จินมู่อ้าปากพะงาบ
สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
ทว่าความกังวลของจินมู่ยังคงไม่หายไปจนหมดสิ้น
อันที่จริง
ปัญหาที่จินมู่กังวลนั้นก็เป็นปัญหาที่ชาวเน็ตผู้สนับสนุนกังวลเช่นเดียวกัน
เมื่อทุกคนเห็นประกาศอย่างเป็นทางการของเดวิด ว่าหนังสือเรื่องใหม่ซึ่งจะประชันวรรณกรรม ก็คือภาคสองของ ‘ตำนานแห่งท้องทะเล’ บนอินเทอร์เน็ตจึงมีคนตั้งคำถามเหล่านี้
‘แบบนี้เป็นไปตามกฎหรือเปล่า?’
‘เดวิดแข่งแบบนี้เอาเปรียบมากเลย’
‘นอกเสียจากว่าผลงานที่ฉู่ขวงปล่อยมาจะเป็นภาคต่อของซูเค่อกับเป้ยถ่า ถึงจะกอบกู้ความเสียเปรียบนี้ได้’
‘นั่นสิ’
‘ถึงอย่างไรเดวิดก็เอาชนะไป๋เจี๋ยไปแล้ว ตำนานแห่งท้องทะเล’
‘ด้วยชื่อเสียงของภาคแรก ทันทีที่ตำนานแห่งท้องทะเลปล่อยออกมา จะมีนักอ่านหลายคนซื้อภาคสองโดยไม่ต้องยั้งคิด ต่อให้คุณภาพของภาคสองจะแย่ลงก็ช่างมัน’
‘ก็เหมือนกับเรื่องราวภาคต่อของซูเค่อกับเป้ยถ่า ฉันเองก็ต้องซื้อเหมือนกัน’
‘…’
ไม่นานก็มีชาวเยี่ยนเข้ามาแสดงความคิดเห็น
‘การประชันวรรณกรรมเป็นธรรมเนียมที่มีต้นกำเนิดในเยี่ยนโจว และในหลายปีที่การประชันวรรณกรรมเกิดขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สถานการณ์คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม พวกเราชาวเยี่ยนไม่ได้ห้ามสถานการณ์เช่นนี้ เพียงแต่พวกเราพยายามไม่ทำมันเท่านั้นเอง’
พูดง่ายๆ คือ
แม้ว่าการปฏิบัติเช่นนี้จะเป็นที่ถกเถียงกันในเยี่ยนโจว แต่ก็ไม่ได้มีข้อกำหนดชัดเจนซึ่งระบุว่าเรื่องนี้ไม่สอดคล้องกับกฎการประชันวรรณกรรม
และเนื่องจากการกระทำเช่นนี้เป็นประเด็นถกเถียง เพราะฉะนั้นทางเยี่ยนโจวจึงไม่มีใครใช้ลูกเล่นนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่าชัยชนะที่ได้รับมานั้นไม่ยุติธรรม
ทว่าเดวิดไม่ใช่ชาวเยี่ยนโจว เขาไม่ได้มีความหวั่นวิตกในเรื่องนี้
ต่อให้เดวิดทำเช่นนี้ ก็สามารถแก้ต่างได้โดยอ้างว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
ในความเป็นจริง
ชาวหานก็อธิบายเช่นนี้
‘การประชันวรรณกรรมเป็นธรรมเนียมของเยี่ยนโจว พวกเราชาวหานไม่ค่อยเข้าใจ เชื่อว่าอาจารย์เดวิดเองก็เป็นหนึ่งในนั้น’
‘ในเมื่อตัวตน ย่อมสมเหตุสมผล ในเมื่อไม่มีกฎที่ระบุชัดเจนว่าการทำเช่นนี้ไม่เหมาะสม ย่อมไม่มีปัญหา’
‘ฉู่ขวงก็เขียนภาคต่อของผลงานนิทานเรื่องอื่นของตัวเองได้เหมือนกันนี่นา’
‘ภาคหนึ่งภาคสอง ไม่มีทางเลาเรื่องราวเดียวกัน นับได้ว่าเป็นนิยายสองเรื่อง’
‘นอกจากนั้น เดิมทีเดวิดก็เป็นคนวางรากฐานของตำนานแห่งท้องทะเลด้วยตัวเอง’
‘…’
ว่ากันว่าสถานะตัดสินความคิด
ชาวหานย่อมยืนอยู่ข้างเดวิด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคำอธิบายของชาวหานจะไม่อาจโน้มน้าวใจสาธารณชนได้อย่างสมบูรณ์ แต่ต่อให้เป็นชาวเยี่ยนโจวซึ่งเป็นผู้คิดค้นการประชันวรรณกรรม และคาดหวังว่าเดวิดจะพ่ายแพ้ ก็ไม่สามารถตำหนิเดวิดได้
ใครให้ชาวเยี่ยนไม่ยอมออกกฎห้ามการกระทำเช่นนี้ตอนที่ริเริ่มการประชันวรรณกรรมล่ะ
เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมส่งผลให้เมฆครึ้มก่อตัวขึ้นเหนือหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวง
ผลงานของทั้งสองยังไม่ทันได้เผยแพร่ แต่เดวิดก็ใช้วิธีนี้ปีนขึ้นไปยังจุดสูงสุดแล้ว
‘เรื่องนี้ไม่ง่ายเลย’
มีคนเป็นห่วงฉู่ขวง ‘ถึงแม้นิยายของฉู่ขวงจะยอดเยี่ยม แต่อย่างที่รู้ๆ กันว่าฉู่ขวงเขียนนิทานสั้นได้เก่งที่สุด นิทานยาวของเขาเรื่องซูเค่อกับเป้ยถ่าสนุกก็จริง แต่ก็อาจไม่ได้เหนือกว่าเป้ยถ่า ส่วนเดวิดกลับเอาชนะไป๋เจี๋ยได้ ตอนนี้ยังได้เปรียบจากกฎการแข่งขันอีก’
ฉู่ขวงเป็นราชานิทานสั้น
นิทานยาวของเขานั้นยอดเยี่ยม แต่ไม่ว่าจะในวงการหรือผู้อ่านทั่วไป หลังจากอ่านซูเค่อกับเป้ยถ่า ทุกคนต่างคิดว่าระดับของนิยายยาวของฉู่ขวงสู้นิยายสั้นไม่ได้
นี่เป็นเรื่องปกติเหลือเกิน
หนังสือแดนนิทานของฉู่ขวงได้รวบรวมนิทานสั้นชั้นนำของโลกไว้มากมาย และเป็นสุดยอดผลงานของปรมาจารย์ด้านนิทานมากกว่าหนึ่งคน
ทั้งหมดล้วนเป็นเพชรนำ้เอกของนิทานบนโลก
ส่วนซูเค่อกับเป้ยถ่า ไม่ว่าจะยอดเยี่ยมแค่ไหน ก็เป็นเพียงผลงานของอาจารย์เจิ้งเพียงคนเดียว และเป็นเพียงนิทานยาวเพียงเรื่องเดียวภายใต้นามปากกาของเขา
คำวิจารณ์ในลักษณะนี้จึงนับว่าธรรมดา
ในเวลานั้น มีบางคนมองโลกในแง่ดี
‘บางทีนิทานของฉู่ขวง อาจเป็นภาคต่อของซูเค่อกับเป้ยถ่าก็ได้นะ?’
คำพูดนี้ทำให้หลายคนสบายใจ
ถ้าหากเป็นภาคต่อของซูเค่อกับเป้ยถ่าจริงๆ คงสนุกแน่นอน เพราะรากฐานของผลงานภาคแรกนั้นยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน!
สามารถแข่งขันกับภาคต่อของตำนานแห่งท้องทะเลได้!
ตอนนี้มีเพียงจินมู่ที่รู้ว่า ภาคต่อของซูเค่อกับเป้ยถ่านั้นไม่เกิดขึ้นจริง
ผลงานชิ้นใหม่ของฉู่ขวงมีชื่อว่า ‘อลิซในแดนมหัศจรรย์’ เป็นนิทานเรื่องใหม่แกะกล่อง
นี่ไม่ใช่ความลับอะไร ไม่จำเป็นต้องอุบไว้จนถึงวันสุดท้าย
ดังนั้น…
ไม่กี่วันให้หลัง ทางคลังหนังสือซิลเวอร์บลูได้ติดต่อกับจินมู่ และใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลงานนิทานยาวชิ้นใหม่ของฉู่ขวง นับว่าเป็นการโปรโมตล่วงหน้า
‘นิทานเรื่องใหม่ของฉู่ขวง อลิซในแดนมหัศจรรย์ กำหนดวันวางจำหน่ายแล้ว โปรดติดตามเร็วๆ นี้!’
ทันใดนั้นบนโลกออนไลน์พลันคึกคักขึ้นมา
นิทานเรื่องใหม่ของฉู่ขวงมีชื่อว่าอลิซในแดนมหัศจรรย์!
ไม่ใช่ภาคต่อของซูเค่อกับเป้ยถ่าอย่างที่ใครหลายคนคาดหวัง!
เดวิดได้เปรียบแล้ว!
ฉู่ขวงยังคงตกอยู่ในสภาวะเสียเปรียบโดยธรรมชาติ!
ในขณะนั้น
จู่ๆ ก็มีคนรู้สึกว่าคำว่า ‘อลิซ’ จากชื่อหนังสืออลิซในแดนมหัศจรรย์นั้นออกจะคุ้นหูอยู่บ้าง
มีคนฉุกคิดขึ้นได้
‘บ้าน่า ชื่ออลิซนี่คงไม่ใช่อลิซที่เซี่ยนอวี๋เอ่ยถึงในเพลงแดนนิทานหรอกใช่ไหม?’
เพลงแดนนิทาน?
หลายคนนึกถึงเนื้อเพลงเพลงนี้ขึ้นมาทันที!
หลายคนร้องเพลงนี้ได้
ทุกคนจำเนื้อเพลงได้อย่างแม่นยำ
ในนั้นมีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งร้องว่า ‘ได้ยินว่าแมดแฮตเตอร์หลงรักอลิซ’ จริงด้วย
ตอนนั้นเมื่อเพลงถูกปล่อยออกมา ฉู่ขวงแจ้งต่อสาธารณชนว่า ‘ตัวละครแปลกใหม่ในเพลงซึ่งมีชื่อเดียวกับหนังสือแดนนิทานจะทยอยปรากฏในผลงานเรื่องอื่นๆ ของผม’[1]
ความจริงเป็นเช่นนั้น
เมื่อเผยแพร่แดนนิทานสำเร็จ ฉู่ขวงจึงเขียนเกี่ยวกับซูเค่อกับเป้ยถ่าจากเนื้อเพลง ในนิทานยาวเรื่องแรกของเขา
และในตอนนี้
อลิซซึ่งถูกกล่าวถึงในเนื้อเพลง ก็ปรากฏตัวแล้วเช่นกัน!
มีคนเข้าไปขุดโพสต์ในช่วงเวลานั้นของฉู่ขวง ทันใดนั้นจึงเอ่ยอย่างสะท้อนใจ
‘ฉู่ขวงสุดยอดจริงๆ ที่แท้ฉู่ขวงก็มีความคิดที่จะเขียนอลิซในแดนมหัศจรรย์มาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว’
‘เหมือนว่าในเนื้อเพลงยังพูดถึงแฮร์รี พ็อตเตอร์ด้วย?’
‘แล้วก็มีปีเตอร์ แพน ฉันมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับชื่อนี้ที่ถูกเอ่ยถึงในเพลงมาก ไม่รู้ว่าทำไม อาจเป็นเพราะรู้สึกว่าชื่อนี้น่าสนใจมาก’
‘ผมยังจำได้ว่ามีพิน็อกคิโออีก’
‘ใช่ แล้วก็มีเจ้าชายน้อยอีก’
‘มีอีกหลายเรื่องเลย’
‘ตอนนั้นชาวเน็ตหลายคนบอกว่า ชื่อในเนื้อเพลง แต่ละชื่อเท่ากับหนึ่งหลุมพราง’
‘เห็นทีฉู่ขวงน่าจะยังมีนิทานที่ยังไม่ได้ปล่อยอีกหลายเรื่อง’
‘เรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์นี้เป็นผลงานที่มาเติมเต็มหลุมพราง’
‘เหมือนกับซูเค่อกับเป้ยถ่าที่สอดคล้องกับเนื้อเพลง’
‘แมดแฮตเตอร์หลงรักอลิซ จากเนื้อเพลงท่อนนี้เห็นได้ชัดว่าแมดแฮตเตอร์น่าจะปรากฏในหนังสือเรื่องใหม่ของเขาด้วย’
‘…’
ในเวลานี้ หลายคนต่างคร่ำครวญถึงความน่ากลัวของฉู่ขวง
เริ่มต้นที่ซูเค่อกับเป้ยถ่า
แล้วจึงมาโปรโมตอลิซในแดนมหัศจรรย์
ความสอดคล้องถึงสองครั้งติดกันระหว่างเนื้อเพลงและตัวละคร ได้พิสูจน์สิ่งที่เขาพูดในตอนนั้น!
ตั้งแต่ซูเค่อกับเป้ยถ่า ไปจนถึงแมดแฮตเตอร์และอลิซ…
บุคคลในเนื้อเพลง เริ่มทยอยกันปรากฏตัวแล้วจริงๆ
และนับตั้งแต่ปีที่แล้ว หรือแม้แต่ก่อนหน้านั้น ฉู่ขวงก็เริ่มวางพิมพ์เขียวสำหรับนิทานในอนาคตของตนแล้ว!
มีคนคำนวณโดยละเอียด และเป็นต้องตกตะลึงอย่างห้ามไม่อยู่
ในเวลานั้นฉู่ขวงได้เผยข้อมูลล่วงหน้าของผลงานนิทานมาแล้วถึงหกเรื่อง!
ขอถามสักหน่อย
ทั่วทั้งบลูสตาร์มีนักเขียนคนไหนกล้าใช้เพลงหนึ่งเพลงเปิดเผยข้อมูลผลงานในอนาคตล่วงหน้ามากเช่นนี้บ้าง?
คำตอบคือมีไม่กี่คน!
คนที่ทำเช่นนี้ ในปัจจุบันมีเพียงฉู่ขวง!
นักเขียนหลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผลงานต่อไปของตนจะเป็นอย่างไร
ถึงอย่างไร…
ก็ไม่มีใครทำนายได้ว่าแรงบันดาลใจจะเกิดขึ้นมาเมื่อใด
ทว่าฉู่ขวงทำเรื่องนี้!
เขาไม่เพียงแจ้งล่วงหน้าเกี่ยวกับนิทานหกเรื่อง เขายังสำแดงผลงานที่เขาแจ้งล่วงหน้าออกมาทีละเรื่องๆ ด้วย!
เรื่องแรกปล่อยออกมาแล้ว เรื่องต่อไปก็เตรียมพร้อมแล้ว!
นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าคำโฆษณาของฉู่ขวงในตอนนั้นไม่ใช่ถ้อยคำโกหกอันว่างเปล่า!
‘ที่จริงแล้วถ้าในนั้นมีบางส่วนเป็นเรื่องสั้นก็ว่าไปอย่าง แนวคิดของเรื่องสั้นไม่ได้ยากขนาดนั้น ผมว่าทั้งหกเรื่องนี้คงไม่ได้เป็นเรื่องยาวทั้งหมดหรอกมั้ง ถ้าเป็นเรื่องยาวทั้งหมดก็ออกจะเหนือมนุษย์ไปหน่อย’
มีคนเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อมั่น
ในตอนนั้นเอง
คลังหนังสือซิลเวอร์บลูคล้ายว่าจะสังเกตเห็นการถกเถียงของชาวเน็ต บัญชีทางการบนปู้ลั่วจึงปรากฏการอัปเดตอีกครั้ง
‘เพิ่งพูดคุยกับผู้จัดการส่วนตัวของอาจารย์ฉู่ขวงเมื่อครู่ ตัวละครแปลกใหม่ซึ่งถูกกล่าวถึงในเพลงแดนนิทานล้วนมาจากนิยายเรื่องยาวของเขาในอนาคต ในนั้นยังรวมไปถึงมหากาพย์ซึ่งมีความยาวหลายล้านตัวอักษรอีกด้วย!’
ชาวเน็ต: Σ(°△°|||)︴!!!
มีจักรวาลนิทานอยู่ในสมองของฉู่ขวงจริงๆ !
————————
ปล. นี่คือเหตุผลที่ในตอนนั้นแก้เนื้อเพลงหลายท่อนในเพลงแดนนิทาน ฉันต้องการปูอารมณ์ของนิทานทั้งหกเรื่องล่วงหน้า เมื่อปล่อยตัวอย่างนิทานทั้งหกเรื่องออกไป อีกทั้งนิทานแต่ละเรื่องล้วนเป็นยอดผลงานคลาสสิก และมีคนหวนนึกถึงเพลงนี้จึงจะนับว่าน่าสนใจ