ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 404 ฆ่าตัวตาย

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 404 ฆ่าตัวตาย

ตอนที่ 404 ฆ่าตัวตาย

ในขณะที่ซูเถากำลังดูภาพการทำนายของเธอ ก็พบว่าหลังจากที่ฮว่าผีพบกระเป๋าเป้ เธอก็คลี่ยิ้มออกมา และกอดรัดกระเป๋าไว้แน่น พร้อมกับยื่นจมูกเข้าไปใกล้ ๆ กับซิป สูดดมกลิ่นเลือดที่อยู่ภายในอย่างตะกละตะกลาม

ภาพที่ซูเถาเห็นคือเธอยังคงมีบาดแผลมากมายบนร่างกาย และบาดแผลบริเวณหน้าอกของเธอยังมีรูขนาดใหญ่และมีเลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด ในขณะที่การเดินเหินของเธอก็ค่อนข้างลำบาก

เธอสะพายกระเป๋าไว้บนหลัง และมองไปที่เถาหยางด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

จากนั้นเธอก็มุ่งหน้าไปที่ฐานโส่วอัน ซึ่งจะใช้เวลาพักฟื้นที่นั่นประมาณสามหรือสี่วัน เมื่อซูเถาเห็นภาพการทำนายนี้ ก็เริ่มรู้สึกหายใจติดขัด และเธอก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจดจำภาพทำนายของฮว่าผี

การที่ฮว่าผีใช้เวลาพักฟื้นที่ฐานโส่วอันเป็นเวลาหลายวัน ถือโอกาสเหมาะที่จะจับเธอในเวลานี้

ซูเถากำลังจะยุติการทำนายของเธอ แต่แล้วภาพที่เธอเห็นก็เปลี่ยนไป และเธอก็ได้เห็นคนที่คุ้นเคยมาก…เหลยสิง

เหลยสิงอยู่ที่ฐานโส่วอันเหรอ?

ซูเถาตั้งสมาธิและ ‘มอง’ อีกครั้ง เธอเห็นชายผมสั้นสีทองและมีท่าทางเย่อหยิ่ง เป็นเขาจริง ๆ!

ในขณะเดียวกันฮว่าผีก็จ้องมองเขาและไล่ตามเขาด้วยสายตาที่ละโมบ ไม่ใช่ความโลภระหว่างชายหญิง แต่เป็นความโลภของนักล่าเมื่อเห็นเหยื่อและ “ของสะสม”

จู่ ๆ หัวใจของซูเถาก็จมดิ่ง มือเท้าเย็นเฉียบ แต่ภาพที่เธอเห็น ฮว่าผีไม่ได้รีบร้อนที่จะลงมือ เธอเพียงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ออกไปข้างนอกแต่เช้าและกลับมาอีกทีก็ดึกดื้น บางครั้งอาจจะไป ‘หาอะไรกิน’

หลังจากรูปร่างหน้าตาของเธอฟื้นตัวเกือบ 60% เธอก็ไปเจอคน ๆ หนึ่ง หรือพูดตรง ๆ ก็คือซอมบี้กลายพันธุ์…ไซเรน

ซึ่งมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ซูเถาคิด เพราะแท้จริงแล้วไซเรนเป็นซอมบี้ตัวผู้

ยิ่งกว่านั้น เขายังเป็นชายร่างเตี้ย ผิวคล้ำและหยาบกร้าน รูปร่างผอม หางตาตก

การจ้องมองของเขาเหมือนอีแร้งที่ดุร้ายและโหดเหี้ยม

ฮว่าผีนัดเขาออกมาเจอ จากนั้นก็วางเป้ไว้บนเก้าอี้อีกตัว ซูเถารู้สึกเหมือนเธออยู่ที่โต๊ะเดียวกันกับพวกเขา และมีส่วนร่วมเป็นพยานในแผนการที่ซอมบี้วางแผนฆ่ามนุษย์

ฮว่าผีบอกแผนของเธอจนหมดเปลือก โดยที่จะมีไซเรนช่วยเธอโจมตี และหลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มพูดคุยแผนการอย่างละเอียดอีกสองครั้ง

ไซเรนต้องการค้นหาพวกเดียวกันอีกสองตัว อันดับแรกเพื่อทำลายฐานซินตู ซึ่งเป็นฐานที่ใหญ่ที่สุดในทางใต้ จากนั้นไปทางเหนือเพื่อบุกฉางจิง และจัดการกับเถาหยางเป็นลำดับสุดท้าย

แต่ฮว่าผีไม่เห็นด้วย เธอต้องการแทะกระดูกแข็ง ๆ อย่างเถาหยางก่อน เพราะหลังจากที่เถาหยางถูกทำลาย เวลาของมนุษย์ก็จะถดถอยลง ส่วนสถานที่อื่น ๆ ก็ค่อย ๆ รวบรวมและกลืนกิน

ไซเรนพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า นี่เป็นความต้องการล้างแค้นส่วนตัว เธออยากที่จะแก้แค้นเหยียนจ่งที่หักหลังเธอ และมันจะเสี่ยงเกินไปที่จะทำลายเถาหยางก่อน ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ฮว่าผียังคงนิ่งเงียบ

หลังจากนั้นทั้งสองก็จบบทสนทนาลงตรงนี้

จากนั้นภาพการทำนายก็เปลี่ยนไป ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าฮว่าผีตัดสินใจไปหาไซเรนเพื่อเจรจาอีกครั้ง ตามมาด้วยการรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป เมื่อเธอหายดี 80% ซูเถาไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีใด แต่มันดูเหมือนว่าเธอจะช่วยชีวิตหั่วเสอเอาไว้และได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มเป้าถูได้สำเร็จ ซึ่งความไว้วางใจนี้ทำให้เธอได้เข้าร่วมทีมชั่วคราว…

และในขณะนั้นเองภาพทำนายก็หยุดลงอย่างกะทันหัน

เหมือนว่าภาพการทำนายสามเดือนข้างหน้าได้หยุดอยู่แค่นี้

ซูเถาถึงกับหมดเรี่ยวแรง หัวของเธอเจ็บปวดเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นเธอก็ล้มลงกับพื้น มือและเท้าของเธออ่อนแรงจนไม่สามารถลุกขึ้นได้

แล้วในเวลานั้นจวงหว่านผู้มีใบหน้าซีดเซียวก็พุ่งตัวเข้ามาในห้องทำงานของเธอ โดยไม่ทันได้เคาะประตูเพื่อขออนุญาต

“เถ้าแก่! เจียงอวี่เขา เขาใช้ปืนยิงไปที่ถงถง…”

จู่ ๆ ซูเถาก็รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า เธออยากที่จะพยุงตัวเองขึ้น แต่ก็ล้มลงกับพื้นหลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง “ช่วยประคองฉันหน่อย!”

มันเป็นคำทำนาย และในที่สุดความฝันที่ทำนายไว้ของเธอก็เป็นจริง

เธอรู้สึกสิ้นหวัง กลไกแห่งชะตากรรมที่เธอเห็นจากการทำนาย ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหรือเปลี่ยนแปลง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เวรกรรมก็เป็นอย่างนี้

เมื่อเธอเดินโซเซกลับไปในห้องที่นองไปด้วยเลือด ก็บังเอิญได้ยินว่าเสิ่นเวิ่นเฉิงมีท่าทีปึงปังด้วยอารมณ์โทสะ

“นายต้องการฆ่าเธอเหรอ! นายมันบ้าไปแล้ว! รู้หรือเปล่าว่าเธอมีค่ามากแค่ไหน! ฉัน ฉัน นาย…”

เขาตัวสั่นด้วยความโกรธ

จงเกาอี้รัดตัวเขาเอาไว้ “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่เป็นไร ปืนพกธรรมดาทำอะไรเธอไม่ได้หรอก”

เมื่อซูเถาได้ยินสิ่งนี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหัวใจของเธอกลับมาเจ็บปวดอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นเจียงอวี่ที่นอนอยู่บนพื้นโดยไม่เคลื่อนไหว ความเจ็บปวดนั้นมากจนทำให้การหายใจของเธอยากลำบาก

เธอเข้าใจเหตุผลของเจียงอวี่ที่เลือกทำแบบนี้ ไม่ว่าค่าการวิจัยของเจียงถงมันจะมากมายมหาศาลแค่ไหน แต่เมื่อเธอตายไปแล้ว ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานทั้งหมดจะหายไปเช่นกัน

เธอไม่สามารถคาดหวังให้ทุกคนเป็นกลางและเห็นแก่ส่วนรวมได้

เจียงอวี่เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาในวัยยี่สิบต้น ๆ ก่อนที่วันสิ้นโลกจะเกิดขึ้น เขายังไม่แม้แต่จะเรียนจบหรืออยู่ในวัยที่เข้าสังคม

เธอหายใจเข้าลึก ๆ และให้จวงหว่านช่วยประคองเธอเดินเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ของเจียงถง

เจียงถงถูกยิงที่หน้าผาก แต่ไม่มีอะไรเทียบได้กับการทรมานที่เธอกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ปากของเธอเผยอเล็กน้อยและดูเหมือนว่ากำลังพึมพำอะไรบางอย่าง

เธอจึงเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อฟัง “พี่ พี่ ถงถงได้บอกลาพี่…”

จู่ ๆ มือที่เหมือนจะเหลือแต่กระดูกก็ยกขึ้น แต่กว่าซูเถาจะรู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร มันก็สายไปเสียแล้ว!

เธอเอามือจับกะโหลกตนเองแล้วบีบอย่างแรง จนทั้งห้องเต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ ราวกับว่ามีบางอย่างแตกเป็นเสี่ยง ๆ…

เสิ่นเวิ่นเฉิงกรีดร้องเสียงดัง “อ๊า! ผลึกนิวเคลียส!!!”

จากนั้นเขาก็สลบไป

ซูเถายืนนิ่งเฝ้าดูแสงที่ค่อย ๆ สลายไปทีละน้อย เลือดและเนื้อบนเตียงนอนแน่นิ่งไร้ชีวิตอย่างแท้จริง โลกทั้งใบเหมือนจะเงียบสงัดลง

เจียงอวี่ซึ่งนอนอยู่บนพื้นและตัวแข็งทื่อจากอาการปวดเกร็งที่หน้าท้อง เริ่มหัวเราะราวกับเสียสติ และนั่นก็ทำให้เขาเริ่มไอเป็นเลือด

ซูเถาก็อาการแย่เช่นเดียวกัน เธอตกใจมากจนสมองและร่างกายของเธอไม่สามารถทำงานได้ชั่วขณะ ราวกับว่าเลือดในร่างกายของเธอถูกแช่แข็ง

เธอไม่รู้ว่าตัวเองถูกส่งกลับไปที่บ้านได้อย่างไร และไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่สมองจะเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง

เธอหันกลับมาและเห็นหลินฟางจือมีใบหน้าเศร้าอยู่ข้าง ๆ เธอ

เธอเริ่มเรียบเรียงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ไม่ได้! เธอต้องฮึดสู้! เธอต้องจับฮว่าผีที่อาศัยอยู่ที่ฐานโส่วอันให้ได้โดยเร็ว ไม่สามารถปล่อยให้เธอพบกับเหลยสิงได้!

“หลิงอวี่ หลิงอวี่! ส่งกระเป๋ากลับไป! รีบไป!”

หลิงอวี่ซึ่งกำลังกินสตรอว์เบอร์รีอย่างมีความสุขก็ตกตะลึงอีกครั้ง

นกตัวนี้หมดแรงแล้วจริง ๆ

ในขณะเดียวกันซูเถาเริ่มโทรหาเหลยสิง แต่ไม่สามารถติดต่อเขาได้ หลังจากตรวจสอบตำแหน่งของเฉินหยางแล้ว พบว่าพวกเขาดูเหมือนจะกำลังเดินทางไปโส่วอัน โดยผ่านดินแดนที่ไร้ผู้คนและสัญญาณ

ซูเถาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบอกจวงหว่านว่า เมื่อพวกเขาเข้ามาในพื้นที่สัญญาณแล้ว จำเป็นต้องโทรติดต่อเหลยสิงให้ได้โดยเร็วที่สุดและโอนสายหาเธอ

จวงหว่านกลั้นหายใจราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัว

จากนั้นซูเถาก็สั่งให้คนที่ถูกส่งไปจับกุมฮว่าผี หาสถานที่ที่เธอเห็นภาพนั้นให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อดักรอฮว่าผี

เพราะด้วยอาการบาดเจ็บในปัจจุบัน ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีพลังวิเศษที่ทรงพลังมากกว่าหนึ่งโหลที่จะจัดการกับเธอ โดยเฉพาะสยงไท่ที่สามารถใช้ ‘กรงล่องหน’ ดักจับฮว่าผีที่บาดเจ็บสาหัสได้

ทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างรอบคอบ แต่หัวใจของซูเถายังคงวูบไหวอยู่

เหตุการณ์ของเจียงถงส่งผลกระทบต่อเธอมากเกินไป

การทำนายของเธอแม่นยำเกินไป และมันทำให้เธอไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เธอไม่สามารถหลบหนีได้ แม้ว่าเธอจะรับรู้และพยายามอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม

—————————————————-

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท