เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 853 ความสุขก่อนแยกจาก

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 853 ความสุขก่อนแยกจาก

บทที่ 853 ความสุขก่อนแยกจาก

ฉู่ชูเหยียนตื่นตระหนก “พูดจาระวังหน่อย!”

นางมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าไม่มีใครได้ยินอะไรจึงพูดเบา ๆ ว่า “ทูตยุทธ์เสื้อแพรคือหูและตาขององค์จักรพรรดิ และจูเซี่ยฉือซินเป็นข้าราชบริพารที่ซื่อสัตย์ที่สุดขององค์จักรพรรดิ! ถ้าเรื่องที่เจ้าพูดรู้ไปถึงหูของพระองค์ เจ้าตายแน่!”

แต่ซูอันดูเหมือนจะไม่สนใจ เขายักไหล่แล้วพูดว่า “สถานะของข้าเป็นนักโทษแบบนี้แล้ว ต่อให้จักรพรรดิจะรู้หรือไม่รู้ คำพูดของข้ามันก็ไม่สำคัญหรอก”

ฉู่ชูเหยียนค่อย ๆ จับมือของเขาเพื่อปลอบโยน ผ่านไปครู่หนึ่งก่อนที่นางจะพูดอีกครั้ง “อันที่จริงข่าวลือหลายเรื่องที่คล้ายกับความคิดของเจ้าถูกพูดคุยกันอยู่บ้าง แต่ทว่าหากไม่มีหลักฐานพวกมันก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น”

ซูอันยิ้ม “เรื่องแบบนี้จะมีหลักฐานหลงเหลือได้อย่างไร นอกเสียจากเจ้าตัวทั้งสองจะเผยเอง? ช่างเถอะ มีอย่างอื่นที่ข้าอยากรู้มากกว่า องค์ชายคนอื่น ๆ ทั้งหมดดูฉลาดเฉลียว แต่ทำไมรัชทายาทกลับเป็นคนเดียวที่สติปัญญาต่ำต้อย?”

ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้ว “ไม่มีใครสามารถเข้าใจในเรื่องนี้ได้เช่นกัน คนเผ่ามารอ้างว่ามือของจักรพรรดิเปื้อนเลือดของผู้บริสุทธิ์มากมายและนี่คือผลกรรมที่เขาควรรับ บางคนเชื่อว่าอาจมีคนทำอะไรบางอย่างกับรัชทายาทในขณะที่ยังเด็ก…แน่นอนว่านี่เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นและอาจไม่มีมูลความจริงเลย”

เมื่อมีควันย่อมต้องมีไฟ ข่าวลืออาจจะมีมูลอยู่บ้างก็ได้

ซูอันคิดในใจ

เมื่อคุยเรื่องสำคัญเสร็จแล้วพวกเขาก็หันมาสนใจเรื่องส่วนตัวมากขึ้น ฉู่ชูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “อาซู ตระกูลฉู่รู้สึกขอบคุณจริง ๆ สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ตระกูลของเราอาจจะถูกทำลายไปแล้ว เรายังไม่เคยมีโอกาสแสดงความขอบคุณจริง ๆ จัง ๆ ต่อเจ้าเลย”

ซูอันหัวเราะและพูดว่า “แล้วเจ้าไม่ใช่ภรรยาของข้าเหรอ? ข้าจะช่วยใครได้อีกถ้าข้าไม่ช่วยเจ้า?”

ฉู่ชูเหยียนส่ายหัว “บางทีสามีภรรยาก็ไม่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปทุกเรื่อง หลายคู่พอเจอปัญหาในชีวิตต่างก็เลิกรา ทิ้งให้อีกฝ่ายจมอยู่ในปัญหา อาซู เจ้าทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายเพื่อตระกูลฉู่ มีสามีไม่กี่คนในโลกนี้หรอกที่เป็นได้อย่างเจ้า”

ซูอันเอนหลัง “มันก็จริง แล้วเจ้าคิดจะขอบคุณข้าอย่างไร? ใช้แค่คำพูดไม่ได้นะ มันไม่จริงใจเลย”

ฉู่ชูเหยียนหน้าแดง นางขยับเข้ามาใกล้และจูบเขา

เมื่อนางกำลังจะถอยกลับ แขนคู่หนึ่งโอบรอบเอวของนางไว้แน่นจากนั้นริมฝีปากอุ่นก็บดลงที่ริมฝีปากของนาง

ร่างกายของฉู่ชูเหยียนแข็งค้างชั่วขณะก่อนจะผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว ต้อนรับการแสดงความรักของสามีอย่างสุขสม

แต่แล้วอากาศหนาวที่จู่ ๆ สัมผัสกับผิวกายนางโดยตรงอย่างกะทันหันทำให้นางสะดุ้ง เมื่อได้สติเต็มที่นางผลักเขาออกไปอย่างรวดเร็ว

ถ้าเขาแค่ล้วงมือเข้าไปในเสื้อผ้าของนางก็ยังพอรับได้ แต่คนหน้าด้านผู้นี้ได้เริ่มถอดเสื้อผ้าของนางแล้ว!

ข้างนอกยังมีผู้คนมากมาย แก้มของนางแดงก่ำ

สามีตัวแสบนี่เก่งขึ้นเรื่อย ๆ! เขาอาจจะฝึกฝนกระบวนท่าร่วมรักกับเพ่ยเหมียนหมานในมิติลับมาแล้วเป็นพันครั้ง!

ด้วยความขุ่นเคืองกับความคิดนี้ นางจึงขยับเข้าไปใกล้และกัดไหล่ของเขา

“โอ๊ย!” ซูอันร้อง

อะไรเนี่ย?!

นางลงโทษข้าในสิ่งที่ข้าเพิ่งทำหรือเปล่า? แต่เราเคยทำอย่างนี้กันมาหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอ?

ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่านางกำลังหึงผู้หญิงคนอื่นอยู่

“ข้าไปก่อนล่ะ คงไม่ดีแน่ถ้าข้าอยู่ในรถม้านี้ตลอดเวลา” ฉู่ชูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง นางออกจากรถม้าหลังจากจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว

ซูอันหดหู่อยู่พักหนึ่งก่อนจะเริ่มตรวจสอบสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่ในดวงแก้วผู้รอบรู้เพื่อตรวจสอบว่ามีสิ่งที่เขาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในอนาคตได้อีกหรือไม่

ชายหนุ่มไม่ต้องการทำพลาดเหมือนคราวที่แล้วที่ลืมคุณสมบัติในการสร้างความเสียหายให้กับเหล่าภูติผีของพลังปฐมบทแรกเริ่ม

หลังจากตรวจสอบไปได้สักพักเขาค้นพบคัมภีร์ ‘ดาบอัคคี’ เขาเคยอยากฝึกมันมาก่อน แต่ไม่สามารถฝึกฝนมันได้เพราะเขาไม่ใช่ผู้บ่มเพาะธาตุไฟ แต่ตอนนี้เขาสามารถยืมธาตุไฟของต๋าจี่ได้แล้วเขาจึงอยากลองฝึกมันดู

ซูอันถึงกับเรียกต๋าจี่ออกมาเพื่อดูว่านางจะเรียนรู้มันได้หรือไม่ เพราะนางเป็นผู้ใช้ธาตุไฟ แต่น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดนางไม่สามารถเรียนรู้ได้เพราะไร้ซึ่งวิญญาณ ซูอันยอมแพ้หลังจากพยายามหลายครั้ง “ข้าน่าจะให้เหมียนหมานลองดู”

เขาจำได้ว่านางมีทักษะที่เรียกเปลวไฟของนางออกมาเป็นรูปลักษณ์มังกรและดอกกุหลาบ ดังนั้นการเรียนรู้ทักษะนี้น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

เขาสงบสติอารมณ์และเริ่มตั้งสมาธิ ท่าทางการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของทักษะดาบอัคคีค่อย ๆ ปรากฏในหัว แต่น่าเสียดายที่ไม่มีพื้นที่พอจะทดสอบมัน

โดยการนำของจูเซี่ยฉือซิน อ๋องเหลียง หลิวเหย่า และกองทหารขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยเหล่าทูตยุทธ์เสื้อแพรและราชองครักษ์ มันไม่มีทางเลยที่จะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นแบบก่อนหน้าอย่างเช่นกลุ่มนักฆ่ากลุ่มเล็ก ๆ เข้าโจมตี มีเพียงกองทัพกบฏขนาดยักษ์เท่านั้นที่จะมีโอกาส

ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้เมืองหลวงมากขึ้น ฉู่ชูเหยียนก็เริ่มกังวลและรู้สึกเสียใจ ซูอันอาจจะพบกับจุดจบ แต่นางกลับปล่อยให้ความหึงหวงเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ามาเป็นปัญหาระหว่างทั้งคู่!

ทหารองครักษ์หลายคนพยายามเข้ามาใกล้เพื่อพูดคุยกับนาง ซึ่งนางคิดว่ามันน่ารำคาญมาก

แต่ฉู่ชูเหยียนก็เลือกตอบเพียงสั้น ๆ ห้วน ๆ แล้วกลับเข้าไปในรถม้า

ทหารเหล่านั้นถอนหายใจเมื่อมองดูร่างที่งดงามของนางหายไปจากสายตา “นางเป็นเหมือนเทพธิดาจากสวรรค์ชั้นที่เก้า! ทำไมซูอันถึงโชคดีขนาดนี้!”

“มันน่ะเหรอโชคดี? เราเกือบจะถึงเมืองหลวงแล้ว มันเหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่จะมีชีวิตอยู่!”

“ใครจะสนล่ะ? ถ้าข้าสามารถเป็นสามีของแม่นางฉู่ได้แม้เพียงวันเดียว ข้าจะไม่ทำอะไรเลยนอกจากกอดนาง แม้ว่าข้าจะตายในวันพรุ่งนี้”

“เจ้านี่มันชั่วช้าลามกจริง ๆ!”

“แล้วอย่างไรล่ะ เป็นเจ้าจะไม่ทำเหรอ?”

“แน่นอน ข้าไม่ทำ! ข้าต้องการเวลาอย่างน้อยสองวัน!”

ในขณะเดียวกันภายในรถม้า ซูอันอดหัวเราะไม่ได้ “ดูเหมือนว่าเสน่ห์ของเจ้าจะยังคงร้ายกาจเหมือนเดิม”

ฉู่ชูเหยียนหน้าแดง “แม้แต่เจ้าก็ยังล้อเลียนข้า” นางพูดอย่างอาย ๆ

แน่นอนว่านางได้ยินสิ่งเหล่าทหารพูดลับหลังเช่นกัน แม้ว่านางจะรำคาญเล็กน้อยแต่ก็ตัดสินใจที่จะปล่อยผ่าน นางไม่ใช่คนที่จะตัดลิ้นใครเพียงแค่เขาพูดจาไม่เข้าหู

จู่ ๆ นางก็ย่นจมูก “หืม? ทำไมมีกลิ่นแปลก ๆ ในนี้?”

ซูอันเริ่มที่จะเหงื่อแตก มันคงเป็นกลิ่นของต๋าจี่ที่ลอยอยู่ในอากาศ

ที่แปลกคือ แม้ว่าต๋าจี่ไม่มีแม้แต่วิญญาณจึงไม่มีทางที่นางจะใส่น้ำหอมใด ๆ ที่ร่างกายของตัวเองได้ แล้วกลิ่นนี้มันมาจากไหนกัน?

นอกจากนี้จมูกของภรรยาข้าก็เหมือนสุนัข! ทำไมนางจึงอ่อนไหวต่อกลิ่นของคนอื่นเช่นนี้? ในเมื่อพวกเราทุกคนก็เป็นคนเหมือนกัน!

เขาไม่กล้าเรียกต๋าจี่ออกมาให้นางดู เมื่อไม่กี่วันก่อนฉู่ชูเหยียนได้แสดงอาการหึงหวงออกมา เขาไม่ได้อยากหาเรื่องตายก่อนเวลาอันควรด้วยการเรียกผู้หญิงคนอื่นมาแนะนำให้นางรู้จัก…

ซูอันคิดว่าควรจะเล่าให้นางฟังหลังจากที่นางสงบลงเล็กน้อย

ชายหนุ่มเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว “เจ้าบอกว่ามันจะดีกว่าถ้าเจ้าไม่อยู่ในรถม้านี้ตลอดเวลา ทำไมตอนนี้เจ้ากลับเข้ามาอยู่กับข้าล่ะ?”

ฉู่ชูเหยียนถอนหายใจ “อาซู เรามีเวลาอีกแค่สามวันก่อนที่เราจะไปถึงเมืองหลวง…”

ซูอันตกตะลึง ชายหนุ่มรู้ว่านางเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา จากมุมมองของนาง อนาคตของเขาคงดูสิ้นหวัง

ทว่าก่อนที่จะทันได้ปลอบโยนนาง ริมฝีปากนุ่มก็ประทับลงที่ริมฝีปากของเขาก่อนแล้ว

หลังจากการตกตะลึงในตอนแรก ซูอันก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่านางมีความกระตือรือร้นที่จะแสดงความรักอย่างมากเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกตลอดไป…

ซูอันรู้สึกรุ่มร้อนขึ้นมาทันทีและเขาสวมกอดเอวที่เพรียวบางของนางอย่างเสน่หา

ทันใดนั้นฉู่ชูเหยียนโบกมืออย่างแผ่วเบาและเกล็ดหิมะจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นโบยบินไปรอบ ๆ ทั้งสองคน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท