บทเพลงแด่อลิซของบีโธเฟนเป็นบทเพลงเปียโนยอดนิยม เนื่องจากเป็นผลงานที่ผู้ซึ่งมีใจรักในเปียโนทุกคนต่างคุ้นเคยดี อิทธิพลของผลงานชิ้นนี้จึงอยู่ในระดับโลก !
ไม่ได้เป็นรองวิวาห์ในฝัน
ปีนี้หลินเยวียนจะชิงตำแหน่งพ่อเพลง ถ้าหากอลิซในแดนมหัศจรรย์โด่งดัง หลินเยวียนจะเลือกสักฤดูกาลเพลงหนึ่งเพื่อปล่อยให้ผลงานของบีโธเฟนชิ้นนี้ไต่ชาร์ต!
หยิบยืมกระแสของนิยาย
เพลงนี้ต้องโด่งดังอย่างแน่นอน!
อย่างน้อยก็ครองสักฤดูกาลหนึ่งได้อย่างมั่นคง!
ถึงขั้นที่ต่อให้ไม่มีพื้นฐานจากนิยาย แด่อลิซก็โด่งดังได้ แต่ถ้าไม่เกาะกระแสก็ไม่ได้โง่งม หลินเยวียนเชี่ยวชาญการเกาะกระแสจากตัวตน อื่นๆ ของตน เรียกให้ไพเราะสักหน่อยก็คือ ‘ร่วมมือ’
เมื่อคิดถึงตรงนี้
ในที่สุดแววตาของหลินเยวียนก็จริงจังขึ้นมา เมื่อเป็นเช่นนี้ ความหมายของการเผยแพร่อลิซในแดนมหัศจรรย์จึงไม่ใช่เพียงผลงานนิทานเรื่องหนึ่งซึ่งถูกคัดเลือกมาใช้ในการประชันวรรณกรรมกับเดวิดเพียงอย่างเดียว ทว่ายังเกี่ยวโยงไปถึงเป้าหมายสูงสุดของตนในปีนี้เช่นกัน
ชิงตำแหน่งพ่อเพลง!
ไม่ว่าเรื่องใดที่เกี่ยวโยงถึงเป้าหมายสูงสุดของเขาในปีนี้ หลินเยวียนจะรับมืออย่างรอบคอบเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้เขาถึงกับเอาชนะอาการขี้เกียจของตนเองในช่วงนี้ หรือว่าจะให้อิ่งจือออกโรงด้วยดีนะ?
ถึงอย่างไรเขาก็ต้องการความแน่นอน
และนิทานเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์เป็นผลงานซึ่งเปี่ยมไปด้วยจินตนาการอันงดงาม อลิซซึ่งเป็นตัวเอกเป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก ท่ามกลางความเบื่อหน่าย เธอพบกระต่ายขาวพูดได้ตัวหนึ่งถือนาฬิกาพก ขณะกำลังไล่ตามมัน อลิซก็บังเอิญตกลงไปในโพรงกระต่าย และได้ดำดิ่งสู่โลกใต้ดินซึ่งเปี่ยมมนต์ขลัง
ในโลกแห่งนี้
การดื่มน้ำจะทำให้เธอหดตัวจนมีขนาดเท่ากับหนู ในขณะที่การกินเค้กชิ้นหนึ่งจะทำให้เธอขยายร่างจนกลายเป็นยักษ์ ส่วนเห็ดชนิดเดียวกัน ด้านขวาจะทำให้เธอเตี้ยลง ด้านซ้ายจะทำให้เธอสูงขึ้น บนโลกนี้ดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่เธอกินจะส่งผลลัพธ์อันแปลกประหลาด
เธอยังพบเจอกับสัตว์ประหลาดมากมาย
ยกตัวอย่างเช่น นกโดโด้ กิ้งก่าบิล แมวเชสเชียร์ กระต่ายป่าเดือนสาม หนูดอร์เมาส์ เต่าจำลอง นกกริฟฟิน ดัชเชสผู้อัปลักษณ์เป็นต้น แน่นอนว่า ยังรวมไปถึงแมดแอตเตอร์ซึ่งถูกกล่าวถึงในแดนนิทาน
นอกจากนั้น
เธอยังพบไพ่อีกหนึ่งสำรับด้านหลังประตูเล็ก และพบราชินีโพธิ์แดงจอมโหดเหี้ยม ราชาโพธิ์แดงผู้ใจดี และแจ็คโพธิ์แดงผู้มีชีวิตชีวา…
เต็มไปด้วยจินตนาการ
ว่ากันว่าจินตนาการของเด็กๆ นั้นไม่มีที่สิ้นสุด ต่อให้หลินเยวียนตีพิมพ์นิทานก็สามารถทำให้เด็กๆ จินตนาการได้สารพัดรูปแบบในสมองของพวกเขา แต่ถ้าหากอิ่งจือมีส่วนร่วมในกระบวนการทั้งหมดและวาดภาพประกอบของผลงานชิ้นนี้ ออกแบบตัวละครในเรื่องให้สอดคล้องกับความคิดและจินตนาการของทุกคน จะต้องทำให้นิทานดึงดูดเด็กๆ ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้
อิ่งจือก็มาด้วยแล้วกัน
ทันใดนั้นหลินเยวียนก็รู้สึกพูดไม่ออก
นี่นับว่าเป็นการขุดหลุมให้ตัวเองหรือเปล่านะ?
ทั้งที่เลือกอลิซในแดนมหัศจรรย์เพราะคิดจะแอบอู้งาน ทว่าสุดท้ายแล้วกลับงานยุ่งกว่าเดิมด้วยเหตุนี้ ไม่ทันได้มีเวลาแอบพักผ่อนหย่อนใจ เขาถึงขั้นต้องมาร่วมมือกับเซี่ยนอวี๋และอิ่งจือด้วยซ้ำไป
เช่นเดียวกับที่เขาไม่อยากประชันวรรณกรรม แต่สุดท้ายกลับงานเข้าเสียเอง
ทุกสิ่งเกิดขึ้นตรงข้ามกับที่ปรารถนา
หลังจากขจัดความเกียจคร้านในร่างกายออกไปได้ชั่วคราว หลินเยวียนให้กำลังใจตนเอง จากนั้นจึงไปยังสตูดิโอเริ่มจับลงมือ ด้านหนึ่งเขียนนิทานชุดอลิซ อีกด้านหนึ่งเริ่มวาดภาพตัวละครในการ์ตูน
……
ในสตูดิโอ
หลินเยวียนกำลังเขียนนิทาน และทุกๆ ส่วนของนิยาย เขาจะวาดภาพการ์ตูน จึงแลดูว่ากำลังงานยุ่งเหลือเกิน
จินมู่ซึ่งอยู่ด้านข้างพยักหน้าซ้ำๆ ไปมา
หัวหน้าเรี่ยวแรงดีจริงๆ !
มีความพยายาม!
มีความขยันขันแข็ง!
เป็นนักเขียนที่ดี!
จินมู่รู้เรื่องการประชันวรรณกรรม
จินมู่ดีใจกับเรื่องนี้มาก เหตุผลประการแรกคือเขาเชื่อมั่นในฝีมือด้านการเขียนของฉู่ขวงเป็นอย่างยิ่ง เหตุผลประการที่สองคือความสำคัญของเรื่องนี้ จินมู่เชื่อมั่นเหลือเกินว่าถ้าครั้งนี้หัวหน้าคว้าชัยชนะในการประชันวรรณกรรม ย่อมเท่ากับชนะใจผู้คนทั่วทั้งเยี่ยนโจวได้เช่นกัน!
เป็นโอกาสที่ดีขนาดไหน!
แม้ว่าชาวเยี่ยนจะปลุกปั่นให้ฉู่ขวงประชันวรรณกรรมกับเดวิด เจตนาของพวกเขาไม่บริสุทธิ์ก็จริง ทว่าความจริงที่ชาวเยี่ยนถูกชาวหานเกทับ พวกเขาต้องการให้ใครสักคนเข้ามาช่วยเหลือ ต่อให้ช่วยไม่ได้ อย่างน้อยก็ช่วยกู้หน้าคืนมาได้บ้าง
ในเวลานี้
การตอบรับคำท้าของฉู่ขวงให้อารมณ์ประมาณว่า ‘ปรากฏตัวขึ้นหลังจากมีเสียงเรียกร้องนับหมื่น’
ถ้าหากฉู่ขวงชนะแล้ว เช่นนั้นฉู่ขวงซึ่งส่งวงการนิทานเยี่ยนโจวลงหุบเหว ก็จะผันตัวมาเป็นผู้มีพระคุณของชาวเยี่ยน!
ความรู้สึกของเดจาวูรุนแรงเกินไปไหม
ทำลายพวกเขา แล้วจึงช่วยเหลือพวกเขา!
ฟังแล้วให้ความรู้สึกราวกับบอกว่า ‘ตบหัวเยี่ยนโจวแรงๆ แล้วจึงลูบหลังให้อย่างอ่อนโยน’
พูดให้หรูหราสักหน่อยก็คือความสง่างามและความเข้มงวดต้องใช้ร่วมกัน!
บังเอิญว่า เรื่องนี้ดันไปสอดคล้องกับจิตวิทยาในการปกครองของจักรพรรดิสมัยโบราณ
การตะโกนกู่ร้องว่า ‘ฉู่ขวงจากฉินโจวฉายแววจักรพรรดิ’ จึงไม่ใช่เรื่องไร้ประโยชน์
ถึงแม้การกระทำนี้จะไม่เป็นความจริง แต่ต้องบอกว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลจริง ทั้งยังผ่านการทดลองมาหลายครั้ง และได้ผลลัพธ์เช่นเดิม ไม่อย่างนั้นบรรดาจักรพรรดิในสมัยโบราณไม่มีทางกระตือรือร้นที่จะใช้วิธีนี้หรอก
นี่คือวิธีแห่งราชาที่แท้จริง!
อีกทั้งเรื่องนี้ของฉู่ขวงก็สมเหตุสมผล
คงไม่มีใครออกมาบอกว่าอุบายของฉู่ขวงนั้นลึกซึ้ง
ถึงอย่างไรชาวเยี่ยนก็ขอร้องให้ฉู่ขวงลงมือ ไม่ใช่ฉู่ขวงที่ออกตัวว่าจะลงมือเองสักหน่อย
ทั้งสองเรื่องเป็นตัวแทนของสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อถึงตอนนั้นชาวเยี่ยนจะไม่เห็นดีเห็นงามด้วยก็คงไม่ได้!
นี่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาในอนาคตของหัวหน้า!
ทว่าเดวิดคนนี้ไม่ธรรมดา
แม้จะเชื่อมั่นใจตัวหัวหน้า แต่หัวหน้าก็ไม่ได้รบร้อยครั้งชนะสักหน่อย
ในการจัดอันดับฤดูกาลเพลงก่อนหน้านี้ หัวหน้าก็พ่ายแพ้ให้กับหยางจงหมิง ถึงแม้จะมีทางการเข้ามาแทรกแซงก็เถอะ
แต่แพ้ก็คือแพ้
ดังนั้นจินมู่จึงยังคงรักษาความระมัดระวังขั้นพื้นฐาน และยังคงติดตามความเคลื่อนไหวทางฝั่งเดวิด
“หืม?”
เมื่อเห็นโพสต์ใหม่ของเดวิด คิ้วของจินมู่เลิกขึ้นเล็กน้อย ความกังวลก็ปรากฏขึ้นในแววตา
ผลงานนิทานชิ้นใหม่ของเดวิดคนนี้ มีข้อได้เปรียบในการประชันวรรณกรรมที่กำลังจะมาถึง!
“มีอะไรครับ”
เขียนทั้งหนังสือและวาดทั้งภาพ หลังจากหลินเยวียนทำงานมาติดต่อกันครึ่งชั่วโมงก่อนจะพักดื่มน้ำ ทันใดนั้นก็เห็นว่าสีหน้าของจินมู่เคร่งขรึมขึ้นมา จึงเอ่ยปากซักถาม
“เรื่องการประชันวรรณกรรมครับ”
จินมู่ตอบ “เดวิดเพิ่งประกาศข่าวบนปู้ลั่ว ผลงานที่เขาเลือกใช้ประชันวรรณกรรมกับคุณ ก็คือเรื่องตำนานแห่งท้องทะเลที่เพิ่งเอาชนะไป๋เจี๋ยมาก่อนหน้านี้!”
“ตำนานแห่งท้องทะเล?”
หลินเยวียนตะลึงงัน “จากกฎของการประชันวรรณกรรม เหมือนว่าผลงานหนึ่งเรื่องจะใช้ประชันวรรณกรรมกับนักเขียนได้คนเดียวนี่ เขาจะใช้ผลงานชิ้นเดิมประชันวรรณกรรมกับนักเขียนสองคน?”
ช่วงนี้
หลินเยวียนแทะเมล็ดแตงโมรับบทผู้ชมมาโดยตลอด ดังนั้นหลินเยวียนจึงรู้ว่าตำนานแห่งท้องทะเลก็คือผลงานซึ่งเดวิดใช้เอาชนะไป๋เจี๋ยนั่นเอง
“ไม่ใช่ครับ…”
จินมู่เอ่ยอย่างจนใจ “เขาใช้ช่องโหว่จากกฎการประชันวรรณกรรม ผลงานที่เขาต้องการใช้ประชันวรรณกรรมกับคุณ ถึงแม้จะเป็นตำนานแห่งท้องทะเลที่เคยเอาชนะไป๋เจี๋ยมาแล้ว แต่ผลงานที่เขาจะปล่อยในครั้งนี้คือภาคสอง?”
ภาคสอง?
หลินเยวียนเข้าใจแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตำนานแห่งท้องทะเลแบ่งเป็นสองภาค เขาใช้ภาคหนึ่งเอาชนะไป๋เจี๋ย ในเวลานี้จึงคิดจะใช้ภาคสองมาประชันวรรณกรรมกับตน หนังสือเรื่องเดียวกันก็จริง แต่เนื้อหากลับไม่เหมือนกัน เรื่องราวหน้าและหลังมีความเกี่ยวโยงกัน
“อย่างนี้นี่เอง”
หลินเยวียนยังคิดว่าเดวิดจะเขียนเรื่องใหม่ขึ้นมาเพื่อประชันวรรณกรรมกับตนเสียอีก นึกไม่ถึงว่าจะเป็นตำนานแห่งท้องทะเล
“ช่างเถอะครับ”
หลินเยวียนเอ่ยเสียงเรียบ ในเมื่อมีช่องโหว่ของการประชันวรรณกรรม หมายความว่าโดยพื้นฐานแล้วเรื่องเหล่านี้จะได้รับอนุญาต
“ปัญหาคือ…”
จินมู่ยิ้มขมขื่น “ตำนานแห่งท้องทะเลภาคแรกเอาชนะไป๋เจี๋ยได้ และมีฐานผู้อ่านที่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณปล่อยผลงานใหม่ คุณจะเสียเปรียบโดยธรรมชาติ”
“ผมมีข้อได้เปรียบของผม”
หลินเยวียนกลับมองออก ว่าผลงานในการประชันวรรณกรรมของเดวิดนั้นอาจพึ่งพากระแส เพื่อให้ได้ฐานผู้อ่านโดยธรรมชาติ นี่เป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว
แต่ว่า…
หลินเยวียนมีภาพประกอบระดับปรมาจารย์ นี่เป็นข้อได้เปรียบที่หลินเยวียนมี แต่คนอื่นยากที่จะได้รับ อิ่งจือก็คือสูตรโกงของหลินเยวียน
เว้นเสียแต่ว่า…
เดวิดก็สามารถเฟ้นหาจิตรกรระดับปรมาจารย์มาช่วยวาดหนังสือภาพของนิทานได้เช่นเดียวกัน