกตลอดกาล อย่างน้อยที่สุดก็จนกว่าเขาจะเรียนจบจากสถานที่แห่งนี้
ไอ้คำที่บอก “ฉันจะอยู่กับนายเอง” หรือ “นายไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวหรอก” มันก็แค่ถ้อยคำสวยหรูที่เอาไว้ใช้หาเหยื่อเท่านั้น พอเหยื่อตกมาอยู่ตรงหน้าผู้ล่า สันดานแท้จริงก็เผยให้เห็น
เงินทั้งหมดที่เขาได้รับจากตายของครอบครัว ล้วนถูกหยิบไปใช้ง่ายดายภายใต้คำว่า “เพื่อน” จอมปลอม หากไม่ให้ไม่ต้องการให้หยิบจับก็จะโดนพวกรุ่นพี่เบื้องหลังของมันกระทืบ
ทั้งยังถูกลากพาเข้าไปในเหตุการณ์สถานการณ์มากมายที่เขาไม่ต้องการอีก เฉกเช่น ลากพาหญิงสาวเข้ามาข่มขืนมาแบล็คเมล์ หรือกระทั่งเหตุการณ์ยาเสพติดก็ยังมีให้เห็น
กล่าวสำหรับเขาแล้วมันคือนรกทุกวันที่อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น
“…”
ฉะนั้นวันนี้มันจะต้องจบ
ไม่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายปลายทางมันจะออกมาเป็นแบบไหนแบบใด เขาก็จะต้องลากพาไอ้เพื่อนสารเลว ‘โอลิเวอร์’ ลงหลุมไปด้วยให้ได้ ต่อให้เขาจะต้องตกตายไปด้วยก็ตาม
ฝ่ามือทั้งสองลอบกำเข้าหาแน่น
…‘ต้องฆ่าให้ได้’
“…”
ช่วงเวลาตอนนี้คือบ่ายสองโมงครึ่ง
เหลือเวลาอีกสามสิบนาทีก่อนจะถึงบ่ายสาม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขานัดหมายให้มันมารับมาเงิน แน่นอนมันคงไม่รู้หรอกว่าสถานที่นัดรับ สุดท้ายปลายทางจะเป็นหลุมศพให้กับมัน
เวียร์สำรวจหน้างานเปิดผ้าใบที่ปิดเอาไว้แนบแน่น
“…”
ภายใต้ผ้าใบที่ปิดเอาไว้เป็นหลุมลึกสองเมตร
เป็นหลุมที่เขาขุดเอาไว้สำหรับกลบฝังขยะชิ้นนี้ หากปืนยังยิงมันไม่ตายหรือเกิดเขาเปลี่ยนใจไปกลบฝังมันทั้งเป็น หลุมนี้ก็จะเป็นสิ่งของชั้นยอดที่จะตอบสนองความต้องการ
ความต้องการอันบ้าคลั่งของเขา ผ้าใบปิดเอาไว้เหมือนเดิมที่เหลือก็แค่รอคอย รอคอยให้โอลิเวอร์มาตามนัด เขาได้ส่งตำแหน่งของตัวเองไปแล้วเรียบร้อยที่เหลือก็แค่รอมันมา
แผ่นหลังแนบติดต้นไม้มือถือหน้าไม้ที่พร้อมบรรจุกระสุน
“…”
แน่นอนว่าหน้าไม้เป็นเพียงอุปกรณ์เปิดหน้างาน
หากเขาไม่สามารถเก็บกวาดได้ภายในลูกธนูหนึ่งดอก ปืนจะเข้ามารับหน้าที่มารับบทบาทเอง เขาเพียงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ต้องใช้ปืนในการเก็บกวาดเศษขยะชิ้นนี้
หากจะบอกว่าไม่กลัวเสียงปืนมันจะดังลั่นไปทั่วบริเวณเหรอ ก็คงต้องบอกว่าไม่ เพราะเขาติดที่เก็บเสียงเอาไว้ตรงปากกระบอกปืน ต่อให้มันเกิดเสียงขึ้นมาแต่ในป่าลึกแบบนี้
คงมีแต่ผีสางเท่านั้นแหละที่จะได้ยินเสียงปืน
“…”
—
และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง
[ 15 : 00 ]
…‘บ่ายสามโมง’
“…”
ใกล้จะถึงเวลาต้องลงมือแล้ว
หัวใจดวงน้อยที่อัดแน่นอยู่ในทรวงอกกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่ง ความคิดมากมายนับหมื่นพันกำลังไหลผ่านเข้ามาในสมอง หากฆ่าไปแล้วจะทำยังไง จะฆ่าพวกที่เหลือต่อไปหรือเปล่า จะทำยังไงต่อดีหลังฆ่าเสร็จ จะหนีเอาตัวรอด หรือบุกเข้าไปฆ่าพวกที่เหลือต่อ ห้วงความคิดยิ่งมายิ่งบ้าคลั่ง หากแต่ในจำนวนห้วงความคิดนับหมื่นพัน ไม่มีความคิดไหนเลยที่บอกให้หนี
ไม่มีเลยแม้แต่ช่วงเวลาเดียวมีแต่ให้เดินหน้าต่อไปเท่านั้น
“…”
“!!!”
“…”
พริบตาเดียวเท่านั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ตลอดพื้นดินที่เขายืนประคองตัวอยู่ก็พลันสั่นไหวแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ก็สร้างอาการตื่นตระหนกตกใจให้เขาได้ไม่น้อย นอกจากอาการตื่นตระหนกตกใจที่เกิดขึ้น
มันยังมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้รุนแรงอีกต่างหาก
“อ้วกกกก!”
จนเขาต้องอ้วกเอาของเหลวออกมา
เหตุการณ์สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้ว กับยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เมื่อเขาได้ยินสุ้มเสียงหนึ่งกำลังเดินมา แน่นอนว่าคนที่จะเดินมาเส้นทางนี้ได้ ในช่วงจังหวะเวลานี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
ต้องเป็นมันแน่นอน
…‘โอลิเวอร์!’
“…”
เวียร์รีบดึงสติเตรียมหน้าไม้ให้พร้อม
ขอเพียงไอ้เศษขยะก้าวเข้ามาใกล้ เข้ามาใกล้มากพอให้ยิงในระยะเผาขน เขาก็จะฆ่ามันได้ทันที หรือต่อให้ผิดพลาดยังไง เขาก็มีหลักประกันเตรียมพร้อมเอาไว้เรียบร้อย
ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องตาย ต้องตายกลายเป็นศพ กลายเป็นเพียงร่างเนื้อไร้ชีวิต ไม่อาจมากลั่นแกล้งหรือสร้างความทุกข์ร้อนอันใดให้เขาอีก ฝ่ามือกำหน้าไม้แน่นฝีเท้าขยับเข้ามาใกล้
เหงื่อใสความกังวลเริ่มอาบบนใบหน้า
…‘ฆ่า’
…‘ต้องฆ่า’
…‘ต้องฆ่าเท่านั้น’
“…”
หัวสมองสั่งการรวดเร็วยิ่งยวด
เมื่อได้จังหวะเวลาเวียร์ก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อนหลังต้นไม้ พร้อมประทับหน้าไม้เข้าประจำตำแหน่งและก็ลั่นไกทันที โดยไม่เสียเวลาจดจ้องมองอีกฝ่าย ใช่ เขายิงออกไปทันที
โดยไม่มองด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน
“…”
“!!!”
“…”
ลูกธนูพุ่งเข้าปักบนหน้าผาก
ดับชีวิตอีกฝ่ายทันที เพียงแต่ว่าฝ่ายที่โดนยิงกับไม่ใช่ ‘โอลิเวอร์’ เศษสวะเศษเดนที่เขาต้องการฆ่าให้ตายกับเป็นใครคนอื่นแทน เป็นร่างสูงใหญ่เหมือนคนป่า ดวงตาพลันเบิกกว้าง
แต่ก่อนเขาจะได้ทำอะไรเพิ่มเติม ร่างของเขาก็คล้ายถูกดึงกระชากจากด้านหลังสุดแรงดึงหายไปจากโลกธาตุปรกติธรรมดา ก่อนสภาพแวดล้อมรอบกายจะแปรเปลี่ยนเป็นสีขาว
และที่สำคัญที่สุดก็คือถ้อยคำตัวอักษรที่ขึ้นเรียงตัวอยู่บนอากาศตรงหน้าเขา
[ รางวัลพิเศษ : สังหารสิ่งมีชีวิตต่างโลกเป็นคนแรก ]
“…”