สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1258 ใช้ทั้งสองวิธี

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1258 ใช้ทั้งสองวิธี

ชาวบ้านบางคนแย่งสัมภาระมาจากพวกเขา บางคนฉุดกระชากเสื้อผ้าของพวกเขาอย่างโหดร้ายเพื่อตรวจสอบว่าพวกเขาซ่อนอาหารหรือเงินไว้กับตัวบ้างหรือไม่ ภรรยากรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ลูกชายร้องไห้ไม่หยุด

ไป๋จิ่นเซ่อที่ย้อนกลับมาอีกครั้งมองดูเหตุการณ์อยู่หน้าประตูวัดร้าง นางกวาดสายตามองหาร่างของเด็กชายคนนั้น นางเห็นเด็กชายคนนั้นคาบอาหารแห้งไว้ที่ปากคลานออกมาจากกลุ่มของชาวบ้าน จากนั้นวิ่งมาทางนาง…

เมื่อเห็นเด็กชายหนีออกมาได้อย่างปลอดภัยไป๋จิ่นเซ่อจิ่งวิ่งหนีไปทันที เด็กชายรีบวิ่งตามหลังไป๋จิ่นเซ่อไป เขาแบ่งอาหารแห้งที่เก็บรักษาเป็นอย่างดีออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งยื่นให้ไป๋จิ่นเซ่อ

ไป๋จิ่นเซ่อก้มมองดูเด็กชายที่มองมาที่นางด้วยตาเป็นประกาย เมื่อเห็นไป๋จิ่นเซ่อไม่รับอาหารแห้งจากเขาเด็กชายคนนั้นจึงยัดอาหารแห้งใส่มือของไป๋จิ่นเซ่อทันที

“กิน…” เด็กชายกล่าว

เด็กชายเป็นคนแย่งอาหารออกมาได้ เดิมทีไป๋จิ่นเซ่อไม่อยากแย่งของเด็กชาย ทว่า ไป๋จิ่นเซ่อที่ไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องมานานต้องการแรงในการหลบหนี ดังนั้นนางต้องกิน

ไป๋จิ่นเซ่อไม่มีเวลาสนใจมือที่สกปรกของเด็กชาย ไม่มีเวลาสนใจว่าอาหารแห้งเปื้อนคราบน้ำลายของเด็กชายมาก่อน นางรับอาหารแห้งมาไว้ในมือ จากนั้นกล่าวขอบคุณพลางเดินไปกินไป

เมื่ออาหารตกถึงท้องไป๋จิ่นเซ่อรู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที นางพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้กินอาหารแห้งหมดในครั้งเดียว นางค่อยๆ กัดกินทีละน้อยๆ ไป๋จิ่นเซ่อไม่เคยลืมคำของท่านหมอหงที่ว่าหากหิวเป็นเวลานานควรทานโจ๊กให้ท้องปรับสภาพได้ก่อน ทว่า ตอนนี้ไม่มีโจ๊ก ไม่มีน้ำ นางทำได้เพียงเคี้ยวให้ละเอียดที่สุดเท่านั้น

ไป๋จิ่นเซ่อและเด็กชายเดินขึ้นไปทางเหนือพลางกินอาหารแห้งในมือไปด้วย…

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยพระจันทร์และดวงดาวที่ส่องแสงสุกสกาว

เงาของไป๋จิ่นเซ่อและเด็กชายทอดยาวไปตามทางภายใต้ต้นไม้ที่ยังไม่ผลิดอกออกใบ ทั้งสองคนพยายามไม่ให้เงาของตัวเองปรากฏชัดท่ามกลางแสงจันทร์เพราะกลัวจะถูกคนเห็นและคิดจับพวกนางไปกินอีกครั้ง

วันนี้หากไป๋จิ่นเซ่อเดินไปตามทางนี้คนเดียวนางอาจรู้สึกหวาดกลัว ทว่า ตอนนี้นางมีคนเดินเป็นเพื่อน แม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงเด็ก ทว่ากลับทำให้ไป๋จิ่นเซ่อมีความกล้ามากขึ้นกว่าเดิม

นี่คงเป็นเหตุผลที่ชาวบ้านลี้ภัยของซีเหลียงรวมตัวอพยพไปด้วยกัน คือเหตุผลที่แม้บางครอบครัวจะมีเสบียงอาหารติดตัว ทว่า ไม่ยอมเดินทางตามลำพัง กลับเลือกที่จะเดินทางไปพร้อมชาวบ้านลี้ภัยคนอื่นๆ แทน

โชคดีที่ไป๋จิ่นเซ่อเกิดมาในตระกูลไป๋ นางมีโอกาสร่ำเรียนวิชามากมายดังนั้นนางจึงรู้ว่าหากเดินทางไปตามดาวเหนือนางจะไม่มีวันหลงทางแน่นอน

พวกนางไม่กล้าใช้ถนนของทางการเพราะกลัวจะถูกชาวบ้านลี้ภัยจับตัวไปอีก ดังนั้นพวกนางจึงเลือกที่จะเดินในป่าลึกไปตามเส้นทางเล็กๆ แทน

ทั้งสองคนไม่หยุดเดินจนกระทั่งฟ้าสว่าง ไป๋จิ่นเซ่อหอบหายใจด้วยความอ่อนล้า นางหันกลับไปมองก็เห็นเด็กชายเดินตามนางมาติดๆ แม้จะหอบหายใจอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน

“พวกเราพักที่นี่ก่อนก็แล้วกัน” ไป๋จิ่นเซ่อกล่าวกับเด็กชาย

เด็กชายมองไปทางไป๋จิ่นเซ่ออย่างไม่เข้าใจ ไป๋จิ่นเซ่อเปลี่ยนเป็นกล่าวภาษาทางการแทนภาษาซีเหลียง

“พวกเราพักที่นี่กันก่อน!”

เด็กชายพยักหน้า เมื่อเห็นไป๋จิ่นเซ่อนั่งลงเขาจึงนั่งลงตาม เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ราวกับกำลังหาของกิน

ทว่า สถานที่ที่ชาวบ้านลี้ภัยเดินผ่านจะมีของกินเหลือให้พวกเขาได้อย่างไรกัน แม้แต่เปลือกไม้ยังถูกพวกนั้นแทะเสียจนเกลี้ยงเกลา

“เจ้าไม่ใช่ชาวบ้านลี้ภัย!”

ไป๋จิ่นเซ่อรู้ว้าเด็กชายไม่ใช่ชาวบ้านลี้ภัยของซีเหลียงจากการที่เขาไม่เข้าใจภาษาซีเหลียง

“เจ้าฟังภาษาซีเหลียงไม่ออก เจ้าเป็นคนต้าโจวอย่างนั้นหรือ!”

เด็กชายไม่กล่าวตอบ ไป๋จิ่นเซ่อก็ไม่ได้ฝืนบังคับ พวกนางพบกันโดยบังเอิญ เป็นเพียงคนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เวลานี้การไม่เชื่อใจผู้ใดทั้งสิ้นเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว หากเด็กชายผู้นี้ถามถึงฐานะของนางนางก็คงไม่ตอบเช่นเดียวกัน

ตอนกลางวันไม่มีดาวเหนือคอยนำทางเหมือนตอนกลางคืน ไป๋จิ่นเซ่อจำต้องพาเด็กชายเดินไปยังถนนของทางการ พวกนางเดินไปตามทางบนเขาซึ่งติดกับถนนของทางการ แม้เส้นทางจะขรุขระและเดินยากไปบ้าง ทว่า พวกนางจะรอดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ

บางครั้งพวกนางพบกับทางที่ขาดตอน เบื้องหน้าคือหน้าผาสูงประมาณสามสิบถึงสี่สิบฟุต ไป๋จิ่นเซ่อเคยเลยวรยุทธิ์มาจากกองทัพไป๋นางสามารถปีนขึ้นหน้าผาได้ แม้เด็กชายจะดูผอมแห้ง ทว่า เขาเป็นคนคล่องแคล่ว เขาปีนขึ้นไปได้เร็วกว่าไป๋จิ่นเซ่ออีก เขาก้มมองดูไป๋จิ่นเซ่อปีขึ้นมาด้านบน เมื่อปีนขึ้นมาเสร็จทั้งสองคนจึงเดินทางต่อ

เด็กชายไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะไปที่ใด ทว่า ไป๋จิ่นเซ่อไปที่ใดเขาก็จะตามไปที่นั่น บางทีอาจเป็นเพราะไป๋จิ่นเซ่อช่วยแก้มัดให้เขา อาจเป็นเพราะนางไม่ทอดทิ้งเขา นางตะโกนช่วยชีวิตเขาไว้อีกครั้งตอนที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันดังนั้นเด็กชายจึงคิดตามไป๋จิ่นเซ่อไปเรื่อยๆ

ทั้งสองคนไม่ใช่คนพูดมาก พวกเขาทำเพียงเดินเคียงข้างกันไปตลอดทางเท่านั้น

ตกกลางคืนทั้งสองคนก่อกองไฟและพักงีบชั่วครู่ จากนั้นจึงออกเดินทางต่อ

จู่ๆ เด็กชายก็กระตุกแขนของไป๋จิ่นเซ่อ เขาหยิบขนมปังที่บิดเบี้ยวจนไม่เป็นรูปร่างออกมาจากอก จากนั้นแบ่งให้ไป๋จิ่นเซ่อครึ่งหนึ่ง

ไป๋จิ่นเซ่อนึกไม่ถึงว่าเด็กชายยังมีเสบียงอาหารซ่อนอยู่ ไป๋จิ่นเซ่อนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเอื้อมมือรับอาหารแห้งมาแบ่งออกเป็นหลายส่วน ก่อนหน้านี้ไป๋จิ่นเซ่อกินอาหารแห้งที่เด็กชายแบ่งให้หมดในคราวเดียวเพราะหากไม่กินจะไม่มีแรง อาจถูกพวกนั้นไล่ตามจับได้!

ทว่า ตอนนี้นางต้องคิดให้มากกว่าเดิม หากหลังจากนี้พวกนางหาเสบียงอาหารไม่ได้อีก สิ่งนี่จะเป็นขนมชิ้นสุดท้ายของพวกนางแล้ว!

เด็กชายที่กำลังจะยัดขนมทั้งหมดเข้าปากเห็นไป๋จิ่นเซ่อแบ่งขนมออกเป็นหลายส่วนจึงชะงักสิ่งที่เขากำลังทำลง จากนั้นแบ่งขนมออกเป็นหลายส่วนและเก็บไว้ตามไป๋จิ่นเซ่อ

ไป๋จิ่นเซ่อเหลือบเห็นการกระทำของเด็กชายจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเขาอย่างอดไม่ได้

“ไปกันเถิด”

เด็กชายลุกขึ้นยืน ดับไฟในกองไฟ จากนั้นเดินตามไป๋จิ่นเซ่อจากไป

เมืองอวิ๋นจิง

เมื่อครู่แม่ทัพชราชุยซานจงเพิ่งมาดูอาการของไป๋ชิงอวี๋ หมอหลวงบอกว่าชีพจรของไป๋ชิงอวี๋เริ่มดีขึ้นแล้ว อีกไม่กี่วันเขาคงฟื้นขึ้นมา

ในที่สุดแม่ทัพชราชุยซานจงจึงวางใจได้เสียที

“แม่ทัพชราชุย ท่านคิดว่าพวกเราควรรอให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวมาที่นี่แล้วค่อยบอกเรื่องที่ต้าเยี่ยนทรยศต้าโจวกับนาง จากนั้นส่งตัวไป๋ชิงอวี๋กลับไปเป็นของขวัญให้นางเพื่อขอทำสัญญาสงบศึกหรือควรร่วมมือกับต้าเยี่ยนดี” หลี่เทียนเจียวและแม่ทัพชราชุยซานจงเดินไปตามระเบียงที่ทอดยาวอย่างช้าๆ

“กระหม่อมก็อยากปรึกษาเรื่องนี้กับฝ่าบาทอยู่พอดีพ่ะย่ะค่ะ…”

แม่ทัพชราชุยกล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน

“กระหม่อมคิดว่าพวกเราสามารถใช้ทั้งสองวิธีพร้อมกันได้พ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เทียนเจียวหันกลับไปมองแม่ทัพชราชุยซานจงด้วยความสนใจ

“แม่ทัพชราชุยลองอธิบายมาสิ”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท