บทที่ 295 รั่วไหล
บทที่ 295 รั่วไหล
หลินเหม่ยเจินเห็นเฮ่อหลานกับถังเซวี่ยเดินเข้ามา จึงรีบกล่าวทักทายพวกเขา “ไม่ต้องห่วงจ้ะอาหลาน เจ๋อหยวนสบายดี ตอนนี้เขาตื่นแล้ว ฉันเลยว่าจะไปหาอะไรทานสักหน่อย แต่เธอเอาอาหารมาให้พอดี ดีจริง ๆ”
เฮ่อหลานได้ยินหลินเหม่ยเจินบอกว่าโม่เจ๋อหยวนสบายดี ก็โล่งอกมาก
“ดีแล้วที่เจ๋อหยวนสบายดี พวกเราเอาอาหารมาเยอะเลย คงต้องทานด้วยกันแล้วแหละ อีกอย่างฉันทำโจ๊กกับซุปให้กับเจ๋อหยวนด้วย เขาต้องกินอาหารอ่อน ๆ ก่อนช่วงนี้”
หลินเหม่ยเจินช่วยถือกระติกน้ำร้อนก่อนจะเอ่ยปากว่า “อาหลานขอบคุณมากนะ ยังอุตส่าทำซุปมาให้ด้วย”
ขณะทั้งสองพูดคุยกันอยู่ พวกเธอก็เริ่มจัดอาหาร
โม่เจ๋อหยวนที่เพิ่งฟื้นและยังไม่สามารถลุกได้ หลินเหม่ยเจินจึงต้องป้อนซุปให้เขา ส่วนโจ๊กเขายังทานไม่ได้ จึงยังไม่ได้กิน
ถังซวงและหลินเหม่ยเจินกินอาหารไปเยอะมาก
โดยเฉพาะถังซวงที่ก่อนหน้านี้จมอยู่กับความเครียด พอความเครียดหายไปจึงรู้สึกหิวมากเป็นพิเศษ อาหารที่เฮ่อหลานนำมาให้เลยหมดเกลี้ยง
เมื่อเห็นว่าพี่สาวหิวมากขนาดไหน ถังเซวี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่คะ อิ่มไหม? ถ้าไม่อิ่ม ฉันจะไปเอาอาหารมาให้อีกค่ะ”
ถังซวงส่ายหัวอย่างรวดเร็วก่อนจะตอบว่า “ไม่เป็นไร ฉันอิ่มแล้ว และนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย เธอกับแม่ควรกลับบ้านได้แล้วล่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนก็พูดขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ กลับไปพักผ่อนเถอะ ที่นี่มีหมอกับพยาบาลอยู่ด้วย ไม่ต้องกังวลหรอก”
หลินเหม่ยเจินพูดขึ้นจากด้านข้าง “ใช่จ้ะซวงเอ๋อร์ ฉันจะอยู่เฝ้ากับเจ๋อหยวนเอง เธอกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะจ้ะ”
ถังซวงกังวลเล็กน้อย อีกอย่างที่โม่เจ๋อหยวนต้องเจ็บตัวก็เพราะช่วยเธอไว้ เธอจึงไม่อยากจะปล่อยเขาไว้คนเดียว “ป้าหลินคะ ฉันดูแลเขาได้ค่ะ ให้ฉันอยู่ที่นี่ต่อเถอะนะคะ เพราะฉันมียาจะให้พี่โม่กินต่อ เขาจะได้หายเร็วขึ้นค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น หลินเหม่ยเจินไม่ปฎิเสธ เพราะเธอเองก็อยากให้ลูกชายหายเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าลูกสาวคนโตตัดสินใจแล้ว เฮ่อหลานไม่ห้ามอะไร “ซวงเอ๋อร์ งั้นแม่กับเสี่ยวเซวี่ยกลับก่อนนะจ๊ะ”
“ค่ะ เดี๋ยวหนูไปส่ง”
ทั้งสามแม่ลูกเดินออกไปด้วยกัน จู่ ๆ ถังซวงก็พูดถึงการบาดเจ็บของโม่เจ๋อหยวน “แม่คะ พี่โม่ต้องเจ็บตัวเพราะเอาตัวมาบังกระสุนให้หนู เขา… ไม่คิดถึงชีวิตตัวเองเลย”
หลังจากเฮ่อหลานได้ยินอย่างนี้แล้ว เธอหันมองลูกสาวคนโตก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างอดไม่ได้ “เราเห็นแล้วว่าเจ๋อหยวนปฏิบัติกับลูกแตกต่างจากคนอื่น ไม่แปลกเลยที่เขาจะทำแบบนั้น”
แม้แต่ถังเซวี่ยก็ยังกล่าว “ใช่ค่ะ ทั้งหัวใจและสายตาของพี่โม่มีแต่พี่เสมอ ถ้าพี่โม่เห็นว่าพี่อยู่ในอันตราย เขาจะต้องปกป้องพี่แน่นอน ปกป้องอย่างไม่สนใจชีวิตตัวเองเลยล่ะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงจึงหันมองเฮ่อหลานกับถังเซวี่ยแล้วพูดว่า “ทุกคนรู้กันหมดแล้วหรือ อย่างนั้น… คือเราสองคนตกลงเป็นคนรักกันแล้ว พี่โม่สารภาพกับหนูก่อนหน้านี้ แล้วหนูก็ตอบตกลงไปแล้วค่ะ”
“ซวงเอ๋อร์ ในที่สุดลูกกับเจ๋อหยวนก็เข้าใจกันสักที แม่ก็มัวแต่รอว่าเมื่อไหร่สองคนจะพูดคุยกันตั้งนาน”
ถังเซวี่ยยิ้มตาม “พี่คะ ยินดีด้วยนะคะ หลังจากนี้พี่กับพี่โม่ก็คบกันแล้ว และพี่โม่จะกลายเป็นพี่เขยของฉัน”
ถังซวงมองถังเซวี่ยอย่างห้ามปรามแล้วพูดขึ้นว่า “เร็วเกินไปหน่อยมั้ย”
ทั้งสามแม่ลูกเดินคุยกันไป ไม่นานก็มาถึงด้านนอกของโรงพยาบาล
“ซวงเอ๋อร์ รถอยู่ตรงนั้นจ้ะ เดี๋ยวแม่กับเสี่ยวเซวี่ยกลับก่อนนะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงโบกมือให้กับทั้งสองคน “แม่คะ เสี่ยวเซวี่ย กลับบ้านดี ๆ นะ”
เฮ่อหลานโบกมือให้ถังซวง ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้แล้วพูดว่า “อ้อ อาจารย์กับลุงหลี่กลับไปที่หมู่บ้านเถาฮวาแล้วนะ พวกเขาส่งโทรเลขมาบอก และแม่ก็ส่งโทรเลขกลับไปเหมือนกัน แต่ไม่ได้บอกเรื่องของเจ๋อหยวนหรอก กลัวว่าเขาจะกังวลเกินไปน่ะ”
ถังซวงเห็นด้วย “ค่ะ ไม่ต้องบอกคุณปู่จะดีกว่า”
หลังจากนั้นเฮ่อหลานกับถังเซวี่ยขึ้นรถไป และถังซวงเดินกลับไปที่ห้องพักคนไข้
เมื่อเธอมาถึงห้องพักฟื้น ถังซวงเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนหลับแล้ว เธอเลยหาที่นั่งก่อนจะเริ่มหยิบปากกาและกระดาษออกมาเพื่อเขียนใบสั่งยา
เมื่อเห็นถังซวงขีด ๆ เขียน ๆ หลินเหม่ยเจินยื่นหน้าเข้าไปดูก่อนจะกระซิบถาม “ซวงเอ๋อร์ นี่คือใบสั่งยาของเจ๋อหยวนหรือจ๊ะ?”
ถังซวงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ ฉันจะให้ยานี้กับพี่โม่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาจะหายเร็วขึ้น”
“จ้ะ งั้นฉันจะให้คนออกไปหาวัตถุดิบ แล้วเริ่มปรุงยาพรุ่งนี้ตั้งแต่เช้าเลยนะ”
หลังจากถังซวงเขียนเสร็จ หลินเหม่ยเจินรับใบสั่งยาแล้วออกไปจัดการทั้งหมด จากนั้นเธอกลับมาพร้อมกับถุงยาจีนโบราณพร้อมหม้อต้มยาในมือ “ซวงเอ๋อร์ฉันจะต้มยาพรุ่งนี้เช้าเลยนะ”
“ดีเลยค่ะป้าหลิน”
หลังจากนั้นสักครู่ ถังซวงจับชีพจรของโม่เจ๋อหยวน และพบว่าอาการของเขายังดีอยู่ จึงบอกหลินเหม่ยเจิน จากนั้นทั้งสองงีบหลับไปชั่วขณะ
วันรุ่งขึ้น ถังซวงตื่นแต่เช้า แต่เธอไม่คิดว่าโม่เจ๋อหยวนจะตื่นก่อนเธอซะได้
“พี่โม่ เป็นยังไงบ้างคะ?”
โม่เจ๋อหยวนยิ้มแล้วตอบว่า “ฉันรู้สึกดีมาก ๆ เลยล่ะ”
แน่นอนว่าเขารู้สึกดีจริง ๆ แม้จะได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่เพราะเขาได้อยู่กับซวงเอ๋อร์ บางทีเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอาจจะเป็นพรจากสวรรค์ พอเขาลืมตาขึ้นในเช้าวันนี้ เขาได้พบถังซวงเป็นคนแรก แค่นี้ก็ทำให้เขามีความสุขมากจนไม่อยากให้เวลานี้หมดไปเลย
หลินเหม่ยเจินตื่นแต่เช้าเช่นกัน ขณะทั้งสองกำลังพูดคุย เธอนำอาหารเช้าพร้อมกับเอ่ยปากเรียก “เจ๋อหยวนตื่นแล้วหรือ รีบทานอาหารเช้าเร็วเข้า เดี๋ยวแม่ไปต้มยาให้” หลังจากวางอาหารเช้าลง เธอรีบออกไปต้มยาอีกครั้ง
ถังซวงล้างหน้าให้โม่เจ๋อหยวน ก่อนจะป้อนซุบข้าวให้เขา “พี่โม่ ยังกินอะไรมากไม่ได้ อย่างนั้นกินซุปก่อนนะคะ”
“ไม่เป็นไร แค่ซุปก็อร่อยแล้ว”
ความจริงแล้ว เพราะเป็นซวงเอ๋อร์ป้อนต่างหาก แต่มีเธอเขาสามารถกินอะไรก็ได้ แต่เมื่อเขาตระหนักได้ว่าถังซวงยังไม่ได้กินข้าวเลย และเขาเองก็เกือบจะอิ่มแล้ว เขาเลยบอกให้เธอกินด้วยกัน
เมื่อหลินเหม่ยเจินกลับมาจากต้มยา โม่ถิงฮวาก็เดินเข้ามาด้วยเช่นกัน
“เจ๋อหยวน ซวงเอ๋อร์ ชาวฝูซางที่ทำร้ายพวกเธอเกี่ยวข้องกับคนในหมู่บ้านหลี่ซานจริง ๆ มีพวกตัวเล็กตัวน้อยเล็ดลอดตาข่ายไปได้ พวกมันเลยรู้หน้าตาของพวกเธอ และเจ๋อหยวนได้ลงหนังสือพิมพ์จึงมีคนเห็นเข้า อีกอย่างพวกมันก็รู้ว่าเจ๋อหยวนกำลังทำวิจัยเกี่ยวกับพลังงาน พวกมันเลยคิดจับตัวเจ๋อหยวนไป ส่วนซวงเอ๋อร์ดันอยู่ที่นั่นด้วย พวกมันเลยต้องการจับกุมเธอสองคนไปด้วยกัน โชคดีจริง ๆ ที่ไม่เป็นอะไรมาก”
ถังซวงเผยสีหน้าเย็นชาเล็กน้อยเมื่อได้ยินอย่างนี้
“มันเกี่ยวข้องกับคนในหมู่บ้านหลี่ซานจริง ๆ ด้วย แต่คนพวกนั้นรู้เรื่องที่พี่โม่ทำวิจัยอยู่ได้ยังไงคะ?”
โม่เจ๋อหยวนก็อยากรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน
สีหน้าของโม่ถิงฮวาเย็นชาในทันที
“มีคนในทีมวิจัยรับสินบน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมข้อมูลของเจ๋อหยวนถึงรั่วไหลออกไป ตอนนี้เรื่องทุกคนกำลังถูกสืบสวน น่าจะรู้ผลเร็ว ๆ นี้แหละ”