กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 247 คนโง่

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 247 คนโง่

บทที่ 247 คนโง่

เซี่ยชิงหยวนกลัวว่าน้ำหนักตัวของเธอจะกดทับเสิ่นอี้โจวที่เพิ่งฟื้น เธอจึงไม่กล้าทิ้งตัวและทำได้เพียงแค่พยุงค้ำน้ำหนักไว้ด้วยมือของตัวเอง

เสิ่นอี้โจวสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวนั้น เลยปล่อยเธอไป

เมื่อมองไปยังยาสมุนไพรสีเขียวอมเทาที่ทาบนหน้าผากของภรรยา เขาก็ยังคงมองเห็นบาดแผลที่น่ากลัวของเธอได้อย่างราง ๆ ซึ่งน่าตกใจไม่น้อย

นี่คือยาสมุนไพรที่หมอท้องถิ่นในทิเบตใช้เพื่อทาบาดแผล

มันมีผลในการหยุดเลือดและลดอาการบวมที่ยอดเยี่ยม แต่ก็แสบเกินทานทน

เขารู้ด้วยว่าไม่เพียงแต่หน้าผากของเธอเท่านั้นที่เป็นแผล แต่แขนขาและข้อต่อของเธอก็ต้องเต็มไปด้วยแผลเช่นกัน

เขาทัดเส้นผมที่ร่วงหล่นลงข้างแก้มของเธอไปทางด้านหลัง พลางจ้องมองใบหน้าที่ซีดเซียวและซูบผอมของเธอ นัยน์ตาฟีนิกซ์ที่อ้างว้างของเขาพลอยมืดหม่นแสดงถึงความรู้สึกอัดอั้นที่พยายามระงับ แต่ความเศร้ายังคงปรากฏออกมาจากคิ้ว ดวงตา และมุมปากของเขา มันปรากฏออกมาทีละนิด

เขาลูบไล้ใบหน้าของเธอด้วยนิ้วเรียวยาว ลูบริมฝีปากที่แตกแห้งของเธอเบา ๆ น้ำเสียงของเขาสั่นเครือไม่น้อย “เจ็บไหม?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ น้ำตาของเซี่ยชิงหยวนก็ไหลออกมาอีกครั้ง

เธออยากจะส่ายหัว แต่สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างหนัก

ตลอดทางเธอแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง แต่ในขณะนี้เธอก็พ่ายแพ้เสียแล้ว

หญิงสาวสะอื้นไห้ “เจ็บมาก”

เสียงคำว่า ‘เจ็บมาก’ กระแทกหัวใจของเสิ่นอี้โจวอย่างจัง

นิ้วของเขาค่อย ๆ ปาดเช็ดน้ำตาของเธอ “คนโง่”

เซี่ยจื่ออี้ที่ยืนอยู่ด้านข้างมีท่าทางที่ซับซ้อนปรากฏที่ใบหน้าของเธอ

เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในที่สุดเลขาธิการเสิ่นก็ตื่นขึ้นเสียที และภรรยาของเลขาธิการก็กลับมาพอดี ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีจริง ๆ ค่ะ”

ทุกคนรู้เพียงว่าเสิ่นอี้โจวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ซึ่งอุทิศตนให้แก่ประชาชนและอาจจะไม่ตื่นฟื้นมา ทว่าคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าเซี่ยชิงหยวนไปแสวงบุญที่ทิเบต

อย่างไรก็ตาม เซี่ยจื่ออี้และหมอหมิ่นได้รู้เรื่องนี้จากสิ่งที่หลินตงซิ่วหลุดพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อเธอพูดแบบนี้ คนที่ไม่รู้ก็อดไม่ได้ที่จะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเซี่ยชิงหยวน

ผู้ชายนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ชีวิตและความตายไม่แน่นอน แต่ไม่รู้ว่าคนเป็นภรรยาไปไหน

บัดนี้ฝ่ายชายตื่นขึ้น ภรรยาถึงเพิ่งจะกลับมาอย่างกระตือรือร้น

ท้ายที่สุด สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นในโรงพยาบาล

เซี่ยชิงหยวนเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยจื่ออี้

เธอยืนอยู่หน้าเตียงอย่างเงียบ ๆ ดวงตาสีอัลมอนด์ของเธอนั้นบริสุทธิ์และไร้เดียงสา และก็ไม่อายที่จะเข้าใกล้เสิ่นอี้โจวในตอนนี้

เซี่ยจื่ออี้มองพวกเขาด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเธอมีความสุขมากที่คู่รักได้กลับมา

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับผู้หญิงเล่ห์เหลี่ยมสูงเช่นนี้

ขณะที่เสิ่นอี้โจวกำลังจะส่งเสียง เซี่ยชิงหยวนกดหน้าอกของเขาด้วยมือเรียวแล้วยิ้มให้เซี่ยจื่ออี้ “ฉันได้ยินข่าวลือมาว่ามีหมอเทวดาชราอาศัยอยู่ในภูเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร ด้วยความรู้สึกเป็นกังวลกับอี้โจว ฉันเลยออกเดินทางไปหาชายชราน่ะ แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อฉันไปถึง หมอเทวดาชราก็ไม่อยู่แล้ว มันกลายเป็นว่าฉันสูญเสียความพยายามไปโดยเปล่าประโยชน์ โชคดีที่พระเจ้าเมตตาฉัน และประทับใจในความจริงใจของฉันจริงๆ”

จากนั้นเซี่ยชิงหยวนมองไปที่เสิ่นอี้โจวด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความรัก “ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดคุณก็ฟื้นเสียที”

คำพูดของเซี่ยชิงหยวนอธิบายเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่ได้อยู่กับเสิ่นอี้โจวในช่วงเวลาที่ผ่านมา และยังบอกใบ้ว่าการตื่นขึ้นของเสิ่นอี้โจวอาจเกี่ยวข้องกับการพยายามหนักของเธอ

หัวใจของหลินตงซิ่วแปรเปลี่ยนไปเป็นพันครั้ง และเธอก็เข้าใจคำพูดของเซี่ยชิงหยวน

เธอพูดเสริมจากด้านข้าง “ตอนแรกที่ลูกสะใภ้ของฉันบอกว่าเธอจะไป ฉันเป็นห่วงเธอเสมอ โชคดีที่เธอกลับมาอย่างปลอดภัย ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงกับอี้โจวยังไงเลย”

แพทย์ส่วนใหญ่และพยาบาลที่นี่เคยพบเซี่ยชิงหยวนมาก่อน

รูปลักษณ์ที่สวยงามของเธอก่อนหน้านี้ยังหยั่งรากลึกลงในหัวใจของพวกเขา

แต่เมื่อเห็นว่าขณะนี้เซี่ยชิงหยวนดูเหมือนขอทาน พวกเขาก็พอจะคาดเดาอะไรได้บ้าง และยิ่งเมื่อเซี่ยชิงหยวนอธิบายแบบนี้อีก พวกเขาก็เข้าใจว่าตัวเองคิดไม่ผิด

ปรากฏว่าเธอไม่ได้หนีสามีไป แต่เดินทางไปหลายพันกิโลเมตรเพื่อหายาให้สามี

การทุ่มเทอย่างหนักแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้

หมอหมิ่นเริ่มหัวเราะและพูดว่า “ตั้งแต่เจอพวกเขาครั้งแรก ผมก็สามารถบอกได้เลยว่าหนุ่มสาวคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ดีแน่นอน พวกเขาเป็นไปตามที่ผมคิดจริง ๆ!”

เขาไม่ได้มีความรู้สึกในทางลบที่เซี่ยชิงหยวนไปหาหมอคนอื่นเลย แต่เขากลับชื่นชมความกล้าหาญของเธอมากกว่า

เขายกนิ้วให้เซี่ยชิงหยวน “ในยุคใหม่นี้ คุณเป็นผู้หญิงที่น่าอัศจรรย์จริง ๆ”

เซี่ยชิงหยวนยิ้มอย่างเขินอาย “ฉันคงไม่อัศจรรย์เมื่อเทียบกับทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของหมอหมิ่นหรอกค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหมอ อี้โจวคงไม่สามารถรอดได้ในครั้งนี้ การตื่นขึ้นในครั้งนี้ของเขาก็เป็นผลงานของความพยายามของหมอหมิ่นและทีมแพทย์ของคุณด้วยค่ะ”

ทั้งสองชมกันไปมาทำให้บรรยากาศเศร้าหมองคลายลง

แม้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกของเซี่ยชิงหยวนจะไม่ค่อยดีนักในตอนนี้ แต่ท่าทางของเธอไม่ได้ด้อยกว่าเซี่ยจื่ออี้ ซึ่งเป็นลูกสาวของหัวหน้าศาลากลางมณฑล

ดวงตาของเซี่ยชิงหยวนเป็นประกายและเธอพูดได้อย่างอิสระ ไม่เหมือนกับผู้หญิงบ้านนอกที่ไม่ได้รับการศึกษาเลย

เซี่ยจื่ออี้ยืนอยู่ข้าง ๆ และหัวเราะไปพร้อมกับทุกคน

แค่ในดวงตาไม่ฉายแววของความสุขอย่างใจจริงสักเท่าไหร่

เมื่อผู้คนแยกย้ายกันไป หลินตงซิ่วก็หาข้ออ้างที่จะจากไปเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่ได้มีเวลาอยู่ตามลำพัง

เสิ่นอี้โจวกอดเซี่ยชิงหยวนอย่างแรง เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพิงไหล่ของเขา

เซี่ยชิงหยวนตบมือของเสิ่นอี้โจวที่จับหน้าผากของเธอและพูดว่า “อย่าแตะมันสิ มันน่าเกลียดจะตายไป”

ดวงตาของเสิ่นอี้โจวแข็งค้าง จากนั้นเขาก็ยิ้มเบา ๆ “ในใจของผม ภรรยาของผมสวยที่สุด”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่ยิ้มเขินออกมา

เธอกลั้นยิ้มและพูดว่า “แล้วเซี่ยจื่ออี้ล่ะ เธอสวยกว่าฉันไม่ใช่เหรอ?”

เสิ่นอี้โจวสามารถบอกได้ว่าเซี่ยชิงหยวนรู้สึกหึง

เขารู้สึกยินดีจริงๆ ที่เจอเรื่องนี้

เขาเลยอธิบายว่า “หลังจากที่ผมตื่นขึ้นมา ผมได้ยินจากแม่มาเท่านั้นเองว่าเธอจะมานั่งคุยกับแม่ทุก ๆ สองวัน ตอนแรกแม่ของผมปฏิเสธ แต่เธอก็ยืนกรานและบอกว่าเธอเป็นตัวแทนความห่วงใยจากพ่อของเธอที่พอจะทำได้ ขอให้อย่าไล่เธอไปอีกเลย ผมอยู่ในอาการโคม่าและไม่ได้ตื่นจนกระทั่งเช้านี้ด้วย”

เขาจับมือเซี่ยชิงหยวน “ผมกล้าพูดต่อหน้าฟ้าดิน เมื่อผมตื่นขึ้น ผมคิดถึงแต่คุณเท่านั้น ไม่มีเธอแม้แต่น้อยและผมยังไม่ได้พูดอะไรกับเธอเลย”

แน่นอนว่าเซี่ยชิงหยวนเชื่อในตัวเสิ่นอี้โจว

เขาอธิบายอย่างประหม่า ทำให้หัวใจของเธออบอุ่น

ในที่สุดเธอก็ทนไม่ได้อีกต่อไป และหัวเราะออกมาดัง ๆ “ฉันรู้แล้วค่ะ”

ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้ม ดวงตาของเสิ่นอี้โจวสงบนิ่งราวกับทะเลสาบที่ไม่สามารถวัดความลึกได้

เขามองลงไปที่นิ้วของเธอที่มีแต่แผล และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ชิงหยวน คุณช่วยชีวิตผมไว้”

เซี่ยชิงหยวนส่ายหัวของเธอ “ไม่เลย คุณได้รับการช่วยเหลือจากหมอหมิ่นต่างหาก ที่ฉันไปทิเบตก่อนหน้านี้เป็นเพียงการกระทำที่สิ้นหวังเท่านั้นน่ะ”

เสิ่นอี้โจวส่ายหัวทันที

ดวงตาของเขาเป็นประกายระยิบระยับเหมือนมีแสงดวงดาวอยู่ภายใน

เขามองเธออย่างตั้งใจก่อนจะพูดว่า “ผมได้ยินคำอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธเจ้าของคุณ”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท