เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 901 บุกรุกวังหลวง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 901 บุกรุกวังหลวง

บทที่ 901 บุกรุกวังหลวง

จักรพรรดินีพยักหน้า นางเองก็พอเข้าใจในประเด็นนี้เช่นกัน “ก็ได้ ข้าจะไม่ถามเจ้าเรื่องนี้อีก ทว่ายังมีอย่างอื่นที่ข้าอยากรู้ เว่ยต้านไปไหน?”

ซูอันตื่นตระหนกและพูดอย่างรวดเร็วว่า “กระหม่อมไม่เข้าใจคำถามของฝ่าบาท เว่ยต้านนี่คือใครหรือพะย่ะค่ะ? ทำไมถึงมาถามกระหม่อม?”

จักรพรรดินีพูดอย่างเฉยเมยว่า “ขันทีเว่ยรับใช้อยู่ในวังไร้พิพาทเป็นเวลาหลายปีและดูแลข้าอย่างดี ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ข้างกายองค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิอาจไม่ได้ผูกพันกับข้าราชบริพารรอบข้างเท่าไรนัก แต่ข้าแตกต่าง ข้าต้องการรู้ความจริง”

“ในอดีต ขันทีมี่ทรยศเราและหนีไปพร้อมกับวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ เราไม่เคยได้รับข่าวของเขาเลย ไม่นานมานี้ได้ยินมาว่าเขาอยู่ในเมืองจันทร์กระจ่าง องค์จักรพรรดิทรงส่งเว่ยต้านไปจับขันทีมี่ สั่งให้เขานำวิชาวัฏจักรหงส์อมตะกลับมา แต่ทว่าหลังจากนั้นทั้งขันทีมี่และขันทีเว่ยต่างก็หายตัวไป ในขณะที่วิชาวัฏจักรหงส์อมตะมาอยู่กับเจ้าแทน ถ้าข้าไม่ถามเจ้าแล้วข้าจะถามใครได้?”

ซูอันยิ้มอย่างขมขื่น “ฝ่าบาทคิดว่ากระหม่อมฆ่าเขาเหรอ? แม้ว่าข้าจะมาถึงเมืองหลวงได้ไม่นาน แต่ข้าก็เคยได้ยินคนมากมายยกย่องขันทีเว่ยว่ามีระดับการบ่มเพาะที่สูงส่ง กระหม่อมจะสามารถสังหารผู้บ่มเพาะระดับปรมาจารย์เช่นเขาได้อย่างไรล่ะพะย่ะค่ะ?”

“เจ้าไม่ปฏิเสธเหรอว่ารู้จักเขา?” จักรพรรดินีพูดพร้อมกับหายใจเข้า “แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของเจ้าไม่สูงพอที่จะต่อกรกับขันทีเว่ย แต่เจ้าอาจแทรกแซงการต่อสู้ของเขากับขันทีมี่ เจ้าอาจอาศัยจังหวะเหมาะ ๆ ในการฆ่าพวกเขาทั้งสองขณะต่อสู้กันและแย่งชิงวิชาวัฏจักรหงส์อมตะมา”

ซูอันกล่าวว่า “ฝ่าบาทมองกระหม่อมในแง่ร้ายเกินไปแล้ว พวกเขาทั้งสองเป็นขุนนาง ไม่ว่าพวกเขาจะบาดเจ็บสาหัสเพียงใด ข้าก็ไม่เคยคิดที่จะสู้กับพวกเขา การที่กระหม่อมครอบครองวิชาวัฏจักรหงส์อมตะได้นั้นเพราะขันทีมี่ส่งต่อให้ข้าก่อนที่เขาจะเสียชีวิต”

“หืม?” ขันทีลู่ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจ

“ถ้าอย่างนั้น ขันทีมี่ก็เป็นคนฆ่าเว่ยต้าน!” จักรพรรดินีกล่าวอย่างตกตะลึง “แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ระดับการบ่มเพาะของเว่ยต้านนั้นเหนือกว่าขันทีมี่”

ซูอันกล่าวว่า “ฝ่าบาทลืมไปแล้วหรือว่าขันทีมี่ครอบครองและบ่มเพาะวิชาวัฏจักรหงส์อมตะมาหลายทศวรรษแล้ว แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของเว่ยต้านจะสูงส่ง ขันทีมี่ก็ยังสามารถฆ่าเว่ยต้านได้ในท้ายที่สุด แต่ผลลัพธ์ก็คือเขาบาดเจ็บสาหัสเกินกว่าจะเยียวยา”

เนื้อความส่วนใหญ่ที่เขาพูดเป็นความจริง เขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าเขาครอบครองวิชาวัฏจักรหงส์อมตะแต่เขาเลือกที่จะไม่เปิดเผยแผนการของผู้เฒ่ามี่ที่คิดจะครอบครองร่างกายของเขา

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เขากังวลก็ถูกเปิดเผย “ไร้สาระ!” ขันทีลู่ตวาดพร้อมกับพ่นลมหายใจ “มี่เหลียนอิ๋นเป็นคนเจ้าเล่ห์และคิดคดเสมอ เขายินดีกอดวิชาวัฏจักรหงส์อมตะตายไปพร้อมกับเขาในหลุมมากกว่ามอบให้คนอื่น! คนอย่างนั้นจะส่งต่อวิชาที่แสนวิเศษให้เจ้าอย่างเปล่า ๆ ได้อย่างไร?”

ซูอันถอนหายใจ ขันทีคนหนึ่งย่อมจะรู้จักอีกคนหนึ่ง ขันทีลู่ถือว่าค่อนข้างใกล้ชิดกับขันทีมี่ในบรรดาคนทั้งหมด เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าขันทีมี่นั้นไร้ด้านที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น!

ขณะที่ซูอันกำลังคิดคำตอบ เสียงร้องเตือนก็ดังขึ้นจากภายนอก “นักฆ่า!”

ทันทีที่เสียงเตือนดังขึ้น มีวัตถุแหลมคมสีดำหลายชิ้นพุ่งผ่านหน้าต่างเข้ามาหาจักรพรรดินีที่อยู่ด้านในห้อง!

ซูอันค่อนข้างคุ้นเคยกับวัตถุสีดำที่รวดเร็วจนมองด้วยตาเปล่าเห็นเป็นริ้วแสงสีดำเหล่านี้ พวกมันปรากฏขึ้นมุ่งเป้ามาที่เขาสองสามครั้งระหว่างทางมาเมืองหลวง นี่คือลูกธนูของนักฆ่า!

พวกมันพุ่งผ่านอากาศได้เร็วกว่าลูกธนูธรรมดามาก!

ขันทีลู่ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดรีบวิ่งออกไปที่หน้าม่านมุก สะบัดแขนเสื้อกว้างออกไป ลูกธนูซึ่งดูมีพลังมากพอที่จะระเบิดหินออกเป็นเสี่ยง ๆ ถูกแรงเหวี่ยงของแขนเสื้อเขาบดขยี้

จากนั้นขันทีลู่บินตรงออกไปจัดการกับนักฆ่าที่อยู่ข้างนอกอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากพวกเขาอยู่ในเขตพระราชวังชั้นใน จึงไม่ควรมีนักฆ่ามากนัก ถ้าเขาลงมือรวดเร็วพอ เขาจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

แต่ทว่าขันทีลู่ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองทันทีที่ออกไปนอกห้อง มีนักฆ่าอยู่ทุกหนทุกแห่งกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับเหล่าทหาร!

ขันทีลู่ตกตะลึงจนดวงตาเบิกกว้าง “นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!?”

เขายังสงสัยว่าในที่สุดราชันลมปราณได้ก่อกบฏและนำกองทัพส่วนตัวบุกเข้ามาหรือไม่

เขาหักกระดูกสันหลังของนักฆ่าสองคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วรีบกลับเข้าไปในห้อง การปกป้องจักรพรรดินีเป็นเรื่องสำคัญสูงสุดของเขา!

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ จู่ ๆ หนึ่งในนักฆ่าชุดดำพุ่งออกมาสกัดเขาไว้จนเกิดเป็นการต่อสู้ระยะประชิดอุตลุด

ขันทีลู่ตื่นตระหนก ผู้บ่มเพาะระดับเก้า!

ขันทีลู่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินความแข็งแกร่งของนักฆ่าเหล่านี้ด้วยระดับการบ่มเพาะเพียงอย่างเดียว นักฆ่าเหล่านี้ล้วนผ่านประสบการณ์เป็นตายมามากมาย ดังนั้นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกมันจึงเหนือล้ำกว่าผู้บ่มเพาะทั่วไปมาก พวกมันมักจะสามารถเอาชนะผู้บ่มเพาะที่มีระดับสูงกว่าได้

ขันทีลู่ตั้งสติและสงบอารมณ์ตื่นตกใจ นักฆ่าพวกนี้ไม่ใช่ทหาร! ราชันลมปราณไม่ได้ก่อกบฏ!

พวกมันดูเหมือนนักฆ่าจากกลุ่มเงาสังหาร ฮึ่ม! กลุ่มเงาสังหารใส่ใจเรื่องเงินมากกว่าชีวิตพวกเขาถึงกับกล้าโจมตีจักรพรรดินี!

เขารู้ดีว่าตราบเท่าที่สามารถยับยั้งคนเหล่านี้ไว้ได้นานพอจะมีกองทหารราชองค์รักษ์อีกมากมายเข้ามาเสริมกำลังช่วยเหลือ

ซูอันรู้สึกปวดหัวอย่างแรง เหตุใดจึงมีแต่เรื่องลอบฆ่าในทุกที่ที่เขาอยู่? จะมีการโจมตีวังไร้พิพาทของจักรพรรดินีได้อย่างไร? บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อ!

น่าเสียดายที่เสียงต่อสู้ที่รุนแรงจากภายนอกและเลือดที่สาดกระทบหน้าต่างทำให้เขาระลึกได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง

ชายหนุ่มหันไปมองจักรพรรดินีที่นั่งหลังม่านมุกตามสัญชาตญาณ สีหน้าของนางไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะซีดกว่าเดิมเล็กน้อย นางยังคงสงบมากกว่าขันทีและนางกำนัลรอบตัวที่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

เขามองหาจั้วน้อยและกุ้ยน้อย พวกเขาไม่ได้อยู่กับคนอื่น ๆ แต่ทั้งคู่รวมกันตัวสั่นอยู่ที่มุมห้องโถง

ทันใดนั้น เกิดเสียงดังสนั่นและประตูก็ถูกกระแทกเปิดออก ร่างของเหล่าทหารราชองค์รักษ์หลายคนลอยพุ่งทะลุเข้ามา ร่างกายของพวกเขาโชกไปด้วยเลือด

ถัดหลังจากนั้นเหล่านักฆ่าชุดดำหลายคนบุกเข้ามารุมจ้วงแทงร่างของเหล่าทหารราชองค์รักษ์อย่างโหดเหี้ยมเพื่อปลิดชีพในทันที

จั้วน้อยและกุ้ยน้อยจ้องไปที่ภาพนั้น อ้าปากค้าง

พวกเขาเริ่มสั่นเทายิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อปลิดชีพเหล่าทหารราชองค์รักษ์เสร็จสิ้น นักฆ่าไม่สนใจขันทีทั้งสอง ความสนใจของพวกมันอยู่ที่ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังม่านมุก พวกมันพุ่งเข้าใส่นาง ถือดาบอยู่ในมือแน่น

ขันทีลู่ซึ่งกำลังพัวพันอยู่ด้านนอกคอยจับตาดูสถานการณ์ภายในอยู่ตลอด เมื่อเห็นภาพเช่นนี้เกิดขึ้น เขาก็รีบสะบัดแขนเสื้อเขวี้ยงกระบี่พุ่งออกไปหานักฆ่าที่วิ่งเข้าหาจักรพรรดินีราวกับสายฟ้าฟาด กระบี่แทงทะลุร่างของพวกมันเลือดพุ่งกระฉูดราวกับน้ำพุ!

ซูอันรู้สึกหนาวสั่น ผู้บ่มเพาะระดับเก้าสามารถผสานกับพลังธรรมชาติของโลกได้ ความเร็วและพลังของการโจมตีไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะธรรมดาจะรับมือได้

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท