บทที่ 823 วันแต่งงานมาถึง ใครบางคนอยากหาเรื่อง!
ณ เมืองชิงซาน
หลี่จิ่วเต้าและลั่วสุ่ยกลับมาแล้ว ป้าหวังร้านข้าง ๆ รีบส่งบุตรชายของนางไปแจ้งมารดาหลิงอิน ส่วนตัวนางเองลากหลี่จิ่วเต้าเข้ามาสนทนาสัพเพเหระ
สนทนานั้นเป็นเพียงฉากบังหน้า แท้จริงแล้วเป้าหมายคือการจี้เรื่องแต่งงาน ป้าหวังสาธยายออกไปมากมายว่าหลิงอินนั้นดีเพียงใด ชอบคุณชายหลี่เพียงใด กล่าวว่าคุณชายหลี่จะหักอกหลิงอินเช่นนี้มิได้
“คุณชาย พวกท่านออกเดินทางท่องเที่ยวตามประสาข้าวใหม่ปลามันมาแล้ว คนทั้งเมืองรู้กันหมด ภายหน้าหลิงอินไม่สามารถแต่งงานกับผู้อื่นอีกแล้ว! คุณชายจะไม่รับผิดชอบไม่ได้!”
ป้าหวังใช้วาจารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนหลี่จิ่วเต้าตั้งรับไม่ไหวแม้แต่น้อย
ขณะเดียวกัน เขาเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ออกเดินทางท่องเที่ยวตามประสาข้าวใหม่ปลามันอันใดกัน เอามาจากไหนกันล่ะนี่ ที่ออกเดินทางคราวก่อนใช่ว่ามีเพียงเขาและหลิงอินสองคนที่ไหน ไปกันตั้งหลายคน มิได้ใกล้เคียงกับออกเดินทางท่องเที่ยวตามประสาข้าวใหม่ปลามันเลยสักนิด
ลั่วสุ่ยลอบหัวเราะอยู่ด้านข้าง นี่ก็เพราะเป็นป้าหวัง นอกจากป้าหวังผู้เก่งกาจแล้ว มีผู้ใดที่คุณชายรับมือไม่ไหวอีกบ้าง
ผู้ที่ทรงพลังที่สุดในเทวโลกยังเป็นเพียงกากเดนเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณชาย มิมีน้ำยาแต่อย่างใด!
ไม่นานนัก บุตรชายของป้าหวังก็กลับมา พร้อมเอ่ยว่ามารดาของหลิงอินมามิได้ ถูกหลิงอินรั้งไว้
“ยายเด็กนี่ พวกเราเป็นธุระให้นาง นางกลับเป็นตัวถ่วงขนาดนี้!”
ป้าหวังโมโหแทบแย่ เดิมนางคิดจะร่วม ‘ไล่ต้อน’ หลี่จิ่วเต้ากับมารดาหลิงอิน แต่กลับถูกหลิงอินทำให้ผิดแผน
หลี่จิ่วเต้าฉวยโอกาสนี้ชิ่งกลับลานบ้านของตนแล้วรีบให้ลั่วสุ่ยปิดประตู แล้วถึงกับพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก
ชางเหยาออกจากห้องนอนอีกด้านของลาน เมื่อได้เห็นภาพนี้ก็ตกตะลึงไปในบัดดล
ผู้ใดดุดันปานนี้ ทำให้คุณชาย ‘หนีอุตลุด’ ได้
นางใคร่รู้ยิ่งนัก!
…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใกล้ถึงวันแต่งงานของสือเฟิงแล้ว วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันงาน
หลี่จิ่วเต้าบอกให้ลั่วสุ่ยไปแจ้งพวกอ้ายฉานมารวมตัวกันในลานเล็กของเขาแต่เช้า แล้วไปร่วมงานแต่งของสือเฟิงด้วยกัน
ช่วงที่ผ่านมา เขาตีแหวนเพชรเสร็จแล้วหนึ่งคู่ ทั้งยังตีเครื่องประดับเพชรให้ฉินซินหนึ่งชุด และเครื่องประดับทองคำอีกหนึ่งชุด
ดูออกเลยว่าเขาใส่ใจในการแต่งงานของสือเฟิงและฉินซินมาก
ลั่วสุ่ยก็มีเหมือนกัน เป็นจี้สร้อยคอเพชร ตุ้มหูเพชร และเครื่องประดับชิ้นอื่นที่เขาตั้งใจตีขึ้นเพื่อลั่วสุ่ย หลังลั่วสุ่ยได้สวมใส่แล้วอย่าให้เอ่ยเลยว่างดงามเพียงใด เพชรนั้นส่องแสงวาววาม ยิ่งขับให้ลั่วสุ่ยเพริศพริ้งวิไล หลังชางเหยาเห็นแล้วรู้สึกอิจฉาเหลือแสน สวยเกินไปแล้ว!
ผ่านไปไม่นาน พวกอ้ายฉานก็มาถึง พวกเขาออกเดินทางไปยังนิกายอวี้ซวี
สัตว์อสูรทั้งเก้าได้ลากรถเดินทางอีกครั้ง พวกลั่วสุ่ยนั่งอยู่ในรถลาก ส่วนหลี่จิ่วเต้ายังคงเดินทางโดยขี่กิเลนไฟตามเดิม
ระหว่างทาง พวกเขาได้พบสิ่งมีชีวิตจำนวนไม่น้อยที่เดินทางไปยังนิกายอวี้ซวีเพื่อเข้าร่วมงานแต่งของสือเฟิง หลี่จิ่วเต้านึกในใจว่าสือเฟิงนี่ใช้ได้ มีมนุษย์สัมพันธ์ในอาณาจักรนี้ดียิ่ง ถึงมีผู้ฝึกตนมากมายขนาดนี้เดินทางไปเข้าร่วม
“แค่งานแต่งงานเท่านั้น พิเศษตรงไหน ถึงได้เอิกเกริกเช่นนี้!”
ห่างออกไปไม่ไกล เด็กหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนอินทรีย์ทองเอ่ยกับผู้ร่วมทาง วาจาของเขาเปี่ยมไปด้วยความดูแคลนต่องานแต่งของสือเฟิง
“ฮ่า ๆ พี่หวงคงไม่เข้าใจใช่หรือไม่! น้ำเต็มขวดย่อมเงียบสงบ น้ำครึ่งขวดต่างหากที่แกว่งไหวอึกทึก! ถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรเล็ก ๆ พอมีความสำเร็จขึ้นมาบ้างก็อดไม่ไหวต้องการโอ้อวด!”
อีกด้านหนึ่ง เด็กหนุ่มผมเงินผู้เหินกระบี่เอ่ยด้วยความดูแคลนเหลือแสนเช่นกัน
“ใช่แล้ว! พี่หวังวิเคราะห์ได้ตรงประเด็น! สือเฟิงที่ว่านี่คิดแล้วคงพอมีความสำเร็จในอาณาจักรเล็ก ๆ นี้ แล้วทึกทักเอาว่าตนนั้นเก่งกาจ ถึงได้จัดงานแต่งอย่างยิ่งใหญ่เอิกเกริก เพื่อเติมเต็มศักดิ์ศรีอันน่าสมเพชของตนเอง”
“ให้พูดกันจริง ๆ จะเก่งสักปานใดเชียว ลงท้ายก็เป็นเพียงปลาซิวปลาสร้อยเท่านั้น!”
ผู้ที่ร่วมทางมากับพวกเขามีทั้งหมดหกคนด้วยกัน ล้วนมาจากจักรวาลโกลาหลผืนอื่น
บอกตามตรง พวกเขาไม่เห็นสิ่งมีชีวิตในจักรวาลโกลาหลผืนนี้อยู่ในสายตา มองว่าสิ่งมีชีวิตในจักรวาลโกลาหลผืนนี้เพียงแต่มีโชคหล่นทับเท่านั้น ไม่อาจเทียบกับพวกเขาได้เลย
“รอให้พวกเราไปถึงที่นั่นก่อน จักให้พวกเขาได้รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของเรา!”
“พวกเรามิได้หาเรื่อง เพียงแต่ต้องการวัดฝีมืออย่าง ‘เป็นมิตร’ เท่านั้น ให้งานแต่งงานคึกคักยิ่งขึ้น”
พวกเขาเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วเหินไปจากที่นี่ในเสี้ยววินาที
การเดินทางไปเข้าร่วมงานแต่งของสือเฟิงคราวนี้ พวกเขามิได้ตั้งใจไปอวยพรสือเฟิง สือเฟิงหาได้คู่ควรกับคำอวยพรจากใจจริงของพวกเขาไม่
บรรดายอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลต่าง ๆ จุติ แล้วยังพาคนรุ่นหลังของพวกเขามาด้วย ถึงอย่างไรอาณาจักรนี้ก็มหัศจรรย์อย่างยิ่งยวด พวกเขาก็อยากให้คนรุ่นหลังของพวกตนได้ประโยชน์จากที่นี่บ้าง
สิ่งมีชีวิตวัยเยาว์หกตนนี้มาจากจักรวาลโกลาหลผืนเดียวกัน มาเพราะผู้ใหญ่ของพวกเขาพามา
พวกเขามิได้ประสงค์ดีในการเข้าร่วมงานแต่งครานี้ ทั้งนี้มิใช่เพราะพวกเขาต้องการทำตัวโดดเด่น และมิใช่เพราะพวกเขาอยากก่อความวุ่นวายในงานแต่งของสือเฟิง
อาณาจักรนี้มีความลับใหญ่หลวงอยู่มากมาย พวกเขาต่างได้รับภารกิจจากผู้ใหญ่ของตน หมายจะวัดระดับพลังของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ในงานแต่งของสือเฟิง ดูว่าพอจะล่วงรู้ความลับใหญ่หลวงอันใดได้บ้างหรือไม่
ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น ยังมีสิ่งมีชีวิตรุ่นหลังจากจักรวาลโกลาหลผืนอื่นที่ได้รับภารกิจนี้ด้วย งานแต่งของสือเฟิงเป็นโอกาสอันหาได้ยาก พวกเขาไม่มีทางพลาด
“พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่”
อีกด้านหลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังได้ยินคำกล่าวของสิ่งมีชีวิตหกตนนั้นก็เอ่ยกับพวกลั่วสุ่ย
“ได้ยินแล้ว!”
