คุณชิมิสึแยงกี้ตัวแม่ที่นั่งโต๊ะข้างๆไม่รู้อารมณ์ไหนถึงได้ย้อมผมดำมาซะเเล้ว – ตอนที่ 1.2 คาบศิลปะกับคุณชิมิสึ

คุณชิมิสึแยงกี้ตัวแม่ที่นั่งโต๊ะข้างๆไม่รู้อารมณ์ไหนถึงได้ย้อมผมดำมาซะเเล้ว

“ขอบใจนะ ฝากตัวด้วยล่ะ คุณชิมิสึ”

“อื้ม”

 

ผมนั่งลงข้างๆคุณชิมิสึ

ระหว่างเรามันคือตำแหน่งเดียวกับกับที่อยู่ในห้องเรียนเป๊ะๆเลยผมก็เลยค่อนข้างสบายใจ

 

“หมดเวลาแล้ว”

 

อาจารย์มองดูรอบๆห้องศิลปะ ผมเองก็มองไปรอบๆเช่นกันแต่ก็ไม่เห็นใครที่ยังไม่มีคู่

 

“ดูเหมือนว่าจะจับคู่กันครบแล้วสินะงั้นก็มาเริ่มกันเลย พวกเธอตัดสินใจกันเลยว่าจะวาดใครก่อนแต่อย่าคิดนานล่ะ ครูให้เวลาคิดสามสิบวินาที”

 

อาจารย์ปรบมือและเริ่มมองดูนาฬิกาอีกครั้ง

 

“คุณชิมิสึอยากวาดก่อนหรืออยากวาดทีหลังล่ะ?”

“ยังไงก็ได้ นายเลือกเลย”

 

เอาตรงๆผมก็ไม่ได้อะไรกับที่เธอพูดหรอกแต่ถ้าคุณชิมิสึว่ามาแบบนั้นงั้นผมก็จะตัดสินใจเอง

 

“ถ้างั้นผมขอวาดก่อนได้รึเปล่า?”

“อื้อ”

 

อาจารย์ละสายตาจากนาฬิกา ดูเหมือนว่าเวลาได้ผ่านไปสามสิบวินาทีเรียบร้อยแล้ว

 

“ตัดสินใจกันได้แล้วนะ? งั้นคนที่วาดก่อนก็เตรียมสมุดสเก็ตซ์ให้พร้อมส่วนคนที่วาดทีหลังก็ให้เลื่อนเก้าอี้ให้ออกห่างจากโต๊ะนิดหน่อยเพื่อให้หันหน้าเข้าหากับคนที่วาดก่อนได้ พวกเธอมีเวลาสิบนาทีในการวาดรูปส่วนคนที่ถูกวาดก็ควรจะอยู่ในอิริยาบถท่าทางสบายๆเพราะเธอจะต้องอยู่นิ่งๆเป็นเวลาสิบนาที ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มได้เลย”

 

ทันทีที่สิ้นประโยคของอาจารย์นักเรียนกว่าครึ่งก็ดึงสมุดสเก็ตซ์ภาพออกมาและเตรียมดินสอเสร็จสรรพในขณะที่อีกครึ่งนึงก็ขยับเก้าอี้เข้าหาคนที่จับคู่และโพสต์ท่าทาง

ผมเปิดหน้าเปล่าในสมุดสเก็ตซ์ภาพแล้วหยิบดินสอวาดรูปออกจากกล่องดินสอ

ผมมองไปที่คุณชิมิสึที่นั่งหันหน้ามาทางผมเรียบร้อยแล้ว ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆที่เป็นแบบวาดนั่งกอดเข่าแต่คุณชิมิสึกอดอกของเธออีกอย่างก็ยังนั่งไขว่ห้างอีกด้วย

 

“คุณชิมิสึเอามืออยู่ตรงนั้นมันจะดีเหรอ?”

“แบบนี้มันสะดวกกว่า………หรือนี่ชั้นควรเอามือมาวางบนเข่างั้นเหรอ?”

