เฉินลู่เหยาก้มหน้าลงด้วยความเศร้า ไม่มีใครรู้ ระหว่างเธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ของเธอเคยช่วยแม่ของเขา หนานกงเยี่ยไม่แม้แต่จะชายตามองเธอ ตอนนี้ แม่จากไปแล้ว ไม่รู้ว่าหนานกงเยี่ยจะดูแลเธออีกนานแค่ไหน
ซย่าอี่มั่วผลักเฉินลู่เหยาด้วยความไม่ได้ดั่งใจ ”แกพูดอะไรหน่อยสิ ทำไมแกถึงไม่ลองสู้ดูสักครั้ง กำจัดเหลิ่งรั่วปิงออกไปจากตำแหน่งคุณผู้หญิงหนานกง”
เฉินลู่เหยาหงุดหงิดอย่างมาก เธอปรายตามองซย่าอี่มั่ว แล้วหันหลังเดินจากไป
“นี่ ลู่เหยา ลู่เหยา!” ซย่าอี่มั่วรีบเดินตามออกไปจากสุสาน
นั่งอยู่บนรถ สีหน้าของเฉินลู่เหยายังคงนิ่งสงบ ทว่าซย่าอี่มั่วยังคงเอาแต่พูดไม่หยุด เป้าหมายของเธอคือการทำลายความสัมพันธ์ของหนานกงเยี่ยและเหลิ่งรั่วปิง และเฉินลู่เหยาก็เป็นหมากเพียงตัวเดียวของเธอ ”ลู่เหยา แกพูดอะไรหน่อยสิ”
เฉินลู่เหยาทอดถอนหายใจ มองดูฝนที่โปรยปรายลงมาด้านหน้ารถด้วยความสับสน ”อี่มั่ว ฉันแทนที่เหลิ่งรั่วปิงได้จริงๆ เหรอ” เธอยังจำได้ดี คืนวันนั้นหนานกงเยี่ยบอกว่า เหลิ่งรั่วปิงคือชีวิตของเขา
นัยน์ตาของซย่าอี่มั่วมีแสงแวววับฉายออกมา ”ได้สิ แกไม่สังเกตเหรอว่าบุคลิกของแกกับเหลิ่งรั่วคล้ายกันมาก นั่นเป็นเพราะหนานกงเยี่ยไม่ลืมแก เลยหาผู้หญิงมาแทนที่แก ตอนนี้แกกลับมาแล้ว คุณหนานกงเยี่ยต้องทิ้งเหลิ่งรั่วปิงเพื่อแกแน่นอน”
“แต่ว่า…” เฉินลู่เหยาหลุบตาลง พยายามคิดไตร่ตรอง ”แต่ว่า คุณหนานกงเยี่ยรักเหลิ่งรั่วปิงมากไม่ใช่เหรอ” ความเป็นจริงเธอไม่ได้กลัวเรื่องที่เหลิ่งรั่วปิงได้รับความรักจากหนานกงเยี่ย แต่เธอไม่มั่นใจในตนเอง เขาไม่เคยมองมาที่เธอ ด้วยแววตาเดียวกับที่มองเหลิ่งรั่วปิง สายตาของเขาที่มองมาที่เธอมีแค่ความบริสุทธิ์ใจ
เห็นเฉินลู่เหยาเงียบ ซย่าอี่มั่วร้อนใจ ”ทำไมแกถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ เฉินลู่เหยาที่กล้าพุ่งชนทุกอย่างคนนั้นหายไปไหนแล้ว แกไม่รู้หรือไง อันที่จริงแล้วคนที่คุณหนานกงเยี่ยรักคือแก ที่เขาตามใจเหลิ่งรั่วปิง เป็นเพราะว่าตอนนี้ยัยนั่นกำลังตั้งท้อง ลูกทำให้แม่ได้ดิบได้ดียังไงล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นเหลิ่งรั่วปิงยังท้องลูกแฝดอีกด้วย” ดวงตาคู่สวยของเธอฉายความเหี้ยมโหด ”ดังนั้น ขอแค่แกคิดหาวิธีทำให้เหลิ่งรั่วปิงแท้ง คุณหนานกงเยี่ยต้องกลับมาหาแกแน่นอน”
เฉินลู่เหยามองซย่าอี่มั่วด้วยความสงสัย ”เขาชอบฉันเหรอ แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า เขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันเลย”
ซย่าอี่มั่ว ”เขาเรียกว่าคนที่อยู่ในเกมอ่านสถานการณ์ไม่ออก ตอนนั้นคุณหนานกงเยี่ยอายุแค่ยี่สิบเอ็ด เขาดีกับแกขนาดนั้น และไม่ได้ออกมาพูดอะไรกับข่าวลือพวกนั้นอีก แค่นี้ก็เพียงพอที่จะบอกว่าเขาชอบแกแล้ว แกรู้สึกว่าสายตาที่เขามองมาที่แกมันบริสุทธิ์ใจ นั่นเป็นเพราะเขาให้เกียรติแก แกคงไม่รู้ใช่ไหม ตอนแรกเหลิ่งรั่วปิงเป็นแค่นางบำเรอที่เขาเลี้ยง ถือเป็นนางบำเรอที่ได้เป็นภรรยาตัวจริง หนานกงเยี่ยไม่ยอมทิ้งเหลิ่งรั่วปิง เพราะยัยนั่นมีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกับแกไม่ใช่หรือไง”
เฉินลู่เหยาเงียบอีกครั้ง ตอนแรกเหลิ่งรั่วปิงเป็นผู้หญิงที่หนานกงเยี่ยเลี้ยงเอาไว้ เรื่องนี้เธอรู้ หรือจะเป็นตามที่ซย่าอี่มั่วบอก สาเหตุที่หนานกงเยี่ยไม่เคยแตะต้องเธอมาก่อน นั่นเป็นเพราะหนานกงเยี่ยให้เกียรติเธอ แต่ที่เหลิ่งรั่วปิงได้รับความรักจากหนานกงเยี่ย เป็นเพราะเหลิ่งรั่วปิงมีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกับเธอ หนานกงเยี่ยแค่ปรารถนาในตัวเหลิ่งรั่วปิงเท่านั้น ตอนนี้ที่เขาคอยตามใจเหลิ่งรั่วปิงทุกอย่าง เป็นเพราะเหลิ่งรั่วปิงท้อง?
ซย่าอี่มั่วเห็นว่าพูดไปพอประมาณแล้ว เธอยิ้มแล้วขยับเข้าไปใกล้เฉินลู่เหยา ”แกยังจะลังเลอะไรอยู่ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของแก เป็นเจ้าของผู้ชายที่แกรักมาโดยตลอด แกไม่ต้องการเหรอ”
เฉินลู่เหยาที่เจ็บปวดกับการสูญเสียผู้เป็นแม่ เงยหน้าขึ้นช้าๆ มองดูฝนที่โปรยปรายนอกหน้าต่างรถยนต์อย่างครุ่นคิด เธอมองเห็นเส้นทางแห่งความสุข
เธอต้องได้รับความรักจากหนานกงเยี่ย!
เวลานี้ เธอไม่มีความลังเลอะไรอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เธอต้องทำคือการทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งไปหาความสุขของตนเอง ถ้าเป็นผู้หญิงของหนานกงเยี่ยไม่ได้ ไม่มีความหมายที่จะมีชีวิตต่อไป สู้ตายตามแม่ไปเลยยังดีเสียกว่า
เฉินลู่เหยาดึงสติกลับมา นัยน์ตาของเธอยังคงนิ่งเฉย ทว่าริมฝีปากของเธอมีรอยยิ้มบางเบา เธอขับรถนิ่งๆ กลับไปยังวิลล่าของตนเอง
กลับไปยังเซฟโซนของตนเอง เธอผ่อนคลายอย่างมาก เปลื้องผ้า แล้วเดินไปแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ อุณหภูมิของน้ำที่อุ่นกำลังดีขจัดเมฆหมอกในใจของเธอออกไปจนหมดสิ้น เฉินลู่เหยามองเพดานอยู่นาน แล้วพูดออกมา ”แม่คะ อย่าโกรธที่หนูไม่เชื่อฟังแม่เลยนะคะ หนูแค่อยากคว้าความสุขของตนเองเอาไว้เท่านั้น”
เธอแช่ตัวอยู่ในน้ำนานเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว ความเศร้าที่อยู่ในใจก็หายไปอย่างน่าแปลก ริมฝีปากบางเผยยิ้ม ใบหน้าของเธอแต้มไปด้วยรอยยิ้ม เธอลุกขึ้นช้าๆ เดินไปใส่เสื้อผ้า เป่าผม แล้วส่งข้อความไปให้หนานกงเยี่ย
‘คุณหนานกง งานศพของคุณแม่เรียบร้อยดีค่ะ ขอบคุณคุณและคุณเหลิ่งรั่วปิงมากนะคะ’
เวลานี้หนานกงเยี่ยกำลังตุ๋นน้ำซุปให้เหลิ่งรั่วปิง มองข้อความที่เฉินลู่เหยาส่งมา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดตามตรง เขาสงสารเฉินลู่เหยา บนโลกใบนี้นอกจากเหลิ่งรั่วปิงแล้ว สิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุดก็คือความปรารถนาสุดท้ายของแม่ ดังนั้นการดูแลเฉินลู่เหยา เป็นหน้าที่หนักอึ้งไม่ต่างกับดูแลอวี้หลานซี
สำหรับเฉินลู่เหยา นอกจากหน้าที่แล้ว เขายังรู้สึกผิด ไม่ว่าอย่างไร ที่แม่ของเธอต้องตาย เพราะเข้ามาเกี่ยวพันกับเขาและพ่อ พูดได้ว่า ตระกูลหนานกงติดค้างเฉินลู่เหยา
ถึงแม้หนานกงเยี่ยจะเป็นคนเย็นชา แต่เขาเป็นคนสำนึกบุญคุณ ดังนั้น วินาทีที่แม่เฉินสิ้นใจ เขาตัดสินใจที่จะดูแลเฉินลู่เหยา ปกป้องเธอไปตลอดชีวิต
เขาหรี่ไฟลงเล็กน้อย แล้วกดโทรหาเฉินลู่เหยา
เฉินลู่เหยาที่นั่งอยู่บนเตียงรอการตอบกลับของหนานกงเยี่ย เมื่อเห็นหนานกงเยี่ยโทรมาหาเธอ เธอก็ดีใจมาก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสองครั้งเธอก็รับสายทันที ”สวัสดีค่ะคุณหนานกง” เสียงของเธอราวกับเด็กสาวที่กำลังรอคอยความรักด้วยความเขินอาย
“อืม” หนานกงเยี่ยตอบสั้นๆ เสียงของเขาฟังดูแล้วเหมือนพี่ชาย ”วันนี้ผมไม่ได้ไปงานศพแม่ของคุณ คุณเสียใจหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะๆ” แม้หนานกงเยี่ยจะมองไม่เห็น แต่เฉินลู่เหยาก็รีบส่ายหน้าทันที ”สิ่งที่คุณหนานกงทำให้ฉันมันมากมายเกินไปแล้ว ฉันเอาแต่คิดทุกวันว่าจะตอบแทนคุณอย่างไรดี”
หนานกงเยี่ยคลายยิ้มบางๆ ”อย่าคิดแบบนี้เลย ถ้าพูดถึงต้นเหตุของเรื่องนี้ ผมเป็นฝ่ายที่ติดค้างคุณ หลังจากนี้คุณคิดว่าผมเป็นพี่ชายของคุณคนหนึ่งแล้วกัน ผมจะถือว่าการดูแลคุณคือหน้าที่ของผม
หัวใจของเฉินลู่เหยาเริ่มเต้นแรง ความรักแผ่กระจายออกมารอบตัว ”คุณหนานกง ขอบคุณมากนะคะ” เสียงของเธอเริ่มสะอื้น ”ถ้าได้รับความรักจากคุณหนานกงไปทั้งชีวิต แม้ว่าต้องตายฉันก็ยินดีค่ะ”
หนานกงเยี่ยยิ้มด้วยความใจดี ”หยุดโง่ได้แล้วครับ อย่าเอาแต่พูดคำว่าตาย เรื่องแม่ของคุณ ผมรู้สึกผิดมาก คุณเองก็ไม่ต้องเสียใจเกินไป พักผ่อนให้มากๆ แล้วค่อยกลับไปทำงาน ผมจะให้ก่วนอวี้เลือกผู้จัดการที่ดีที่สุดให้คุณ ผมจะช่วยสนับสนุนงานของคุณให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”
“ค่ะ” เฉินลู่เหยาพยักหน้า ”คุณหนานกง พรุ่งนี้ฉันขอเลี้ยงข้าวคุณได้ไหมคะ” ด้วยความที่กลัวว่าหนานกงเยี่ยจะปฏิเสธเธอจึงรีบพูดเสริม ”คุณเป็นญาติเพียงคนเดียวของฉัน นอกจากคุณแล้วฉันไม่รู้จะเปลื้องทุกข์กับใคร ฉันคิดถึงแม่มาก ถ้าหากคุณเหลิ่งรั่วปิงถือสา ฉัน…ฉันเหมือนเด็กกำพร้าเลยค่ะ”
น้ำตาของเฉินลู่เหยาทำให้ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจของหนานกงเยี่ยปะทุขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ้ม ”สบายใจเถอะครับ รั่วปิงไม่ได้เป็นคนคิดเล็กคิดน้อย พรุ่งนี้คุณมาวิลล่าหย่าเก๋อ ถือเป็นการแนะนำตัวให้เธอรู้จักอย่างเป็นทางการ”
น้ำตาที่คลอเบ้าในดวงตาคู่สวยสั่นเทา ”ค่ะ”
วางสาย ตอนที่หนานกงเยี่ยหันไป เห็นเหลิ่งรั่วปิงยืนเงียบๆ อยู่ที่ประตูห้องครัว ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับจืดชืดมาก
หนานกงเยี่ยยิ้มด้วยความประหม่า ชูโทรศัพท์ ”ลู่เหยาโทรมาครับที่รัก”
เหลิ่งรั่วยังคงยิ้ม แต่น้ำเสียงของเธอนิ่งเฉย ”ฉันพอจะฟังออกค่ะ ไม่อย่างนั้นจะมีใครบ้างที่ทำให้คุณอ่อนโยนได้แบบนี้”
เหลิ่งรั่วปิงเคยเจอเฉินลู่เหยาแค่ไม่กี่ครั้ง ครั้งแรกที่เจอกันคือที่ไนท์คลับเฟิ่งหวงไถ แต่จบไม่สวยเท่าไร เจอกันอีกครั้ง ที่โรงพยาบาล ตอนที่แม่ของเฉินลู่เหยาสิ้นใจ ทั้งสองครั้งที่เจอกัน เธอไม่รู้สึกถึงเจตนาที่ดีของเฉินลู่เหยา ถึงแม้เฉินลู่เหยาจะเก็บซ่อนมันเอาไว้ ส่งยิ้มให้เธอ พูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ แต่ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนไหว เหลิ่งรั่วปิงสัมผัสได้ถึงเจตนาที่ไม่ดีของเฉินลู่เหยา
เฉินลู่เหยาแตกต่างกับอวี้หลานซี อวี้หลานซีในตอนนั้นเป็นคนตรงๆ ไม่เจ้าแผนการ แค่ต้องการใช้ความสนิทเหนี่ยวรั้งหนานกงเยี่ยเอาไว้ ดังนั้นจึงไม่ใช่คนที่น่ากลัว แต่เฉินลู่เหยาเป็นนักแสดงชื่อดัง เธอแสดงละครสมบาทบาท ถึงแม้หนานกงเยี่ยจะตาแหลมคมเหมือนนกอินทรี แต่เขามีความรู้สึกผิดและมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นการที่เฉินลู่เหยาได้รับความไว้วางใจจากเขาไม่ใช่เรื่อยาก
เหลิ่งรั่วปิงรู้ข้อนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไร
หนานกงเยี่ยยิ้ม แล้วจับมือเหลิ่งรั่วปิง ”ทำไมเหรอครับ คุณหึงเหรอ”
เหลิ่งรั่วปิงดึงมือตัวเองกลับ นั่งบนเก้าอี้ สีหน้าเรียบเฉย ”คุณบอกว่าการที่ฉันหึงคุณถึงจะสบายใจไม่ใช่เหรอคะ”
หนานกงเยี่ยรู้สึกหนักอึ้งในใจ เขาชอบเวลาที่เธอหึง เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญสำหรับเธอ แต่การหึงหวงมีหลายอย่าง ถ้าเธอหึงแล้วออดอ้อน เขายินดีที่จะง้อเธอ แต่การที่เธอหึงด้วยความเย็นชาแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกปวดใจ
หนานกงเยี่ยนั่งลงข้างๆ เหลิ่งรั่วปิง มองสีหน้าของเธอด้วยความน้อยใจ ”คุณไม่เชื่อใจผมเหรอครับ”
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้น ”บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เชื่อใจได้ทั้งหมด คุณหนานกงเยี่ย ฉันเชื่อใจคุณ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเชื่อใจคุณไปตลอดชีวิต”
หนานกงเยี่ยถอนหายใจ ”ที่รักครับ ลู่เหยาเป็นลูกสาวของผู้มีพระคุณของแม่ผม แม่ของผมท่านฝากฝังเอาไว้ ผมมีหน้าที่ต้องดูแลเธอ นอกจากเรื่องนี้ ผมยังรู้สึกผิดกับเธอมากด้วย แม่ของเธอต้องตายเพราะตระกูลหนานกง ผมต้องชดเชยให้เฉินลู่เหยา”
เหลิ่งรั่วปิงยังคงยิ้มเฉยเมย ”คุณพูดถูก แม่ของเฉินลู่เหยาต้องตายเพราะตระกูลหนานกง แต่ความขัดแย้งของตระกูลหนานกง เกิดขึ้นเพราะฉัน ดังนั้นคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคือฉัน ฉันเป็นคนที่ติดค้างเฉินลู่เหยา”
“ที่รักครับ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น” หนานกงเยี่ยมองใบหน้าที่กลมมนและสวยมากกว่าเดิมของหญิงสาว ภายในใจของเขามีหลุมดำก่อตัวขึ้น บางทีระหว่างพวกเขาอาจจะตายแทนกันได้ แต่ไม่ถึงขั้นที่จะยอมรับทุกเรื่องได้ ”คุณไม่ชอบที่ผมคอยดูแลลู่เหยาเหรอครับ”