นางไร้เรี่ยวแรง แต่สมองของนางกลับแจ่มชัดยิ่งกว่าที่เคย
ถึงนางจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับใครมากนัก
แต่ ณ จุดนี้ หงส์เพลิงย่อมรู้ว่าเขาต้องการทำอะไร
นางไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะคิดเช่นนั้นกับนาง
แต่พัฒนาการของเรื่องนี้ก็ท้าทายขีดจำกัดในจินตนาการของนางอย่างมาก
”ปล่อยข้า…” ทันทีที่หงส์เพลิงเอ่ยขึ้น ดาบวงพระจันทร์ที่อยู่บนพื้นก็กลับคืนสู่สภาพเดิมของมันเพราะแสงแห่งพระพุทธคุณ แต่มันไม่สามารถกลับมาสู่มือของผู้เป็นเจ้าของได้
ชายหนุ่มหัวเราะ จากนั้นจึงขยับตัวขึ้น แล้วจัดเสื้อผ้าของตัวเอง เขามองนางจากด้านบน พร้อมกับกระตุกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กๆ ”ข้าไม่เคยบังคับใคร หงส์เพลิง ข้าจะนับถึงสิบ ถ้าเจ้าสามารถออกไปจากที่นี่ได้ในเวลานั้น ข้าจะไม่ทำอะไรต่อ แต่ถ้าเจ้าหนีไม่พ้น เจ้าจะไม่สามารถขัดขืนข้าได้อีก ว่าอย่างไร เจ้าจะลองเดิมพันดูไหม ถ้าเจ้าชนะ เจ้าก็จะรอด แต่ถ้าเจ้าแพ้ สิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำก็คือการทำตามสิ่งที่อยู่ในคู่มือนั้นให้ครบ เจ้าชอบทำตามที่คู่มือว่ามิใช่หรือ”
หงส์เพลิงมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ”ก็ได้”
อย่างไรมันก็เป็นทางออกเดียวในเวลานี้ นางใช้นิ้วยันตัวขึ้นและพยายามลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ แม้มันจะไม่เหมือนกับการถูกวางยาเพราะนางไม่ได้ถูกพิษใด แต่นางก็ทำผิดศีลของศาสนาพุทธตอนที่กินเนื้อเข้าไป และด้วยเหตุนี้ สวรรค์จึงลงโทษให้นางหมดสิ้นเรี่ยวแรง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดนางจึงสามารถยันตัวลุกขึ้นได้ แต่นางก็ทรุดลงไปกับเก้าอี้อีกครั้งเพราะนางไม่สามารถประคองตัวเองไว้ได้
นางรู้สึกราวกับปีกของนางถูกดึงออกจากตัว ในเวลานี้ไม่ว่าใครก็สามารถแตะต้องนางได้อย่างง่ายดาย
นางคิดว่าเขาจะใช้โอกาสนี้ทำให้นางต้องอับอาย
แต่ก่อนที่นางจะล้มลงไปทับเก้าอี้ ชายหนุ่มก็รีบคว้าเอวนางไว้เพื่อกันไม่ให้นางได้รับบาดเจ็บ
หงส์เพลิงยืนขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือของเขา
”หนึ่ง” ชายหนุ่มปล่อยมือ แล้วเริ่มนับเลขด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
ดวงตาของหงส์เพลิงจับจ้องอยู่ที่เขตอาคมที่อยู่ห่างจากนางเพียงแค่สี่เก้า ตราบใดที่นางสามารถรวบรวมเรี่ยวแรงได้ นางย่อมสามารถออกไปจากเขตอาคมนี้ได้ตอนที่เขานับถึงสิบ
”สอง” ชายหนุ่มไม่ได้ขยับเข้ามาหานาง แต่กลับทำเพียงแค่ยืนนับเลขอยู่ด้านหลัง
หงส์เพลิงก้าวออกไปข้างหน้า จากนั้นนางจึงยกขาข้างขวาขึ้น นางจะสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นหากทำเช่นนี้
”สาม”
หงส์เพลิงเดินมาถึงก้าวที่สาม เหลืออีกก้าวเดียวเท่านั้น อีกเพียงแค่ก้าวเดียวนางก็จะสามารถหนีไปจากที่นี่ได้
แต่ในตอนที่นางกำลังจะก้าวพ้นเขตอาคม ชายหนุ่มกลับดึงนางกลับไป ตลอดเวลาที่ผ่านมา ความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างของชายหนุ่มไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด และเวลานี้มันกำลังดุนดันช่วงเอวของนางอยู่อย่างดุร้าย เขาแนบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับหูของนาง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าอันเย้ายวนว่า ”สิบ”
อะไรนะ หงส์เพลิงหันกลับไปมองเขา นิ้วของนางจิกเขาแน่น ”ข้ารู้ว่าตี้จวินเป็นคนหน้าด้านหน้าทน แต่ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะหน้าด้านถึงเพียงนี้”
ชายหนุ่มยิ้ม เขาไม่ได้สนใจเลยว่าสิ่งที่นางทำจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้กับเขาหรือไม่ ออกแรงเพียงนิดเดียวเขาก็สามารถตรึงร่างนางไว้กับตั่งได้ ”หงส์เพลิง โลกนี้ผู้ชนะคือราชา มันไม่เกี่ยวกับความหน้าด้านหรือไร้ยางอายแต่อย่างใด ทำตัวดีๆ เก็บแรงของเจ้าเอาไว้ครางหลังจากนี้ดีกว่า ถึงข้าจะชอบที่เจ้าดูอ่อนแออย่างมากในเวลานี้ แต่ข้าก็อยากได้ยินเสียงของเจ้า…”
ความร้อนนั้นจุดความต้องการของนางขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พวกเขาเปลี่ยนตำแหน่ง มือของชายหนุ่มยังคงกุมข้อมือของนางเอาไว้พร้อมกับจูบนางอย่างรุนแรงยิ่งกว่าที่เขาทำเมื่อครู่นี้โดยไม่เปิดโอกาสให้นางได้หายใจแม้แต่วินาทีเดียว
ดูเหมือนเขาไม่มีความคิดที่จะปล่อยนางไป
หงส์เพลิงไม่ใช่คู่มือของเขา แผ่นหลังของนางชาวาบ นางรู้สึกได้ถึงความเสียวซ่านที่แล่นไปตามแนวกระดูกสันหลัง
นางจะขัดขืนเขาได้อย่างไร นางไม่เหลือแม้กระทั่งเรี่ยวแรงเลยด้วยซ้ำ
สถานการณ์นี้ยากจะต้านทานยิ่งกว่าตอนที่นางถูกวางยาเสียอีก นางไม่มีแรงและทำได้เพียงแค่ร้องขอความเมตตาจากอีกฝ่ายเท่านั้น แต่นางก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความวาบหวามที่ริมฝีปากและลิ้นของชายหนุ่มนำมาให้นั้นเป็นความรู้สึกที่นางไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
บางทีพวกเขาอาจจะดึงดูดกันและกันมาตั้งแต่ต้น
เพราะทั้งสองคนเหมือนกันมากเหมือนกัน พวกเขาเกลียดการถูกจองจำ พวกเขาเย็นชา และไม่เคยเข้าหาใครก่อน
จนกระทั่งถึงตอนนี้ หากไม่ใช่เพราะคู่มือนั้น พวกเขาก็คงไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากนัก
นางไม่เคยคิดเลยว่าเราสามารถเอาชนะคนอื่นได้ด้วยการทำให้คนคนนั้นเป็นของตัวเอง
ขณะที่หงส์เพลิงกำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ชายหนุ่มก็กระชับวงแขนโอบรอบนาง จากนั้นจึงลดเอวลงและส่งสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่อันร้อนระอุเข้าไปในร่างของนาง หงส์เพลิงเบิกตากว้าง แต่นางไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากความเจ็บปวดหรือความตื่นเต้นกันแน่!
จากนั้น ร่างของนางก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับร่างกายท่อนล่างของนางถูกบางอย่างแยกออกจากกัน หงส์เพลิงพยายามดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง แต่นางก็ถูกเขาตรึงเอาไว้อีกครั้ง นางส่งเสียงครางออกมาเบาๆ สิ่งที่อยู่ในร่างของนางราวกับถูกกระตุ้นจากเสียงนั้น เพราะมันกระตุก!
ชายหนุ่มยังไม่ปล่อยหงส์เพลิง เขากระชับเอวนางเอาไว้แล้วขยับออกมาเบาๆ นางรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ใบหูได้ในขณะที่เขาบอกว่า ”เจ้าอย่าดิ้นรนเลยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าอาจจะคุมแรงเอาไว้ไม่ไหว หงส์เพลิง เจ้าควรรู้ไว้ว่าสภาพเจ้าในเวลานี้ทำให้คนอยากทำลายเจ้าง่ายเพียงใด”
หงส์เพลิงกัดริมฝีปาก ผมของนางกระจายอยู่ทั่วแผ่นหลังเรียบเนียน แม้กระทั่งดวงตาของนางก็ยังขึ้นสีแดงระเรื่อ
เสื้อคลุมบนร่างของชายหนุ่มไม่ยับเท่าใดนัก แตกต่างจากเสื้อของนางที่ถูกถอดออก ความแตกต่างนี้ยิ่งทำให้หงส์เพลิงรู้สึกอับอาย
เนื่องจากชายหนุ่มกอดร่างของนางไว้จากทางด้านหลัง ดังนั้นหงส์เพลิงจึงไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในดวงตาของชายหนุ่มที่เกิดขึ้นเพราะนาง จุดหมายปลายทางที่ความแข็งแกร่งนั้นมุ่งไปสลับสับเปลี่ยนอยู่หลายครั้งราวกับกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่างอยู่
แต่หงส์เพลิงที่อยู่ภายใต้วงแขนนั้นกลับทำได้เพียงขยับร่างกายตามการชักนำของเขาเท่านั้น
นางอยากหลับตาเพราะไม่อยากเห็นภาพของนางกับเขาที่สะท้อนอยู่บนพื้นหินอ่อน ความละอายอันเกิดจากราคะมีแต่จะยิ่งทำให้ขาของนางอ่อนยวบ
แต่เขาไม่อนุญาตให้นางทำเช่นนั้น เขาหัวเราะขึ้นข้างหูนางและเอ่ยว่า ”หงส์เพลิงผู้เป็นอันดับหนึ่งของพระพุทธศาสนา เจ้าของดาบวงพระจันทร์อัคคีที่ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อผู้ใด หึ ถ้ามีคนมาเห็นเจ้าในสภาพนี้เข้าจะเกิดอะไรขึ้นหนอ”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ หงส์เพลิงก็ลืมตาขึ้น
ชายหนุ่มกัดเข้าที่ซอกคอของนาง ลมหายใจของเขาหนักหน่วง มือใหญ่ของเขาสอดลงไปล่างตัวของนางเพื่อสัมผัสกับทรวงอกอันอ่อนนุ่มนั้นพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า ”เจ้ากลัวหรือ” ชายหนุ่มเอ่ยช้าๆ ราวกับจงใจที่จะทรมานนาง ”ไม่ต้องห่วง นอกจากข้าแล้ว จะไม่มีใครได้เห็นเจ้าในสภาพนี้แน่ นอกเสียจากว่า…” คนพวกนั้นจะอยากตาย!
ชายหนุ่มกระแทกร่างเข้าออกอีกสองครั้งขณะเอ่ยเช่นนั้น ราวกับไม่สามารถข่มความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไป เขาเริ่มขยับร่างกายด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น รุนแรง และป่าเถื่อนขึ้นราวกับต้องการบดขยี้นางและกลืนกินนางเข้าไป
หงส์เพลิงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก น้ำเสียงของนางแหบพร่าทุกครั้งที่นางพูด ภาพที่สะท้อนอยู่บนพื้นทำให้ทุกอย่างดูราวกับภาพอันเลือนราง
เก้าอี้ไม้โยกไปมา นางรู้สึกเหมือนถูกฉุดกระชากเข้าสู่ความฝันอันมึนเมา จมอยู่ในความร้อนและอาการเคลิบเคลิ้มอันรุนแรง นางเริ่มรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเองเข้าไปทุกที
แต่ชายหนุ่มกลับยังไม่พอใจ เขาถอนร่างออกจากนาง จากนั้นจึงผลักร่างของนางลงไปบนผ้าห่มนุ่ม นิ้วเย็นเฉียบของเขาคว้าต้นขาเรียวของนางให้อยู่กับที่ แล้วแทรกกายเข้าใส่นางทันทีเมื่อเห็นจุดที่เหมาะสม!