เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย – ตอนที่ 37 ศัตรูที่อันตรายที่สุด

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

บทที่ 2 ตอนที่ 11

 

    สิ่งแรกที่รู้สึกได้เมื่อก้าวลงมาถึงชั้นสุดท้ายก็คือความรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว

    ถ้าเป็นอย่างทุกที ตอนที่ก้าวเท้าเข้ามาจะเป็นจิตสังหารที่เข้ามาจู่โจม แต่นี่ไม่รู้สึกถึงมันเลย

    ราวกับว่า มีเพียงแค่พวกเราเท่านั้นที่อยู่ในชั้นนี้…..ด้วยภาพลวงเช่นนั้น ทำให้ผมรู้สึกหวาดระแวง

 

「…..ยูคิ รู้สึกถึงอะไรรึเปล่า?」

「ในตอนนี้ยังไม่มีปฏิกิริยา แต่ว่าสามารถได้กลิ่นของไลแคนโทรปแน่นอนฮะ」

 

    …..อย่างที่คิด นั่นหมายความว่า บอสในคราวนี้เป็นประเภทถูกเสริมแกร่งตัวเดียว…..แถมยังเป็นประเภทแอสซาซิน(นักฆ่า)ที่มีปกปิดตัวตน

    ประเภทที่ยุ่งยากที่สุดออกมาซะแล้ว ผมเดอะลิ้นเล็กน้อย

    จ้าวประเภทแอสซาซิน ถือได้ว่าเป็นศัตรูที่นักผจญภัยต้องระมัดระวังมากที่สุด

    มันจะเข้าใกล้อย่างไร้เสียง, โจมตีอย่างรุนแรงแล้วหลบหนี การพรางตัวของมันได้รับการเสริมจากพื้นที่ ทำให้แม้แต่พวกที่มีสกิลตรวจจับก็ไม่สามารถรู้ตัวได้ในระยะใกล้ และเพราะว่ามันเป็นประเภทถูกเสริมแกร่งตัวเดียวพลังโจมตีของมันจึงสูง

    สิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งก็คือการโจมตีโดยตรงใส่มาสเตอร์ ถ้าหากรับมือไม่ดีแล้วล่ะก็ ได้ถูกจัดการหมดแน่

    ตัวผมเองก็เคยสู้กับประเภทแอสซาซินมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งพูดกันตรงๆเลย ถ้าหากไม่ใช่เพราะหวนคืนจิตวิญญาณของเร็นกะแล้วล่ะก็ คงได้สูญเสียการ์ดแรงค์ D ไปจำนวนไม่น้อยแน่ๆ มันเป็นศัตรูที่น่าเกรงขามมากขนาดนั้นเลย

 

『หน่วยอากาศให้คอยอยู่บนท้องฟ้าไว้ ยูคิใช้ปกปิดตัวตนแล้วคอยตามผมมา ซุซูกะกับเอลิซ่าทำหน้าที่คุ้มกันผม』

 

    ส่งผ่านคำสั่งด้วยลิงค์ หลังจากแน่ใจว่ารับทราบกันหมดแล้วผมจึงก้าวเท้าออกจากพื้นที่ปลอดภัย

    ป่าตอนกลางคืนที่น่าจะคุ้นชินแล้ว ถูกเปลี่ยนสภาพไปอย่างสิ้นเชิงเพียงเพราะว่าศัตรูได้กลายเป็นประเภทแอสซาซิน

    ทุกครั้งที่ก้าวเท้าจะต้องระมัดระวังการโจมตีจากศัตรู แม้แต่เสียงที่ตัวเองเหยียบลงบนกิ่งไม้ก็ทำให้เกิดภาพหลอน ราวกับว่าตัวเองเป็นตัวละครจากหนังสยองขวัญ

    ผ่านไปได้หลายนาทีของการระวังตัวรอบๆ ก็เริ่มเกิดความสงสัยจากที่ไม่มีการโจมตีจากศัตรูมาเลย จนในที่สุดผมก็มาถึงสถานที่ที่มองหาอยู่

    ที่ตรงนั้นคือริมตลิ่งของทะเลสาปเล็กๆที่ปรากฏขึ้นตรงใจกลางป่า

    รู้สึกโล่งอกที่สามารถมาถึงจุดหมายได้ก่อนศัตรูจะโจมตี แล้วพวกเราก็เตรียมพร้อมโดยหันหลังให้ทะเลสาป

    เมื่อต่อสู้กับประเภทแอสซาซิน การถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ในป่าก็เหมือนกันการฆ่าตัวตาย

    ท่ามกลางป่าตอนกลางคืนที่ทัศนวิสัยไม่ดี เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่จะค้นหาแอสซาซินที่หลบซ่อนในที่กำบัง ยิ่งบวกเข้ากับการเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติที่อาศัยต้นไม้ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้สถานการณ์สิ้นหวังมากขึ้นไปอีก

    แต่ว่า หากอยู่ที่ริมตลิ่งทะเลสาปนี้ ทัศนวิสัยจะเปิดกว้างในระดับหนึ่ง และสามารถจำกัดทิศทางของการโจมตีให้เหลือแค่ซ้าย, ขวา, และด้านหน้า

    แม้ศัตรูจะพยายามอ้อมมาด้านหลัง ถึงจะปกปิดตัวตนก็ไม่สามารถลบเสียงน้ำได้

    แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ก็จำเป็นต้องระมัดระวังตัวทะเลสาปอยู่หลายนาทีหลังจากที่มาถึง

    นั่นก็เพราะมีความเป็นไปได้ที่มันจะดำน้ำรอในทะเลสาปอยู่ก่อนหน้าที่พวกเราจะมาถึง แล้วคอยมองหน่วยอากาศ

    จับตาดูทะเลสาปอยู่หลายนาที หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีฝองอากาศลอยขึ้นมาเลย พวกเราจึงเตรียมพร้อมรับมือไลแคนโทรป

    เส้นลวดและกระดิ่งเล็กๆถูกคล้องไว้ตามต้นไม้รอบๆลานกว้าง กระสุนเพนท์บอลขนาดเท่าลูกแก้วเล็กๆ ถูกวางไปรอบบริเวณเท้า แถมด้วยให้เร็นกะใช้หวนคืนจิตวิญญาณ ทำการบัพพรรคพวกอีก

    ด้วยร่างกายใหญ่โตของไลแคนโทรป มันแทบจะเป็นไปไมไ่ด้เลยที่จะผ่านช่องว่างระหว่างลวด ต่อให้พยายามฝืนอาศัยต้นไม้กระโดดข้ามลวด ก็หลีกเลี่ยงการเกิดเสียงไม่ได้ และเหนือสิ่งอื่นใด หากเหยียบลงบนกระสุนเพนท์บอลจำนวนนับไม่ถ้วนนี่ก็จะเป็นการทิ้งรอยเท้าให้เห็น

    นี่ก็คือ วิธีการรับมือประเภทแอสซาซินที่ได้คิดขึ้นมาจากการปะทะครั้งก่อน

    และแล้วการเตรียมการทั้งหมดก็เสร็จสิ้น ที่เหลือก็แค่รอให้ศัตรูโจมตีเข้ามา…..แต่ว่า

 

『…..ไม่โผล่มาเลยนะ มาสเตอร์』

『อา…..มีกลิ่นหรือปฏิกิริยาจากตรวจจับตัวตนรึเปล่า?』

『ในตอนนี้ ไม่มีเลย…..』

『อืม…..』

 

    ที่ลงมาชั้นล่างสุดก็ผ่านไปแล้วกว่า 20 นาที

    ทำการท้าทายเขาวงกตแห่งนี้มาแล้วก็หลายรอบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้เวลาก่อนจะเกิดการต่อสู้กับจ้าวมากขนาดนี้

    ถ้านี่เป็นโกเลมหรือประเภทอื่นที่มีประสาทสัมผัสไม่ดี มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่เจอพวกเรา หรือไม่ก็ไม่เคลื่อนไหวไปจากจุดที่ปรากฏตัว แต่ไลแคนโทรปมันไม่ใช่แบบนั้น

    ลักษณะนิสัยของมันคือ จัดการผู้บุกรุกที่เข้ามาในอาณาเขต ประสาทสัมผัสด้านกลิ่นก็ดีมากกว่าสุนัข และไม่ยอมปล่อยให้เหยื่อหนีไปได้

    ทันทีที่พวกเราก้าวเท้าเข้ามาในชั้นล่างสุดแล้วโจมตีทันทีก็เคยมีแต่…..

    ในตอนนั้น ซุซูกะพูดพึมพำลอยๆมา

 

『เน่…..หรือว่าบางทีอาจจะถูกนักผจญภัยคนอื่นจัดการไปแล้ว?』

『อุ!?』

 

    ม-มันก็มีความเป็นไปได้แบบนั้นอยู่…..

    มีใครที่มาก่อนพวกเราก้าวหนึ่ง แล้วจัดการจ้าวไปก่อน…..ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

    แต่ถึงแม้จะคิดแบบนั้น ผมเองก็ยังมีความสงสัยอยู่

    เขาวงกตแห่งนี้ที่ถูกเรียกเป็นป่ากลางคืน เป็นประเภทที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ที่ได้เจอกับนักผจญถัยคนอื่นเมื่อวานก็ตกใจอยู่ แต่การที่มีคนอื่นกำลังสำรวจแล้วยิ่งไปกว่านั้นยังจัดการจ้าวไปก่อนหน้าพวกเราได้นี่มันก็…..

    สติของผม ถูกแบ่งไปในการใช้ความคิดแทนที่จะระวังตัว—-ในตอนนั้นเอง

 

「มาสเตอร์!」

「!?」

 

    เสียงแหลมของยูคิดังขึ้นมาเร็วกว่าเสียงน้ำกระแทกที่อยู่ด้านหลัง

    ก่อนหน้าที่จะได้หันกลับไป ผมทำการมองดูผ่านลิงค์ที่แบ่งปันประสาทสัมผัส ที่มองเห็นก็คือเงาสีดำที่พุ่งออกมาจากทะเลสาป

    ที่ปลายทางของแขนอันแข็งแรงที่สามารถทำลายได้แม้แต่ต้นไม้ใหญ่ แน่นอนว่าคือผม

    บ้าน่า! ได้ไง!? เป็นไปไม่ได้! ล้อกันเล่นรึเปล่า!

 

    —-พริบตาก่อนหน้าที่จะได้คิดแบบนั้น เงาสีทองก็เคลื่อนไหว

 

    『ตามแผนการที่เตรียมไว้ก่อนหน้า』เอลิซ่าที่ใช้สกิลปกป้อง มาปรากฏตัวอยู่ตรงด้านหน้าผมด้วยความเร็วที่เทียบเท่ากับการวาป และป้องกันการโจมตีของมนุษย์หมาป่า

    การโจมตีเต็มกำลังของมนุษย์หมาป่าถูกปัดป้องออกจากเป้าหมายเดิมได้แล้วไปปักที่พื้น ทว่ากลับกัน แขนของเอลิซ่าก็หักราวกับกิ่งไม้ อีกทั้งร่างของเธอยังกระเด็นปลิวไปด้านหลังผมราวกับลูกบอลยาง

    คงจะเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะกลับมาก่อนหน้าที่มนุษย์หมาป่าจะเรียกคืนสมดุลแล้วปล่อยการโจมตีครั้งที่ 2

    ถ้าอย่างนั้น การป้องกันของผมก็มีแค่ยูคิและซุซูกะที่เป็นการ์ดแรงค์ D ทั้ง 2 ใบ ต่อหน้าจ้าวประเภทเสริมพลังแล้ว เป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อถือนัก

    แต่ว่า ไม่มีปัญหา

    นั่นก็เพราะ 『โซ่』ได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว

 

「!?」

 

    มนุษยหมาป่าขนสีดำจ้องผมด้วยดวงตาสีทอง ในขณะที่กำลังดึงแขนออกมาจากพื้นแล้วฉีกร่างผมเป็นชิ้นๆ เท้าของมันก็ลื่นอะไรบางอย่าง

    ไม่ใช่ว่าไปติดโคลนอะไร แต่เป็นเพราะเวทสลิปของเมอา

    มนุษยหมาป่าดูสั่นไหวเล็กน้อย แต่สมแล้วที่เป็นแรงค์ C การตอบสนองรวดเร็วมาก สามารถรักษาสมดุลเอาไว้ได้แม้จะอยู่บนพื้นที่แรงเสียดทานเป็นศูนย์

 

「—–อะ」

 

    ในตอนนั้นเอง ท่าเตะกวาดขาของซุซูกะก็ออกมา แม้ว่าจะไม่เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายแก่มนุษย์หมาป่า แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มันที่พยายามรักษาสมดุลบนพื้นผิวไร้แรงเสียดทานล้มลงไปได้

    อาศัยจังหวะนั้น ยูคิแบกผมมายังพื้นที่ปลอดภัยด้านหลัง

    มนุษย์หมาป่าที่ตัวเต็มไปด้วยโคลน จ้องมองผมด้วยความเกลียดชังอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็เปลี่ยนใจแล้วหันหลังกลับ

    หากการลอบสังหารล้มเหลว มันจะถอยไปทันทีแล้วเริ่มต้นใหม่ ระดับการตัดสินใจที่สูงแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่น่ารำคาญของประเภทแอสซาซิน

    แต่ว่า หากศัตรูได้มาพัวพันกับ『โซ่』แล้วครั้งหนึ่ง การจะหนีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เส้นด้ายเวทมนตร์เรืองแสงสีขาวถูกปล่อยลงมาจากท้องฟ้า เข้าไปพันตัวมนุษย์หมาป่าที่พยายามจะกระโดดลงทะเลสาป

    2 ชั้น 3 ชั้น เส้นด้ายที่พันรอบตัวยึดติดกับต้นไม้และพื้นดินรอบๆ ตรึงมนุษย์หมาป่าเอาไว้ราวกับสมอ

    ในตอนที่ลงจากตัวยูคิมาถึงพื้น มนุษย์หมาป่าก็ถูกตรึงไว้อย่างสมบูรณ์ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

    ตอนนั้นเองสถานะผิดปกติและเวทโจมตีก็ถูกสาดใส่ลงมาราวกับฝนอย่างไร้ความปราณี วีคเนส(Weakness)(อ่อนแอ), ไลท์นิ่ง, พาราไลซด์(Paralyze)(อัมพาต), สลีป(Sleep)(หลับไหล), เอิร์ธเพียร์ซ(Earth Pierce)…..

    พละกำลังถูกบั่นทอน, ตัวชา, ถูกเผาไหม้ด้วยกระแสไฟฟ้า, ร่างกายที่เผลอหลับไปชั่วขณะถูกแทงด้วยหอกหินแหลม

    ขณะที่มองดูไลแคนโทรปถูกรุมโจมตี ผมก็ปาดเหงื่อที่คาง

 

「อ-อันตราย…..นึกไม่ถึงเลยว่าจะมาทางทะเลสาป」

 

    นึกไม่ถึงว่าไลแคนโทรปจะมีสกิลที่ไว้ใช้ใต้น้ำ ทำเอาตกใจหมด หรือว่าจะมีสกิลที่เกี่ยวข้องกับทางน้ำอยู่ด้วย?

    ยังไงก็ตาม…..ที่『เชนคอมโบ(Chain Combo)』ได้ผลก็น่าดีใจ

 

    —–ขั้นที่ 3 ของลิงค์, เชน(Chain) เทคนิคในการเชื่อมต่อการใช้งานของสกิลให้เป็นดั่งโซ่ผ่านทางลิงค์

 

    ตามปกติแล้ว การจะใช้สกิลอะไรได้ก็ต้องหลังจากที่ประเมินสถานการณ์ก่อน แต่ด้วยเชน จะสามารถใช้การทำงานของสกิลจากการ์ดอื่นเป็นตัวกระตุ้น แล้วใช้สกิลเชื่อมต่อในระดับการตอบสนองอัตโนมัติ

    อย่างในคราวนี้ มี『ปกป้อง』ของเอลิซ่าเป็นตัวกระตุ้น, สลิปของเมอากับศิลปะการต่อสู้ของซุซูกะ, เมจิกเว็บของเร็นกะ กลายมาเป็นเชนคอมโบ

    เชนจะขจัดกระบวนการคิดแล้วใช้งานสกิลในระดับการตอบสนองอัตโนมัติ เมื่อเริ่มขึ้นแล้วจะไม่สามารถหยุดได้จนกว่าจะสิ้นสุดคอมโบ ถือว่าเป็นดาบ 2 คมที่หากมีชิ้นส่วนแม้เพียงชิ้นเดียวผิดเพี้ยนก็จะเกิดเป็นช่องว่างขนาดใหญ่

    นับว่าเป็นเทคนิคที่ใช้งานยาก แต่ถ้าหากให้เอลิซ่าทำการรับการโจมตีด้วยปกป้องอย่างเดียว มันที่โจมตีทีเผลอในรูปแบบ Hit and Away ก็จะทำการหนีไป ทำให้ต่อสู้อย่างยากลำบาก ด้วยเหตุนี้ จึงตัดสินใจรับความเสี่ยงแล้วทำการจับศัตรูในครั้งแรก

    ผลของการเดิมพันนั้นก็ตามที่เห็น ถึงแม้ว่าเอลิซ่าจะบาดเจ็บเล็กน้อยจากการรับการโจมตีครั้งแรกไป แต่บาดแผลก็ฟื้นฟูแล้ว และไลแคนโทรปก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนแม้แต่ก้าวเดียวจากสถานะผิดปกติที่ใช้ใส่ไปหลากหลาย

    ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็คงจะเอาชนะได้…..ตอนที่รู้สึกคาดหวังเล็กๆแบบนั้น ในตอนนั้นเอง

 

『มาสเตอร์!?』

「…..!?」

 

    จู่ๆยูคิก็เข้ามาคว้าตัวผมแล้วพุ่งหนี

    เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้าที่จะได้คิดแบบนั้น ประสาทสัมผัสก็ถูกส่งผ่านมาทางลิงค์

    『เงาสีขาว』ได้เหวี่ยงแขนลงมาตรงจุดที่ผมอยู่เมื่อครู่นี้

    ที่อีกด้านหนึ่งของเศษดินที่กำลังร่วงลงมาแบบสโลวโมชั่น ดวงตาของสัตว์ป่าที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ก็จ้องมา

 

「บ้าไปแล้ว…..!」

 

    ถึงกับต้องหันไปดูด้วยความตกใจ ที่ตรงนั้นร่างของไลแคนโทรป『ขนสีดำ』ยังคงถูกตรึงเอาไว้อยู่ ทางพวกเร็นกะเองก็ต่างจ้องมองมาทางนี้ด้วยสีหน้าตกตะลึง

    ตัวที่ 2 !? ไม่ใช่ว่าเป็นประเภทเสริมแกร่งตัวเดียวหรอกเรอะ…..!?

    ไม่สิ ไม่ใช่!!

    ไอ้การที่จะมีไลแคนโทรปแรงค์ C หลายตัวนี่มันแปลกมาตั้งแต่แรกแล้ว!

    ที่แว่บเข้ามาในหัวคือแบบซุยโคเมื่อก่อน แต่ว่าครั้งนี้มันแตกต่างออกไป

    มันไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนที่สามารถอัญเชิญไลแคนโทรปหลายตัวออกมาได้

    พูดอีกอย่าง นี่คือ—-

 

『มาสเตอร์』

 

    พอหันไปมองตามเสียงของยูคิ ที่ตรงนั้นก็มีมนุษย์หมาป่าตัวที่ 3 ที่มี『ขนสีน้ำตาลแดง』กำลังเหวี่ยงท่อนแขนมาที่ผม

 

『เอลิซ่าาาาาาาา!』

 

    ไม่มีเวลาให้คิดเรื่องไร้สาระ ทำการเรียกราวกับกรีดร้อง ถึงโล่ของปาร์ตี้พวกเรา

    เธอเริ่มขยับตั้งแต่ตอนที่เห็นชัดแล้วว่าเกิดการโจมตีครั้งที่ 2 มายืนอยู่เบื้องหน้าผมในเวลาฉิวเฉียด

 

「…..คั่ก!」

『เอลิซ่า…..!』

 

    แขนของมนุษย์หมาป่าสีแดงทะลวงท้องของเอลิซ่า

    ตามคาดว่าแม้แต่เธอเองก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะปัดป้องหรือป้องกันการโจมตีในช่วงเวลาแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอประคองร่างและป้องกันการโจมตีโดยตรงใส่ผมได้

    ในตอนนั้นเอง ห่ากระสุนจากเร็นกะก็ซัดเข้าใส่

    มนุษย์หมาป่าทำการหลบหลีกด้วยความว่องไว แล้วผมก็ได้ยูคิพาตัวมายังจุดที่พวกเร็นกะอยู่

    เท่านี้ก็พอจะเอาชีวิตรอดมาได้อยู่ แต่ว่า…..

 

『เป็นอะไรไหม เอลิซ่า…..!』

『เยส, มาสเตอร์…..แต่ว่า, ขอประทานโทษ, ไม่สามารถประคองสติไว้ได้, บาดแผล…..ไม่ยอมฟื้นฟู』

『…..!』

 

    ร่างกายของเอลิซ่าที่ใกล้เคียงกับเป็นอมตะภายใต้พื้นที่กลางคืน…..ไม่ฟื้นฟู

    นั่นมัน หมายความว่าเธอถูกโจมตีด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์

    เมื่อมองดู จะเห็นที่แขนของมนุษย์หมาป่าที่โผล่มาใหม่ทั้งที่มีขนสีขาวและขนสีน้ำตาลแดง ต่างก็สวมใส่กรงเล็บเปล่งแสงสีเงิน

    อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างด้วยการแปรรูปอาวุธเงินไปสู่อุปกรณ์เวท มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วไปเพื่อเป็นหนทางในการรับมือกับมอนสเตอร์ประเภทอันเดดแบบเอลิซ่า

    เหล่ามอนสเตอร์ที่สวมใส่อาวุธที่มีวางจำหน่ายทั่วไป…..ความหมายของมันมีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น

 

    —-นี่คือ การโจมตีจากนักผจญภัยคนอื่น

 

 

 

【Tips】เชน(Chain)

    เทคนิคการเชื่อมต่อสกิลระหว่างการ์ดด้วยลิงค์เพื่อใช้งานสกิลอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากวางแผนได้ดี จะสามารถปลดปล่อยการโจมตีผสานรุนแรงแก่อีกฝ่ายได้ แต่หากเกิดข้อผิดพลาดไปแม้เพียงนิดเดียว มันจะกลายเป็นดาบ 2 คมที่สร้างช่องว่างอย่างใหญ่หลวงขึ้นมา

    การใช้งานจำเป็นต้องใช้พรสวรรค์ดั่งนักวางกลยุทธ ซึ่งแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากการใช้งานลิงค์ได้ดี

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

Status: Ongoing
ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ในโลกคู่ขนานของญี่ปุ่น จู่ๆ เขาวงกตได้ปรากฏขึ้น ที่ซึ่งมอนสเตอร์โผล่ออกมา ในช่วงแรกเริ่มนั้นเขาวงกตไม่ได้ต่างอะไรไปจากภัยพิบัติ แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยทรัพยากรที่เขาวงกตผลิต และตัวตนของ ‘การ์ด’ ที่ตกจากมอนสเตอร์ กลายเป็นช่วงแห่งการกอบโกย การ์ดมอนสเตอร์ที่สามารถอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาได้ดั่งใจนึก เหล่านักผจญภัยที่ใช้พลังของการ์ดเพื่อพิชิตเขาวงกต ถ่ายทอดสถานการณ์เหล่านั้นด้วยดันเจี้ยนTV, โคลอสเซียมที่มอนสเตอร์ต่อสู้กัน….. สิ่งเหล่านี้กระตุ้นความสนใจในตัวผู้คน แล้วก่อนที่จะรู้ตัวนักผจญภัยก็กลายเป็นอาชีพที่ผู้คนใฝ่ฝันจะเป็น คิทากาว่า・อุทามาโร่ เด็กม.ปลายสายม็อบ เห็นเพื่อนที่น่าจะเป็นสายม็อบเดียวกัน หลังจากที่เป็นนักผจญภัยแล้วกลับถีบตัวไปอยู่ในกลุ่มท็อบได้ จึงตัดสินใจที่จะเป็นนักผจญภัยด้วยตัวเอง อุทามาโร่ เพื่อที่จะได้แรร์การ์ดไปอวดทุกคนได้จึงเดิมพันชีวิตกับกาชาสุดบ้าระห่ำราคา 1 ล้านเยน ทว่า—?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท