บทที่ 809 ท้ายที่สุด ข้ากลับช่วยสงเคราะห์ให้นางแทนหรือนี่?!
ผู้อาวุโสใหญ่สติแทบขาด เขาโอหังเกินไป เปิดเผยตัวล่วงหน้า ผลสุดท้ายถูกรั้งไว้ที่นี่ เขาตั้งความหวังว่าเทียนหมิงจะช่วยตน แต่ท่าทีของเทียนหมิงกลับเป็นเช่นนี้ ไม่แยแสความเป็นความตายของตนสักนิด!
ที่จริงมาคิดดูแล้ว จะแยแสได้อย่างไรเล่า เป็นดั่งที่เทียนหมิงว่า เทียนหมิงไม่แยแสแม้แต่พี่แท้ ๆ ของตนเอง ไม่แยแสแม้แต่บิดาบังเกิดเกล้าของตนเอง ไหนเลยจะได้มอบความเมตตาให้ผู้อื่น ความคิดของเขาก่อนหน้านี้ช่างไร้เดียงสายิ่งนัก!
ซีไม่ได้ลงมือต่อ ด้วยรู้ดีว่าไม่อาจข่มขู่เทียนหมิงได้
นางเข้าไปหาเต่าชรา สำแดงมหาวิชารักษาเพื่อแก้พิษ
พิษนี้น่ากลัวอย่างแท้จริง มหาวิชารักษาที่นางใช้ผ่านการปรับปรุงจากนางมาแล้ว พลานุภาพกล้าแกร่งอย่างยิ่งยวด กระนั้นยังไม่อาจแก้พิษในตัวเต่าชราได้
ทว่าก็พอส่งผลบ้าง พลังในตัวเต่าชราที่ถูกสลายลดความเร็วลง
“ไม่ต้องแตกตื่น รีดเร้นพลังตามคัมภีร์ เฝ้ารักษาแก่นกำเนิดไว้!”
ซีกล่าว
นางช่วยให้วิชาของเต่าชราสมบูรณ์ขึ้น และยกระดับชั้นของอานุภาพขึ้นเช่นกัน เมื่อรีดเร้นแล้ว จักช่วยให้พลังที่ถูกสลายไปในตัวลดความเร็วลงอีก
หลังเต่าชราได้ยินคำพูดของซี ก็รีบรีดเร้นวิชาในตัว ตามคาด พลังในตัวที่ถูกสลายเชื่องช้าลงไปอีก
“เปล่าประโยชน์! วันนี้เจ้าหนีไม่พ้นแน่!”
เทียนหมิงมีสีหน้าเย็นชา ไม่ได้รีบร้อนลงมือ เจดีย์เวหานี้นอกจากสามารถตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว ยังโจมตีอย่างน่ากลัวได้อีกด้วย
ทว่า เขาไม่ได้จู่โจมซีทันที
เขาต้องการรอไปก่อน รอให้พิษในตัวซีกำเริบ เพื่อลดโอกาสการพลาดพลั้ง!
ถึงอย่างไร พลังที่คอยคุ้มครองซีอยู่ก็พิลึกพิลั่น แม้แต่เจดีย์เวหาก็ไม่อาจขวางกั้น หลังโจมตีออกไปจึงยังมีพลังเช่นนั้นปรากฏออกมา
ทันทีที่พิษในตัวซีกำเริบ พลังในกายถูกสลาย เวลานั้นเขาจะจู่โจมอย่างรุนแรงรวดเร็ว สังหารซีในเสี้ยวลมหายใจ ไม่เหลือโอกาสให้พลังคุ้มครองนั้นได้จุติ!
เดิมซีต้องการใช้วิชารักษาขับไล่สารพิษในตัว แต่นางกลับพบว่า นางไม่เป็นอันใด ราวกับไม่มีสารพิษใดในตัว
“เข้าใจแล้ว!”
ไม่นานนางก็เข้าใจ ค่อย ๆ คิดตก
ร่างกายของนางผ่านการปรับปรุงจากท่านผู้นั้น ไหนเลยจะเกิดปัญหาได้ง่าย ๆ
ต่อให้สารพิษนั้นน่ากลัวเพียงใด ก็ไม่มีทางเป็นอันตรายต่อร่างกายของนาง มิฉะนั้น ป่านนี้นางคงออกอาการไปนานแล้ว ไม่มีทางอยู่อย่างปกติสุขเช่นนี้
นางใจเย็นลง และแน่ใจได้ว่าสารพิษนั้นจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อตน จึงเริ่มประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ที่นี่มีคลื่นริ้วค่ายกลโลดแล่น และยังเป็นคลื่นริ้วค่ายกลที่ลึกล้ำไม่ธรรมดา คิดแล้วคงเป็นค่ายกลที่ทรงพลัง มิฉะนั้นเทียนหมิงคงไม่มั่นใจว่าสามารถขวางกั้นพลังที่คอยคุ้มครองนางได้
นางไม่เคยร่ำเรียนวิชาค่ายกล จึงไม่รู้เรื่องค่ายกลเลยสักนิด ทว่า หลังจากพินิจพิเคราะห์จนถี่ถ้วน นางก็หัวเราะอยู่ในใจ
แข็งแกร่งเหลือเกิน!
พรสวรรค์ด้านอภินิหารของนางเผยออกมาในด้านค่ายกลเช่นกัน!
ไม่ว่าจะเป็นอภินิหารประเภทใด ขอเพียงนางได้อ่านตำราหนึ่งรอบก็จะเห็นจุดด่างพร้อย ซ้ำยังช่วยปรับปรุงให้สมบูรณ์ขึ้นได้ด้วย
สถานการณ์ในยามนี้ก็เช่นกัน!
หลังนางได้พิจารณาดูแล้วหนึ่งรอบ ก็รู้แจ้งในค่ายกลของสถานที่แห่งนี้อย่างสมบูรณ์ ค้นพบจุดด่างพร้อยทั้งหมด ซ้ำยังช่วยแก้ให้สมบูรณ์ เสริมค่ายกลแห่งนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นได้ด้วย!
“ทลายค่ายกลหรือ? ไม่ ๆๆ…”
ซีหัวเราะในใจ นางทลายค่ายกลและออกจากเจดีย์เวหาได้แน่นอน สำหรับนาง ค่ายกลนี้เปรียบเสมือนของประดับ ไร้ผลใด ๆ
ทว่า นางไม่คิดจะทำเช่นนั้น
ที่นี่ช่างยอดเยี่ยม ไยต้องไปจากที่นี่ด้วย
เจดีย์เวหามีสรรพคุณรวบรวมขุมปราณพลังในฟ้าดินดั่งที่กล่าวอ้าง หากได้ฝึกฝนที่นี่ ย่อมได้ผลดีกว่าที่อื่น นางสำเร็จด้วยความพยายามเพียงครึ่งหนึ่งจากที่เคย และอาจได้ผลทวีคูณอีกหลายเท่าตัว!
หากไม่ใช่เช่นนั้น นางคงไม่ตามผู้อาวุโสใหญ่เข้ามาในเจดีย์เวหา
เดิมเจดีย์เวหานี้คือค่ายกลใหญ่ นางควบคุมค่ายกลใหญ่นี้ได้แน่นอน และทำให้ค่ายกลใหญ่นี้รับใช้นาง ทำให้เทียนหมิงสูญเสียอำนาจที่มีต่อค่ายกลใหญ่นี้
จากนั้น นางเริ่มปฏิบัติการ ปรับแก้ค่ายกล
“เจ้าคิดจะทลายค่ายกลหรือ เลิกฝันกลางวันเสียเถอะ!”
นอกเจดีย์เวหา หลังเทียนหมิงเห็นสิ่งที่ซีทำก็คิดไปว่าซีกำลังพยายามทลายค่ายกล เขาถึงกับหัวเราะออกมา
นี่คือของวิเศษที่บรรพจารย์นำกลับมาจากตระกูลหลัก ถือเป็นของวิเศษชิ้นสำคัญของตระกูลหลักด้วย ค่ายกลส่วนสำคัญในนั้นไหนเลยจะทลายได้ง่าย ๆ
ไม่มีทาง!
อย่าว่าแต่ซีเลย แม้แต่ผู้บงการอาวุโสที่เชี่ยวชาญด้านค่ายกลยังทำไม่ได้!
ซีวุ่นวายอยู่ข้างในพักใหญ่ก่อนจะรามือ นั่งขัดสมาธิในนั้นแล้วเริ่มการฝึกฝน!
“รู้ว่าไม่ไหวจึงยอมแพ้หรือ?”
เทียนหมิงหัวเราะเยาะ
“ไม่สิ! เหตุใดค่ายกลถึงอยู่ใต้บัญชาของนาง ขุมปราณชีวิตในฟ้าดินกำลังถูกนางดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง!”
สีหน้าของเขาเคร่งเครียดถึงขีดสุดจนฝนแทบตกลงมา สถานการณ์ผิดปกติเกินไป ซีใช้พลังค่ายกลได้ แล้วยังสำแดงอานุภาพของค่ายกล ดูดกลืนขุมปราณชีวิตในฟ้าดินอย่างบ้าคลั่งได้ด้วย!
“บัด… ซบ!”
เขาด่ากราดไม่หยุด รีบนำธงค่ายกลออกมา สุดท้ายกลับค้นพบด้วยความตกตะลึงว่าเขาไม่อาจควบคุมค่ายกลในเจดีย์เวหาได้อีกต่อไป!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”
เขาไม่อาจเชื่อได้ลง หน้าตาประหวั่นพรั่นพรึงยิ่ง ที่ซีทำไปเมื่อครู่เปลี่ยนเจ้านายของค่ายกลได้จริงหรือ
สวรรค์ ทำได้อย่างไรกัน
ให้ตายเขาก็เชื่อไม่ลงว่าทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง!
ทว่า ความเป็นจริงได้พิสูจน์แล้วว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ภาพฝัน!
ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่อาจควบคุมค่ายกลในเจดีย์เวหา ปราศจากปฏิกิริยาตอบโต้!
“รีบฆ่านางเสีย!”
เทียนหมิงคำราม หมายจะให้ผู้อาวุโสใหญ่ข้างในฆ่าซี หรือเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่ค่ายกลถูกปรับให้อยู่ในการควบคุมของนาง!
โง่หรือไร!
เทียนหมิงไม่ใยดีชีวิตตน แล้วยังจะให้เอาชีวิตเข้าแลกอีกหรือ
คิดอันใดอยู่!
ผู้อาวุโสใหญ่เมินเทียนหมิง
“สวะเอ๋ย! เจ้าบังอาจไม่ฟังคำสั่งข้า ข้าจะฆ่าลูกหลานเหลนของเจ้าให้หมด!”
เทียนหมิงคำราม หากผู้อาวุโสใหญ่ฝ่าฝืนคำสั่งจริง เขาจะฆ่าลูกหลานเหลนของผู้อาวุโสใหญ่ให้หมด!
“เจ้าอำมหิตเกินไปแล้ว!”
ผู้อาวุโสใหญ่โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง เทียนหมิงไม่เหลือความเป็นมนุษย์เลยสักนิด!
“เร็วเข้า เจ้ารู้ว่าข้าทำเช่นนั้นแน่!”
เทียนหมิงกล่าว “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะใช้วิธีใด ฆ่านาง หรือทำลายการควบคุมของนางที่มีต่อค่ายกลใหญ่เสีย!”
นี่คิดจะส่งเขาไปตายจริง ๆ หรือ!
เขาไม่ใช่คู่มือของซี จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร เทียนหมิงไม่คิดจะไว้ชีวิตเขาด้วยซ้ำ!
ผู้อาวุโสใหญ่ขบกรามแทบหัก ทว่า เขาจะมีหนทางอื่นใดอีก
เทียนหมิงใช้ลูกหลานเหลนของตนในการขู่ เขาจำต้องสู้สุดชีวิต!
จากนั้น เขาคิดจะจุดประกายแก่นกำเนิดในตัวแล้วเข้าต่อสู้โดยใช้พลังจากแก่นกำเนิด เลิกหวังที่จะมีชีวิตต่อ
ทว่า เวลานั้นเอง พลังมวลหนึ่งม้วนรอบตัวและส่งเขาออกจากเจดีย์เวหา
ขณะเดียวกัน เจดีย์เวหาปิดผนึกสมบูรณ์ เทียนหมิงไม่อาจมองเห็นสถานการณ์ด้านในได้อีก
“เดิมข้าคิดจะฆ่านางด้วยเจดีย์เวหา สุดท้ายข้ากลับช่วยสงเคราะห์ให้นางหรือนี่?!”
เทียนหมิงโมโหจนอวัยวะภายในแทบระเบิดออกมา แค่คำว่าชอกช้ำยังน้อยไปด้วยซ้ำ
ซีควบคุมเจดีย์เวหาไว้ได้ บัดนี้ เจดีย์เวหากลายเป็นสถานที่ฝึกฝนชั้นเลิศของซี เขาดันมอบวาสนาการเปลี่ยนแปลงให้หรือนี่!
“เจ้าไม่มีทางทำสำเร็จ!”
สายตาของเขาโหดเหี้ยม ไปจากที่นี่เพื่อรวมกำลังพล อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยให้ซีได้ฝึกฝนในเจดีย์เวหาอย่างสบายอารมณ์
เช่นนี้รังแต่จะทำให้ซีแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!