ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 659 จัดระเบียบไอเทม

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ตอนที่ 659 จัดระเบียบไอเทม

BOSS เลเวลร้อยยี่สิบห้า ถ้าอยู่ในสถานการณ์ทั่วไป ผู้เล่นในปัจจุบันจัดการได้ยากมาก ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ยากอยู่ดี!

ที่สำคัญที่สุดก็คือ หาก BOSS เลเวลเกินร้อย สติปัญญาก็จะเพิ่มขึ้นเยอะมาก

ต่อให้สู้ไม่ไหว อีกฝ่ายก็หนีได้อยู่ดี

BOSS เลเวลร้อยยี่สิบคนหนึ่งหากตั้งใจจะหนี ใครกันจะรั้งไหว

อย่าไปมองว่าก่อนหน้านี้พวกเยี่ยเว่ยหมิงสังหารอวี้เจินจื่อสองครั้งดูเหมือนไม่เปลืองแรง เพราะความจริงแล้วเป็นผลจากการวางอุบายที่ต่อเนื่องของเยี่ยเว่ยหมิง หากอาศัยศักยภาพสู้กันอย่างเดียวจริงๆ ต่อให้เอาชนะได้ แต่ก็จะเป็นผลจากการสู้รบที่ยากลำบากมากแน่นอน

ดีไม่ดีเมื่อพยายามจนถึงตอนสุดท้าย อวี้เจินจื่อเห็นว่าสู้ไม่ได้แล้วใช้ท่าร่าง ‘เทพท่องร้อยแปรเปลี่ยน’ หนีไป ความพยายามของพวกเขาก็สูญเปล่า

นี่ยังเป็นแค่ BOSS เลเวลหนึ่งร้อยสิบขึ้นไปเท่านั้น ถ้าเป็น BOSS ที่เลเวลเกินร้อยยี่สิบ ความสามารถจะต้องสูงพรวดขึ้นอีกครั้งแน่นอน!

เหมือนปรมาจารย์ดับโลหิตกับฮวาเถี่ยกั้น ต่อให้ยอดฝีมืออย่างเยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบและฉางซิงอวี่ร่วมมือกันต่อสู้ แต่ก็ต้องใช้อุบายต่างๆ ถึงจะมีโอกาสเอาชนะได้ อาศัยความสามารถอย่างเดียวเอาชนะได้ยากเกินไปจริงๆ

แต่ถึงอย่างไรก็มีปรมาจารย์ดาบโลหิตและฮวาเถี่ยกั้นเป็นบทเรียนแล้ว ดังนั้นการสังหารเซี่ยงเวิ่นเทียนก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย

เพียงแต่ใจร้อนเกินไปก็ไม่ดี ถ้าอยากจะสังหารเซี่ยงเวิ่นเทียนให้ตาย ถ้าหลับหูหลับตาเข้าไปสู้เพราะอยากจะชิงตีมอนสเตอร์ นอกจากจะไม่ได้ผลประโยชน์แล้วยังจะขาดทุนอีก

ก่อนปฏิบัติการเรื่องนี้จะต้องวางแผนให้รัดกุม!

พอนึกถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็แสดงจุดยืนทันที “หลักการของข้าไม่คัดค้านแผนนี้ แต่เรื่องนี้ห้ามใจร้อนเกินไปเด็ดขาด ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทุกด้าน”

“แน่นอน ทำแบบนี้ไม่ได้แปลว่าชักช้า แค่ดูจากคำว่า ‘ไล่ฆ่า’ ก็รู้แล้วว่าในยุทธภพนี้ คนที่ต้องการหัวเขาไม่ได้มีแค่พวกเรา”

“แน่นอนสิ”

น้องดาบกล่าวอย่างสมเหตุสมผล “ที่จริงถ้าอยากจะฆ่าเซี่ยงเวิ่นเทียนก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเช่นกัน จำนวนผู้เล่นที่ร่วมท้าสู้เขาห้ามเกินสามคน ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะต้องเลือกหนีแน่นอน”

“จากที่ข้ารู้มา ในพรรคสุริยันจันทราตอนนี้ ยังไม่มีใครที่อาศัยกำลังของคนสามคนแล้วสังหารเซี่ยงเวิ่นเทียนได้เลย”

ตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงแหบพร่าไม่ไพเราะดังมาจากประตูใหญ่ของห้องประชุม “ที่จริงไม่ใช่แค่พรรคสุริยันจันทรา ข้าเพิ่งได้รับข่าวมา สำนักซงซานก็กำลังประกาศไล่ฆ่าเซี่ยงเวิ่นเทียนเหมือนกัน ตอนหลังต้องมีคนจากสำนักต่างๆ เข้าร่วมล้อมปราบครั้งนี้มากขึ้นแน่นอน หากพวกเจ้าปฏิบัติการช้าเกินไป เกรงว่าจะพลาดโอกาสครั้งนี้แล้วจริงๆ”

ทั้งสามได้ยินแล้วหันไปมอง กลับเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่ในเครื่องแบบขุนนางและสวมหน้ากากเหล็กเดินเข้ามาในห้องประชุม โหยวจิ้น บุคคลสำคัญอันดับสองของสำนักมือปราบเทพนั่นเอง

เมื่อเข้ามาในห้องประชุมแล้ว โหยวจิ้นก็โค้งตัวคำนับหวงโส่วจุนก่อน “คำนับหวงโส่วจุน”

หวงโส่วจุนพยักหน้าเล็กน้อย ตอนนี้น้องดาบก็เอ่ยคำนับโหยวจิ้นแล้วเช่นกัน “คำนับอาจารย์!”

ไม่น่าเชื่อว่าน้องดาบจะเรียกโหยวจิ้นว่าอาจารย์!

อย่าบอกนะว่าทักษะตัวอักษร ‘ผี’ ของนางเรียนรู้มาจากโหยวจิ้น

เยี่ยเว่ยหมิงกำลังสงสัยอยู่ในใจ แต่กลับเห็นโหยวจิ้นพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยว่า “ที่ข้ามาครั้งนี้ ก็เพราะมีข่าวใหม่ล่าสุดมาบอกพวกเจ้า พวกเจ้าเจ้าได้เตรียมใจเอาไว้”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า จากนั้นบอกขีดจำกัดเวลาของตัวเอง “ข้าต้องการเวลาสามชั่วโมงเพื่อจัดเรียงไอเทมที่ได้มาก่อนหน้านี้สักหน่อย จะได้ปรับสภาพตัวเองให้ดีที่สุด”

“อย่าว่าแต่สองสามชั่วโมงเลย รอออกเดินทางพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย” จู่ๆ หวงโส่วจุนก็เอ่ยขึ้น “ในเมื่อเป็นภารกิจที่ต้องใช้คนสามคนท้าสู้ เช่นนั้นพวกเจ้าไปหาผู้ช่วยที่เหมาะสมมาอีกสักคนก็ได้ แต่ผู้ช่วยคนนี้ เจ้าจะต้องตั้งใจเลือกให้ดีนะ”

ตอนที่หวงโส่วจุนพูด เน้นคำว่า ‘ ตั้งใจ’ เห็นได้ชัดว่ากำลังบอกใบ้อะไรบางอย่าง

ตอนนี้โหยวจิ้นก็พูดเสริมเช่นกัน “นอกจากนี้ ข้าสั่งให้คนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของเซี่ยงเวิ่นเทียนแล้ว พรุ่งนี้ก่อนพวกเจ้าออกเดินทาง มาถามเบาะล่าสุดจากข้าก่อนได้”

เยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบสบตากันแวบหนึ่ง นี่ก็คือข้อดีของการมีองค์กรเป็นโล่หลังให้!

ที่จริงแล้ว ภารกิจของเยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบ เดิมทีไม่ใช่การสังหารเซี่ยงเวิ่นเทียน แต่เป็นการยกระดับฐานะและสิทธิ์ในการพูดในพรรคสุริยันจันทราให้น้องดาบ

ทว่าหลังจากหวงโส่วจุนกับโหยวจิ้นรู้ว่าเป้าหมายของพวกเขาคือเซี่ยงเวิ่นเทียน ก็ยังให้การสนับสนุนด้านข้อมูลอย่างเต็มความสามารถ

ถ้าเปลี่ยนเป็นสำนักทั่วไป ก็ไม่มีสวัสดิการที่ดีอย่างนี้หรอก!

หลังจากกล่าวอำลากับทุกคนแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็กลับไปยังบ้านที่ซานเย่ว์กับสะพานสวรรค์น้อยและเขาเช่าด้วยกันทันที

หลังจากปิดประตูบ้านแล้ว ก็นำ ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ วิชากำลังภายในระดับสูงที่เพิ่งได้ออกมาทันที จากนั้นเริ่มอ่านทีละตัวอักษรอย่างละเอียด

[บทรักษาบาดเจ็บ (ระดับสูง)]

เลเวล: 1(+1)

ค่าประสบการณ์: 2500/5000

เดิมทีใช้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ทั้งยังใช้เพิ่มพลังได้ด้วย มีสรรพคุณรักษาบาดแผลทั้งภายในและภายนอก

พลังชีวิตสูงสุด +300 (+300)

กำลังภายใน +300 (+300)

ความแข็งแกร่ง +30 (+30)

พละกำลัง +30 (+30)

ท่าร่าง +30 (+30)

ความว่องไว +30 (+30)

ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตพลังชีวิตเพิ่ม 20% (+20%) หลังจากติดตั้งแล้วความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่ม 50% (+50%)

……

หลังจากเห็นค่าสเตตัสของบทรักษาบาดเจ็บ เยี่ยเว่ยหมิงก็อดนวดจมูกด้วยความเคยชินไม่ได้ พึมพำว่า “เดี๋ยวก็ ‘คัมภีร์เทพสาดส่อง’ เดี๋ยวก็ ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ เส้นทางของตัวแทงค์ ยิ่งเดินยิ่งไกลหรือเปล่า”

ฟ้าดินเป็นพยาน ความปรารถนาเดิมของเยี่ยเว่ยหมิงคือเดินในเส้นทางที่พลังโจมตีสูงและทำดาเมจสูง!

ฉากนี้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไรกันแน่

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า ขี้คร้านจะพัวพันกับปัญหาที่ไม่มีคำตอบ เปลี่ยนมาหยิบตำราลับเล่มใหม่หลายเล่มที่ได้มาจากสวนบ๊วยออกมา

‘ตระหนักรู้วิชามือคว้าจับ’ ที่ได้จากไป๋ซื่อจิ้ง ได้ค่าประสบการณ์วิชามือคว้าจับทั้งหมดสองแสนสี่หมื่นแต้ม หลังจากอ่านแล้วกลายเป็นสามแสนหกหมื่นแต้ม หลังจากใช้วิธีการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกัน ค่าประสบการณ์เก้าหมื่นแต้มก็เพิ่มไปที่ ‘ดรรชนีเอกสุริยัน’

‘ตระหนักรู้วิชากำลังภายใน’ ที่ได้จากไป๋ซื่อจิ้ง มีค่าประสบการณ์วิชากำลังภายในสองแสนเจ็ดหมื่นแต้ม หลังจากอ่านแล้วกลายเป็นสี่แสนห้าพันแต้ม ถูกเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มไปบน ‘บทรักษาบาดเจ็บ’

‘ตระหนักรู้วิชาไม้เท้า’ ที่ได้จากเฉวียนกวนชิง มีค่าประสบการณ์วิชาไม้เท้าเก้าหมื่นแต้ม หลังจากอ่านแล้วกลายเป็นหนึ่งแสนสามหมื่นห้าพัน ใช้การเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันเพิ่มไปบนทักษะด้านความคิด ‘คำนวณ’ แต่ก็ยังไม่ทำให้เลเวลเพิ่ม

‘ตระหนักรู้วิชากำลังภายใน’ ที่ได้จากเฉวียนกวนชิง ได้ค่าประสบการณ์วิชากำลังภายในหกหมื่นห้าพัน หลังจากอ่านแล้วกลายเป็นเก้าหมื่นเจ็ดพันห้าร้อย ถูกเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มไปที่ ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ เช่นกัน

ในที่สุดก็ถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือตำราลับเล่มใหม่ของอวี้เจินจื่อ!

การตายของอวี้เจินจื่อ ได้ให้ตำราลับใหม่แก่เยี่ยเว่ยหมิงทั้งหมดสามเล่ม ได้แก่

‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ มีค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่หกแสน เล่มนี้เยี่ยเว่ยหมิงไม่รีบอ่าน เพราะตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มเลเวลเคล็ดกระบี่ แต่ถ้าใช้การเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันก็น่าเสียดายอีก

‘ตระหนักรู้วิชากำลังภายใน’ มีค่าประสบการณ์วิชากำลังภายในห้าแสนสี่หมื่น หลังจากอ่านแล้วกลายเป็นแปดแสนหนึ่งหมื่น เยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มไปบน ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ เพิ่มเลเวลวิชากำลังภายในให้ถึงแปดในคราเดียว!

สุดท้ายคือ ‘ตระหนักรู้วิชาตัวเบา’ มีค่าประสบการณ์วิชาตัวเบาหกแสนเก้าหมื่นแต้ม หลังจากอ่านแล้วกลายเป็นหนึ่งล้านสามหมื่นห้าพัน เยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มไปบน ‘ย่ำจอกข้ามน้ำ’ แล้ว ทำให้ค่าประสบการณ์วิชาตัวเบานี้เพิ่มขึ้นเยอะมาก

แต่การที่เขาทำแบบนี้ แทบจะใช้ตำราลับเล่มใหม่ที่อยู่ในมือจนหมด แต่วิชาที่เพิ่มเลเวลได้จริงมีเพียง ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ เท่านั้น แม้ขอบเขตในการเพิ่มเลเวลจะกว้างมากก็ตาม…

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท