บทที่ 389 หลอกลวง
บทที่ 389 หลอกลวง
ถังซวงเห็นสีหน้าบึ้งตึงของโม่เจ๋อหยวน ก็อดไม่ได้ที่จะหันมองตามสายตาของชายหนุ่ม เธอเห็นว่าที่ด้านหน้ามีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังพูดคุยหยอกล้อกัน เดินเคียงข้างอย่างสนิทสนม แต่เธอไม่รู้จักทั้งสองคนนั้น
“พี่รู้จักสองคนนั้นหรือคะ?”
โม่เจ๋อหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นเคออวี๋หาง”
“อะไรนะ…”
ถังซวงมีสีหน้าจริงจัง เธอมองไปด้านหน้าด้วยแววตาเย็นชา เห็นชายหญิงที่กำลังหยอกล้อเริ่มจูบกันในที่สาธารณะ
“พี่จำไม่ผิดแน่นะคะ?”
โม่เจ๋อหยวนกล่าวยืนยัน “ไม่ผิดแน่ ผู้ชายคนนี้เคยเดินกับชุนหยานอย่างสนิทสนม แต่ตอนนี้เขามาทำเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่น เขาเป็นคนไม่ดีจริง ๆ ด้วย”
“เราลองตามเขาไปดีกว่าค่ะ”
ถังซวงที่รู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่มาสารภาพรักกับถังชุนหยาน จึงรู้สึกโกรธเป็นธรรมดา
หมอนี่กล้าหาญที่จะจับปลาสองมือ แม้เขาจะตัวสูงแบบที่ชุนหยานสาธยาย แต่ก็ไม่ได้สูงมากขนาดนั้น และไม่ได้หล่อขนาดนั้นด้วย ก็แค่ผู้ชายธรรมดา ๆ หากฟังจากที่ชุนหยานเล่าก่อนหน้านี้ เขาก็มาจากบ้านนอกเป็นคนเรียบง่าย และขยันขันแข็งไม่ใช่หรือ
โม่เจ๋อหยวนไม่คิดคัดค้าน เขาเดินไปพร้อมกับถังซวงโดยไม่ให้สองคนด้านหน้าจับสังเกตได้
แต่ระยะห่างของทั้งสองก็ไม่ไกลเกินไป เพราะถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนอยากได้ยินเรื่องที่ทั้งสองพูดคุยกัน
“อวี๋หาง แล้วเรื่องที่ฉันขอให้คุณทำก่อนหน้านี้เป็นยังไงบ้าง? ทำสำเร็จไหม?”
เคออวี๋หางยกยิ้มก่อนจะตอบกลับว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกเสี่ยวเสี่ยว ฉันทำทุกอย่างที่เธอบอกแล้ว ตอนนี้ถังชุนหยานชอบฉันมาก ล่าสุดเราไปซื้อของด้วยกัน หล่อนจะซื้อของให้ฉันด้วยนะ แต่เพราะฉันปฏิเสธไปแล้ว ฉันมีแต่เธออยู่ในใจ จะรับสิ่งของจากคนอื่นได้ยังไงกันล่ะ”
ในตอนท้าย เคออวี๋หางคล้ายจะเสียใจเล็กน้อย
“แต่เสี่ยวเสี่ยว ทำไมเธอถึงทำกับฉันอย่างนี้ล่ะ? ทำไมถึงอยากให้ฉันเข้าไปรุ่มร่ามกับผู้หญิงบ้านนอกอย่างนั้น?”
ถึงถังชุนหยานจะดูดีมาก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงที่เธอมาจากบ้านนอกได้ และเธอก็ยังมาจากหมู่บ้านเล็กในมณฑลห่างไกลด้วย เขาจะไปชอบผู้หญิงอย่างนั้นได้ยังไงกัน? ถ้าเซิงเสี่ยวเฟยไม่บอกให้เขาทำอย่างนี้ เขาคงไม่ชายตามองถังชุนหยานแน่นอน
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เซิงเสี่ยวเฟยถึงกับหน้าบิดเบี้ยว
“ใช่ถังชุนหยานมาจากบ้านนอกแต่กลับอวดดี หล่อนกล้ามาหักหน้าฉันต่อหน้าคนอื่น ทำฉันเสียหน้า ฮึ่ม… ยัยนั่นก็แค่เด็กบ้านนอก แต่กลับกล้าทำกับฉันอย่างนี้ คุณต้องแก้แค้นให้ฉันนะ”
เคออวี๋หางตอบกลับด้วยน้ำเสียงโกรธ ๆ เช่นกัน “หึ ถังชุนหยานอวดเก่งเกินไปแล้ว เธอไม่ควรทำกับเราแบบนั้น”
“ใช่ ยัยนั่นคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”
เซิงเสี่ยวเฟยไม่เข้าใจว่าถังชุนหยานที่มาจากหมู่บ้านห่างไกลนั่น คิดฝันที่จะเข้าเรียนกวดวิชา หล่อนไม่ควรจะได้เรียนหนังสือด้วยซ้ำ และไม่ควรจะมีอะไรดีกว่าเธอเลย ตอนนี้หลายคนในชั้นเรียนกำลังมองถังชุนหยานเป็นคนพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอทนไม่ได้
และเพราะเคออวี๋หางกำลังตามตื๊อเธอ เธอจึงฉวยโอกาสนี้ขอให้เคออวี๋หางเข้าหาถังชุนหยาน หลังจากที่เคออวี๋หางได้หัวใจของถังชุนหยานมาแล้ว เธอค่อยบอกให้เคออวี๋หางทิ้งอีกฝ่าย เธออยากจะรู้จริง ๆ ว่าถังชุนหยานจะเย่อหยิ่งต่อไปได้ซักกี่น้ำ… หึ ยัยนั่นคนนั้นคิดจริง ๆ หรือว่าถ้าได้เรียนหนังสือ แล้วจะสามารถมีตัวตนในเมืองหลวงได้ แม้แต่ผู้ชายอย่างเคออวี๋หางก็ยังอดไม่ได้ที่จะเหยียดหยาม
เซิงเสี่ยวเฟยอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเคออวี๋หาง
ความจริงแล้วเคออวี๋หางก็นับว่าดูดี แต่ไม่ถึงกับหล่อเหลา เธอจึงไม่ค่อยชอบพอเขาสักเท่าไหร่ อีกทั้งเธอเองก็ทราบถึงเป้าหมายของเคออวี๋หางเป็นอย่างดี หากไม่ใช่เพราะเขารู้ถึงครอบครัวของเธอ เคออวี๋หางก็คงไม่มาไล่ตามเธอเช่นนี้ แต่เขาคงคิดว่าเธอไม่รู้เรื่องนี้สินะ
แต่ก็ดีแล้ว เคออวี๋หางจะได้เป็นเครื่องมือให้เธอใช้งานได้สะดวก
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนติดตามทั้งสองคนมาตลอดทาง หลังได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้ พวกเขาจึงเข้าใจว่าเคออวี๋หางเข้าหาถังชุนหยานเพราะแผนของผู้หญิงคนนี้
“ซวงเอ๋อร์ เราจะจัดการพวกนั้นไหม?”
แน่นอนว่าซวงเอ๋อร์อยากจะสั่งสอนสองคนนี้ แต่หลังจากไตร่ตรองให้ดี เธอส่ายศีรษะก่อนจะตอบว่า “ไม่ล่ะค่ะ”
เห็นอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่ยังเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ และเฝ้ามองเคออวี๋หางและเซิงเสี่ยวเฟยจากไป
“ซวงเอ๋อร์ ทำไมเราถึงไม่ช่วยชุนหยานล่ะ?”
“ชุนหยานจะชวนเคออวี๋หางมาทานมื้อเย็นที่บ้านคืนนี้ มันน่าจะดีกว่าถ้าเราลงมือตอนนั้น แต่ตอนนี้เราต้องหาวิธีให้ผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวเสี่ยวมาร่วมทานอาหารด้วย อย่างนั้นมันต้องสนุกแน่ค่ะ”
โม่เจ๋อหยวนกล่าวออกมาอย่างสบาย ๆ “ง่ายมาก… ก็แค่ให้ใครสักคนพาตัวเธอมาที่นี่… แต่เราจะเตือนชุนหยานก่อนดีไหม ฉันกลัวว่าเธอจะรับไม่ไหวเอานะ”
ถังซวงคิดแล้วถอนหายใจ “เฮ้อ… เรื่องนี้ฉันก็กังวลอยู่เหมือนกัน ดูเหมือนว่าชุนหยานจะไม่มีโชคเรื่องคนรักเลยจริง ๆ”
เมื่อครั้งนั้น พวกเขาก็เคยช่วยเหลือถังชุนหยานที่หมู่บ้านหลี่ซาน ถังชุนหยานจึงไม่คิดรีบแต่งงาน แต่แม่ของหล่อนก็ยังจะบังคับ ทำให้ถังชุนหยานต้องหนีออกจากบ้านมาเมืองหลวงเพียงลำพัง จนเธอก็ได้พบกับคนที่เธอหวังพึ่งพิง แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง
โม่เจ๋อหยวนส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ “งั้นตอนเย็นฉันจะไปรับเธอหลังเลิกเรียน แล้วแวะไปกินข้าวเย็นที่บ้านเธอด้วย เราค่อยคุยกับชุนหยานตอนนั้นละกัน”
“ค่ะ”
หลังจากนั้น โม่เจ๋อหยวนไปส่งถังซวงที่โรงเรียน
แต่ถังซวงยังไม่ได้เข้าไปที่ห้องเรียนของตัวเองทันที เธอมาหาถังเซวี่ยก่อน และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ห้องเรียนแล้ว เธอจึงค่อยเดินไปที่ห้องเรียนของตัวเอง
หลังเลิกเรียนในตอนเย็น โม่เจ๋อหยวนมารับสองพี่น้องกลับบ้าน
“แม่คะ ชุนหยานไม่อยู่หรือคะ?”
ถังซวงเห็นถังชุนหยานไม่อยู่ที่นี่ เธอหันไปถามแม่ของตน
เฮ่อหลานได้ยินอย่างนั้นรีบตอบกลับว่า “ชุนหยานออกไปแล้วจ้ะ เธอกินอาหารน้อยมากก่อนจะรีบออกไปเรียน”
“อ้อ”
ถังซวงไม่ได้ถามอะไรอีก ส่วนโม่เจ๋อหยวนก็รับประทานมื้อเย็นอยู่ที่บ้านตระกูลจิง ก่อนจะอ่านหนังสือกับถังซวง
เมื่อถังชุนหยานกลับมา ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว
“พี่สาวซวง…”
ถังชุนหยานเดินเข้าหาถังซวงด้วยความตื่นเต้น และเมื่อเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนอยู่ที่นี่ เธอยกยิ้มก่อนจะกล่าวทักทาย “พี่เขย พี่ก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือคะ อย่างนั้นฉันขอชวนพี่ร่วมทานมื้อเย็นกับเราวันพรุ่งนี้เลยนะคะ”
ถังซวงเลิกคิ้วก่อนจะถามว่า “เคออวี๋หางจะมาทานมื้อเย็นกับพวกเราไหม?”
ถังชุนหยานพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “ค่ะ อวี๋หางตกลงแล้ว เพราะนี่คือโอกาสที่จะได้พบกับพี่สาวและเพื่อนของฉันน่ะค่ะ เขาเลยอยากมา”
“ชุนหยาน จริง ๆ แล้ว… เคออวี๋หางไม่ใช่แบบที่เธอคิดนะ”