ตอนพิเศษ 223 ขอให้ฟ้าผ่า
ตอนพิเศษ 223 ขอให้ฟ้าผ่า
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้วและอยากจะถามอะไรบางอย่าง ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็หันกลับมาอีกครั้ง แล้วจับมือเนี่ยนเนี่ยนไว้ ขณะพูดด้วยสีหน้าระทมทุกข์ว่า “เจ้านี่นะ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นหมอจึงไม่ใส่ใจเมื่อตนบาดเจ็บสิ ประเดี๋ยวข้าจะสั่งให้สาวใช้อีกสองคนไปที่ห้องของเจ้า ให้คอยปรนนิบัติรับใช้เจ้าอย่างดี ช่วงนี้เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดีและอย่าลุกจากเตียง”
อย่าลุกจากเตียง? ร้ายแรงมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?
“ฮูหยินเฒ่า อันที่จริงข้า…” เนี่ยนเนี่ยนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แม่นมอวี๋ได้พาหญิงสาวสองคนมาช่วยกันหิ้วปีกนางแล้ว
ฮูหยินเฒ่าไป๋ไม่เปิดโอกาสให้นางพูดเลย นางบอกแม่นมอวี๋ว่า “ระวัง พยุงนางไว้ อย่าให้กระทบกระเทือน”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก ฮูหยินเฒ่าไป๋ปฏิบัติต่อนางราวกับตุ๊กตาที่เปราะบาง เหตุใดถึงได้เกินจริงถึงเพียงนี้?
นางหันไปมองไป๋หลิวอี้ แล้วขยิบตาให้เขาอย่างสิ้นหวัง แต่ฝ่ายหลังไม่เอ่ยคำใดสักคำ ซ้ำยังช่วยประคองนางให้นั่งบนเกี้ยวด้วย
เนี่ยนเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะร้อนใจ นางรีบหันหน้าไปพูดกับฮูหยินเฒ่าไป๋
“ฮูหยินเฒ่า ข้าสบายดีจริง ๆ เจ้าค่ะ จะให้นั่งบนเกี้ยวแล้วท่านเดินได้อย่างไรเจ้าคะ?”
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว สุขภาพข้าแข็งแรงดี เหตุใดจะเดินไม่กี่ก้าวไม่ได้? เจ้านั่งดี ๆ ไม่ต้องขยับเขยื้อน”
เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องสุขภาพ เนี่ยนเนี่ยนก็นึกถึงนิสัยของนางที่โปรดปรานการกินเนื้อ และกังวลเล็กน้อยว่าฮูหยินเฒ่าไป๋จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมในช่วงที่นางไม่อยู่ไม่กี่วัน นางจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ ช่วงนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”
“เจ้าไม่ต้องห่วงข้า ข้าสบายดี แต่เจ้าต้องทนทุกข์ทรมานมาก”
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ในโลกใบเดียวกัน นางไม่เข้าใจสิ่งที่ฮูหยินเฒ่าไป๋พูด แต่ก็ไม่กล้าถามอย่างผลีผลาม จึงได้แต่หัวเราะฝืดเฝื่อน แล้วหยุดพูดโดยไม่ใคร่ครวญอีก
สาวใช้ที่แบกเกี้ยวไว้บนไหล่ขยับเร็วขึ้นเล็กน้อย มุ่งหน้าไปยังหอหลินเยว่
ฮูหยินเฒ่าไป๋ก็คงรู้สึกว่าการเดินไปกับเนี่ยนเนี่ยนนั้นจะทำให้นางดูไม่ดี เพราะจะถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ได้ นางจึงถอยหลังไปสองสามก้าว และพูดคุยกับไป๋หลิวอี้ขณะเดิน
ดังนั้นเมื่อเนี่ยนเนี่ยนกลับไปที่หอหลินเยว่ ก็ยังไม่เห็นเงาของฮูหยินเฒ่าไป๋และไป๋หลิวอี้
เหวินหย่าและโม่เพียวที่อยู่ในหอหลินเยว่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว จึงรีบวิ่งออกไป เมื่อได้เห็นนาง ทั้งสองก็แทบจะร้องไห้ด้วยความดีใจ
น้ำตาของโม่เพียวคลอหน่วยเต็มเบ้าตา “คุณหนู ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง หากข้าไม่ไปตลาดดอกไม้ ท่านก็คงไม่…”
ก่อนที่นางจะพูดจบ เหวินหย่าก็ปิดปากนางทันที
โม่เพียวได้สติทันที จึงรีบก้มหน้าลงและไม่พูดอะไร
เหวินหย่าขอให้คนอื่น ๆ ในห้องออกไปก่อน จากนั้นเดินไปอยู่ข้างเนี่ยนเนี่ยนด้วยสีหน้าละอายใจ ก่อนจะเริ่มคุกเข่าลงโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ทั้งเนี่ยนเนี่ยนและโม่เพียวต่างตกตะลึง แต่โชคดีที่เนี่ยนเนี่ยนรีบพยุงนางให้ลุกขึ้น ก่อนขมวดคิ้วจ้องมองนาง “เจ้ากำลังจะทำอะไร?”
“เนี่ยนเนี่ยน… ขอโทษนะ”
เนี่ยนเนี่ยนรู้ว่านางหมายถึงอะไร ตอนนั้นเหวินหย่าอยู่เคียงข้างเป่ยเป่ย เนื่องจากเป่ยเป่ยและไป๋หลิวอี้รู้จักกัน เหวินหย่าย่อมต้องรู้เรื่องนี้ แต่นางไม่เคยปริปากบอกสักนิด
เนี่ยนเนี่ยนย่อมโกรธนาง แต่เรื่องก็ผ่านไปหลายวันแล้ว อีกทั้งนางยังไม่ใช่ตัวการหลักด้วย จึงไม่อยากโทษนางจริง ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เหวินหย่าแทบจะคุกเข่าลงต่อหน้านาง…
เนี่ยนเนี่ยนเพียงแค่จ้องมองนาง ก่อนเดินไปที่เตียงและนั่งลงพร้อมกับพ่นลมหายใจ “บอกข้ามาตามตรง ว่าเจ้ารู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อใด ไป๋หลิวอี้และเย่ฉิงเป่ยรู้จักกันเมื่อใด?”
ความสงสัยนี้ยังติดอยู่ในใจนางเสมอ ไป๋หลิวอี้ต้องการอธิบายให้นางฟัง แต่นางไม่อยากฟัง
เหวินหย่าก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ปิดบังอะไรจากนาง “อาเวินบอกว่าตอนแรกติงเซียงบังเอิญเห็นเจ้าออกมาจากโรงเตี๊ยมจวี้เป่า นางจึงรู้สึกแปลกใจและไปบอกเขา อาเวินจึงสั่งให้คนไปจับตาดูที่โรงเตี๊ยมจวี้เป่า เพราะอยากรู้ว่าเจ้าไปทำอะไรที่โรงเตี๊ยม และตัวตนที่แท้จริงของเจ้าคืออะไร คาดไม่ถึงว่าวันต่อมา โม่เพียวก็เข้าไปในโรงเตี๊ยมจวี้เป่าอีกครั้ง”
โม่เพียวกะพริบตา แล้วชี้ตัวเอง เหตุใดถึงเกี่ยวข้องกับนางอีก?
สีหน้านางดูงุนงง แต่เหวินหย่าจ้องมองนางด้วยความไม่พอใจ แล้วพูดต่อว่า “อาเวินตามโม่เพียวเข้าไป และเห็นโม่เพียวเข้าไปในห้องเทียนจื้อหมายเลขสาม ต่อมาหลังจากโม่เพียวจากไปแล้ว อาเวินก็เข้าไปในห้องเทียนจื้อหมายเลขสาม เพื่อตรวจสอบ แต่เขาดันไปชนเข้ากับเป่ยเป่ย แล้วทั้งสองก็เริ่มต่อสู้กัน แน่นอนว่าอาเวินย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเป่ยเป่ย… นั่นจึงทำให้เป่ยเป่ยได้พบกับคุณชายใหญ่ไป๋”
นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “แต่จากน้ำเสียงของคุณชายใหญ่ไป๋ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวตนของเจ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และน่าจะรู้ด้วยว่าเป่ยเป่ยอยู่ที่โรงเตี๊ยมจวี้เป่าตั้งแต่แรก ส่วนรู้ได้อย่างไรนั้น ข้าเองก็ไม่อาจทราบได้”
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก หากเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่า ไป๋หลิวอี้รู้ตัวตนของนางเอง โดยที่เป่ยเป่ยไม่ได้บอกงั้นหรือ?
อาจจะเป็นไป๋อีเฟิงหรือเปล่า? เนี่ยนเนี่ยนส่ายหน้า ไม่น่าใช่ ไป๋อีเฟิงชอบดูความตื่นเต้นอยู่เสมอ บางทีเขาอาจเป็นคนที่หวังมากที่สุดว่าไป๋หลิวอี้จะไม่รู้ความลับ
“คุณหนู หลายวันที่ผ่านมา ท่านไปอยู่ที่ไหนมาหรือเจ้าคะ?” ก่อนที่เนี่ยนเนี่ยนจะคิดออก โม่เพียวที่อยู่ตรงนั้นก็เปิดปากอีกครั้ง เนี่ยนเนี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วรีบส่ายหน้า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเรื่องนี้
นางไม่ตอบคำถามของโม่เพียว เพียงมองเหวินหย่าแล้วถามว่า “ว่าแต่ เหตุใดฮูหยินเฒ่าไป๋ถึงรู้ว่าข้าบาดเจ็บ และเหตุใดนางถึงบอกว่าข้าบาดเจ็บเพราะไป๋หลิวอี้?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เหวินหย่าก็หัวเราะ “เจ้าโกรธคุณชายใหญ่ จึงไม่กลับมาที่จวนซูกั๋วกงและยังไม่มีที่อยู่ หากฮูหยินเฒ่าไป๋ไม่เห็นเจ้าก็จะถามในสักวันหนึ่ง คุณชายใหญ่เกรงว่าหากพูดความจริงไปอาจส่งผลร้ายต่อเจ้า เพราะจะทำให้คนในจวนมีอคติต่อเจ้า เขาจึงหาข้ออ้าง”
แม้ว่าสาเหตุที่เนี่ยนเนี่ยนโกรธจนไม่กลับมาที่จวนซูกั๋วกงจะเป็นคุณชายใหญ่ก็ตาม
แต่ในสายตาของคนอื่น นางเป็นคนไม่มีเหตุผล ไร้มารยาทและเอาแต่ใจตัวเอง
ในสายตาของทุกคนนั้น แม้บุรุษจะทำผิดพลาด แต่ในฐานะคู่หมั้นหรือภรรยา ก็ควรจะใจกว้างกว่านี้ สตรีจะต้องกล้ำกลืนความโกรธเอาไว้
แม้ว่าไป๋หลิวอี้จะรู้ว่าเขาเป็นฝ่ายผิด หากเนี่ยนเนี่ยนจะโกรธก็เป็นเรื่องปกติ แต่คนอื่นอาจไม่คิดเช่นนั้น
“ดังนั้นเมื่อคุณชายใหญ่เผชิญกับคำถามของฮูหยินเฒ่าไป๋ เขาก็ตอบง่าย ๆ ว่าตำแหน่งเสนาบดีฝั่งขวาของเขาไปทำให้ผู้คนขุ่นเคืองและอิจฉาริษยา ทำให้มีบางคนต้องการสังหารเขา ในตอนนั้นเจ้าอยู่เคียงข้างคุณชายใหญ่ เจ้าจึงเข้าไปขวางฝ่ามือที่ซัดเข้ามาที่คุณชายใหญ่ ทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บ เดิมทีเขาก็อยากจะพาเจ้ากลับมาดูแลที่จวน แต่ไม่นานมานี้ เรื่องของเฟิงหลิงยังไม่ได้รับการแก้ไข และยังไม่พบว่าใครเป็นผู้ให้ยาพิษแก่เฟิงหลิง คนในจวนจึงยังคงแตกตื่น ไม่เอื้อให้พักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ จึงขออยู่ข้างนอกชั่วคราว และจะกลับมาเมื่อใกล้จะหาย”
เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง นางเข้าไปขวางฝ่ามือให้ไป๋หลิวอี้งั้นหรือ? นั่นคือสิ่งที่เขาบอกฮูหยินเฒ่าไป๋หรือ?
โม่เพียวที่อยู่ด้านข้างหัวเราะ “หลังจากได้ยินสิ่งที่คุณชายใหญ่พูด ฮูหยินเฒ่าก็ตีคุณชายใหญ่หลายครั้ง และเรียกคุณชายใหญ่มาตำหนิเป็นเวลาสองชั่วยาม ทั้งยังสั่งให้เขาอดอาหารด้วย โดยบอกว่าคุณหนูต้องบาดเจ็บและทุกข์ทรมานเพราะเขา ไม่ว่าฮูหยินเฒ่าไป๋จะพูดอย่างไร คุณชายใหญ่ก็ยอม ซ้ำยังสาบานต่อหน้าฮูหยินเฒ่าว่า หลังจากแต่งงานกับคุณหนูแล้ว เขาจะปฏิบัติต่อคุณหนูเป็นอย่างดี หากทำผิดต่อคุณหนูก็ขอให้ฟ้าผ่าเลยเจ้าค่ะ”
…………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โอ้โห ปกป้องเกียรติยศชื่อเสียงให้เราขนาดนี้ หาใครดีเท่านี้ไม่ได้อีกแล้วนะเนี่ยนเนี่ยน
ไหหม่า(海馬)