กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 336 บาดเจ็บ

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 336 บาดเจ็บ

บทที่ 336 บาดเจ็บ

เซี่ยชิงหยวนเห็นเซี่ยจื่ออี้ยืนอยู่ในฝูงชนกับพ่อแม่ของเด็ก ๆ เธอพยายามปลอบโยนเด็ก ๆ ที่หวาดกลัวอย่างอ่อนโยน

เมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองของเซี่ยชิงหยวน เซี่ยจื่ออี้ก็มองกลับมาที่เซี่ยชิงหยวนด้วยเช่นกัน

ใบหน้าของเธออ่อนโยนและสงบ มุมปากโค้งเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาอย่างยิ่ง

เซี่ยชิงหยวนโกรธมาก

ต้องเป็นเธอแน่!

เซี่ยชิงหยวนต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว และดึงเซี่ยจื่ออี้ออกมา แต่เสียงร้องอันแผ่วเบาในอ้อมแขนปลุกให้เธอได้สติ

เด็กทั้งสองถูกกอดไว้แน่นในอ้อมแขนของเธอ ตอนนี้พวกเขาก็ตัวสั่นด้วยความตกใจจากเสียงปืน

เซี่ยชิงหยวนมองไปยังเด็กสองคนที่อยู่ในอ้อมแขน จากนั้นมองไปที่วัวแก่ซึ่งยังคงมองมาที่เธอ และรู้สึกหนักใจมาก

เธอก้าวไปไม่ได้

เธอไม่มีหลักฐานใด ๆ เลย

ความเกลียดชังก่อตัวขึ้นในใจของเธอ มันแพร่กระจายไปยังหัวใจและห่อหุ้มไว้แน่น ทำให้เธออึดอัดอย่างมาก แต่ไม่สามารถระบายมันออกมาได้

สักวันหนึ่ง เธอจะทำให้เซี่ยจื่ออี้ชดใช้สำหรับทุกสิ่ง!

พ่อแม่ของเด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้ามา อุ้มเด็กไปและปลอบอย่างกังวล

พ่อของเด็กขอบคุณเซี่ยชิงหยวน ขณะที่แม่อุ้มเด็กไว้และร้องไห้

เมื่อเสิ่นอี้โจวเห็นว่าวัวถูกควบคุมแล้ว เขาก็เข้ามาอยู่ข้างเซี่ยชิงหยวนทันที

เขาไม่พูดอะไร แต่กอดเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้หลินไว้ในอ้อมแขนของเขา

มือของเขาถลอกเพราะจับเชือกหยาบที่ล่ามวัวไว้ อีกทั้งในบางจุด เนื้อและหนังก็หลุดออกมาจนมีเลือดไหลซึม

เสิ่นอี้หลินไม่สามารถอดกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป พลันร้องไห้ออกมาในอ้อมแขนของเซี่ยชิงหยวน “ฮือ… ฮือ… พี่สะใภ้ ฮือ…”

นี่เป็นหายนะสำหรับทุกคน

ฉีจิ่นจือถูกพยุงจากใครบางคน ดวงตาของเขามืดลงในขณะที่เขามองไปยังคนสามคนที่กอดกันต่อหน้าเขา และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกับความเจ็บปวดที่สีข้างตัวเอง

เขาจับบริเวณที่โดนวัวแก่ชน และเลือดของเขาก็ไหลออกมาไม่หยุด

มีคนอุทานทันที “เขาบาดเจ็บ จิ่นจือบาดเจ็บ!”

เมื่อกี้เขาใช้มือปิดมันไว้ และสถานการณ์ก็วุ่นวายมากจนไม่มีใครสังเกตเห็น

เมื่อฉีหยวนซานเห็น เขาก็วิ่งมาหาฉีจิ่นจือทันที พอได้เห็นเสื้อผ้าของลูกชายตัวเองเปื้อนเลือดสีแดง เขาก็ขมวดคิ้วและพูดเสียงดัง “เร็วเข้า ส่งเขาไปโรงพยาบาลเร็ว ๆ!”

เจ้าหน้าที่ที่ชักปืนออกมาเก็บมันกลับไป และตอบกลับ “ครับผม!”

เขารีบวิ่งไปที่รถแล้วขับเข้ามาทันที

ในเวลานี้เซี่ยจื่ออี้ก็วิ่งมาที่ฉีจิ่นจือ เธอเอื้อมมือไปช่วยเขาด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล “จิ่นจือ คุณเป็นยังไงบ้าง?”

ฉีจิ่นจือปัดมือเธอออกไปโดยไม่มองแม้แต่นิดเดียว

เซี่ยจื่ออี้มองไปยังมือของตัวเองที่ถูกปัด และความรำคาญก็แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ

หญิงสาวพยายามควบคุมอารมณ์และกัดฟันพูดเบา ๆ “จิ่นจือ”

ฉีจิ่นจือลืมตาขึ้นแล้วมองเธอ “อย่ามาแตะต้องฉัน!”

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจที่ไม่คิดจะปิดบัง

เมื่อสบตากับสายตาของเขา เซี่ยจื่ออี้ก็ตัวแข็งราวกับถูกโจมตีอย่างแรง

ในเวลานี้เสิ่นอี้โจวปล่อยเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้หลิน เขาเดินมาที่ฉีจิ่นจือและโค้งคำนับ “นายน้อยฉี ผมขอขอบคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ด้วยครับ”

เมื่อกี้เขากำลังสนใจอยู่กับการคุยกับคนอื่น ถ้าไม่ใช่เพราะฉีจินจื่อ เกรงว่าเซี่ยชิงหยวนคงจะถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้กีบวัวไปแล้ว

ฉีจิ่นจือพยักหน้ารับคำขอบคุณ

ในใจฉีหยวนซานรู้สึกเสียใจ แต่เขาไม่สามารถแสดงมันออกมาบนใบหน้าได้ เขาพูดว่า “จิ่นจือแค่ทำในสิ่งที่เขาควรทำน่ะ”

เสิ่นอี้โจวมองไปยังฉีจิ่นจือที่เปื้อนเลือด

เขายกมือที่ถลอกและมีเลือดออกขึ้นแล้วพูดว่า “เสิ่นอี้โจวคนนี้จะไม่มีวันลืมบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ของนายน้อยฉีครั้งนี้ครับ หากนายน้อยฉีต้องการให้ผมทำอะไรในอนาคต ผมจะทำมันให้ดีที่สุด!”

นี่คือบุญคุณอันยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตาย การขอบคุณเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอแต่ต้องตอบแทนด้วย

แต่คำพูดของเสิ่นอี้โจวก็ฉลาดเช่นกัน เขามุ่งเป้าไปที่ฉีจิ่นจือเท่านั้น ไม่ใช่ตระกูลฉี

การแสดงออกของฉีจิ่นจือยังคงสงบมาก “เลขาธิการเสิ่นสุภาพเกินไปแล้วครับ”

เสิ่นอี้โจวไม่ได้พูดอะไรอีกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขากล่าวว่า “ผมรู้เกี่ยวกับวิธีการพันแผลนิดหน่อย จะดีกว่าถ้าผมพันแผลหยุดเลือดให้นายน้อยฉีก่อน แล้วไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดนะครับ”

เมื่อดูสภาพของฉีจิ่นจือตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาวัวจะเจาะช่องท้องของเขา ทำให้เขาเลือดออกเช่นนี้

สถานที่แห่งนี้อยู่แถบชานเมืองและการไปถึงโรงพยาบาลไม่ใช่เวลาสั้น ๆ ดังนั้นอันดับแรกต้องทำการทำแผลก่อน

ฉีจิ่นจือพยักหน้า “ถ้างั้นผมก็ขอบคุณมากครับ”

ฉีหยวนซานและพ่อของเด็กผู้หญิงช่วยฉีจิ่นจือนอนลงตรงจุดนั้น เสิ่นอี้โจวโบกมือให้ฉีจิ่นจือเพื่อเอามือของเขาออกไปจากบาดแผล ในเวลาเพียงครู่เดียว เลือดสีแดงฉานก็ทะลักออกมาจากบาดแผลและเปื้อนเสื้อผ้าไปทุกที่

เสิ่นอี้โจวขมวดคิ้วและรีบเอื้อมมือไปกดแผลไว้

เขาหันกลับไปและถามว่า “พวกคุณคนไหนมีเศษผ้าหรือเสื้อผ้าที่สะอาดไหม?”

ก่อนที่เซี่ยชิงหยวนจะออกจากบ้านวันนี้ เธอเห็นว่าข้างนอกมีลมแรง จึงสวมผ้าพันคอยาวมาด้วย

เธอตอบอย่างรวดเร็ว “ใช้ของฉันสิ”

จากนั้นเธอก็ถอดผ้าพันคอออกแล้วมอบให้กับเสิ่นอี้โจว

เสิ่นอี้โจวรับผ้าพันคอมา และเริ่มใช้มันพันแผลให้ฉีจิ่นจือ

เซี่ยชิงหยวนไม่ได้พูดอะไรและรออยู่ข้าง ๆ

เซี่ยจื่ออี้เปิดปากตัวเองเช่นกันโดยถือผ้าพันคอของเธอในมือ คิ้วของหญิงสาวขมวดแน่น

ในขณะที่กดบาดแผลของฉีจิ่นจือนั้น เสิ่นอี้โจวก็เปิดเสื้อที่ฉีจิ่นจือสวมอยู่ให้เลิกขึ้นเพื่อที่เขาจะได้ใช้ผ้าพันไว้รอบเอวของอีกฝ่ายได้ ให้มันสัมผัสกับบาดแผลโดยตรงเพื่อให้เลือดหยุุดไหล

เซี่ยชิงหยวนเห็นว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเสิ่นอี้โจวที่ใช้แค่สองมือของเขาเอง ดังนั้นเธอจึงคุกเข่าลงและเลิกเสื้อของฉีจิ่นจือให้เขา

ขณะที่นั่งยอง ๆ เธอก็เข้าใกล้ฉีจิ่นจือมากขึ้น และต้องร่วมมือกับเสิ่นอี้โจวเป็นครั้งคราว โดยเข้าใกล้ฉีจื่นจือมากขึ้นอีก

ฉีจิ่นจือเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาว เธอจ้องมองที่บาดแผลของเขาอย่างตั้งใจ ริมฝีปากเม้มแน่น และคิ้วขมวดเป็นปม

เธอก็กังวลเรื่องของเขาด้วยสินะ…

วินาทีต่อมา ฉีจิ่นจือก็หลับตาลงและไม่ได้มองเธออีก

หลังจากที่เสิ่นอี้โจวพันแผลให้เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ขับรถมาถึงเช่นกัน

หลายคนช่วยกันอุ้มฉีจิ่นจือเข้าไปในรถ

ฉีจิ่นจือพยายามช่วยเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้หลินจากการถูกวัวคลั่งทำร้าย ไม่ว่ายังไงก็ตามเสิ่นอี้โจวก็ต้องไปที่โรงพยาบาลด้วยกันกับเขา

เขากอดเซี่ยซิงหยวนอีกครั้งและพูดว่า “รอจนกว่าผมจะกลับไปนะ”

จากนั้นเขาก็หันไปหาฉู่ซิงอวี่แล้วพูดว่า “ช่วยไปส่งภรรยาของผมกลับบ้านทีนะ”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ก้าวขายาว ๆ แล้วขึ้นรถไปกับฉีจื่นจือ

เซี่ยชิงหยวนยืนอยู่ที่นั่น พลางกอดเสิ่นอี้หลินที่สะอื้นและเฝ้าดูรถขับออกไป

ฉู่ซิงอวี่เดินเข้ามาหาเธอแล้วพูดว่า “คุณนาย ให้ผมพากลับบ้านนะครับ”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ได้ค่ะ”

เธอมองไปทางวัวแก่เป็นครั้งสุดท้าย

คนเลี้ยงวัวชรายังคงนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้าง ๆ มัน

แม้จะมีคนจ่ายเงินชดเชยให้เขา แต่เขาก็ยังไม่สามารถหยุดความรู้สึกเศร้านี้ได้

มือชราที่หยาบกร้านของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นแห่งวัย เขาลูบหลังวัวแก่อย่างสั่นสะท้านทีละครั้ง โดยคิดว่านี่อาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของวัวแก่ได้

ในเวลานี้ วัวแก่หายใจโรยรินมากขึ้นและรับอากาศเข้าน้อยลง แต่ดวงตาของมันยังคงเปิดกว้าง

นี่คือวัวแก่ที่อยู่กับครอบครัวของเขามาตลอดชีวิต กระทั่งในยามที่ครอบครัวลำบากที่สุด เขาก็ไม่เคยคิดจะขายมันเลย แต่ตอนนี้มันต้องจบชีวิตลงแบบนี้แล้ว

นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยชิงหยวนเผชิญกับการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์

หลิงหลินยังก้าวมาข้างหน้าและรีบเร่งเซี่ยชิงหยวน “คุณนายเสิ่น เราไปกันเถอะค่ะ”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าและจากไปพร้อมกับเสิ่นอี้หลิน

เมื่อเดินผ่านเซี่ยจื่ออี้ เซี่ยชิงหยวนก็หยุดและมองดูอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ

ริมฝีปากของเซี่ยจื่ออี้โค้งแสดงออกที่ไร้เดียงสา “ชิงหยวน?”

มีการเยาะเย้ยปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเซี่ยชิงหยวน และเธอก็เดินเข้าไปในรถโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

————————————

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท