อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต – ตอนที่ 1 ไม่ได้อยากรวมทีมกับเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

​ตอนที่ 1 ไม่ได้อยากรวมทีมกับเซ็นไต

 

ฉันมันคือคนเลว

 

ตอนสมัยยังเด็ก ได้เกิดเรื่องราวหลายอย่างขึ้นกับฉัน ฉันจึงได้เลือกใช้ชีวิตอย่างที่ใจต้องการบนโลกอันแสนโหดร้ายนี้ โดยที่พวกคนทั่วไปไม่ได้รู้อะไรเลย

 

หลังจากขโมยสูทแปลงร่างซึ่งสมควรจะถูกทำลายไปแล้วจากสถาบันวิจัย ฉันก็ได้ใช้มันก่อเรื่องชั่วมากมาย

 

 

ทว่าโลกฝั่งที่เหล่าผู้คนอาศัยอยู่อย่างสงบสุขนั้นก็หาได้ถูกทอดทิ้งเอาไว้ตามลำพัง

 

เมื่อมีองค์กรแปลกๆ มากมายที่เริ่มสร้างพวกวายร้ายสุดโฉดปรากฏตัวขึ้น ทางรัฐบาลก็เริ่มสร้างองค์กรแปลกๆ ขึ้นตามมาด้วยซะงั้น

 

 

 

「เปลวเพลิงแห่งความกล้าหาญ! จัสติสเรด!」

 

「วารีแห่งปาฏิหาริย์! จัสติสบลู!」

 

「อสนีบาตแห่งความหวัง! จัสติสเยลโล่!」

 

 

 

「「「พวกเราสามคน! ขบวนการเซ็นไต 3 สี จัสติสครูเซเดอร์!!!」」」

 

 

แถมที่รัฐบาลผลิตมาดันกลายเป็นพวกนิสัยแปลกๆ ที่ทำตัวเป็นฮีโร่ในขบวนการเซ็นไต ซึ่งมักจะพูดประโยคที่แสนน่าเกินกว่าจิตใจฉันจะรับไหวเสมอ

 

พวกเอ็งมาจากรายการเช้าวันอาทิตย์หรือไงฟะ!

 

(*รายการช่วงเช้าวันอาทิตย์ของญี่ปุ่นมักจะฉายพวกเซ็นไต พรีเคียว อะไรทำนองนั้นแหละ)

 

แล้วไงมีแต่ผู้หญิงหมดเลยล่ะ!

 

สมดุลทางเพศมันจะพังเอานะเห้ย!

 

ไม่สิ อย่างน้อยขอเป็นแบบคาเมนไรเดอร์แทนได้ไหม!

 

 

เอาเป็นว่า การกระทำของพวกเขามันอาจจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามสังคมปัจจุบันที่พวกสัตว์ประหลาดมันวิ่งไปทั่วนั่นแหละ

 

ถึงขั้นมาการขายสินค้า ฟิกเกอร์ อะไรตามมาเต็มไปหมด

 

ไอ้ฉันก็คิดหรอกว่าตัวเองคงไม่มีทางแพ้พวกไม่เต็มเต็งแบบนี้แน่ๆ แต่ที่ไหนได้ดันแข็งแกร่งกันชะมัด

 

แน่นอนว่าตัวต่อตัวฉันยังไงก็เก่งกว่า แต่พอโดน 3 ต่อ 1 ก็เรียกว่าสูสี ไม่สิอาจจะแกร่งกว่าฉันไปนิดหน่อย

 

สุดท้ายฉันก็เลยพ่ายแพ้ให้กับพวกเธอ

 

 

หลังจากจัดการตบพวกเกะกะอย่างบอสขององค์กรอื่นหรือฝูงกีกี้เสร็จ ฉันก็เข้าสู้การต่อสู้ครั้งสุดท้ายและพ่ายแพ้ให้กับพวกจัสติสครูเซเดอร์

 

การต่อสู้นี้ควรจะเป็นหลุมฝังศพของฉันเพราะฉันนำอุปกรณ์ระเบิดตัวเองติดตัวไปด้วย

 

…ทั้งที่มันควรจะเป็นอย่างงั้นแท้ๆ ―――

 

 

 

「คึก! ฆ่าฉันซะ!」

 

「เอ๋ ทำไมอ่ะ? 」

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันจึงถูกจับมาขังอยู่ภายในสถานที่แห่งหนึ่ง

 

ตรงหน้าของฉันตอนนี้มีหญิงสาวผมหางม้าสีแดงส่งยิ้มให้ฉันขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้

 

ก็ตามนั้นฉันถูกพวกเธอจับมา

 

บลูที่เรียกตัวเองว่าเป็นสุดยอดนักวิทยาศาสตร์อะไรนั่น ได้จัดการกับระเบิดที่ฉันเตรียมมาอย่างง่ายดาย

 

 

 

พอเห็นแบบนั้นฉันก็ทำใจแล้วว่าคงถูกส่งเข้าคุกเหมือนวายร้ายคนอื่นๆ ทว่าฉันกลับถูกจับมาขังในที่แปลกๆ กว่าที่คิดไว้

 

 

 

「แล้วทำไมถึงไม่จับฉันมัดหรือใส่กุญแจมืออะไรเลยล่ะเห้ย!!」

 

「จำเป็นด้วยเหรอ? ฉันรู้น่าว่านายไม่โจมตีคนที่ไม่มีทางสู้หรอก」

 

「เวรเอ้ย……!」

 

มาตรการดูแลเรื่องความปลอดภัยมันจะห่วยแตกเกินไปไหมฟะ ไม่สิยัยพวกนี้ไม่ได้สนใจแต่แรกด้วยซ้ำ

 

 

นี่เธอคิดว่าห้องขังมันเป็นเหมือนบ้านเพื่อนที่จะมาหาตัวเปล่าได้หรือไง?! ขอร้องเลยใครก็ได้ช่วยบอกยัยนี่ทีว่าฉันเป็นอาชญากรตัวเป้งนะเออ!

 

 

 

「แล้วเธอจับฉันมาขังไว้ในที่แบบนี้ทำไมกัน! เรด!!」

 

 

「ฉันก็บอกไปหลายครั้งแล้วนะ ว่าอยากจะให้นายมาเป็นหนึ่งในพวกพ้องไง นอกจากนี้ฉันชื่ออากาเนะ อาราซากะ ไม่ใช่เรดสักหน่อย จะเรียกฉันว่าอากาเนะก็ได้」

 

 

「ใครจะไปเรียกกัน! คิดว่าฉันเป็นเพื่อนเธอหรือไง!!」

 

「ทางฉันมองว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ」

 

 

ก็จริงว่ามีบางครั้งที่ได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันในฐานะพวกพ้อง แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่ฉันคิดว่าพวกเราคือเพื่อนกัน

 

แล้วไหงเธอถึงได้ยิ้มรับคำดูถูกของฉันสบายเฉิบเลยล่ะ

 

 

「ถ้างั้นฉันขอเรียกนายว่าคัตสึมิคุงนะ」

 

「อย่ามาล้อกันเล่น! ใครจะไปยอมฟะ!!」

 

 

「งั้นก็ แบล็กไนท์? อัศวินดำ? หรือจะเอาเป็นชื่อเต็มอย่าง คัตสึมิ โฮมุระคุงดีล่ะ? 」

 

「คึก……!」

 

 

เรดยิ้มออกมาก่อนจะพูดชื่อจริงของวายร้ายอย่างฉัน

 

เนื่องจากฉันถูกจับ ตัวตนของฉันจึงถูกเปิดเผยจนหมดสิ้น

 

แต่อย่างน้อยก็โชคดีว่ามันไม่ได้หลุดไปถึงพวกนักข่าว

 

 

 

「เอาเป็นว่า ขอถามหน่อยทำไมถึงไม่ส่งฉันเข้าคุกล่ะ!」

 

「……หา」

 

ท่าทางเรดเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงถามแบบนี้ แต่ไม่นานนักเธอก็ยิ้มอย่างสดใสออกมา

 

 

 

「ก็นายเป็นคนดีนี่นา」

 

「สมองเธอแปลกๆ นะ……」

 

 

เสียงของเธอดูเบาลงเล็กน้อยตอนที่พูดคำนั้นออกมา

 

ชักจะแปลกๆ แล้วสิ

 

ไหงยัยนี่มองฉันเป็นคนดีได้ฟะ?

 

 

「อ๊ะ! ก็แบบว่าอย่างคราวก่อนไง ที่นายช่วยพวกเราจากตึกที่กำลังถล่มลงมา」

 

 

「ตอนนั้นมันเพราะโดนพวกโง่ขวางการต่อสู้ระหว่างฉันกับพวกเธอ ก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องร่วมมือกัน อย่าได้เข้าใจผิดไปสิ」

 

 

นอกจากจะมาขวางการต่อสู้ที่ดุเดือดของฉันแล้ว พวกมันยังระเบิดตึกด้วย

 

แม้จะไม่ใช่เรื่องที่พูดให้ใครฟังได้ แต่แถวนั้นมีร้านข้าวกล่องเจ้าประจำที่ฉันชอบไปซื้อกินบ่อยๆ

 

จะให้มันถูกหางเลขไปด้วยก็ไม่ได้ ถ้าเป็นเรื่องอาหารฉันยอมใครไม่ได้หรอกนะเออ

 

 

 

「ตอนนั้นนายก็ช่วยฉันที่กำลังจะพ่ายแพ้ให้กับพวกวายร้ายที่กรูกันเข้ามานี่นา」

 

「เพราะคนที่จะเอาชนะพวกเธอได้มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น」

 

 

ไม่สิต้องบอกว่า มันคงดูไม่จืดนักหากต้องไปแพ้ให้พวกกีกี้แบบนั้น

 

ถึงขนาดมีช่วงหนึ่งที่ฉันกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพวกเธอ

 

 

 

 

「บางครั้งนายก็ช่วยปกป้องพวกประชาชนก่อนพวกเราจะไปถึงด้วย」

 

 

「ฉันไปทำแบบนั้นตอนไหนกัน ที่ฉันทำก็มีแค่จัดการกระทืบไอ้พวกบ้าที่มาโจมตีฉันก่อนต่างหาก」

 

「จ้าๆ 」

 

 

จะว่าไป ทำไมพวกคนขององค์กรถึงหมายหัวฉันกันล่ะ

 

ถึงวายร้ายสุดเลวแบบฉันจะไม่ใช่พวกพ้องของพวกมัน แต่อย่างน้อยพวกเราก็เดินบนเส้นทางแห่งความชั่วเหมือนกันนะเห้ย

 

ฉันละไม่เข้าใจจริงจริ๊ง

 

 

 

 

「นายปกป้องน้องสาวกับน้องชายของเยลโล่ก็ด้วย」

 

 

「อันนั้นมันจวนตัวเฉยๆ ปกติใครมันจะไปปกป้องญาติของยัยคนไซปลอมที่ใช้ภาษาเกียวโตกับโอซาก้ามั่วซั่วไปมาฟะ 」

 

 

ไม่รู้เลยหรือไงว่าตอนนั้นฉันต้องลำบากขนาดไหนพอมีเจ้าพวกเด็กเวรนั่นมาเกาะแกะ

 

ให้ตายสิไหนจะต้องควักเงินในกระเป๋าเลี้ยงพวกมันอีก

 

ล้างคอรอครั้งหน้าที่เจอกันได้เลย

 

 

「พ่อกับแม่ของฉันตายตั้งแต่ฉันยังเด็กน่ะ」

 

「อยู่ดีๆ ก็มีพูดอะไรชวนให้อึดอัดใจซะงั้น」

 

「เพราะงั้นฉันก็เลยไม่อยากจะเพิ่มจำนวนเด็กที่ต้องเจอเรื่องแบบเดียวกับฉัน….มันก็แค่นั้นแหละ」

 

 

ใครมันจะไปอยากเพิ่มพวกวายร้ายให้มาแข่งกับฉันกัน!

 

 

 

「ก็คนดีไม่ใช่เหรอ」

 

「จะกวนบาทากันไปถึงไหน!! เดี๋ยวพ่อก็ฆ่าทิ้งซะหรอก!!」

 

「กรี๊ด!」

 

เรดแกล้งส่งเสียงร้องออกมาจนสุดเสียง

 

ย-ยัยบ้านี่…! จะมายัดเยียดความเป็นคนดีให้กับฉันถึงไหนฟะ!

 

 

「เอาน่า อย่างน้อยเราก็เรียนโรงเรียนเดียวกันนะ」

 

「นั่นมันก็แค่การแฝงตัวให้กลมกลืนกับโลกภายนอกต่างหาก นอกจากนี้ฉันก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียนแล้วนี่」

 

 

「เอ่อ ยังไม่รู้เหรอว่าแค่โดนพักการเรียน? 」

 

「เอ๋ ไม่จริงน่า….」

 

 

ทำไมถึงกลายเป็นพักการเรียนไปได้ล่ะ

 

ปกติถ้าถูกจับแบบนี้มันต้องโดนไล่ออกแล้วไม่ใช่เหรอ?

 

 

 

「เห็นไหมล่ะ พ่อคนดี!」

 

「เดี๋ยว มันแปลกๆ นะ」

 

 

มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ

 

ถามจริงคนสมัยนี้เขาสมองกลับกันหมดหรือไง?

 

 

 

「อย่าไปคิดมากเลยน่า จากนี้เราก็มาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ เป็นเพื่อนกัน」

 

「ไม่เอาเฟ้ย! ฉันขอยอมตายดีกว่าจะต้องไปเป็นเพื่อนกับพวกเธอ! ไปตายซะไป๊!」

 

「เดี๋ยวเถอะ! อย่าพูดจาหยาบคายเสียงดังสิ!」

 

 

ก็คนมันโกรธนี่หว่า

 

แล้วพวกเราก็อายุเท่ากันด้วยใช่ไหมล่ะ

 

 

「เฮ้อ เป็นไปไม่ได้หรอก ถึงฉันจะกลายเป็นพวกกับพวกเธอจริง แต่สังคมนี้จะยอมรับตัวตนของฉันได้เหรอ?!」

 

 

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน สังคมก็ย่อมตราหน้าฉันว่าเป็นวายร้ายสุดโฉด

 

เมื่อฉันพูดในสิ่งที่คิดไปจนหมด เรดก็หยิบคอมขึ้นมาก่อนจะเปิดอะไรบางอย่างให้ฉันดู

 

 

 

「เอ้า ดูนี่สิ ฝั่งคนทั่วไปก็ไม่ได้มองนายแย่เท่าไหร่นะ」

 

「ก็แย่แล้ว ยัยบ้านี่ ฉันก่อวินาศกรรมไปมากขนาดไหนเธอก็รู้ ความคนปกติมันจะไปมองฉันเป็น―――」

 

 

เธอเปิดคลิปของเว็บนิมมูนิมมูให้ดู (*Niconico ref)

 

ชื่อคลิปก็คือ 《ห้ามพลาดการทำงานของอัศวินดำคุง》

 

ทันทีที่คลิปเล่น ฉันก็เห็นตัวเองในชุดแปลงร่างและคอมเมนต์ก็เริ่มไหลไปเรื่อยๆ

 

*ตัวอย่างเม้น*

เดนเรเด้อแห่งกาลเวลา : ชื่อก็อัศวินดำแท้ๆ แต่พี่แกดันตกไปอยู่ด้านสว่างอยู่กับความยุติธรรมง่ายไปไหม

อีโว๊กแห่งรักและสันติ : ทำตัวเป็นคนไม่ดีแท้ๆ แต่กลับช่วยเหลือชาวบ้านไปทั่ว 5555

 

 

 

「โลกใบนี้มันกลับหัวแล้วหรือไงกันฟะ」

 

 

「โถ เขินจนหน้าแดงหมดแล้วนะ น่ารักจริงๆ 」

 

 

เขินบ้าบออะไรกัน

 

ฉันสิ้นหวังอยู่ต่างหาก

 

 

 

「ในทมิสเตอร์ก็มีนะ」

 

ว่าแล้วเธอก็เปิดทมิสเตอร์ให้ฉันดู

 

ทำไมแท็กอัศวินดำถึงติดเทรนทมิสได้ฟะ…?!

 

เป็นไปไม่ได้ ไอ้พวกนี้มันอะไรกัน?!

 

หรือฉันกำลังฝันอยู่นะ?!

 

แม้ว่าฉันจะสั่นกลัวจากสิ่งที่อธิบายไม่ได้ แต่มือของฉันก็คลิกเข้าไปที่แท็กอัศวินดำด้วยนิ้วอันสั่นเทา

 

 

 

 

 

「เพราะหล่อนเลยนี่หว่า!!」

 

「อื้อ!!」

 

「ท่าทางมีความสุขเชียวนะ?!」

 

 

อะไรจะพยักหน้าได้บันเทิงขนาดนั้น

 

ทำไมยัยนี่ถึงได้ดูมีความสุขจังเลยนะ แค่การพูดคุยกันปกติแท้ๆ

 

ไม่สิ ก็แปลว่าเดี๋ยวยัยเยลโล่กับบลูจะมาด้วยนี่หว่า!

 

 

 

「ดูนี่สิ แท็กเกี่ยวกับนายยังมีอีกเยอะเลย」

 

「หยุดเลย! ไม่ต้องมาเอาให้ฉันดูอีก!!」

 

「เอ๋? ดูน่าสนใจออก」

 

 

จากนั้นเรดก็นำคอมกลับไปที่เดิมด้วยท่าทางผิดหวัง

 

ไม่เป็นไร อย่างน้อยนั่นมันก็แค่พวกคนทั่วไป

 

 

「ถึงคนทั่วไปจะว่างั้น แต่พวกสื่อก็ดีใจกันออกนอกหน้าเลยนี่ที่ฉันโดนจับได้!」

 

「อื้อ ก็คงงั้นแหละ ฉันว่าพวกเขาคงมีความสุขที่สุดท้ายจะได้เห็นนายทำงานอย่างเป็นกิจลักษณะหลังจากนี้มั้ง」

 

「ให้ตายเถอะพระสงฆ์องค์เจ้า!!」

 

 

ฉันกุมหัวที่ปวดตุบๆ เอาไว้แน่น

 

ไพ่มันมาออกหน้านี้ได้ยังไงกัน?!

 

 

「เอาเถอะ ยังไงฉันก็เป็นผู้แพ้และถูกพวกเธอลากมาก็แค่นั้น」

 

 

ใช่แล้ว สถานที่ที่ฉันอยู่ตอนนี้คือศูนย์กักกัน

 

แถมไม่ใช่ศูนย์กักกันธรรมดา

 

แต่เป็นสำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์

 

ห้องกักกันพิเศษชั้นใต้ดินของสำนักงานยังไงล่ะ!

 

 

「ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา คัตสึมิคุงน่ะใช้สูทรุ่นเก่าของพวกเราซึ่งประสิทธิภาพมันต่ำมาก แถมยังสร้างภาระให้กับผู้ใช้งานอีกไม่รู้เลยหรือไง? 」

 

「แล้วมันทำไมฟะ」

 

「ทั้งที่ร่างกายของนายควรจะพังไม่เป็นท่าไปแล้วแท้ แต่พอพามาตรวจผลกลับบอกว่านายปกติดีทุกอย่าง ไม่รู้เลยหรือไงว่าพวกฉันต้องทำใจกันลำบากแค่ไหนทุกครั้งที่ต้องสู้และทำร้ายนาย….」

 

 

「จะมารู้สึกผิดเอาป่านนี้หรือไง….? 」

 

ฉันละไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมยัยนี่ถึงแสดงใบหน้าเศร้าขณะพูดเรื่องพวกนี้

 

แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอก

 

แบบนี้นี่เอง เพราะงั้นพวกเธอเลยมักจะพูดระหว่างการต่อสู้ตลอดว่า 「หยุดใช้มันซะ!」ไม่ก็「อยากจะตายหรือไง?!」

 

 

 

「สำคัญที่สุดคือ นายน่ะมีคุณสมบัติเป็นฮีโร่นะ!」

 

「อย่ามาล้อกันเล่นนะเฟ้ย」

 

「เฮ้อ เจ้าคนหัวแข็งนี่ เอาอีกแล้วสินะ」

 

ยัยนี่ความคิดแน่วแน่เสียจริง

 

รู้สึกว่าเถียงไปยังไงก็ไม่น่าชนะ

 

 

 

「โฮ้ย มาแล้วเด้อ」

 

「ขอรบกวนหน่อยนะ」

 

 

ระหว่างที่ฉันกำลังบ่น ก็มีหญิงสาวสองคนเข้ามาภายในห้องที่คุมขังฉันอยู่ ด้วยท่าทีสบายๆ

 

ด้านหนึ่งเป็นหญิงสาวผมบ็อบสีดำปนฟ้า กับอีกด้านคือหญิงสาวผมเปียสีน้ำตาล

 

 

 

「ปรากฏตัวแล้วสินะ….! เยลโล่ บลู!!」

 

「ไม่ใช่บลูสักหน่อย อาโออิ ฮินาตะ ต่างหาก」

 

「นายนี่ไม่จำอีกแล้ว ฉันไม่ได้ชื่อเยลโล่สักหน่อย อามัตสึกะ คิราระต่างหากจำกันให้ได้จักหน่อยเด้」

 

 

บลูตอบด้วยใบหน้าอันบึ้งตึง ส่วนเยลโล่ตอบด้วยใบหน้าแบบเหลือจะเชื่อ

 

พอเห็นใบหน้าของเยลโล่แล้วก็รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา ฉันก็เลยตั้งใจจะยั่วเธอสักหน่อย

 

 

 

「น่ารำคาญจริงๆ เลยวุ้ย สำเนียงคันไซจอมปลอมนั่น! ถึงมันจะดูมีเอกลักษณ์ดีก็เถอะ แต่ไม่แอบปัญญาอ่อนไปหน่อยหรือไง!」

 

 

「ทำไมอยู่ดีๆ พูดแบบนั้นล่ะ?! คือโหดแท้」

 

 

หากเป็นยัยนี่ฉันว่าฉันชนะศึกดวลฝีปากไหว

 

ว่ากันตามตรง ถ้าต้องไปดวลฝีปากกับเรดหรือบลูฉันคงทำอะไรไม่ได้จริงๆ

 

 

「คิคาระปกติก็พูดจาน่ารักนะ แต่เธอมักจะทำตัวแปลกๆ ตอนแปลงร่างกับตอนเจอนายเท่านั้นแหละ」

 

「ไหงงั้น!? 」

 

「ฉันเดาว่า คงประมาณพออยู่ด้วยแล้วเป็นตัวของตัวเองได้อะไรทำนองนั้นมั้ง」

 

「ยะ หยุดเลยน้า!!」

 

 

หื้ม ไม่เคยคิดถึงเรื่องภูมิหลังคาแร็กเตอร์มาก่อนเลยแฮะ

 

แปลว่าทำไปเพื่อปกปิดตัวตนจริงๆ สินะ

 

คนเราก็มีมุมแบบนี้ด้วยน้อ….

 

 

「เอาน่าๆ ใจร่มๆ กันก่อน」

 

 

เรดพยายามเข้าไปสงบสติเยลโล่ก่อนจะเริ่มคุยกับฉันต่อโดยเตรียมเก้าอี้มาเพิ่ม

 

 

「ถึงฉันจะบอกมาตลอดว่านายไม่ใช่คนเลว แต่สายตาของโลกใบนี้นายก็ถือว่าเป็นอาชญากรจริงๆ นั่นแหละ」

 

「ก็แน่สิ ถ้าไม่ใช่แบบนั้นฉันคงลำบากใจน่าดู」

 

 

ถึงจะเข้าใจผิดไปไกลแค่ไหน ความจริงก็ไม่เปลี่ยน

 

สุดท้ายฉันก็คือวายร้ายที่ขโมยชุดต้นแบบของพวกเธอไปสวมโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

「ทว่าในสายตาของผู้คนแล้ว นายกลับถูกชื่นชมและได้รับความนิยมเหมือนกับพวกเรา」

 

 

「ไอ้ตรงนี้แหละที่ฉันว่ามันแปลกๆ เอาจริงดิ? 」

 

 

เรดเมินคำพูดของฉันก่อนจะกล่าวต่อ

 

 

「พวกฉันเองก็รู้สึกขอบคุณนายจริงๆ ที่คอยช่วยเหลือพวกฉันตอนตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก นายปกป้องสถานที่ที่บางครั้งพวกเราก็เอื้อมมือไปไม่ถึง แค่นั้นก็น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอให้นายกลายเป็นฮีโร่แล้วไม่ใช่หรือไง? 」

 

 

「หา ก็บอกไปแล้วไงวะ―――」

 

「ช่วงนี้เหมือนจะมีบางอย่างเปลี่ยนไปด้วย พวกวายร้ายแบบใหม่เริ่มปรากฏตัวมากขึ้น บางทีพวกมันอาจจะแกร่งกว่าในอดีตเป็นไหน จนพวกเราไม่สามารถเอาชนะกันได้ แต่หากได้นายมาร่วมมือฉันว่าจากนี้ไปคงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีก」

 

 

เรดยื่นหน้าใกล้เข้ามาก่อนจะวางหลังแขนตัวเองพิงกับผนังแล้วก้มหน้ามาสบสายตากับฉัน

 

 

 

「นอกจากนี้ ฉันเองก็รู้สึกสบายใจที่ได้ต่อสู้เคียงข้างนาย นั่นสินะ ขอเพียงแค่มีนายอยู่ฉันว่ายังไงฉันก็คงไม่มีทางแพ้ นอกจากความแข็งแกร่งของนายแล้ว นายยังช่วยค้ำจุนจิตใจพวกฉันได้อีกด้วย――」

 

 

เธอเริ่มหรี่ตาลงและยิ้มให้กับฉัน

 

มันไม่ใช่รอยยิ้มแสนงดงามและกล้าหาญที่เธอแสดงออกมาให้เห็นเสมอ

 

 

 

「ดังนั้นฉันไม่มีวันปล่อยนายให้หนีไปไหนอีกแน่」

 

「……」

 

 

สายตาของเธอมันไม่ได้ยิ้มเหมือนรอยยิ้มนั่นเลยนะเฟ้ย

 

แม้ว่าฉันจะหันไปมองทางเยลโล่และบลูราวกับอยากจะให้มาหยุดเรด แต่พวกเธอกลับยิ้มให้ฉันแทน ชิบ น่าขนลุกกว่าเดิมอีก

 

พอมาถึงตรงนี้ฉันก็เข้าใจแล้วว่า พวกเธอไม่มีทางปล่อยให้ฉันหลุดไปได้แน่นอน

 

 

 —————-

 Note 1 : เงียบไปสักพักเพราะว่าไล่อ่านนิยายแล้วไม่เจอเรื่องที่แบบอยากชวนให้คนอื่นมาอ่านด้วยสักที จนกระทั่งเจอเรื่องนี้แหละครับ เรื่องนี้มีref พวกเซ็นไต ไรเดอร์ นั่นนี่เยอะ

 Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

 

 

 

 

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Status: Ongoing
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท