ตอนนี้กัวเฟยอวิ๋นตกใจแทบตายกับการผ่าตัดของตัวโหดอย่างเฉินชางจริงๆ!
คุณจะเหลือช่องว่างให้ผมได้สติกลับมาไม่ได้เหรอ
ให้ตายสินี่ ไม่พูดจาสัดคำ พริบตาเดียวก็ผ่าเลย…นี่จะโหดไปแล้วมั้ง!
ต่อให้เป็นกัวอวิ๋นเฟยที่ได้เปิดโลกกว้างขึ้นเหนือล่องใต้ก็ยังตกอกตกใจเพราะเฉินชาง
ถึงอย่างไรภาพผ่าเปิดเยื่อหุ้มหัวใจอย่างรวดเร็วกับเลือดพุ่งกระฉูดออกมานั้นก็ทำให้เขารู้สึกว่าตนคิดตามมือของเฉินชางไม่ทัน!
ถ้าการผ่าเปิดตอนแรกทำให้กัวอวิ๋นเฟยตกใจจนใจหายวาบ เช่นนั้นการห้ามเลือดอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมาก็ทำให้เขาตกตะลึง!
นี่จะเทพเกินไปแล้วมั้ง!
ชั่วพริบตา เฉินชางใช้คีมห้ามเลือดผนังด้านข้างห้ามเลือดอย่างรวดเร็วทั้งที่หัวใจยังเต้นอยู่แบบนี้ นี่ไม่ได้แค่ทดสอบความกล้าของคนคนหนึ่งแล้ว นี่มันมั่นใจในทักษะของตัวเองอย่างหาใดเทียบ!
คิดถึงตรงนี้ กัวอวิ๋นเฟยอดเงยหน้าขึ้นมองไม่ได้ แล้วเขาก็ตื่นตะลึงอย่างอดไม่อยู่!
เฉินชางห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอันดับสองหรือ
ก่อนหน้านี้ทำไมถึงไม่เคยได้ยินว่าในด้านการแพทย์ฉุกเฉินยังมีคนเก่งขนาดนี้อยู่ด้วย
พยาบาลที่อยู่ด้านหนึ่งมองดูกัวอวิ๋นเฟยยังค่อนข้างประหลาดใจ
ไม่ได้เห็นเขาเสียอาการขนาดนี้นานแค่ไหนแล้ว นานมากแล้วมั้ง!
กัวอวิ๋นเฟยมีฐานะเป็นหัวหน้าแผนกฉุกเฉินที่อายุน้อยที่สุดในมณฑลตงหยาง จัดว่าเลื่อนขั้นไวเป็นพิเศษ ต่อให้อาจารย์ของเขาเป็นผู้อำนวนการโรงพยาบาลหลอดเลือดหัวใจ แต่ทั้งโรงพยาบาลกลับไม่มีใครนินทา เพราะศักยภาพของกัวอวิ๋นเฟยทำให้ทุกคนพูดอะไรไม่ได้!
แต่เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้หัวหน้ากัวออกจะเหม่อและกระวนกระวาย ถึงกับงุนงงอยู่บ้าง
นี่ก็ทำให้พยาบาลออกจะตกตะลึงไม่ได้ เธอเบนสายตาไปมองเฉินชาง หรือว่า…นี่ก็คือหล่อจนอึ้งอย่างที่เขาว่ากัน…เพราะคุณหมอหนุ่มคนนี้เหมือนออกจะหล่อกว่าหัวหน้ากัวจริงๆ แล้วความสามารถล่ะ? เมื่อกี้เธอไม่ได้สังเกตการผ่าตัดของเฉินชางสักนิด จะว่าไปแล้ว…เธอคิดว่าหัวหน้ากัวเป็นที่หนึ่งในใต้หล้า อืม! ถูกต้อง!
เฉินชางเห็นกัวอวิ๋นเฟยผงะไป จึงเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ “หมอกัว เย็บแผลไหมครับ”
กัวอวิ๋นเฟยอึ้ง หันกลับมาทันที แล้วพูดว่า “คุณรู้จักผมเหรอ”
เฉินชางย่อมไม่รู้จัก…แต่คุณมีป้ายชื่อห้อยคอไหมล่ะ
เฉินชางก็เพิ่งเข้าใจแจ่มแจ้งหลังจากเห็นป้ายชื่อห้อยคอ คนคนนี้ก็คือกัวอวิ๋นเฟยหรือ
เขาได้ยินชื่อนี้มาหลายครั้ง เมิ่งซีเคยพูดถึง เถามี่ก็เคยพูดถึง ในที่สุดวันนี้เฉินชางก็ได้เจอตัวเป็นๆ แล้ว…
เหมือนว่า…จะคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง! ชายใส่แว่นท่าทางสุภาพคนนี้คล้ายจะตอบสนองช้าไปหน่อย…นี่ทำงานฉุกเฉินได้เหรอ
เฉินชางส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ แล้วถอนหายใจ พอได้ยินประโยคคำถามของกัวอวิ๋นเฟย ก็พูดจาเข้าสังคมว่า “ชื่นชมคุณมานานแล้วครับ!”
กัวอวิ๋นเฟยได้ยินเข้า แม้ไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่ก็รู้สึกปลื้มอยู่ในใจ ต่อให้ปกติจะมีหลายคนชื่นชมตนมานาน แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้จากเฉินชาง ทำไมถึงดีใจเป็นพิเศษนะ
พอคิดถึงตรงนี้ กัวอวิ๋นเฟยตัดสินใจว่าตนควรจะแสดงฝีมือ! ใช่แล้ว! แค่แสดงฝีมือเอง!
ตอนนี้หัวใจของผู้ป่วยยังเต้นอยู่ แผลฟกช้ำบริเวณเส้นโค้งเอออร์ตาถูกเฉินชางใช้คีมห้ามเลือดผนังด้านข้างหนีบไว้อย่างมีทักษะ แต่เย็บแผลที่เอออร์ตาส่วนขึ้นโดยไม่ได้ตั้งเครื่อง ECMO แบบนี้รู้สึกกดดันมากจริงๆ! แต่จะไม่เย็บก็ไม่ได้! เพราะต่อให้มีคีมห้ามเลือดผนังด้านข้างหนีบปิดหลอดเลือดไว้แล้ว แต่การไหลเวียนเลือดที่เหลืออยู่แคบมาก บวกกับการมีภาวะช็อคจากการเสียเลือด ถ้าขาดเลือดไปนานๆ เป็นไปได้มากที่จะทำให้เนื้อเยื่อสมองขาดเลือดและออกซิเจน!
กัวอวิ๋นเฟยสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง รีบร้อนถือคีมจับเข็มเย็บแผลไว้ดีๆ เริ่มเย็บแผลอย่างเรียบร้อย! แม้จะมีคีมห้ามเลือดผนังด้านข้างหนีบปากแผลโดยไม่ทำให้บาดเจ็บแล้ว แต่คิดจะเย็บแผลให้ดี ยังออกจะเปลืองแรง!
พอเลือดถูกห้องหัวใจบีบให้ไหลออกมาเป็นสายๆ ที่จริงสำหรับการเย็บแผลเอออร์ตาส่วนขึ้นแล้ว แรงที่ดูเหมือนน้อยนิดแบบนี้อาจะสร้างผลกระทบที่ต่างกันเป็นพันลี้ได้! นี่คือเอออร์ตาส่วนขึ้น เย็บแผลยากมาก!
แต่ขณะนี้กัวอวิ๋นเฟยสีหน้าอารมณ์เยือกเย็น มือขวาที่จับคีมจับเข็มเย็บแผลไว้อย่างเสถียร มือซ้ายพยุงปากแผลบริเวณที่จะเย็บไว้อย่างระมัดระวัง เริ่มเย็บแผลอย่างรวดเร็ว!
เข็มเย็บขึ้นลง วิธีที่ใช้กระชับเรียบง่าย นี่เป็นวิธีเย็บแผลที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่ข้อดีของวิธีนี้ก็เห็นได้ชัดมากเช่นกัน! ดังนั้นในแง่ความเร็วในการเย็บ ผู้ผ่าตัดจึงต้องยิ่งมีทักษะสูง ทั้งยังต้องมีเทคนิคการเย็บและความเร็วในการเย็บที่รวดเร็วมากขึ้นด้วย!
กัวอวิ๋นเฟยทำสิ่งนี้ได้ดี เขาไวมาก!
นอกจากนี้ในขณะที่เฉินชางใจจดจ่อ จู่ๆ เขาก็พบว่าตอนกัวอวิ๋นเฟยเย็บแผลอยู่ได้ปรับการเคลื่อนไหวไปตามรายละเอียดของแรงดันหลอดเลือดอย่างละเอียด จุดนี้ทำให้เฉินชางเริ่มตั้งใจมองดูในทันที!
การปรับเปลี่ยนที่ดูเหมือนไม่ตั้งใจนี้ ในสายตาคนอื่นอาจจะเป็นเพียงงานจบท้ายตามความเคยชิน แต่หลังจากหยุดพักการใช้เข็มเย็บแผลแต่ละครั้ง ยังใช้คีมจับเข็มเย็บแผลสัมผัสถึงความตึงของเส้นด้าย สิ่งนี้…ดูเหมือนสบาย แต่ความจริงแล้วแตกต่างมาก!
ขณะที่เฉินชางตั้งใจสังเกตการณ์ กัวอวิ๋นเฟยมองเฉินชางครั้งหนึ่ง หางตากระตุก!
หรือเขารู้แล้ว ดูท่าไม่ธรรมดาจริงด้วย! ตาก็มีแววใช้ได้เหมือนกัน
คิดถึงตรงนี้ กัวอวิ๋นเฟยจึงออกตัวอธิบาย “แม้ว่าเอออร์ตาส่วนขึ้นและส่วนลง ส่วนโค้งเอออร์ตารวมถึงหลอดเลือดแดงอินโนมิเนตจะดูเหมือนเป็นหลอดเลือดใหญ่ในทรวงอกทั้งหมด แต่จริงๆ แล้วความเร็วของระบบไหลเวียนเลือดในระยะยาวของเขาส่งผลให้แรงตึงของเนื้อเยื่อหลอดเลือดไม่เหมือนกัน ตอนที่เย็บแผลคุณต้องตั้งใจรับรู้ถึงแรงตึงแบบนี้ด้วย!”
“แบบนี้แล้วผลลัพธ์ในการเย็บหลอดเลือดที่ต่างกันไปจึงแตกต่างกันมาก!”
“เอออร์ตาส่วนขึ้นไหลพุ่งออกจากห้องหัวใจซ้าย แรงเยอะมาก แรงดันหลอดเลือดจึงค่อนข้างมาก แบบนี้แล้ว…”
กัวอวิ๋นเฟยไม่ได้ปิดบัง บรรยายให้เฉินชางฟังทันที
ความจริงแล้วเขาก็ไม่เคยปกปิดสมาชิกในทีม แต่ไม่เคยออกตัวพูดเอง ทว่าไม่ว่าคนไหนขอเพียงรู้สึกได้ว่ามีแรงตึงแบบนี้อยู่ เขาก็จะไปอธิบายรอบหนึ่ง
ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากพูด แต่เพราะความสามารถไม่ถึงขั้นนั้นจะมีแต่กลับตาลปัตร ฝืนเร่งให้พัฒนาแบบผิดๆ เสียเปล่าๆ! ความจริงแล้วการเย็บหลอดเลือดเป็นการเติบโตทีละก้าว ต้องค่อยๆ ตามรอยไป ไม่มีทางประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย
หมอนี่มีอนาคต!
เฉินชางได้ฟังการอธิบายของกัวอวิ๋นเฟยก็ยิ้มให้อย่างซาบซึ้ง การเตือนที่ดูเหมือนสบายๆ แต่สำหรับเฉินชางที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เขาได้พัฒนาขึ้นมาก!
กัวอวิ๋นเฟยคนนี้มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ! มิน่าอาจารย์เมิ่งที่แสนทะนงตัวถึงชื่นชอบขนาดนี้ แถมผู้อาวุโสในสายงานอย่างหัวหน้าเถา เถามี่ชื่นชมเหลือเกิน ดูท่าจะสมคำร่ำลือ!
ไม่นานนักการเย็บแผลผ่าตัดก็สิ้นสุดลง หลังจากเฉินชางเก็บคีมห้ามเลือดผนังด้านข้างไม่ให้ได้รับบาดเจ็บไป เลือดก็ไหลคล่อง ไม่มีเลือดรั่วซึมออกมาแต่อย่างใด เย็บได้แม่นยำมาก! เทคนิคในการเย็บแผลยอดเยี่ยมมาก!
ตอนนี้จุดที่ผู้ป่วยเลือดออกมากเลือดหยุดแล้ว การผ่าตัดอื่นทำได้หลังจากส่งไปถึงโรงพยาบาล
กัวอวิ๋นเฟยมองเฉินชางครั้งหนึ่ง “ขอบคุณครับหมอเฉิน!”
เฉินชางส่ายหน้า “ยินดีครับ ผมสิต้องขอบคุณ หมอกัว การเย็บแผลคุณโดดเด่นมากครับ!”
กัวอวิ๋นเฟยยิ้ม จริงด้วย การเย็บของเขาเอง ยังมั่นใจได้อยู่!
ทันทีที่เฉินชางลงจากรถก็ได้ยินเสียงเตือนระบบดังขึ้น จึงอดอึ้งงันไม่ได้…