“พวกเขาตั้งใจไปก่อเรื่อง!”
ภายในรถลาก พวกลั่วสุ่ยโมโหกันถ้วนหน้า วันมงคลของสือเฟิง คนกลุ่มนี้กลับตั้งใจไปก่อความวุ่นวาย จะมิให้พวกเขาโกรธเคืองได้อย่างไร!
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า! ถึงครานั้น ข้าจะอัดพวกเขาให้พินาศ!”
“บังอาจก่อเรื่องในงานแต่งของพี่เฟิง ข้าจะหักขาพวกเขาเสีย!”
พวกอ้ายฉานเอ่ยเสียงแค้นเคือง
หากเจ้าพวกนี้กล้าก่อเรื่องจริง ๆ พวกเขาไม่มีทางยั้งมือ ต้องต่อสู้สุดกำลังแน่นอน!
ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็มาถึงนิกายอวี้ซวี
ด้านนิกายอวี้ซวีมีผู้คนอยู่กันอย่างเนืองแน่น สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรต่าง ๆ แดนบรรพโกลาหล รวมถึงจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ ต่างมาที่นี่ล่วงหน้ากันอย่างคับคั่ง จำนวนผู้เข้าร่วมย่อมไม่น้อย
อันที่จริง แต่เดิมสือเฟิงมิได้คิดจัดงานแต่งใหญ่โต เขาเรียนแจ้งคนเพียงกลุ่มหนึ่ง ทว่าช่วยไม่ได้ ข่าวเรื่องงานแต่งของเขาแพร่สะพัดออกไป จึงมีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่มาโดยมิได้รับเชิญ
สือเฟิงและคนอื่น ๆ ในนิกายอวี้ซวีรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีสิ่งมีชีวิตเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่ง พวกเขาได้เตรียมการไว้แต่เนิ่น ๆ จัดแจงยอดเขาใกล้ ๆ นี้ไว้ทั้งหมด สร้างฐานตำหนักมโหฬารแห่งแล้วแห่งเล่าเพื่อใช้ในการรับรองสิ่งมีชีวิตที่มาเข้าร่วม
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นก็เห็นได้ชัดว่ายังไม่พอ สิ่งมีชีวิตอีกจำนวนมากมิมีที่พำนัก ถึงอย่างไร จำนวนสิ่งมีชีวิตที่เข้าร่วมนั้นก็มากมายเกินไป!
“คึกคักจริงเชียว…”
หลี่จิ่วเต้ามองสิ่งมีชีวิตผู้มาเข้าร่วมงานแต่งงานที่กระจัดกระจายอยู่เต็มทุกที่ ก็รำพันในใจว่าหากวันหน้าเขาได้จัดงานแต่งจะยิ่งใหญ่ปานนี้ มีสิ่งมีชีวิตเข้าร่วมกันมากมายเช่นนี้เหมือนกันหรือไม่
หากเป็นเช่นนั้นจริง คงเป็นงานแต่งที่ลืมไม่ลงแน่
‘ฮ่า ๆ ถึงคราวข้าแต่งงานแล้วเจ้าสาวมิใช่หลิงอิน น่ากลัวว่าป้าหวังคงต้องฉีกข้าเป็นชิ้น ๆ กระมัง’
เขาคิดในใจ ป้าหวังมุ่งมั่นให้เขาได้ครองคู่กับหลิงอินเกินไป
ทว่าตัวเขาไม่ยอมให้ปัจจัยเหล่านี้มาบงการหรอก
ภายหน้าหากเขาได้แต่งงาน เขาจะเลือกเจ้าสาวตามความต้องการในใจ ไม่มีทางถูกตัวแปรอื่นแทรกแซง