 

คุณชิมิสึกระซิบกระซาบอย่างกระวนกระวายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่มีเพียงผมที่ได้ยิน

 

“ก็ถ้าเธอสะดวกล่ะก็ไม่เป็นไรหรอก”

“นั่นสินะ งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก”

 

คุณชิมิสึดูโล่งอกถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เผยออกมาผ่านทางน้ำเสียงของเธอก็ตาม

 

“ดูเหมือนทุกคนจะพร้อมกันแล้วถ้างั้นก็เริ่มลงมือได้เลย”

 

ด้วยเสียงของอาจารย์นักเรียนที่เป็นคนวาดก่อนรวมถึงตัวผมก็เริ่มลงมือทันที

ผมเลือกที่จะวาดโคร่งร่างก่อน ผมมองไปที่คุณชิมิสึเธอมีผมยาวสีดำเงางามแขนขาเรียวยาวและตัวสูงกว่าผู้หญิงทั่วไปและขาของเธอก็นั่งไขว่ห้างซึ่งมันก็ดึงดูดสายตาผมให้สนใจขาของเธออย่างช่วยไม่ได้

 

 

“นี่ฮอนโด…มือหยุดแล้วนะ”

“ทะ-โทษที”

 

ผมสะดุ้งตอนที่ได้ยินเสียงของเธอทักท้วง ผมงุ่นง่านกับการจ้องมองคุณชิมิสึจนมือไม่ขยับและก็สัมผัสได้ถึงการถูกจ้องเขม็งอีกครั้งหรือว่าเธอจะรู้ตัวแล้วว่าเรากำลังแอบมองขาอ่อนของเธอนะ?

ผมรีบลงมือร่างภาพและก็ร่างเค้าโครงของเธอเสร็จได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งของเวลาที่กำหนดเลยด้วยซ้ำแต่ถึงยังไงผมก็เว้นรายละเอียดบางจุดเอาไว้เพื่อความรวดเร็วแล้วเพื่อที่จะได้วาดส่วนที่ผมเว้นเอาไว้อย่างใบหน้าผมก็กรอกสายตาไปยังใบหน้าของคุณชิมิสึ

(คุณชิมิสึเป็นผู้หญิงที่สวยเอาเรื่องเลยแฮะ…..)

ตาคม ขนตายาว จมูก ริมฝีปาก และส่วนอื่นๆของใบหน้าก็มีความชัดเจนและผมคิดว่าใครก็ตามที่เห็นหน้าเธอก็ต้องพากันชมว่าสวยกันหมดอันที่จริงตามที่โทชิยะเล่าให้ฟังก็คือผู้ชายหลายคนอยากจะคบกับเธอถ้าหากว่าไม่ติดเรื่องที่เธอมีนิสัยแบบนั้นล่ะก็นะ

ขณะที่ผมจ้องหน้าคุณชิมิสึเพื่อวาดเก็บรายละเอียดจู่ๆคุณชิมิสึก็เบือนหน้าหนีไปเฉยเลย…….

 

“คุณชิมิสึ? พอดีผมกำลังวาดหน้าของเธอน่ะ ยังไงรบกวนช่วยอยู่นิ่งๆได้ไหม”

“ก็……นาย……”

 

จากการเคลื่อนไหวของริมฝีปากของเธอบอกได้ว่าเธอกำลังพยายามจะพูดอะไรสักอย่างแต่น้ำเสียงของเธอแผ่วเบามากซะจนตัวเราเองก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพยายามจะสื่อ

 

“ขอโทษทีนะคุณชิมิสึแต่ว่าช่วยพูดอีกทีได้ไหม?”

“โธ่…..”

 

คุณชิมิสึหันหน้ามาทางผมพร้อมทักท้วงด้วยหางตา ตอนนี้แหละเป็นจังหวะที่ดีที่จะวาดเธอตอนที่เธอไม่ได้มองหน้าผมแต่เซ้นส์ผมมันก็บอกว่าคุณชิมิสึคงจะปรี๊ดแตกแหงๆถ้าเกิดผมวาดหน้าเธออกมาดูหงุดหงิดน่ะ

 

“จะยังไงก็เถอะ หน้าของชั้นเอาไว้ท้ายสุดเลยก็ได้ นายยังมีส่วนอื่นให้วาดอีกตั้งเยอะแยะเลยไม่ใช่รึไง”

“คร้าบๆ งั้นจะวาดส่วนอื่นก่อนก็แล้วกันนะ”

 

ไม่เห็นจะเข้าใจเลยอะไรของเค้าครับเนี่ย? แต่ดูเหมือนคุณชิมิสึเองก็คงจะมีเหตุผลของเธออยู่เพราะงั้นก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องวาดเก็บรายละเอียดช่วงคอลงมาก่อนล่ะนะ ผมชักสายตาลงมาเล็กน้อยให้ต่ำกว่าหัวก็คือคอและต่ำกว่าคอลงมาอีกนิดก็คือหน้าอก อยู่ๆสายตาของผมมันก็ไปจับตรงหน้าอกของคุณชิมิสึไปโดยอัตโนมัติ ตอนนี้แขนของเธอที่กอดอกอยู่ทำให้หน้าอกของเธอยิ่งดูโดดเด่นเป็นสง่ามากยิ่งขึ้นในท่าทางแบบนั้น

 

“ดะ-เดี๋ยวเหอะฮอนโด! จ้องด้วยสายตาจริงจังตรงไหนอยู่น่ะ?”

 

คุณชิมิสึรู้สึกตัวว่าผมกำลังจ้องอะไรอยู่ก็โวยวายออกมา

       

“ตรงไหนน่ะเหรอ?….ก็ช่วงเลยคอของเธอลงมานิดหน่อยไง”

 

ผมไม่กล้าบอกเธอตรงๆว่ากำลังมองหน้าอกเธออยู่

จากนั้นคุณชิมิสึก็ก็ขยับแขนมาปิดหน้าอกของเธอ

 

“แล้วไหงนายถึงได้จ้องชั้นซะเขม็งขนาดนั้นเลยล่ะ”

“ก็คุณชิมิสึบอกเองนี่ว่าให้วาดส่วนอื่นที่ไม่ใช่ตรงหน้าก่อนน่ะ ผมก็เลยคิดว่าจะวาดช่วงเลยคอของเธอลงมาก่อน ไม่ได้มีเจตนาอะไรจริงๆนะ! ขอโทษที!”

 

รู้สึกว่าการพูดขอโทษออกไปก็เหมือนยอมรับผิดเลยแฮะ แต่ก็คิดวิธีอื่นไม่ออกแล้วที่จะมาจัดการณ์กับสถานการณ์แบบนี้ได้นอกเสียจากพูดขอโทษออกไป

ผมพูดขอโทษอย่างจริงใจที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

“แน่ใจนะว่าไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงน่ะ?”

“อื้ม”

“ไม่รู้สึกเลยแม้แต่สักมิลลิเมตรเดียว?”

“อื้อ…ไม่เลย”

“เหรอ……..”

 

ทำไมคุณชิมิสึกลับดูผิดหวังซะขนาดนั้นกันล่ะนั่น? เธอไม่รู้สึกอึดอัดจากสายตาชั่วร้ายที่คุกคามจากเพศตรงข้ามเลยงั้นเหรอ? จะว่าไปแล้วนี่เราไม่รู้สึกอะไรเลยจริงดิตอนที่ได้มองหน้าอกของเธอน่ะ? แบบว่าให้สารภาพก็คือใจเต้นนิดหน่อยส่วนหนึ่งก็เพราะว่ามันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายล่ะนะ

 

“ขอโทษนะคุณชิมิสึ ผมโกหกน่ะ”

“เห๊ะ?”

“ที่บอกไปว่าไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝงแต่อันที่จริงผมก็รู้สึกอยู่ซักหนึ่งมิลลิเมตรอยู่……….หรือบางทีอาจจะสองเลยด้วยซ้ำ……ขอโทษนะ”

 

ผมก้มหัวโค้งคำนับคุณชิมิสึต่อให้เธอจะโกรธแต่เพราะไม่อยากรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้เพราะงั้นเลยอยากที่จะขอโทษเธอซะเดี๋ยวนี้ตอนนี้เลย

พอผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าคุณชิมิสึกำลังมองมาที่ผม

 

“นายเห็นของชั้น……..แล้วก็คิดอยู่นิดหน่อยเหรอ”

“อะ-อื้อ”

“อะ-เอาเถอะ ครั้งนี้จะยกโทษให้ก็ได้ไอ้ชั้นเองก็ประหม่าอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน…ก็ถ้าหากว่านายไม่มองชั้นด้วยสายตาแบบนั้น นายจะมองมันตอนที่วาดไปด้วยก็ได้แต่ว่าก็มีเงื่อนไขนะ”

“เงื่อนไข?”

“ชั้นจะพยายามอยู่นิ่งๆ…….เพราะงั้นช่วยวาดให้ออกมาดูดีด้วยล่ะ”

 

คุณชิมิสึพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่เบาลง

 

“ได้สิ เชื่อมือได้เลย”

 

แล้วผมตัดสินใจที่จะวาดคุณชิมิสึให้จริงจังมากยิ่งขึ้นกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่

 

“เหลือเวลาอีกสามนาทียังพอมีเวลาอยู่แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองไม่ทันแล้วก็เร่งมือเลยนะ”

 

อาจารย์บอกเวลาที่เหลืออยู่หลังจากการพูดคุยกันตอนนั้นผมก็สเก็ตช์ภาพไปได้มากโขเลยเพราะว่าคุณชิมิสึเธออยู่นิ่งๆตามที่เธอบอกและสุดท้ายส่วนเดียวที่ผมยังไม่ทันได้วาดนั่นก็คือใบหน้าของเธอ

 

“คุณชิมิสึตอนนี้ผมมองหน้าเธอได้แล้วรึยัง?”

 

ผมถามก่อนเพื่อความแน่ใจ อันที่จริงก็พอวาดเค้าหน้าของเธอคร่าวๆไว้แล้วเพราะงั้นต่อให้ไม่มองหน้าเธอตรงๆแต่รายละเอียดก็ดีพอที่จะใช้เวลาที่เหลือในการเก็บงาน

 

“ได้สิ เอาเลย!”

 

ดูเหมือนคุณชิมิสึจะทำใจได้แล้วถึงจะไม่รู้ว่าจะต้องตั้งใจเบอร์นี้ก็เถอะ

 

“งั้นจะเริ่มวาดล่ะนะ”

 

ผมมองไปที่ใบหน้าของคุณชิมิสึ ใบหน้าที่ตึงเครียดและแววตาเฉียบคมพอที่จะเชือดใครก็ตามที่อยู่ในระยะสายตา

 

“คุณชิมิสึช่วยผ่อนคลายลงอีกหน่อยสิ”

 

ถ้าไม่ผ่อนคลายลงมีหวังได้วาดเธอออกมาแบบที่จ้องมาด้วยสายตาดุๆแหงๆ

 

“อะไรกันล่ะนั่น! นี่นายจะบอกว่าชั้นประหม่างั้นเรอะ!”

“ก็คิดว่างั้นนะ…..”

 

ก็ไม่รู้เหมือนกันแล้วว่าถ้าไม่ใช่เพราะประหม่าแล้วทำไมสีหน้าเธอถึงได้ตึงเครียดขนาดนั้น

 

“ขอเวลาเดี๋ยวนะ….”

“อื้ม”

 

คุณชิมิสึค่อยๆหลับตาลงครู่หนึ่งและจากนั้นก็ลืมตาเบิกกว้าง

 

“เป็นไงบ้าง?”

“ก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่เลย…..”

“……..จริงจัง?”

“แล้วผมจะโกหกไปเพื่ออะไรล่ะ?”

“ฮึ่มมม…”

คุณชิมิสึทำหน้าตาหงุดหงิด

 

“ฮ่าๆ”

“ขำอะไรของนาย? ตอนนี้ชั้นกำลังพยายามจริงจังอยู่นะยะ”

 

ผมอดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมาแต่ดูเหมือนวุคุณชิมิสึจะตีความความจริงจังของเธอว่ากำลังถูกผมหัวเราะเยาะอยู่อีแบบนี้ควรรีบพูดเคลียร์ให้หายเข้าใจผิดดีกว่า

 

“ก็แบบว่าตอนที่ผมเจอเธอครั้งแรกก็ไม่เคยคิดเลยว่าคุณชิมิสึจะแสดงสีหน้าออกได้หลากหลายขนาดนี้น่ะ ดีใจจังที่ได้เริ่มคุยกับคุณชิมิสึ”

“ฮึกก นี่นาย..”

 

หน้าของคุณชิมิสึเปลี่ยนเป็นสีแดง อันที่จริงเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไรน่าอายแบบนั้นออกไปหรอก

 

“….นายคอยพูดแบบนี้กับทุกคนอยู่ตลอดรึเปล่า?”

 

คุณชิมิสึจ้องมาที่ผม

นี่เธอคิดว่าผมเป็นคนยังไงกันนะ?

 

“สำหรับผมการพูดแบบบนั้นคิดว่ามีคุณชิมิสึเป็นคนแรกนี่แหละ”

“งั้นก็ช่างมันเถอะ…..เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วเพราะงั้นรีบๆวาดชั้นเร็วเข้า”

 

พอความตึงเครียดที่อยู่บนใบหน้าของคุณชิมิสึหายไปเรียบร้อยแล้ว

ผมก็รีบตวัดดินสอก่อนที่สีหน้าของเธอจะเปลี่ยนอีกครั้ง

 

 

“สิบนาทีแล้ว มีใครอยากต่อเวลาไหม?”

 

ผมมองไปรอบๆห้องศิลปะแต่ก็ไม่ยักเห็นว่าจะมีใครยกมือเลยสักคน

 

“ดูเหมือนว่าทุกคนจะเสร็จทันเวลาสินะ งั้นเราก็พักสักหน่อยจนกว่าครูจะบอกให้เริ่มวาดอีกครั้งก็แล้วกัน”

 

สิ้นประโยคนั้นห้องศิลปะก็เริ่มมีเสียงเอะอะขึ้นทันที อาจะเป็นเพราะนักเรียนหลายคนจับคู่กับนักเรียนคนอื่นที่ต่างฝ่ายต่างรู้จักกันพวกเขาก็เลยเริ่มเปิดบทสนทนากับคนใกล้ตัวมากกว่าตอนปกติ

 

“เหนื่อยหน่อยนะคุณชิมิสึ”

“อื้อ”

“ขอบคุณนะที่ยอมมาเป็นนางแบบให้ผมน่ะ”

 

มีเรื่องเกิดขึ้นระหว่างทางแต่ด้วยความร่วมมือของคุณชิมิสึท้ายที่สุดจึงสามารถร่างแบบออกมาได้ด้วยดี

 

“เอ่อคือ….”

“เป็นอะไรรึเปล่า?”

 

คุณชิมิสึดูเหนื่อยหน่อยๆ ดูเหมือนว่าการเป็นนางแบบภาพวาดจะยากกว่าที่คิดไว้สินะ

 

“ไม่มีอะไร ไหนเอาภาพที่นายวาดมาดูหน่อยซิ”

“ได้สิ เอ้านี่”

 

ผมยื่นสมุดวาดภาพให้กับคุณชิมิสึ 

คุณชิมิสึหยิบสมุดวาดภาพแล้วเปิดไปที่หน้าที่ผมพึ่งวาดไป

 

“เป็นไงบ้าง?”

 

ผมชอบวาดรูปถึงจะไม่เท่ากับคนที่อยู่ในชมรมศิลปะก็เถอะและผมก็พยายามวาดให้ได้มากที่สุดภาพในเวลาสิบนาทีแต่ว่าคุณชิมิสึคิดยังไงกับผลงานของเรากันนะ

 

“……….คือมันก็ออกมาดีเลยแหละ ขนาดเป็นชั้นยังดูออกเลยว่านี่คือตัวชั้นเองน่ะ”

 

โล่งอกไปทีที่ได้ยินแบบนั้นเพราะผมคงต้องขอโทษคุณชิมิสึที่เธอยอมเหนื่อยแต่มันกลับวาดแล้วออกมาดูไม่เหมือนเธอเลย

 

“โล่งอกไปที ดีใจที่เธอว่างั้นนะ”

“แต่ขอถามอะไรอย่างได้มะ”

“ติดตรงไหนงั้นเหรอ?”

“ทำไมนายถึงได้ฝนตรงบริเวณแก้มของชั้นล่ะ?”

 

ผมกังวลกับคำถามที่เธอถามแต่ผมก็พอจะตอบกลับไปได้อยู่

 

“ก็ตอนที่ผมวาดหน้าของคุณชิมิสึมันดันเป็นสีแดงตลอดเวลาเลยน่ะสิผมก็เลยแรเงามันสักหน่อยน่ะ”

“อ๊ะ!?”

 

คุณชิมิสึเอามือมาจับแก้มท้งสองข้างของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอหน้าแดงโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

 

“…..อย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังเด็ดขาดเลยนะฮอนโด”

“ครับ? เอ่อ ได้สิ….”

 

ดูเหมือนคุณชิมิสึจะไม่อยากให้ใครรู้ ผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้ในความทรงจำของตัวเองเท่านั้นต่อให้ไม่ได้คิดจะเอาไปเล่าใครฟังแต่แรกก็เถอะ

 

“หมดช่วงพักแล้ว ต่อไปพวกเธอจะต้องสลับกันเป็นนางแบบกับคนวาดแล้วพวกเธอก็จะมีเวลาวาดภาพอีกสิบนาที เตรียมพร้อมนะ”

 

พอได้ยินเสียงของอาจารย์นักเรียนในห้องศิลปะก็เตรียมตัวกัน

 

“ถึงตาผมเป็นแบบให้แล้ว มีท่าไหนที่อยากให้ทำไหม?”

“ท่าไหนก็ได้แหละ”

 

เนื่องจากไม่ได้ระบุท่าเฉพาะเจาะจงมา ผมก็เลยนั่งหันหน้าไปหาคุณชิมิสึแล้สเอามือมาวางตรงเข่า

 

“พร้อมนะ? งั้นเริ่มเลย”

 

ผมมองตรงเข้าไปยังดวงตาของคุณชิมิสึในขณะที่อาจารย์ประกาศเริ่ม

คุณชิมิสึรู้ตัวถึงการจ้องมองของผมและพยายามหลบหน้าของเธอเอาไว้ด้านหลังของสมุดวาดภาพ

 

“คุณชิมิสึ?”

“อย่ามองกันด้วยสายตาจริงจังแบบนั้นสิ….”

“นี่ยังไม่ชินกับการที่ถูกผมจ้องอยู่อีกเหรอ…..”

 

จนแล้วจนรอดคุณชิมิสึก็เริ่มวาดหน้าของผมหลังจากที่เหลือเวลาอยู่อีกไม่ถึงครึ่ง

 

คุณชิมิสึแยงกี้ตัวแม่ที่นั่งโต๊ะข้างๆไม่รู้อารมณ์ไหนถึงได้ย้อมผมดำมาซะเเล้ว

คุณชิมิสึแยงกี้ตัวแม่ที่นั่งโต๊ะข้างๆไม่รู้อารมณ์ไหนถึงได้ย้อมผมดำมาซะเเล้ว

Status: Ongoing
“คุณชิมิสึย้อมผมดำเหรอ?” “กะ-ก็นะ” “ทำไมจู่ๆถึงได้ย้อมล่ะ. “จะทำไมอีกล่ะ! ก็เมื่อวาน….” [ชิมิสึ เคย์] สาวแยงกี้ผมบลอนด์ผู้ที่เป็นโจทย์จันของทั้งโรงเรียน เธอคือหญิงสาวที่อยู่ในทุกข่าวลือเสียๆหายๆทั้งปวง ทั้งเรื่องทะเลาะวิวาทเอย หรือการแหกกฏของโรงเรียนต่างๆ แต่จู่ๆเธอก็ดันย้อมผมดำพร้อมกับแต่งตัวมาเรียนซะเรียบร้อยแถมเข้าเรียนครบทุกคาบเฉยเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ? มันเกี่ยวข้องกับตอนที่ [ฮอนโด ไดกิ] ได้บอกกับ [มัตสึโอกะโทชิยะ] ไอ้เพื่อนซี้ไปเมื่อวานตอนที่ถามว่าสเปคสาวที่ไดกิชอบเป็นยังไง? แล้วก็ดันตอบไปว่า “ชอบสาวผมดำยาว ลุคเรียบร้อยไม่แต่งตัวฉูดฉาด” รึเปล่านะ? เตรียมผมกับเลิฟคอมเมดี้รักใสๆของแยงกี้สายซึนผู้ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่ตัวเองแอบชอบกับหนุ่มหน้ามนสายหยอดที่พร้อมจะปกป้องทุกข่าวลือเสียๆหายๆของเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท