ตอนที่ 297 ประจันหน้า(2)
ตอนที่ 297 ประจันหน้า(2)
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกไม่กี่คำ เสิ่นหรูฮวนก็ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “มู่หลาน พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ แต่งหน้าดี ๆ ทั้งทีแล้ว ฉันอยากจะไปซื้อเสื้อผ้าที่เข้ากันสักสองชุด ไม่อย่างนั้นคงดูไม่ค่อยเข้ากับการแต่งหน้าสวย ๆ แบบนี้”
ถงทิงผิงได้ยินแบบนี้ ก็ยกยิ้มแล้วโบกมือให้ลูกสาว ก่อนจะพูดขึ้น “ดี ลูกออกไปกับมู่หลานเถอะ ตอนนี้ท้องลูกยังไม่ชัดมาก แต่เดี๋ยวถ้าท้องใหญ่ขึ้น ก็ต้องซื้อเสื้อผ้าที่หลวมหน่อยนะ”
“ค่ะ”
ฉินมู่หลานเห็นเสิ่นหรูฮวนดูมีความสุข ก็ยิ้มแล้วพยักหน้า
หลังจากทั้งสองออกมาเดินบนถนน เสิ่นหรูฮวนก็พาฉินมู่หลานตรงไปที่ร้านขายเสื้อผ้าทันที เพียงแต่เสื้อผ้าสวย ๆ หลายตัวไม่ค่อยมีทรงหลวมนัก หลายชิ้นพอดีตัว สุดท้ายก็ต้องจำใจที่จะไม่ซื้อมัน แล้วไปเลือกซื้อเสื้อผ้าทรงหลวมแทน
ฉินมู่หลานเห็นว่าเสิ่นหรูฮวนดูไม่ค่อยมีความสุขนัก ก็อดยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “จริง ๆ แล้วเสื้อผ้าทรงหลวมพวกนี้ ถ้ามันเข้ากัน ก็ดูดีได้เหมือนกันนะ” หลังจากนั้นเธอก็ลองเทียบชุดต่าง ๆ เข้ากับเสิ่นหรูฮวน
ตอนแรกเสิ่นหรูฮวนคิดว่าฉินมู่หลานเพียงแค่ปลอบใจตัวเองเท่านั้น แต่หลังจากได้เห็นชุดที่ฉินมู่หลานเลือกให้ตัวเองแล้ว แววตาของหล่อนก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ “มู่หลาน ตอนแรกฉันคิดว่าชุดนี้ดูเหมือนกับที่แม่ฉันใส่มาก แต่พอเธอเอามาเทียบให้ดูแบบนี้ ฉันว่ามันมีรสนิยมมากเลย”
“เธอชอบก็ดีแล้ว”
พนักงานขายเห็นการจับคู่ชุดของฉินมู่หลาน แววตาก็เป็นประกายเช่นกัน ดูเหมือนว่าต่อไปถ้าขายเสื้อผ้า หล่อนควรจะลองทำแบบเดียวกัน จับคู่สิ่งที่เข้ากัน หากเป็นอย่างนั้น ลูกค้าที่มาซื้อเสื้อผ้าก็จะเลือกซื้อหมดทั้งร้านอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ แววตาของพนักงานขายเสื้อผ้าที่มองฉินมู่หลานก็เปลี่ยนไป เอาแต่มองชื่นชมอยู่อย่างนั้น “สหาย ชุดที่คุณเลือกนั้นเข้ากันมาก เพื่อนคุณแต่งตัวแบบนี้ก็สวยมาก ทำไมคุณถึงไม่ลองให้หล่อนอีกสักสองสามชุดล่ะ มันเอาไปเปลี่ยนแทนกันได้นะคะ”
เสิ่นหรูฮวนก็คิดจะซื้อเสื้อผ้าอีกสักสองสามชุดเช่นกัน ดังนั้นจึงรีบหันมองฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานลองเลือกชุดที่เข้ากันให้เพิ่มเติม จากนั้นก็ให้เสิ่นหรูฮวนลองเลือกเอง
เสิ่นหรูฮวนโบกมือ ก่อนจะซื้อเสื้อผ้าพวกนั้นทั้งหมด
พนักงานขายห่อของให้สีหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะเดียวกันก็ได้จดจำชุดที่ฉินมู่หลานเลือกให้เข้ากันเอาไว้แล้วด้วย และตั้งใจว่าต่อไปจะแขวนเสื้อพวกนี้เข้าด้วยกัน
ฉินมู่หลานไม่ได้ทราบความคิดของพนักงานอยู่แล้ว ในตอนนี้เธอหันมองเสิ่นหรูฮวนก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “เธออยากจะซื้ออะไรอีกไหม?”
“ไม่ซื้อแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ วันนี้ฉันจะเลี้ยงมื้อเที่ยงมื้อใหญ่เป็นการขอบคุณเธอเอง”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็อดยิ้มไม่ได้ “ขอบคุณอะไรกัน ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ต้องเลี้ยงข้าวหรอก”
เสิ่นหรูฮวนส่ายหัว ก่อนจะเอ่ย “มู่หลาน เธอทำอะไรตั้งเยอะ ไม่ใช่แค่ทำเครื่องสำอางแล้วเอามาฝากฉันกับแม่ แต่ยังเลือกเสื้อผ้าดี ๆ ให้ฉันด้วย ฉันเลี้ยงข้าวเธอจะไม่เหมาะตรงไหนกัน ไป ๆ พวกเราไปกินที่ร้านอาหารตะวันตกกันเถอะ”
“หรูฮวน ถ้าจะกิน พวกเราไปกินที่โรงแรมรัฐกันดีกว่า ไม่ต้องถึงกับร้านอาหารตะวันตกหรอก” การกินอาหารที่ร้านอาหารตะวันตกใช้เงินเยอะมาก ฉินมู่หลานรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจำเป็นนัก
เสิ่นหรูฮวนกลืนน้ำลาย แล้วพูดขึ้น “มู่หลาน แต่ว่า…ฉันอยากกินซุปเห็ดมากเลย วันนี้อยากกินมากเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็อดหัวเราะไม่ได้ กลายเป็นว่าเสิ่นหรูฮวนอยากจะกินเอง ดังนั้นเธอจึงไม่ปฏิเสธ ก่อนจะพยักหน้าแล้วบอกกล่าวทันที “ได้ พวกเราไปกัน”
หลังจากทั้งสองเดินมาถึงแล้ว เสิ่นหรูฮวนก็รีบสั่งซุปเห็ดที่เธออยากทานทันที หลังจากนั้นก็สั่งสเต็กและปลาทอดเนยสไตล์รัสเซีย จากนั้นก็หันไปถามฉินมู่หลาน “มู่หลาน เธอดูแล้วอยากกินอะไร สั่งเองเลย”
ฉินมู่หลานมองดูเมนู สุดท้ายก็สั่งบางอย่างที่อยากกิน
หลังจากทั้งสองสั่งอาหารแล้ว ก็รออาหารมาเสิร์ฟ แต่ระหว่างที่อาหารยังมาไม่ถึง เสิ่นหรูฮวนก็หันมองไปที่มุมอีกด้านหนึ่ง ก่อนจะอดกระซิบกระซาบกับฉินมู่หลานไม่ได้ “มู่หลาน เธอดูสิ นั่นเริ่นม่านลี่ไม่ใช่เหรอ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็หันไปมอง ก่อนจะพบว่าเป็นเริ่นม่านลี่จริง
ตอนนี้เริ่นม่านลี่กำลังรับประทานอาหารอยู่กับชายคนหนึ่ง เพียงแต่มันไกลไปหน่อย ฉินมู่หลานจึงไม่ทราบว่าสองคนนั้นคุยเรื่องอะไรกัน และเธอก็ไม่รู้จักชายคนนั้นด้วย “หรูฮวน เธอรู้จักผู้ชายที่นั่งอยู่กับเริ่นม่านลี่ไหม?”
เสิ่นหรูฮวนพยักหน้าแล้วกล่าวทันที “รู้จัก คือหลิวเสวียข่ายจากตระกูลหลิว ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน ทิ้งลูกสาวเอาไว้หนึ่งคน ได้ยินมาว่าระกูลหลิวกำลังหาหญิงสาวที่เหมาะสมกับหลิวเสวียข่ายอยู่ อยากจะให้เขาหาภรรยาใหม่”
หลังจากพูด เสิ่หนรูฮวานก็อดมองฉินมู่หลานไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “นี่…หรือว่าตระกูลหลิวจะชอบพอเริ่นม่านลี่ มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้นสิ เพราะปกติแล้วหลิวเสวียข่ายมีสาว ๆ เข้าหาเขากันเพียบ ไม่มีเหตุผลให้เขาต้องมาชอบพอเริ่นม่านลี่เลย”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็อดเอ่ยถามไม่ได้ “หลี่เสวียข่ายสุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ตระกูลหลิวแต่เดิมมีทั้งเงินทองและอำนาจ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหลิวเสวียข่ายเองก็มีความสามารถในตัวเองพอตัว ภรรยาคนก่อนของเขามาจากตระกูลจ้าว ภูมิหลังของครอบครัวคล้ายกับตระกูลหลิว ถึงแม้ว่าหลิวเสวียข่ายจะแต่งงานครั้งที่สอง แต่เขาคงไม่เลือกคนที่มีสภาพตกต่ำแบบนี้เป็นคู่ครองหรอก”
ในสายตาของเสิ่นหรูฮวน เริ่นม่านลี่ไม่เหมาะกับหลี่เสวียข่าย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องภูมิหลังของที่บ้าน แต่ยังเป็นที่ตัวตนด้วย
และฉินมู่หลานก็เอ่ยด้วยความครุ่นคิด “ใช่แล้ว ดูยังไง สองคนนั้นก็เหมือนกำลังดูตัวกันอยู่เลย”
“ก็น่าจะใช่แหละ แต่…ทำไมถึงเป็นเริ่นม่านลี่ล่ะ” ตอนแรกเสิ่นหรูฮวนไม่ชอบเริ่นม่านลี่ นอกจากนี้เริ่นม่านลี่ก็หย่าเป็นม่ายไปแล้ว หรือว่าเริ่นม่านลี่จะแต่งงานใหม่กับตระกูลหลิวจริงๆ นี่มันน่าเหลือเชื่อมาก
“หรูฮวน เธอนั่งตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอไปดูหน่อย”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อ้าว ยัยม่านลี่ สับรางเก่งเหลือเกินนะ กับคุณนายเหยาคุยอย่างหนึ่ง ลับหลังมาคุยกับผู้ชายอีกคน
ไหหม่า(海馬)