ตอนพิเศษ 237 เจ้าต้องรู้จักเลี่ยงคำครหา
ตอนพิเศษ 237 เจ้าต้องรู้จักเลี่ยงคำครหา
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เนี่ยนเนี่ยนก็เห็นว่าสมเหตุสมผล อย่างไรเสียเบาะแสเดียวที่เริ่นเมิ่งทิ้งไว้ก็คือบ้านหลังนั้น หากพวกเขาจะไปตรวจสอบที่นั่นก็ไม่เสียหายอะไร
คิดได้ดังนั้น ความหดหู่ใจของนางก็ลดน้อยลง
ไป๋หลิวอี้รู้ว่านางกำลังเสียใจเรื่องเริ่นเมิ่ง เพราะทั้งสองเคยอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง
หากไม่ใช่เพราะจุดยืนที่แตกต่างกัน เริ่นเมิ่งก็จะปฏิบัติต่อนางด้วยความจริงใจ
น่าเสียดายที่นางตกหลุมรักคนผิด
ตลอดทางเข้าไปในจวนซูกั๋วกง เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกได้ชัดเจนว่าองครักษ์ของจวนทุกคนนั้นเข้มงวดขึ้นมาก
นางหันไปมองไป๋หลิวอี้ที่กำลังยกยิ้ม “หลิวเจวี๋ยเป็นคนจัดการ”
แม้โดยปกติแล้ว ไป๋หลิวเจวี๋ยจะชอบสำมะเลเทเมาและรักสนุก แต่เมื่อถึงช่วงเวลาวิกฤตจริง ๆ การกระทำของเขาก็ชัดเจนและเด็ดขาด
หลังจากเดินเข้าไปข้างในได้ไม่กี่ก้าว พ่อบ้านไป๋ก็เรียกไป๋หลิวอี้ เพราะซูกั๋วกงมีเรื่องจะคุยกับเขา
ไป๋หลิวอี้เตือนเนี่ยนเนี่ยนว่าให้นางพักผ่อนก่อน แล้วค่อยออกไปตอนกลางคืน
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปยังหอหลินเยว่ ซึ่งตอนนี้มีการสร้างค่ายกลไว้นอกหอ แม้ว่ามันจะดูง่าย แต่สำหรับคนที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ย่อมถูกขังอยู่ในค่ายกลนั้น และไม่สามารถออกมาได้
ทว่าเมื่อนางอยู่ห่างจากหอหลินเยว่เพียงสิบหมี่ ทันใดนั้นนางก็เห็นร่างหนึ่งกำลังทำลับ ๆ ล่อ ๆ
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนมองใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นหลิ่วยางยาง ซึ่งยังคงมาพักอยู่ในจวนซูกั๋วกงชั่วคราว
นาง… นางเกือบลืมคนผู้นี้ไปแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่หลิ่วยางยางจ้างคนชั่วมาสังหารนาง หากนางไม่ถูกคนตระกูลเจี่ยงลักพาตัวไป ตามด้วยเกิดเหตุการณ์กวาดล้างตระกูลถง นางคงคิดบัญชีกับหลิ่วยางยางไปแล้ว
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เนี่ยนเนี่ยนก็หันหน้าเดินไปหานาง
หลิ่วยางยางตกใจและเกือบจะหันหลังวิ่งหนี แต่ดูเหมือนสาวใช้ข้างนางจะพูดอะไรบางอย่าง นางจึงรีบสงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็ว ก่อนจัดกระโปรงให้เรียบร้อย พลางมองเนี่ยนเนี่ยนที่เดินเข้ามาหาด้วยท่าทางสง่างาม
“ถวายบังคมจวิ้นจู่เจ้าค่ะ” หลิ่วยางยางไม่ค่อยเต็มใจนัก แม้ว่าปากนางจะแสดงความเคารพ แต่ในใจกลับเย้ยหยัน
เป็นเพียงจวิ้นจู่ตำแหน่งเล็ก ๆ จากต่างอาณาจักร จะมาอาณาจักรเทียนอวี่เพื่ออะไร? ช่างน่ารำคาญเสียจริง
เนี่ยนเนี่ยนชำเลืองมองนาง แต่สายตาของนางจับจ้องไปที่สาวใช้ข้างนางก่อน สายตาของนางเฉียบคม จึงไม่พลาดตอนที่สาวใช้ดึงหลิ่วยางยางเมื่อครู่นี้ อีกทั้ง… สาวใช้คนนี้หน้าไม่คุ้นเอาเสียเลย
เมื่อเห็นว่าตนกำลังถูกจ้องมองอยู่ สาวใช้ก็รีบเลิกคิ้วขึ้นแล้วก้มหน้าลง พยายามซ่อนโฉมหน้าตัวเอง
เนี่ยนเนี่ยนมองหลิ่วยางยางที่ยืนอยู่ด้านข้าง แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูหลิ่วกำลังทำอะไรอยู่หน้าประตูหอหลินเยว่ของข้าหรือ?”
หลิ่วยางยางกระสับกระส่ายเล็กน้อย แต่ก็รีบสงบลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง แล้วเงยหน้าขึ้นมายกยิ้ม และพูดว่า “จวิ้นจู่เข้าใจผิดแล้วเจ้าค่ะ ข้าแค่มาหาลูกพี่ลูกน้องของข้าเท่านั้น”
นางชี้ไปทางซ้าย เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้น ความจริงแล้วหอหลินเยว่และสวนจิ่นเฟิงอยู่ใกล้กันมาก ตอนนี้หลิ่วยางยางกำลังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเรือนทั้งสอง ที่ว่าจะไปสวนจิ่นเฟิงจึงฟังดูมีเหตุผลมาก
“อ๋อ เจ้าจะไปหาเขาเพื่ออะไร?”
หลิ่วยางยางกัดริมฝีปากตัวเอง เมื่อได้ยินว่าเนี่ยนเนี่ยนทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของ และสามารถตัดสินใจทุกอย่างแทนลูกพี่ลูกน้องของนางได้ นางก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง
ก็แค่พึ่งพาสถานะตัวเอง เพื่อบังคับให้ลูกพี่ลูกน้องทำตามสัญญาหมั้นหมาย
ไม่ดูด้วยซ้ำว่าตัวเองหน้าตาเป็นอย่างไร ทำตัวหยิ่งจองหอง นิสัยหยาบคาย ไม่สมเป็นกุลสตรีเลยแม้แต่น้อย ท่านพี่ไปชอบนางได้อย่างไรกัน?
หลิ่วยางยางยังคงตอบนางด้วยท่าทางนอบน้อม ทว่าในใจเต็มไปด้วยความดูหมิ่นเหยียดหยาม “ข้าได้ยินมาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับตระกูลถง ข้าจึงอยากจะถามว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่า…” นางพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ข้าเคยติดต่อกับคุณหนูตระกูลถง พวกเราเป็นทั้งเพื่อนและพี่สาวน้องสาว ข้าได้ยินมาว่าตระกูลของพวกนางมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ข้าเป็นห่วงมากและอยากทราบว่านางเป็นอย่างไรบ้าง”
เนี่ยนเนี่ยนไม่เชื่อคำพูดของนางสักคำ ได้ยินมาว่าคุณหนูถงนั้นมีนิสัยสดใสและร่าเริง เช่นเดียวกับถงเวยหลินที่ร่าเริงแจ่มใสมาก แล้วคนเสแสร้งอย่างหลิ่วยางยางจะได้รับความชื่นชมจากคุณหนูถงหรือ?
เนี่ยนเนี่ยนชำเลืองมองนาง แล้วพูดว่า “ไป๋หลิวอี้ไม่ได้อยู่ในสวนจิ่นเฟิง หากเจ้าต้องการทราบเรื่องเหล่านี้ เจ้าสามารถไปถามหัวหน้าไป๋ได้”
เนี่ยนเนี่ยนไม่พอใจที่นางมักจะหาเรื่องเข้าใกล้ไป๋หลิวอี้ ไม่ว่าสิ่งที่นางพูดในตอนนี้จะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม เนี่ยนเนี่ยนก็จะไม่ยอมรับคำพูดที่จะทำให้นางเข้าหาไป๋หลิวอี้ได้อีก ปล่อยให้เรื่องน่าปวดหัวนี้ตกเป็นของหัวหน้าไป๋ดีกว่า คนผู้นั้นทำงานในจวนไป๋มาหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาจะต้องไม่มีปัญหาในการจัดการกับหลิ่วยางยาง
แน่นอน…
“ถ้าไม่อยากไปหาหัวหน้าไป๋ ก็ไปหาท่านป้าไป๋ได้เช่นกัน ท่านป้าไป๋น่าจะรู้” เนี่ยนเนี่ยนกล่าวเสริม “ส่วนไป๋หลิวอี้นั้น เขามีสัญญาแต่งงานแล้ว เจ้าเป็นหญิงโสด เป็นการดีกว่าที่จะหลีกเลี่ยงคำครหา ด้วยการไม่ต้องมาเจอเขาอีกในอนาคต”
หลังจากที่นางพูดจบ นางก็พาเหวินหย่าเดินจากไป
หลิ่วยางยางกำหมัดแน่นทันที ก่อนหรี่ตาจ้องมองไปยังทิศทางที่เนี่ยนเนี่ยนเดินจากไป
ไร้ยางอาย นางยังไม่ทันได้แต่งงานกับท่านพี่เลย ทว่ากล้าพูดจาหึงหวงแล้ว
หลีกเลี่ยงคำครหาอะไร? พวกเขากอดกันก่อนแต่งงาน พวกเขาจึงควรเป็นฝ่ายหลีกเลี่ยงคำครหามากที่สุด
“นังเดนตายเอ๊ย…” นางสบถเสียงเบา
สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว แล้วใช้มืออีกข้างแตะนาง “คุณหนู พวกเราต้องอดทนเจ้าค่ะ”
“ฮึ่ม” หลิ่วยางยางพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่สวนหลิงสุ่ย
เหล่าสาวใช้ที่อยู่ข้างหลังนาง มองหน้ากันด้วยความตกตะลึง พวกนางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามไปให้เร็วที่สุด
หลังจากเข้าไปในหอหลินเยว่แล้ว เนี่ยนเนี่ยนก็หันไปพูดกับเหวินหย่าทันทีว่า “จับตาดูสาวใช้แปลกหน้าข้างกายหลิ่วยางยางไว้”
“เนี่ยนเนี่ยน หมายความว่า…”
“ข้าเคยเห็นสาวใช้ทุกคนในเรือนของหลิ่วยางยาง แต่คนนี้จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นจากที่ใดไม่รู้ ทั้งยังสามารถเกลี้ยกล่อมหลิ่วยางยางได้ด้วย คนประเภทนี้ไม่ควรมองข้าม”
เหวินหย่าพยักหน้า “ได้เลย”
จากนั้นเนี่ยนเนี่ยนก็หันหน้าเดินเข้าไปในห้อง โม่เพียวเข้ามาทักทายนาง “คุณหนู”
“เขาเป็นอย่างไรบ้าง?” เนี่ยนเนี่ยนถามถึงถงเวยหลินที่กำลังพักฟื้นอยู่ในหอหลินเยว่
โม่เพียวพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “สงบมากและให้ความร่วมมือดีมากเจ้าค่ะ เมื่อขอให้เขากินยา เขาก็กินทันที ไม่ว่ายาจะขมหรือแรงเพียงใด เขาก็ดื่มเข้าไปในอึกเดียวเจ้าค่ะ ข้าเห็นแล้วยังรู้สึกเฝื่อนลิ้นแทนเลยเจ้าค่ะ ตอนเที่ยงหลับไปพักหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เอาแต่ลืมตาขึ้นมองหลังคาเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเนี่ยนเข้าใจได้ สามารถสงบสติอารมณ์หลังเผชิญเรื่องรุนแรงมาได้ นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี
นางคิดว่าถงเวยหลินน่าจะกำลังระงับความเกลียดชัง และความโกรธในกายของเขาอยู่ ความปรารถนาที่จะแก้แค้นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งตอนนี้เขาเชื่อฟังมากเท่าใด อาการบาดเจ็บก็จะหายเร็วขึ้นเท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ และจะเริ่มกรีดร้องและสาปแช่งเพราะสติแตก
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเดินเข้าไป ถงเวยหลินก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เขาหันมามองนาง แล้วตั้งสติยืดข้อมือออกไป เพื่อให้นางจับชีพจรให้
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก หลังจากนั้นไม่นานก็ชักมือออก
ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ถงเวยหลินก็ชิงพูดขึ้นก่อน “ข้าได้ยินแม่นางโม่พูดถึงสถานการณ์ของตระกูลถง…” ขณะที่เขาพูดก็รู้สึกคอแห้งผาก จึงอดไม่ได้ที่จะหยุดชั่วคราว “ข้าอยากจะถามว่า… ตอนนี้น้องสาวคนเล็กของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
……………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ระวังตัวไว้เถอะคุณหนูหลิ่ว ต่อให้ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวันโดนเก็บนะ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร
ไหหม่า(海馬)