บทที่ 895 ประตูที่เปิดอย่างกะทันหัน
บทที่ 895 ประตูที่เปิดอย่างกะทันหัน
ด้วยความคิดนี้ ความคิดหนักใจในหัวของเขาจึงหายไปในที่สุด…
ซูอันเริ่มหมดความอดทน “นายน้อยซือ ถ้าเจ้าไม่กล้าแข่งขันก็ยอมรับความพ่ายแพ้ คลานมาเลียเท้าของข้าและเริ่มเห่าเหมือนสุนัขซะ!”
ซือคุนหลงคิดว่าตัวเองเดาแผนการของรัชทายาทออก ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางที่เขาจะทนกับประโยคยั่วยุนี้ได้ เขาเดือดพล่านไปด้วยความโกรธทันที “ฝันไปเถอะ! คิดว่าข้าจะแพ้เจ้าเหรอ? มา ข้ายินดีแข่งขันกับเจ้า!”
—
ท่านยั่วยุซือคุนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—
เขาเดินไปที่กำแพงข้างประตูแล้วกางแขนออก “มา! วางผลท้อบนร่างข้าได้เลย! ข้าจะต้องกังวลอะไรในเมื่อองค์รัชทายาทไม่เคยพลาด?”
“แน่นอน! ข้าไม่เคยพลาด!” เมื่อได้ยินคำชมรัชทายาทก็ยิ้มจนตาหยี
สวีน้อยและเหอน้อยรู้สึกว่าเปลือกตาของพวกเขากระตุก รัชทายาท…เจ้าพูดอย่างนี้ได้อย่างไร? เจ้าไม่กลัวหรือว่าวิญญาณของขันทีตัวน้อยที่เจ้าฆ่าจะกลับมาหลอกหลอนเจ้า?
หลังจากวางผลท้อเรียบร้อยแล้ว รัชทายาทก็พึมพำกับตัวเองว่า “ข้าปาถูกมาสี่ลูกติดต่อกันแล้ว ถ้าข้าทำอีกสี่ครั้งเหมือนเดิม นั่นจะไม่แสดงถึงทักษะของข้าเลย ข้าจะเอาผ้าปิดตาตัวเองแล้วขว้างดูบ้าง”
ดวงตาของซือคุนแทบถลนเมื่อได้ยินประโยคนี้ ความหวาดกลัวพุ่งขึ้นสมอง ความมั่นใจของเขาพังทลาย เขาพูดทันทีว่า “องค์รัชทายาทมีความคิดที่สร้างสรรค์ยิ่ง แต่ซูอันกับข้าพระองค์ทำการเดิมพันกัน ดังนั้นมันจะเหมาะกว่าหากใช้วิธีเดียวกันเพื่อความยุติธรรม! พระองค์ค่อยทดลองปิดตาในครั้งหน้าดีกว่าพะย่ะค่ะ!”
สวีน้อยและเหอน้อยสาปแช่งเขาอย่างเงียบ ๆ เจ้าพูดบ้าอะไร? ใครจะเป็นเป้าหมายในครั้งหน้าอีกถ้าองค์รัชทายาทจะฝึกขว้างมีดในขณะที่ปิดตา?
แต่พวกเขาเป็นเพียงขันทีผู้น้อย ในขณะที่ซือคุนเป็นทายาทของเสนาบดีการสงครามซึ่งพวกเขาไม่สามารถล่วงเกินได้ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเก็บความขุ่นเคืองไว้
“อ้อ อย่างนั้นหรือ?” รัชทายาทรู้สึกหดหู่เล็กน้อย “เอาล่ะ ถ้างั้นข้าจะเริ่มต้นที่…อืม…ข้าคิดว่าข้าจะเริ่มต้นที่หัว…”
ซือคุนรู้สึกว่าเข่าของเขาเริ่มสั่น
“องค์รัชทายาท พระองค์ควรจะเล็งไปที่ผลท้อ! ไม่ใช่ที่หัวนะพะย่ะค่ะ!” เขาเตือนอย่างอ่อนแรง
ดวงตาขององค์รัชทายาทเบิกกว้าง “ข้ารู้แล้ว! เจ้าคิดว่าข้าโง่เหรอ? ถ้าเจ้ายังพูดอีก ข้าจะเขวี้ยงมีดนี่ใส่หัวเจ้าจริง ๆ”
ซือคุนขอโทษทันที “ข้าพระองค์มิบังอาจ!”
ซือคุนสาปแช่งองค์รัชทายาทอย่างเงียบ ๆ จากประวัติของเจ้าอ้วนที่ผ่านมา มันคงจะดีกว่าถ้าเขาเล็งที่หัวของข้า ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะต้องพลาดอย่างแน่นอน
แต่หลังจากที่ได้เห็นปาฏิหาริย์ก่อนหน้านี้ด้วยตาตัวเอง เขาก็ไม่กล้าเชื่อความคิดเหล่านี้อีกต่อไป
รัชทายาทพยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วยกมีดขึ้นเล็ง
หัวใจของซือคุนกำลังเต้นแรง รัชทายาทไม่ได้ทำท่าทางแบบนี้ตอนปาซูอัน! ก่อนหน้านี้ทุกการขว้างนั้นรวดเร็ว เฉียบขาด และมีประสิทธิภาพ แต่ตอนนี้เขายังใช้เวลาในการเล็งอยู่เลย!
ซือคุนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ
เขามองมือของรัชทายาท หัวใจของเขาดูเหมือนจะสั่นไหวไปตามการเคลื่อนไหวของมือนั้น
การรอคอยเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด มันจะดีกว่าถ้ารัชทายาทปามีดมาสักที
ในที่สุดรัชทายาทก็ขว้างมีดออกมาราวกับว่าสัมผัสถึงความคิดของเขาได้
ปลายมีดพุ่งผ่านอากาศสะบัดไปซ้ายทีขวาที ไม่มีความสมดุลหรือมั่นคงใด ๆ เหมือนการขว้างครั้งก่อน
ซือคุนรู้สึกมึนงง นรกอะไรเนี่ย!?
เจ้าบอกว่าเจ้าจะเล็งมาที่ผลท้อบนหัวข้าไม่ใช่เหรอ! ทำไมมีดถึงพุ่งมาในแนวต่ำแบบนั้น??? เจ้ากำลังเล็งมาที่หว่างขาของข้าหรืออย่างไร!?
ความคิดของเขาฟุ้งซ่านมากเพราะมีดของรัชทายาทนั้นพุ่งผ่านอากาศช้าอย่างยิ่ง ซือคุนเป็นผู้บ่มเพาะระดับหก ดังนั้นเขาจึงสามารถสังเกตวิถีของมีดได้อย่างชัดเจน
ขันทีและองครักษ์ที่อยู่รายรอบพยักหน้า แบบนี้ค่อยสอดคล้องกับทักษะปกติของรัชทายาทมากกว่า ไม่สิ อันที่จริงรอบนี้รัชทายาททำได้ดีทีเดียว ปกติแล้วรัชทายาทปาห่างจากเป้าที่แท้จริงไปเกือบจั้งก็มี!
หน้าผากของซือคุนเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเป้ง ข้าควรทำอย่างไรดี??? ข้ามาทำอะไรที่นี่!
รัชทายาทพยายามลงโทษข้าหรือไม่? แต่นี่ไม่ใช่มีดธรรมดา! ถ้าพวกมันเป็นมีดธรรมดา เขายังสามารถวางใจได้ แต่มีดเทพสังหารเหล่านี้สามารถทำให้วิญญาณของเป้าหมายบาดเจ็บ! เขาจะต้องพิการหากถูกโจมตีแม้เพียงแผลถลอก นับประสาอะไรกับการถูกโจมตีของรักที่สุดของเขา!
ไม่เพียงแต่อนาคตของเขาจะถูกทำลายเท่านั้น เขาจะไม่สามารถอยู่เป็นผู้ชายได้อีกต่อไป!
ขณะที่มีดกำลังจะถึงตัวเขา ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาตัวรอดเอาไว้ ในโลกของการบ่มเพาะนี้ถ้าสูญเสียความแข็งแกร่งไปเมื่อไร มันจะไม่ต่างอะไรกับการตายทั้งเป็น!
นี่คือเหตุผลที่เขาตัดสินใจเอื้อมมือไปคว้ามีดที่พุ่งเข้ามา ปลายมีดอยู่ห่างจากของรักของเขาเพียงข้อนิ้วเดียว!
ซือคุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็ครุ่นคิด ไม่มีทางที่ซูอันจะปล่อยให้เขาหลุดจากเบ็ด เขาต้องคุกเข่าเลียรองเท้าจริงหรือ?
ก่อนที่ซูอันจะพูดอะไร รัชทายาทตะโกนอย่างไม่พอใจเสียงดัง “ซือคุน! เจ้ากำลังทำบ้าอะไรอยู่? ทำไมจู่ ๆ ถึงขยับตัว? เจ้าคิดว่าข้าจะพลาดหรืออย่างไร!”
ซือคุนอดกลั้นที่จะไม่ก่นด่าออกมา ไม่เห็นเหรอว่ามีดของเจ้ากำลังพุ่งไปที่ใด? ข้าเกือบจะเป็นขันทีไปแล้ว!
ซือคุนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นประตูก็ถูกกระแทกเปิดอย่างแรง! “พวกเจ้าทั้งหลายกำลังให้รัชทายาททำเรื่องไร้สาระอะไรอีกคราวนี้!?”
หญิงงามผู้หนึ่งยืนอยู่ที่ประตู จ้องมองทุกคนอย่างโกรธเกรี้ยว นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากองค์หญิงรัชทายาทปี่หลิงหลง ซึ่งซูอันได้พบก่อนหน้านี้
ปี่หลิงหลงถือกำเนิดขึ้นในตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตระกูลหนึ่งของราชวงศ์โจว นางเกิดมาทั้งงดงามและเฉลียวฉลาด นางจึงภูมิใจและหยิ่งผยองมาโดยตลอดว่าตัวเองแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ แม้ว่านางจะอายุน้อย แต่นางก็มีความรู้กว้างขวางและมีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง
นางแต่งงานกับรัชทายาท เพื่อตำแหน่งจักรพรรดินีในอนาคต มันควรจะเป็นชีวิตที่เหมือนฝันสำหรับนาง แต่สามีของนางก็กลับเป็นคนโง่คนหนึ่ง!
นางจะโกรธทุกครั้งที่เห็นท่าทางที่โง่เขลาของสามี แต่เนื่องจากนางแต่งงานกับเขาแล้ว นางจะทำอะไรได้อีก?
นางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกระตุ้นให้รัชทายาทเรียนหนัก พรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะของรัชทายาทไม่ได้พิเศษอะไร ซึ่งหมายความว่าเขาควรศึกษาวิธีจัดการกิจการของราชสำนัก ไม่ว่าเขาจะโง่แค่ไหนแต่จากตำแหน่งรัชทายาทนั้นมีคนรองมือรองเท้าทำแทนอยู่แล้ว
แต่อันที่จริง แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจะจัดการกับงานราชสำนักอย่างไร นางก็คงจะมีความสุขถ้าเขาสามารถเป็นเหมือนคนปกติได้มากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม สามีที่โง่เขลาคนนี้ก็ไม่เคยล้มเหลวที่จะสร้างปัญหาให้กับนาง เรื่องที่เขาพูดกับกบเมื่อวันก่อนกลายเป็นเรื่องตลกของวังหลวงไปแล้ว วันนี้ รัชทายาทควรจะศึกษาตำรา แต่นางได้ยินจากนางกำนัลว่ารัชทายาทดูเหมือนกำลังเล่นสนุกกับราชเลขา
กล้าดีอย่างไร!
นางเดือดพล่านไปด้วยความโกรธในทันที และนางก็บุกเข้ามาด้วยการกระแทกประตูเปิดอย่างรุนแรง
นางไม่สามารถวิจารณ์รัชทายาทต่อหน้าผู้อื่นได้ ดังนั้นนางจึงต้องระบายความโกรธต่อคนรอบข้าง นางได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องลงโทษผู้คนที่อยู่รอบตัวรัชทายาท
หากเป็นตามปกติ บรรดาผู้ที่อยู่เคียงข้างองค์รัชทายาทคงจะขอประทานอภัยโทษแล้ว ทว่าตอนนี้ไม่มีใครแม้แต่จะมองนาง ทุกคนมองไปทางกำแพงด้านข้างประตูตรงจุดที่บานประตูเปิดกระแทกใส่ซึ่งตรงนั้นซือคุนยืนอยู่…