บทที่ 770 กู้หวนอวี้
แม่ทัพกู้และกู้หวนอวี้กลับมาจากชายแดน ก่อนหน้านี้พวกเขาต้องเผชิญกับการสู้รบที่ดุเดือด ด้วยความกล้าหาญของกองทัพสกุลกู้และความเก่งกาจของแม่ทัพทำให้พวกเขาชนะศึกในครั้งนั้นมาได้ พวกเป่ยหมานซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาพ่ายแพ้ให้กับพวกเขาอย่างน่าสังเวชจนต้องล่าถอยกลับไป
ต้าโจวกับเผ่าซยงหนูได้สร้างความสัมพันธ์อันดีด้วยกันอีกครั้ง ทางตอนเหนือจึงมีความสงบสุข
สงครามครั้งนี้เป็นที่เลื่องลือมากในเมืองหลวง ทุกตรอกซอกซอยต่างพูดถึงอย่างกว้างขวาง
กู้เจี๋ยจวินได้สร้างชื่ออีกครั้ง ส่วนกู้หวนอวี้ก็ได้ชื่อเสียงจากการออกรบครั้งนี้เช่นกัน หากไม่ใช่เพราะความกล้าหาญของกู้หวนอวี้ ที่ล่อศัตรูให้เข้ามาในวงล้อม การต่อสู้ในครั้งนี้คงไม่สามารถจบลงได้อย่างแน่นอน พวกเขาต่างขนานนามว่าคุณชายรองสกุลกู้เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม
สกุลกู้มีผู้สืบทอดแล้ว
เมื่อทั้งสองคนกลับมายังเมืองหลวง ผู้คนมากมายจึงออกมายืนรอต้อนรับพวกเขา ถังหลี่ ฝางเหมี่ยวพร้อมกับฮูหยินกู้ก็ไปที่นั่นด้วย ดวงตาของฮูหยินกู้เต็มไปด้วยความคาดหวัง
การที่สามีและบุตรชายต้องออกรบ เป็นเรื่องที่ภรรยาและผู้เป็นมารดามีความกังวลอยู่เสมอ นางตั้งตารอคอยการกลับมาของสามีและบุตรชายตลอดเวลา
จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ดวงตาของฮูหยินกู้ก็พลันสว่างไสว นางก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่รีรอ
เมื่อประตูเมืองถูกเปิดออก คนแรกที่ขี่ม้าเข้ามาเป็นชายสูงอายุ ทีท่าสง่างาม ตามหลังมาด้วยชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใส่ชุดเกราะท่าทีองอาจ
ถังหลี่รู้สึกว่าพี่ชายรองของนางมีความขัดแย้งที่น่าประหลาด แม้เขาจะเข้าร่วมศึกนับครั้งไม่ถ้วนและสังหารศัตรูไปมาก แต่ท่าทีของเขายังคงเหมือนกับบัณฑิต หากเขาหยิบพู่กันขึ้นมาเขียน นางคงแยกไม่ออก
ดวงตาของแม่ทัพกู้เป็นประกาย เมื่อเห็นพวกนาง เขาลงจากหลังม้า เดินมาด้านหน้าภรรยาและบุตรสาว
“ท่านพ่อ” ถังหลี่และฝางเหมี่ยวเอ่ย
แม่ทัพกู้พยักหน้ารับ ดวงตาของเขาหันไปมองฮูหยินกู้อย่างไม่ละสายตา
ทันใดนั้นแม่ทัพกู้ก็อ้าแขนออก โอบภรรยาไว้ในวงแขน
ใบหน้าของฮูหยินกู้แดงก่ำ
“ทำแบบนี้ในที่สาธารณะช่างไร้ยางอาย”
แม้แม่ทัพกู้จะหน้าหนาเพียงใด แต่เขาเป็นคนกลัวภรรยามาก จึงได้ปล่อยนาง …
ฮูหยินกู้ลังเล แต่เมื่อรู้สึกว่าอ้อมกอดกำลังจะคลายนางก็เอื้อมมือไปกอดรอบเอวของสามีไว้แน่น เขาจึงกอดตอบนางเช่นกัน
ถังหลี่หันไปทักทายพี่ชายคนรองของตัวเอง
“พี่รอง”
กู้หวนอวี้เป็นคนที่สง่างามและอ่อนโยนมาก เขาจะมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าอยู่เสมอยามที่มองคนอื่น ทำให้สาวใช้ในบ้านหลายคนต่างชอบเขา แต่อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของเขาไม่ได้อบอุ่นอย่างที่แสดงออก จะมีความจริงใจในรอยยิ้มก็ต่อเมื่อเขาได้มองคนที่ตนรักเท่านั้น พี่ชายของนางคนนี้เหมือนหุ่น ไร้ความอบอุ่น จนถึงตอนนี้ถังหลี่แทบไม่เคยเห็นเขาแสดงอารมณ์ที่แท้จริงออกมาเลย
“น้องเล็ก” เขาเรียกถังหลี่ก่อนจะหันไปมองฝางเหมี่ยว
“พี่สะใภ้”
ทั้งสองคนไม่ได้ขี่ม้าต่อ พวกเขาเดินจูงม้าไปยังจวนสกุลกู้ มือของท่านแม่ทัพกู้และฮูหยินกู้จับกันแน่น ทำให้ถังหลี่มองแล้วถึงกับเข็ดฟัน
ขณะที่เดินไปตามถนน ถังหลี่สังเกตเห็นเด็กสาวสองสามคนมองมาที่กู้หวนอวี้ด้วยสายตาเร่าร้อน ตอนนี้กู้หวนอวี้อายุสามสิบปีแล้ว กำลังอยู่ในวัยฉกรรจ์และมีเสน่ห์ทางเพศอย่างล้นหลาม เมื่อบวกกับบรรยากาศของเทพเจ้าแห่งสงครามก็ไม่แปลกใจที่สาวๆ จะหลงใหลในตัวเขา
เด็กสาวที่ใจกล้าบางคนโยนทั้งผลไม้และดอกไม้ ให้เขาเพื่อแสดงความชื่นชอบ แต่กู้หวนอวี้รับแล้วโยนให้ทหารข้างหลังแทน หากเป็นชายหนุ่มที่อ่อนแอเขาอาจจะสลบไปเพราะสิ่งของโดนที่โยนให้เหล่านี้กระแทกตัว ถังหลี่จึงดึงให้ฝางเหมี่ยวอยู่ห่างจากกู้หวนอวี้เล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้โดนลูกหลง
“พี่รอง มีคนชอบท่านมากเชียวล่ะ” ถังหลี่พูดด้วยรอยยิ้ม กู้หวนอวี้ก็คลี่ยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน
“หวนอวี้ถ้าเจ้ามีหญิงที่เจ้าชอบแล้ว ก็บอกแม่มานะ” ฮูหยินกู้ว่า
ฮูหยินกู้ใส่ใจการแต่งงานของกู้หวนอวี้มาก เพราะลูกๆของนางแต่งงานกันหมดแล้วเหลือเพียงบุตรชายคนรองเท่านั้น นางอยากให้ลูกชายมีภรรยา เขาจะได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของครอบครัว
“ท่านแม่ หากข้ามีคนที่ชอบข้าจะเล่าให้ท่านฟังแน่นอน” กู้หวนอวี้ส่ายศีรษะ
เมื่อเขาพูดเช่นนั้น นางจึงไร้คำตอบโต้
ทันใดนั้นถังหลี่ก็เห็นร่างที่คุ้นเคยในหมู่สาวๆ นางเป็นคนที่สดใสและมีดวงตาเหมือนเมล็ดซิ่ง สตรีผู้นั้นคือตู้เยี่ยน พี่สาวของตู้เว่ยนั่นเอง
ตู้เยี่ยนไม่สังเกตเห็นถังหลี่ด้วยซ้ำไปเพราะดวงตาของนางจับจ้องอยู่แต่กู้หวนอวี้ นางไม่เคยเห็นคนที่หน้าตาดีถึงเพียงนี้มาก่อน
เดิมทีนางมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเทพเจ้าแห่งสงครามจะหน้าตาเป็นอย่างไร จึงได้มามือเปล่า ตอนนี้นางเสียใจเหลือเกินที่ไม่ได้ซื้อดอกไม้และผลไม้มาให้เขาได้แต่มองเขาเดินจากไปเท่านั้น !
ถังหลี่และครอบครัวกู้เดินมาจนถึงจวนแม่ทัพ แม่ทัพกู้และกู้หวนอวี้ไปอาบน้ำชำระตัวล้างคราบฝุ่นและเลือดออกจากตัว แม่ทัพกู้ใช้เวลาอาบน้ำนานเป็นพิเศษ หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เขาและฮูหยินกู้นั่งพูดคุยกันในห้องไม่ออกมาข้างนอกอีกเลย
เมื่อกู้หวนอวี้เปลี่ยนเสื้อคลุมก็ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนบัณฑิตมากยิ่งขึ้น จนแทบจะจินตนาการไม่ได้เลยว่าเขามีความสามารถในการสังหารศัตรูในสมรภูมิรบ
กู้หวนอวี้ถูกรายล้อมด้วยผู้คนมากมาย เด็กชายตัวเล็กเดินแทรกฝูงชนมาหาเขาพลางจ้องมองด้วยสายตาสงสัย
“มู่เป่าหรือ?” ดวงตาของกู้หวนอวี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มได้เคยพบกับหลานชายเพียงครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น เขาไปอยู่ชายแดนทั้งปี มาเมืองหลวงแค่ช่วงสั้นๆ
“ท่านลุงรอง” มู่เป่าพูดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้
มู่เป่าคุ้นเคยในการทำให้ทุกคนเอ็นดู ในไม่ช้าเขาก็เข้ากับกู้หวนอวี้ได้ จากที่ยืนอยู่ตรงเท้าของกู้หวนอวี้ ตอนนี้เขาได้ย้ายตัวเองมานั่งบนตักของท่านลุงรองแทน ไม่นานนักเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักก็เดินกอดเด็กชายตัวเล็กๆ เข้ามาหา นางหน้าตาน่ารักคล้ายคลึงกับมู่เป่ามาก
“ถังเป่า” กู้หวนอวี้ทักด้วยรอยยิ้ม
“ท่านลุงรอง” ในตอนนั้นเด็กน้อยที่นางกอดอยู่ก็ได้ร้องเรียกออกมาเช่นกัน
“ท่านอารอง” เด็กชายตัวเล็กคนนี้หน้าฉลาดเฉลียว เขาเป็นลูกชายของฝางเหมี่ยวและกู้หวนเนี่ยน หลานชายดูเหมือนพี่ชายของเขามาก เขามีใบหน้าที่ไม่แสดงออกทางอารมณ์แต่หน้าตาน่ารัก กู้หวนอวี้อุ้มเด็กน้อยมาไว้บนตัก ถังเป่านั่งนิ่งบนม้านั่งด้วยท่าทีเกียจคร้าน
พี่รองของนางถูกรายล้อมไปด้วยเด็กๆทำให้ถังหลี่อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขา
“พี่รองไม่เพียงแต่ทำให้สาวๆ หลงใหล แต่ยังทำให้เด็กติดใจด้วยนะ”
“เสียดายที่เขาใจแข็งกับหญิงสาว ไม่อย่างนั้นท่านแม่คงไม่กังวลเช่นนี้” ฝางเหมี่ยวกล่าวเสริม ท่าทีของนางดูสงบกว่าเมื่อก่อนมาก ในตอนที่ถังหลี่ได้เจอนางครั้งแรก นางยังเป็นเด็กสาวที่วิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ตอนนี้นางเป็นสตรีที่สง่างามและดูแลบุตรกับครอบครัวสกุลกู้เป็นอย่างดี
ฝางเหมี่ยวมีความกังวลเรื่องการแต่งงานของกู้หวนอวี้ เช่นเดียวกับฮูหยินกู้ ถังหลี่เองก็ยังรู้สึกว่าการแต่งงานของพี่ชายรองนางนั้นมีปัญหาจริงๆ
ในนวนิยายนั้น พี่ชายคนรองของนางไม่แต่งงานเลยจนกระทั่งเสียชีวิต
พี่ชายของนางนิสัยอ่อนโยนยิ้มแย้ม เป็นคนน่ารัก แต่เขาเป็นบุรุษที่ใจแข็งมาก
ถังหลี่คิดไม่ออกเลยว่าจะมีผู้หญิงคนไหนที่จะทำให้เขาหวั่นไหวได้บ้าง
—————————————————-