วันต่อมา ข่าวการมาถึงภพสวรรค์ของหงส์เพลิงก็แพร่สะพัดออกไป
เซียนทั้งหลายต่างจับกลุ่มกันพูดคุยเรื่องภพสวรรค์พร้อมกับลอบมองตี้จวินที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เป็นระยะ
เมื่อฝูงชนแยกย้ายกัน เซียนอาวุโสที่วางแผนว่าจะแนะนำเทพธิดาภูเขาหิมะให้กับตี้จวินจึงเดินเข้าไปหาเขา แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า ”ตี้จวิน ข้าได้ยินมาว่าเมื่อคืนนี้หงส์เพลิงมาพบท่านหรือ”
”อืม” ชายหนุ่มเหลือบมองเซียนอาวุโส รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาเมื่อเขานึกถึงคำพูดเมื่อวานนี้ของหงส์เพลิงขึ้นมาได้ ”มีอะไร”
เมื่อตี้จวินเอ่ยปากถาม เซียนอาวุโสจึงไม่คิดที่จะเสแสร้งให้เสียเวลา ”หงส์เพลิงมาหาเรื่องสู้กับท่านหรือ สุดท้ายใครชนะหรือขอรับ ตี้จวินอย่าเพิ่งเข้าใจข้าผิดนะ ข้าเพียงแค่คิดว่าการกวาดล้างทะเลเลือดเพิ่งเสร็จสิ้นไป มันจึงไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่เราจะมีข้อพิพาทกับศาสนาพุทธขอรับ”
เซียนอาวุโสอธิบายเพิ่มในประโยคสุดท้าย เพราะกลัวว่าตี้จวินจะเข้าใจเขาผิด
”ใครบอกเจ้าหรือว่านางมาที่นี่เพื่อสู้กับข้า” ชายหนุ่มยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างพร้อมกับกระตุกริมฝีปากขึ้นขณะเผชิญหน้ากับเซียนอาวุโส
เซียนอาวุโสอ่านอารมณ์ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังท่าทางของเขาไม่ออก แต่นอกจากมาทะเลาะแล้ว เซียนอาวุโสก็นึกไม่ออกว่าหงส์เพลิงจะมาหาตี้จวินด้วยเหตุผลอันใด
พระพุทธศาสนาไม่พอใจที่ตี้จวินพาปีศาจและสัตว์อสูรไปที่ภูเขาซวีหมีเป็นประจำ
ดังนั้นการส่งหงส์เพลิงมาเพื่อกำจัดพวกมันจึงเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล
แล้วสรุปว่า…
”ถ้าไม่ได้มาเพื่อสู้กับท่าน เช่นนั้นนางมาทำไมขอรับ” เซียนอาวุโสถามอย่างไม่เชื่อ
เซียนคนอื่นๆ ชะลอฝีเท้าลงด้วยหวังว่าจะได้ฟังเรื่องซุบซิบ
ชายหนุ่มยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเซียนอาวุโสด้วยขาเพรียวคู่นั้น ”นางมาที่นี่เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในฐานะคู่หมั้นของข้า”
เซียนอาวุโสแทบสำลักน้ำลายตัวเองตาย เขาพูดขึ้นด้วยความตกใจสุดขีดว่า ”กระชับความสัมพันธ์หรือ คู่หมั้นหรือขอรับ?!” เรื่องนี้น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าจุดจบของพวกเขาเสียอีก!
ตี้จวินมองเขาด้วยสายตาทิ่มแทง ”มีอะไร เจ้าไม่รู้ข่าวเรื่องที่พวกข้าอยู่ด้วยกันที่งานเลี้ยงหรือ”
”มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวลือหรอกหรือขอรับ” เซียนอาวุโสไม่เคยเอาเรื่องนั้นมาคิดจริงจังนัก
ริมฝีปากบางของตี้จวินวาดขึ้นเป็นเส้นโค้ง มันดูมีเสน่ห์ราวกับปีศาจร้าย ”มันไม่ใช่ข่าวลือ ตอนนี้นางก็ยังอยู่ในห้องของข้า”
ทันใดนั้นท้องพระโรงก็ตกอยู่ในความโกลาหล
เหล่าเซียนที่กำลังจะกลับหยุดเดินแล้วเริ่มพูดคุยกัน ”สิ่งที่ตี้จวินพูดมาเมื่อครู่นี้คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอกใช่ไหม?!”
”ดูเหมือนมันจะมีความเป็นไปได้สูงทีเดียว ตี้จวิ้นไม่เคยล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้”
”แต่จากที่ข้าได้ยินมา เมื่อวานนี้ตอนที่หงส์เพลิงมาถึง นางถืออาวุธของตัวเองมาด้วยมิใช่หรือ”
”เรื่องนั้นข้าก็เองก็ไม่แน่ใจ แต่สิ่งที่หงส์เพลิงถือจะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือตอนนี้นางพักอยู่กับตี้จวินต่างหาก!”
ชายหนุ่มไม่สนใจบทสนทนาที่เกินขึ้นรอบตัวเขา ความจริงแล้วเขากลับพอใจกับภาพนี้ด้วยซ้ำ จากวันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครเอาเรื่องจับคู่มากวนใจเขาได้อีกต่อไป ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภพสวรรค์หรือพระพุทธศาสนา ทุกคนก็จะได้รู้ว่าตอนนี้หงส์เพลิงเป็นของเขา
ผู้เฒ่าจันทรามองสีหน้าของตี้จวิน ความหวาดกลัวที่อยู่บนใบหน้าของเขายิ่งเด่นชัดขึ้น
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป ทันทีที่ชายหนุ่มก้าวขาออกจากวังสวรรค์ เขาก็รีบวิ่งตามอีกฝ่ายไปทันที
”ตี้จวิน ตี้จวิน รอข้าก่อน” ผู้เฒ่าจันทราต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะไล่ตามชายหนุ่มทัน
เมฆที่ลอยอยู่ใต้เท้าของชายหนุ่มหยุดชะงัก เขาเหลือบมองผู้เฒ่าจันทราอย่างไร้ความรู้สึก ความรู้สึกราวกับผู้เหนือกว่าปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา
ผู้เฒ่าจันทรารู้ว่ามีบางสิ่งที่เขาไม่ควรเอ่ยถึง สมองของเขาส่งเสียงร้องหึ่งๆ หลังจากที่ตี้จวินใช้สายตาเช่นนั้นมองเขา แม้กระทั่งเสียงของเขาก็ยังฟังดูอ่อนแรง ”สิ่งที่ตี้จวินเอาไปจากข้าไม่ใช่สิ่งที่ควรจะนำมาใช้ตามอำเภอใจ โดยเฉพาะกับ.. โดยเฉพาะกับหงส์เพลิง”
”ผู้เฒ่าจันทรา” ชายหนุ่มหันหน้ากลับมา แม้บนใบหน้าของเขาจะยังมีรอยยิ้มอยู่ แต่ดวงตาของเขากลับเย็นชา จิตสังหารอัดแน่นอยู่ในอากาศขณะที่เขาเอ่ยว่า ”เจ้ารู้หรือไม่ว่ากามเทพที่เสียด้ายแดงของตัวเองไปเพราะสุราจะมีชะตากรรมเช่นใด”
ผู้เฒ่าจันทรารู้สึกได้ถึงคำขู่ที่อยู่ในคำพูดของชายหนุ่ม จากนั้นเหงื่อเย็นๆ ก็ผุดพรายขึ้นมาบนหน้าผากเขา ”ตี้จวินขอรับ ใช่ว่าข้าอยากจะขัดขวางท่าน แต่การแต่งงานนี้ไม่เหมือนกับการแต่งงานของคนอื่น หงส์เพลิงควรอยู่กับพระพุทธศาสนา อีกอย่าง นางก็ไม่ได้ชอบท่านขอรับตี้จวิน ต่อให้ตี้จวินผูกด้ายแดงไว้ที่มือนาง มันก็ไร้ประโยชน์ขอรับ”
”ไร้ประโยชน์หรือ” ชายหนุ่มยิ้มเยาะ จากนั้นจึงยื่นมือออกไปแตะบ่าของผู้เฒ่าจันทรา ”จะไร้ประโยชน์หรือไม่นั้นล้วนแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินของข้า เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก”
ผู้เฒ่าจันทราเริ่มร้อนใจ ”ตี้จวินขอรับ! ข้าเดาว่าท่านเองก็คงไม่ได้ชอบหงส์เพลิงเช่นกัน ตี้จวินเห็นว่านางน่าสนใจเพราะนางแตกต่างจากคนอื่นๆ แต่สำหรับคนอื่นแล้วมันเป็นคนละเรื่องกันขอรับ ตี้จวินเองก็คงรู้เรื่องต้นโพธิ์บนภูเขาซวีหมีอยู่แล้ว ต้นโพธิ์ต้นนั้นมีปฏิกิริยาเพราะหงส์เพลิง อีกห้าร้อยปีหลังจากนี้ ต้นโพธิ์ที่อยู่หน้าประตูสู่อรหันต์นั้นจะกลายร่างเป็นมนุษย์และได้เป็นอรหันต์ เขาคือคนเดียวที่ซื่อสัตย์จริงใจต่อหงส์เพลิง ดังนั้น เห็นแก่คนอื่นๆ เถิดขอรับ ตี้จวินคืนด้ายแดงให้กับข้าด้วยเถิดขอรับ!”
ทันทีที่ได้ยินประโยคสุดท้ายนั้น
นิ้วของชายหนุ่มก็ชะงักไปครู่หนึ่งพร้อมกับแสงของภพสวรรค์ที่สาดส่องลงมาที่เขา แต่แสงนั้นกลับทำให้เขาดูมืดมนอย่างมาก
แต่ภาพนั้นก็ยากจะทำให้ใครละสายตาไปจากเขาได้
ผู้เฒ่าจันทรามองเขาด้วยท่าทางกระวนกระวาย
แต่ชายหนุ่มกลับตอบด้วยเสียงหัวเราะอันสง่างามและชั่วร้ายอย่างมาก ”ข้าก็อยากคืนให้เจ้าเหมือนกัน แต่โชคร้าย…” เขาชูกระเป๋าอันว่างเปล่าที่อยู่ในมือขึ้นพร้อมกับเอ่ยต่อ ”มันสายเกินไปแล้ว”
”ท่านใช้ด้ายแดงกับนางจริงๆ!” หัวใจของผู้เฒ่าจันทราเต้นอย่างบ้าคลั่ง หูของเขาไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากรอบข้างอีกต่อไป
ชายหนุ่มละมือออก เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างสง่างามในชุดไหมพรมสีม่วงกับเสื้อคลุมสีขาวราวกับเป็นทิวทัศน์อันงดงามเพียงอย่างเดียวของภพสวรรค์
”ผู้เฒ่าจันทรา อย่างไรเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หากเจ้ากับข้าปิดปากเงียบ ก็ย่อมไม่มีใครรู้ว่าด้ายแดงถูกนำไปใช้กับใคร ข้าไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ ไม่อย่างนั้น นี่คงเป็นครั้งแรกที่ข้าจำเป็นต้องสังหารเทพ”
ผู้เฒ่าจันทรารู้สึกได้ถึงเหงื่อบนแผ่นหลังของตัวเอง ตี้จวินไม่ได้ใช้เพียงแค่ด้ายแดง แต่เขายังผูกเงื่อนตายให้มันเสียด้วย
ตี้จวินพูดถูก
ไม่ควรมีใครรู้เรื่องนี้
ไม่ใช่เพราะความประมาทเลินเล่อของเขาเท่านั้น แต่ถ้าพระพุทธศาสนารู้เรื่องนี้เข้า จะเกิดอะไรขึ้นกับหงส์เพลิงหรือ
ผู้เฒ่าจันทราเคยจับคู่ให้เทพและเทพธิดามามากมาย เขามักจะรู้สึกเห็นอกเห็นใจคู่รักบนโลกอยู่เสมอ
แม้หงส์เพลิงจะเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาพระอรหันต์ แต่นางก็ยังนับว่าเป็นคนนอกสำหรับพระพุทธศาสนา
มนุษย์ไม่มีวันญาติดีกับสิ่งที่แตกต่างจากพวกตนได้
ถ้าสองคนนี้เพียงแค่ต้องการหาความสำราญด้วยกันก็ว่าไปอย่าง แต่พวกเขาไม่ควรตกหลุมรักกันจริงๆ
สาเหตุเพราะพระพุทธศาสนาย่อมไม่มีวันอนุญาตให้หงส์เพลิงผู้มีหน้าที่ช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้มีอารมณ์ความรู้สึกเป็นของตัวเอง
ดังนั้นเรื่องของด้ายแดงเส้นนี้ย่อมไม่ควรถูกเปิดเผย!
ตี้จวินอารมณ์ไม่ดี
เทพระดับล่างที่เข้ามาทักทายเขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศนั้นทันทีที่ประตูเปิดออก
แม้ตี้จวินจะไม่ได้พูดอะไร และยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แต่ระหว่างริมฝีปากบางนั้นกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา
ยิ่งกว่านั้น ที่ด้านหลังของเขาก็ยังมีปีศาจและสัตว์อสูรที่เขาขังเอาไว้ปรากฏตัวออกมา หมอกสีดำเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงความกดดันทั้งจากภายในและภายนอก เวลานี้ตี้จวินดูราวกับพร้อมที่จะสังหารใครบางคนได้ทุกเมื่อ
”ตี้จวินขอรับ” เซียนคนหนึ่งเอ่ยทักเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
ชายหนุ่มเหลือบมองเขาอย่างไม่ใส่ใจ ”หงส์เพลิงอยู่ไหน”