บทที่ 577 สารภาพรัก (2)
ทุกคนในร้านอาหารต่างหยุดสิ่งที่ทำอยู่พร้อมกับที่เสียงเปียโนดังขึ้น!
นี่เป็นเพลงที่เฉินชางเลือก และยังเป็นเพลงเปียโนบัลลาดที่ถนัดที่สุดด้วย เพลง A Comme Amour ของริชาร์ด เคลเดอร์แมน เป็นบทเพลงที่ความรู้สึกท่วมท้นเพลงหนึ่ง
จังหวะดนตรีแช่มช้า! ตัวเฉินชางเองก็เคลิบเคลิ้มท่ามกลางเสียงดนตรีนั้น
ด้านฉินเยว่ในตอนนี้ ขณะที่มองดูเฉินชางที่เล่นเปียโนอยู่กลางเวที ดวงตาทั้งสองก็พร่ามัวขึ้นทันที!
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยสักนิดว่าภาพในละครจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา เฉินชางเองก็เหมือนกัน เธอจินตนาการถึงความรักและภาพที่สวยสดงดงามที่สุดในละครได้ แต่เธอรู้ว่านั่นมันภาพฝัน ส่วนตัวเองใช้ชีวิตจริงอยู่
ทว่าพอเธอเห็นเฉินชางบรรเลงเปียโนช้าๆ เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาว ก็คล้ายว่าเธอกลายเป็นนางเอกในนิทานท่ามกลางโน้ตดนตรีโลดแล่น!
ชั่วขณะหนึ่ง เธอหลับตาลง แล้วฉากหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในหัว
ทางสายน้อยที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้ร่วงสายหนึ่ง คดเคี้ยวจนไม่รู้ว่ามุ่งไปทางไหน สองข้างทางมีแต่ต้นไม้ใหญ่สูงระฟ้า ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองแล้ว ลมระลอกหนึ่งพัดเอื่อย ถ้าได้เดินข้างๆ คนที่รักจะเป็นเรื่องน่าอภิรมย์ขนาดไหน ได้จับมือคุณจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน!
นี่เหมือนกับวันที่เธอกับเฉินชางรักกันมาก พวกเขาสองคนก็คบกันในฤดูใบไม้ร่วง เพลง A Comme Amour นี้ก็เหมือนเฉินชางเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา สัญญากับเธอว่าผมจะรักคุณไปชั่วชีวิตอยู่ข้างหู
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสียงเปียโนจึงหยุดลง ตอนนี้เอง เฉินชางก็ลุกขึ้น ถือดอกไม้สดช่อหนึ่งเดินมาหาฉินเยว่ช้าๆ!
ฉินเยว่หน้าแดงขึ้นมาทันที มองดูเฉินชางหล่อเหลาสูงโปร่ง แต่งชุดสูทเท่พอดีตัว กุหลาบสีแดงสดคล้ายเปลวเพลิงช่อหนึ่งกับใบหน้าอันหล่อเหลาทั้งเท่ทั้งโก้ยิ่งกว่าพระเอกในละครด้วยซ้ำ!
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเฉินชางจะหล่อขนาดนี้!
วินาทีนั้น ฉินเยว่ตื่นเต้นจนมือยังสั่นๆ ออกจะตั้งตัวไม่ทัน ลุกลี้ลุกลนทำตัวไม่ถูก!
ในตอนนี้เอง เฉินชางเดินมาตรงหน้าฉินเยว่ แล้ววงดนตรีวงหนึ่งก็เดินออกมาช้าๆ
ขณะที่พวกเขาเล่นไวโอลินเสียงไม่ดังไม่เบาก็เข้ามาล้อมอยู่ข้างๆ ทั้งสองคน เสียงดนตรีผ่อนคลายอย่างที่ความรักควรจะเป็นเป็นอย่างยิ่ง
เฉินชางมองดูฉินเยว่ จ้สบตาเธอ เอ่ยช้าๆ ว่า “รู้จักคุณมา 1021 วัน รักกับคุณมา 102 วัน ช่วงเวลานี้ดูไปแล้วอาจจะไม่นาน แต่คุณกลับอยู่ในใจผมมานานแล้ว!”
“คุณบอกผมว่าผมเป็นรักแรกของคุณ ดังนั้นผมเลยอยากทำให้ดีที่สุดมาตลอด ผมอยากแสดงให้คุณเห็นความงดงามทั้งหมดของความรัก”
“ผมเกิดกลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดี ทำให้คุณรู้สึกว่าความรักไม่ได้พิเศษอะไร!”
“ผมอยากทุ่มเททุกอย่างที่ผมมี มอบความรักแสนสุขสุดโรแมนติกและเรียบง่ายที่สุดให้กับคุณ”
“ชีวิตที่เหลือในวันข้างหน้า มีแต่คุณทั้งนั้น!”
“ฉินเยว่ แต่งงานกับผมนะครับ!”
พอพูดถึงตรงนี้ เฉินชางก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น เปิดแหวนเพชรออก แหวนเพชรสีชมพูที่เจียระไนอย่างประณีตพลันส่องประกายวาววับใต้แสงไฟฉายส่อง ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตื่นเต้นกับพวกเขาทันที
สวยจัง!
แม้แต่ฉินเยว่ยังหายใจถี่ เธอไม่เคยเห็นแหวนเพชรที่สวยขนาดนี้มาก่อน!
ขนาดในละครยังไม่มีแหวนเพชรที่สวยขนาดนี้เลย!
เสียงไวโอลินข้างหูดังขึ้น รอบๆ เป็นเสียงปรบมือของทุกคน
ในตอนนี้เอง ลูกค้าที่อยู่รอบๆ พากันหยิบดอกไม้สดช่อหนึ่งออกมาจากใต้โต๊ะแล้วค่อยๆ เดินมาหา!
ดอกไม้สดโอบล้อมทั้งสองคนไว้ด้วยกัน ทุกคนเอ่ยประโยคหนึ่งออกมาช้าๆ
“แต่งกับเขาเลย!”
“Marry him!”
“الزواجمنه!”
“Sposalo!”
……
ฉินเยว่ร้องไห้เป็นเด็กๆ ท่ามกลางถ้อยคำรวมไม่รู้กี่ภาษาและช่อดอกไม้สีสันสดใสนับไม่ถ้วน
“ตกลงค่ะ!” น้ำตาไหลลงอาบแก้ม เธอได้มีการสารภาพรักในฝัน
ผู้หญิงเปิ่นๆ คนหนึ่งก็มีความรักในฝันแบบนี้ได้เหมือนกัน
สำหรับฉินเยว่แล้ว เรื่องนี้อาจจะเป็นความฝันจริงๆ
ความฝันที่ไม่ต้องการตื่นขึ้นมาตลอดกาล
เฉินชางค่อยๆ สวมแหวนเพชรสีชมพูให้เธอ ทั้งสองกอดกันแน่น!
รอบๆ เป็นบทเพลงโรแมนติกของวงดนตรี รวมถึงเสียงปรบมือไม่ขาดสายของกลุ่มคนที่ถือดอกไม้สดเหล่านั้น
ความจริงแล้วเฉินชางก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เขาแค่จองที่ของร้านอาหารกับวงดนตรีดูโอ…
อย่างอื่นไม่เกี่ยวกับเขาเลย
ตอนนี้ เขาชำเลืองมองไปข้างนอก พลันเห็นว่าเจิ้งกั๋วถานกับเลน่าคอร์นที่อยู่ไกลออกไปยิ้มพลางปรบมืออยู่ตรงนั้น เขาจึงรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นทันที
…..
เดิมทีร้านนี้ก็เป็นกิจการของเจิ้งกั๋วถาน เขาแค่ทำเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่งคือไม่คิดเงินทุกคน ขอเพียงพวกเขามอบคำอวยพรที่งดงามที่สุดก็พอแล้ว
วันนี้จึงออกมาเป็นแบบนี้ได้!
เจิ้งกั๋วถานก็หวังว่าจะช่วยให้เฉินชางสมหวัง ได้สารภาพรักฉินเยว่อย่างควรค่าแก่การจดจำสักครั้ง!
เขามองดูเฉินชาง ยิ้มพลางพูดกับเลน่าคอร์นว่า “ตอนผมแต่งงานกับอ้ายเซียงไม่มีเงินซื้อแหวน ใช้เงินสองหยวนซื้อโคล่ากระป๋องหนึ่ง แล้วเอาห่วงเปิดกระป๋องนั่นมาเป็นแหวน อ้ายเซียงถึงตอบรับคำขอแต่งงานของผม”
เลน่าคอร์นยิ้ม “เพื่อนยาก เรื่องนี้คุณเล่าให้ผมฟังหลายร้อยรอบแล้ว คุณจะสื่ออะไร”
เจิ้งกั๋วถานกลอกตา “ที่ผมอยากพูดก็คือคุณขายหุ้นโคล่าให้ผมสักหน่อยก็ได้ ผมจะได้เอาไปเป็นของขวัญให้เมียผม!”
เลน่าคอร์นหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “เจิ้งจอมเจ้าเล่ห์!”
……
……
เฉินชางมองเจิ้งกั๋วถานกับเลน่าคอร์นแล้วยิ้มให้อย่างซาบซึ้ง
เลน่าคอร์นกลับร้องโห่ว่า “จูบเธอสิ!”
“จูบเลย!”
……
หลังจากเจอบรรยากาศครึกครื้น ฉินเยว่ก็หน้าแดงไปหมด ทั้งตื่นเต้นและซึ้งใจ แต่มีความสุขเสียมากกว่า
เธอไม่กล้าเงยหน้ามองเฉินชางสักครั้ง ถึงอย่างไรท่ามกลางสายตาจับจ้องมากมายแบบนี้ ก็ยังออกจะเขินอยู่ดี!
ด้านเฉินชางประคองแก้มฉินเยว่ จ้องมองเธอแล้วพูดชัดถ้อยชัดคำว่า “ผมรักคุณ!”
ดวงตาฉินเยว่ร้อนผ่าวขึ้นทันที ขณะที่จ้องมองเฉินชาง ในสมองก็มีคนตัวจิ๋วสองคนตีกันไม่หยุด
เธอพลันรวบรวมความกล้า ดึงเอาศีรษะของเฉินชาลงมา!
ทันใดนั้น!
จูบเดียวลิขิตรัก!
ฉากนี้ ฉินเยว่ซ้อมอยู่ในหัวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ขาขวายกสูงขึ้นเล็กน้อย…
ตอนนี้ฉินเยว่รู้สึกว่าตนมีความสุขยิ่งกว่าดาราพวกนั้น และเฉินชางก็หล่อกว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวในละครพวกนั้นเสียอีก!
เธอประหลาดใจมากจริงๆ!
วันเกิดปี 2019!
นี่เป็นวันที่ฉินเยว่ลืมไม่ลงชั่วชีวิต
ด้านเฉินชางจู่ๆ ก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้!
ถ้าเอาวันแต่งงานกับวันเกิดไว้วันเดียวกัน…จะทำให้วันครบรอบลดลงไปวันหนึ่งหรือเปล่า
นี่…เป็นความคิดที่สร้างสรรค์ดีเลย