เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 871 คำตอบอันน่าตกตะลึง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 871 คำตอบอันน่าตกตะลึง

บทที่ 871 คำตอบอันน่าตกตะลึง

ซูอันรู้สึกผิดหวังกับตัวเอง เขาอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงตายอย่างยิ่ง ประกอบกับไม่แน่ใจว่าหมวกแห่งการให้อภัยจะทำงานกับจักรพรรดิได้ตามปกติหรือไม่ เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เขาเคยเจอมา มันจะเป็นหายนะถ้าอีกฝ่ายครอบครองบางสิ่งที่ทำให้ผลของหมวกเป็นโมฆะ

แม้ชายหนุ่มจะไม่ได้เดิมพันทั้งหมดกับหมวกแห่งการให้อภัย แต่ทุกอย่างจะราบรื่นขึ้นมากถ้ามันทำงานได้ตามปกติ

ขณะที่ความคิดของซูอันล่องลอยไป จักรพรรดินั่งหลับตาอย่างสงบบนบัลลังก์มังกร ซูอันไม่รู้ว่าหมวกแห่งการอภัยกำลังทำงานอยู่หรือไม่ หรือจักรพรรดิกำลังตรวจสอบเนื้อหาของวิชาวัฏจักรหงส์อมตะกันแน่

จักรพรรดิค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สีหน้าของเขาอ่านยาก ไม่นานต่อมาเขาก็พึมพำกับตัวเองว่า “ของบางอย่างก็ไม่คุ้มค่าที่จะกิน แต่การทิ้งไปก็ยังน่าเสียดาย”

“ฝ่าบาททรงเข้าใจความหมายของความเป็นอมตะแล้วงั้นหรือ?” ซูอันถามอย่างระมัดระวัง แน่นอนว่าซูอันไม่ได้ใส่เนื้อหาวิชาวัฏจักรหงส์อมตะอย่างถูกต้องทั้งหมดเอาไว้ในหมวก ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะโง่พอที่จะมอบไพ่ตายของตัวเองให้คนอื่นทั้งหมด

แน่นอนว่ามันไม่ใช่ของปลอมทั้งหมด ทว่าเป็นเนื้อหาจริงเก้าในสิบส่วน อย่างไรก็ตาม ส่วนเดียวของเนื้อหาเท็จก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้การฝึกเก้าส่วนที่เหลือเป็นสิ่งไร้ค่า

เขาเลียนแบบเรื่องราวใน ‘มังกรหยก’ ตอนที่อึ้งย้งใช้ ‘คัมภีร์เก้าอิม’ ปลอมทำให้อาวเอี๊ยงฮงกลายเป็นบ้า

ระดับการบ่มเพาะของจักรพรรดินั้นสูงล้ำเกินไป และน่าจะสามารถมองของปลอมออกได้ง่าย ๆ นี่คือเหตุผลที่เขาไม่กล้าดัดแปลงมันมากเกินไป

และแน่นอนว่าการดัดแปลงวิชานี้ก็เกินกำลังของเขา ดังนั้นหน้าที่การดัดแปลงจึงเป็นของหมี่ลี่ซึ่งน่าจะเป็นคนเดียวในโลกปัจจุบันที่มีความรู้เพียงพอที่จะทำได้

อันที่จริงตอนนั้นท่าทีของหมี่ลี่ค่อนข้างแปลกเมื่อรู้ว่าเขาเต็มใจที่จะแบ่งปันวิชาวัฏจักรหงส์อมตะกับนาง

“ทักษะต่ำช้าเช่นนี้มีอยู่ในโลกได้อย่างไร? มันต้องการให้เราถูกทุบตีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง!” จักรพรรดิขมวดคิ้ว “เจ้าโดนซ้อมบ่อยมากเลยหรือ?”

ซูอันตอบว่า “ถูกต้องแล้วพะยะค่ะ กระหม่อมเดินอยู่กลางเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตายมาหลายครั้ง โดนทุบตีมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”

จักรพรรดิบ่น “ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าดูเป็นคนต่ำช้าเช่นกัน”

ซูอันรู้สึกเหมือนถูกต่อยเข้าที่หัว

ชายหนุ่มอยากจะตบหน้าสั่งสอนผู้ชายคนนี้จริง ๆ แต่แน่นอนว่าด้วยความแตกต่างในการบ่มเพาะ เขาจะจบลงด้วยการเป็นคนที่โดนสอนบทเรียนแทน ดังนั้นซูอันจึงโยนความคิดนี้ทิ้งไป เขาทำได้เพียงจ้องมองหมวกสีเขียวและแอบเพลิดเพลินกับชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้

“ข้าเป็นโอรสสวรรค์” จักรพรรดิรำพึง “ใครในโลกนี้จะกล้าทุบตีข้า? หมัดของใครจะเอื้อมมาถึงข้าได้? และที่แย่ที่สุดคือต้องทำลายการบ่มเพาะเดิมเพื่อละทิ้งเคล็ดวิชาทั้งหลายที่เคยบ่มเพาะมาทั้งชีวิตเพื่อเริ่มต้นใหม่โดยการบ่มเพาะวิชานี้เพียงอย่างเดียว สิ่งที่ข้าขาดที่สุดคือเวลาข้าไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับมัน!”

ซูอันแสร้งทำเป็นกังวล “แต่ว่าเคล็ดวิชานี้เลิศล้ำที่สุดเกินกว่าที่วิชาใดมาเปรียบไม่ได้จริง ๆ นะพะย่ะค่ะ ฝ่าบาทนั้นทรงพระปรีชาเลิศล้ำอยู่แล้ว ดังนั้นใครจะไปรู้ ฝ่าบาทอาจจะสามารถบ่มเพาะมันได้เร็วกว่าที่ฝ่าบาทคิดก็เป็นได้”

จักรพรรดิส่ายหัว “ไม่ว่าข้าจะฝึกมันได้เร็วแค่ไหนก็ยังมีขีดจำกัด นอกจากนี้ความต้องการพลังชี่ที่ต้องใช้เพื่อการทะลวงระดับนั้นมหาศาลอย่างยิ่ง มากจนข้าเองก็ยังงงงัน ต่อให้คน ๆ หนึ่งสามารถเริ่มบ่มเพาะจากภายในครรภ์ของมารดาได้ เขาก็คงไม่สามารถบรรลุความเป็นอมตะได้ก่อนจะหมดอายุขัยแน่นอน ก่อนหน้านี้ข้ายังสงสัยอยู่เสมอว่าเหตุใดจึงไม่มีใครบรรลุความเป็นอมตะอย่างแท้จริง ทั้ง ๆ ที่วิชาวัฏจักรหงส์อมตะได้ปรากฏขึ้นหลายครั้งในอดีต ที่แท้การสำเร็จวิชานี้แทบไม่มีโอกาสเลย”

ด้วยสถานะของเขา เขาจะทำลายการบ่มเพาะของตัวเองที่สร้างมากับมือได้อย่างไร? พวกที่จ้องมองราชบัลลังก์ของเขาจะไม่ก่อกบฏในทันทีหรือ? เขาจะพึ่งพาอะไรเพื่อระงับความโกลาหลที่จะเกิดขึ้นได้?

เมื่อเขาตาย อาณาจักรทั้งหมดจะล่มสลาย และความเป็นอมตะที่เขาแสวงหามาตลอดก็คงไร้ประโยชน์!

ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะสูงสุดในโลก สิ่งนี้ชัดเจนเพียงพอสำหรับเขา บางทีคนอื่นอาจมองไม่เห็นปัญหาของความเป็นอมตะ แต่ไม่ใช่เขา

จักรพรรดิมองซูอันแปลก ๆ “จูเซี่ยฉือซินรายงานเรื่องผิดปกติกับข้าว่าเจ้ามีโอกาสหลายครั้งที่จะหลบหนีไป แต่เจ้ากลับไม่เคยทำ ทั้งยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีราวกับไม่สนใจชีวิตของตัวเอง เราสองคนมักสับสนในเรื่องนี้อยู่เสมอ แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าเหตุใด เจ้ารู้อยู่เต็มอกอยู่แล้วว่าไม่มีทางที่ข้าจะบ่มเพาะวิชานี้ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงไม่กังวลถูกต้องหรือไม่?”

“ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่งแล้ว” ซูอันโค้งคำนับท่าทางของเขาอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างสมบูรณ์แบบ

นี่คือเหตุผลที่เขาเดินทางมาเมืองหลวงอย่างมั่นใจ หากจักรพรรดิอยู่ในช่วงวัยรุ่น ซูอันจะไม่มีวันเสี่ยงที่จะมาเมืองหลวง อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่าจักรพรรดิใกล้จะสิ้นพระชนม์ ทำให้เขามีโอกาสสำหรับการเจรจา

ส่วนหมวกแห่งการให้อภัยเป็นเพียงหลักประกันอีกอย่างหนึ่งเท่านั้น

ทว่าจู่ ๆ จักรพรรดิเยาะเย้ยเขา “น่าเสียดายที่เจ้าคำนวณผิด แม้ว่าข้าจะไม่บ่มเพาะวิชาวัฏจักรหงส์อมตะนี้ แต่เจ้าอายุน้อยกว่าข้า เจ้ายังมีความหวัง เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้ผู้ที่มีโอกาสบรรลุความเป็นอมตะมีชีวิตอยู่ได้หรืออย่างไร?”

ซูอันยังคงสงบ “ฝ่าบาท พระองค์เพิ่งตรัสว่าไม่มีทางที่ใครจะสามารถบ่มเพาะวิชานี้ได้อย่างสมบูรณ์จนได้รับความเป็นอมตะ ดังนั้นกระหม่อมจะบรรลุความเป็นอมตะได้อย่างไรพะย่ะค่ะ? ถ้ากระหม่อมมีโอกาสบ่มเพาะมันได้สำเร็จจริง ๆ กระหม่อมคงไม่มาที่เมืองหลวงแน่ แต่คงไปหลบซ่อนตัวเพื่อฝึกฝนมันอย่างเงียบ ๆ”

ซูอันไม่ได้โกหก เพราะเขารู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะก้าวหน้าด้วยการพึ่งพาวิชาวัฏจักรหงส์อมตะเพียงอย่างเดียว แม้ว่าจะมีระบบคีย์บอร์ดสนับสนุนเขา มันก็ยังเป็นไปได้ยาก จำนวนคะแนนความโกรธแค้นที่จำเป็นในการเติมเต็มอักขระระดับการบ่มเพาะในภายหลังนั้นเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ซึ่งทำให้ความสำเร็จนั้นยากที่จะเป็นไปได้ยิ่งขึ้นไปอีก

จักรพรรดิถอนหายใจ เขาตระหนักว่าเขาสูญเสียความสงบไปครู่หนึ่ง ความตื่นเต้นของตัวเองที่มีต่อความเป็นอมตะทำให้เขารู้สึกผิดหวัง การกระทำของเขาขัดกับคำพูดของตัวเอง

เขาเย้ยหยันซูอัน “การแสดงไหวพริบต่อหน้าตัวข้าผู้เป็นจักรพรรดิไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด”

ซูอันได้ตอบกลับ “กระหม่อมไม่ได้พยายามที่จะโอ้อวด แค่เพียงพูดความจริงพะย่ะค่ะ”

จักรพรรดิจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเปลี่ยนเรื่อง “เจ้ามีความเห็นอย่างไรกับรัชทายาท?”

ซูอันรู้สึกประหลาดใจกับคำถามนี้ ในฐานะพ่อของเขา เจ้าไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าลูกชายของเจ้าเป็นอย่างไร?

แน่นอน เขาไม่ได้โง่เขลาถึงขนาดกล้าพูดว่าองค์รัชทายาทมีสติปัญญาต่ำ ผู้เป็นบิดาย่อมไม่อยากจะได้ยินเรื่องแบบนี้ “รัชทายาทนั้นเป็นคนที่เรียบง่ายและใสซื่อ พระจริยวัตรของรัชทายาทงดงามตามแบบฉบับบรรพบุรุษของเรา”

ซูอันอยากจะร้องไห้ เจ้าคิดว่ามันง่ายที่ข้าจะคิดเรื่องเหลวไหลที่มีไหวพริบแบบนี้ออกมาหรือไม่?

จักรพรรดิตกตะลึงชั่วขณะ จากนั้นรอยยิ้มก็ค่อย ๆ แผ่ไปทั่วริมฝีปากของเขา “เจ้านี่มันช่างเจ้าเล่ห์”

ซูอันใช้โอกาสนี้สอบถามเพิ่มเติม “ฝ่าบาททรงตั้งพระทัยให้หลี่กงกงพาข้าไปพบองค์รัชทายาทหรือเปล่าพะย่ะค่ะ?”

เขาเคยเป็นจักรพรรดิในมิติลับซากเมืองอินซวี ดังนั้นเขาจึงเข้าใจจิตใจของผู้ปกครอง บางครั้งก็เป็นการดีกว่าที่จะหยิบยกประเด็นสำคัญขึ้นในเวลาที่เหมาะสม

จักรพรรดิหัวเราะกึกก้อง “เจ้านั่นถูกหั่นเป็นลูกเต๋าและให้เป็นอาหารสุนัขไปแล้ว!”

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท