แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 849 สายจากสหายสาว

ตอนที่ 849 สายจากสหายสาว

ตอนที่​ 849 สาย​จาก​สหาย​สาว​

ปัญหา​อย่างหนึ่ง​เกิดขึ้น​แล้ว​ สามีคิด​ว่า​เธอ​กำลัง​ลำบากใจ​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​กิน​เกี๊ยว​น้ำ​ซุป​ไก่​ที่​น้า​ถูทำ​อย่าง​มีความสุข​ และ​หลังจาก​เช็ด​ปาก​ด้วย​ทิชชู​ เธอ​ได้ยิน​ฟางจั๋ว​หรา​นบ​อก​ว่า​จะพา​เธอ​ไปหา​หมอ​

หลิน​ม่าย​ต้องการ​ไป​เมืองหลวง​เพื่อ​ประชุม​ใน​วันนี้​ แต่​ไม่อยาก​ไป​โรงพยาบาล​

เธอ​ทำตัว​เหมือน​เด็ก​และ​กล่าว​ต่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น“​ฉัน​บอ​กว่า​ฉัน​สบายดี​นี่​คะ​ ทำไม​ฉัน​ต้อง​ไปหา​หมอ​ด้วย​”

“ผม​ไม่สบายใจ​ถ้าคุณ​ไม่ไปหา​หมอ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​รู้สึก​เป็นทุกข์​มาก​เมื่อ​คิด​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​อุ้มท้อง​ไป​ไต้หวัน​คนเดียว​และ​ไม่มีใคร​ดูแล​เธอ​

ในที่สุด​หลิน​ม่าย​ก็​ถูก​ฟางจั๋ว​หรา​น​ลาก​ไป​โรงพยาบาล​ แพทย์​จาก​แผนก​สูตินรีเวช​ของ​แผนก​ผู้ป่วยใน​ได้​ตรวจสอบ​และ​ยืนยัน​ว่า​เธอ​ไม่เป็นอะไร​ จากนั้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงปล่อย​ให้​เธอ​ไป​ทำงาน​ที่​เมืองหลวง​

ธุรกิจ​ทั้งหมด​ใน​สำนักงาน​ปักกิ่ง​ได้รับ​การ​จัดการ​อย่าง​ดี​โดย​ผู้จัดการ​ซุน​

ตลาด​ผัก​สอง​แห่ง​ซึ่งเปลี่ยน​จาก​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​เป็น​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ที่​ทัง​อี้​รับผิดชอบ​ ก็​ไป​ได้ดี​

นอกจากนี้​เขา​ยัง​เลือก​ผู้จัดการ​ตลาด​สอง​แห่ง​เพื่อ​อำนวยความสะดวก​ใน​การ​จัดการ​ของ​เขา​

เขา​รายงาน​กับ​หลิน​ม่าย​ว่า​ ชาว​สวนผัก​จำนวนมาก​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​ได้​ปลูก​ผัก​เรือนกระจก​ใน​เดือน​กันยายน​และ​ตุลาคม​ปี​นี้​

แต่​พวกเขา​มีตลาด​เพียง​สามแห่ง​ และ​พวกเขา​ไม่สามารถ​ซื้อ​ผัก​ใน​เรือนกระจก​มากมาย​ขนาด​นี้​ได้​

ทัง​อี้​ต้องการ​เปิด​ตลาด​มากขึ้น​ เพื่อ​ที่​เขา​จะได้​ช่วยเหลือ​ชาว​สวนผัก​มากขึ้น​

หลิน​ม่าย​ได้​เห็น​งบการเงิน​ของตลาด​ทั้งสอง​แห่ง​แล้ว​ จึงเลื่อนตำแหน่ง​ให้​ทัง​อี้​เป็น​ผู้จัดการทั่วไป​ของตลาด​ฝูตัว​ตัว​ทันที​ ปล่อย​ให้​เขา​จัดการ​ธุร​กิจการ​เปิด​ตลาด​ผัก​อีก​สอง​สามแห่ง​

แต่​ขอให้​เขา​จำไว้​ว่า​ ผลกำไร​ต้อง​มีความสำคัญ​เป็น​อันดับ​แรก​ และ​การ​ช่วยเหลือ​เกษตรกร​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​ความ​สะดวกสบาย​ อย่า​วาง​เกวียน​ไว้​ข้าง​หน้าม้า​

ทัง​อี้​พยักหน้า​ “รับทราบ​ครับ​”

วันนี้​เป็น​วันอาทิตย์​ หาก​ไม่มีประชุม​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ไป​ทำงาน​

การประชุม​ใน​วันอาทิตย์​ตรง​กับ​วัน​ว่าง​ของ​หลิน​ม่าย​ โดยปกติ​แล้ว​เธอ​ต้อง​ไป​มหาวิทยาลัย​ ดังนั้น​เธอ​จึงมีเวลา​จัดการ​บริษัท​ใน​วันอาทิตย์​เท่านั้น​

ดังนั้น​หลัง​การประชุม​ ทุกคน​สามารถ​กลับบ้าน​ได้​

แต่​ทัง​อี้​ไม่ได้​กลับบ้าน​ กลับ​ไป​ตรวจสอบ​ตลาด​ทั้ง​สามแห่ง​แทน​

หลิน​ม่าย​ไว้วางใจ​เขา​อย่าง​มาก​ ดังนั้น​เขา​ต้อง​ทำให้​ดี​

หลังจาก​เดิน​ตรวจ​ตลาด​ทั้ง​สามแห่ง​ก็​เป็นเวลา​เที่ยงวัน​

ทัง​อี้​ไป​ยัง​ร้าน​หลู่​ไช่ริมถนน​เพื่อ​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ที่​ภรรยา​ของ​เขา​ชอบ​กิน​ และ​ขี่​จักรยาน​ของ​เขา​อย่าง​รวดเร็ว​ตลอดทาง​กลับบ้าน​

เมื่อ​ภรรยา​เห็น​เขา​ก็​พลัน​เอ่ย​ถ่าม “ทำไม​คุณ​กลับมา​ช้าจัง?”

ทัง​อี้​ยื่น​หลู่​ไช่ที่​เขา​ซื้อ​มาให้​หล่อน​ “นี่​ไม่ใช่หลู่​ไช่ที่​คุณ​อยาก​กิน​หรอก​เหรอ​?”

เมื่อ​ภรรยา​ของ​เขา​ได้​เห็น​หลู่​ไช่ที่​ทัง​อี้​นำมา​ หล่อน​ก็​รู้​ทันที​ว่า​อาหาร​เหล่านั้น​มีราคาแพง​ จึงกล่าว​ด้วย​ความไม่พอใจ​เล็กน้อย​ “ทำไม​ถึงซื้อ​หลู่​ไช่มามากมาย​ขนาด​นี้​ สิ้นเปลือง​เสีย​เปล่าๆ​”

ทัง​อี้​กำลัง​หยอกล้อ​ลูกชาย​ของ​เขา​ใน​เปล​

ลูกชาย​ของ​เค้า​มีอายุ​เกือบ​หนึ่ง​ขวบ​แล้ว​ เมื่อ​ถูก​แกล้ง​หรือ​หยอกล้อ​ก็​มักจะ​หัวเราะ​คิกคัก​เสียงดัง​

เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งที่​ภรรยา​พูด​ เขา​ก็​พูดไม่ออก​ “ การ​ดูแล​ลูก​และ​ดูแล​บ้าน​ด้วย​ตัว​คนเดียว​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ผม​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ที่​คุณ​ชอบ​มาให้​เพื่อ​เป็น​ขวัญ​กำลังใจ​ จะเรียก​ว่า​เป็นการ​สิ้นเปลือง​โดย​เปล่าประโยชน์​ได้​ยังไง​?”

ภรรยา​ของ​เขา​หยุด​พูด​และ​นำ​อาหาร​ออก​มาจาก​ครัว​

ทัง​อี้​รีบ​ล้างมือ​และ​นั่งลง​ที่​โต๊ะ​อาหารเย็น​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​ร่วมกัน​

ภรรยา​อุ้ม​ลูก​วัย​แบเบาะ​มานั่ง​ตรงข้าม​เขา​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​

หล่อน​ป้อน​ไข่ตุ๋น​ให้​ทารก​น้อย​หนึ่ง​คำ​ จากนั้น​จึงคีบ​เนื้อ​ตุ๋น​ชิ้น​หนึ่ง​เข้า​ปาก​ และ​ถามทัง​อี้​ว่า​เขา​จ่าย​ค่า​เนื้อ​ตุ๋น​และ​หลู่​ไช่ไป​มาก​เพียงใด​

ทัง​อี้​กำลังจะ​บอก​ข่าวดี​เกี่ยวกับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ของ​เขา​ให้​กับ​ภรรยา​ฟัง

แต่​เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​ของ​ภรรยา​ เขา​ตอบ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​

ภรรยา​ได้​รู้​ก็​ยิ่ง​ต่อว่า​เขา​ กล่าว​หาว่า​เขา​ใช้เงิน​สิ้นเปลือง​โดย​เปล่าประโยชน์​ จากนั้น​ก็​เทศนา​ไป​หนึ่ง​ยก​ว่า​เป็น​แบบนี้​จะใช้ชีวิต​ต่อไป​ได้​อย่างไร​

ทัง​อี้​รอ​ให้​ภรรยา​ของ​เขา​ต่อว่า​จน​พอใจ​ จากนั้น​จึงบอก​ข่าวดี​กับ​ภรรยา​ว่า​ เขา​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​ผู้จัดการทั่วไป​ของตลาด​ผัก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​

เขา​ยัง​บอก​หล่อน​ด้วยว่า​หลังจากที่​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ เขา​จะได้รับ​เงินอุดหนุน​เพิ่มเติม​หลาย​สิบ​หยวน​ทุก​เดือน​

ดังนั้น​แน่นอน​ว่า​อาหาร​เหล่านี้​ไม่ได้​แพง​เกินไป​สำหรับ​เขา​ ไม่จำเป็นต้อง​มัธยัสถ์​เหมือน​ที่ผ่านมา​

ภรรยา​มอง​เขา​อย่าง​ว่างเปล่า​และ​ไม่พูด​อะไร​

ทัง​อี้​เลิกคิ้ว​และ​พูด​ด้วย​ความโมโห​ “ผม​บอก​คุณ​แล้ว​ว่า​คุณ​หลิน​ไม่มีทาง​เอาเปรียบ​ลูกน้อง​ คุณ​อาจจะ​บอ​กว่า​หล่อน​เอาเปรียบ​และ​กลั่นแกล้ง​ผม​ หล่อน​รังแก​ผม​ตรงไหน​? หล่อน​แค่​ทดสอบ​ผม​ก็​เท่านั้น​ พอ​ผม​จัด​การตลาด​ทั้งสอง​ได้ดี​ คุณ​หลิน​ก็​ทำการ​ส่งเสริม​และ​มอบ​โอกาส​ที่​ดี​ให้​กับ​ผม​”

เขา​กินข้าว​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​ รอคอย​คำชมเชย​จาก​ภรรยา​

ภรรยา​ยังคง​เอ่ย​วาจา​ขมขื่น​ “ คุณ​เป็น​คน​มีความสามารถ​ ก็​สมควร​ที่​คุณ​หลิน​จะเลื่อนตำแหน่ง​ให้​คุณ​ไม่ใช่เหรอ​? คุณ​เอง​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​สุนัข​ พอ​เจ้านาย​โยน​กระดูก​มาให้​ คุณ​ก็​คาบ​กิน​แล้ว​เพลิดเพลิน​กับ​ความสุข​นั้น​เหมือน​คนงี่เง่า​!

คำ​ถากถาง​ของ​ภรรยา​ราวกับ​น้ำเย็น​หนึ่ง​อ่าง​ราด​ลง​บน​หัว​ของ​ทัง​อี้​ ทำให้​เขา​ไม่อยาก​รับประทาน​อาหารเย็น​อีกต่อไป​

เขา​ไม่เข้าใจ​ว่าการ​ที่​ภรรยา​จะยกย่อง​หรือ​ชมเชย​เขา​เป็นเรื่อง​ยาก​สำหรับ​หล่อน​ถึงขนาด​นั้น​เลย​หรือ​?

หลัง​เสร็จ​การประชุม​ หลิน​ม่าย​ก็​กลับบ้าน​

ท้อง​อัน​ใหญ่โต​ทำให้​เธอ​เคลื่อนไหว​ลำบาก​มากกว่า​ตอนที่​ยัง​ท้อง​ไม่ใหญ่​

เธอ​เพิ่ง​ไป​พบ​แพทย์​และ​มีการประชุม​ จากนั้น​จึงกลับมา​นอน​บน​เตียง​อย่าง​เหนื่อยอ่อน​

น้า​ถูเดิน​เข้ามา​พร้อม​โจ๊ก​รังนก​ชามหนึ่ง​แล้ว​ขอให้​หลิน​ม่าย​ดื่ม​ขณะ​ยัง​ร้อน​อยู่​

หลิน​ม่าย​เอ่ย​ถามด้วย​ความสงสัย​ขณะ​ดื่ม​ “ไป​เอา​รังนก​มาจาก​ที่ไหน​คะ​?”

ใน​ยุค​ที่​สินค้า​อุปโภค​บริโภค​เพิ่งจะ​มีการ​ปรับราคา​สูงขึ้น​ อาหารเสริม​เช่น​รังนก​ก็​หา​ซื้อ​ได้​ไม่ง่าย​นัก​

หลิน​ม่าย​ไม่ซื้อ​เพราะ​ไม่มีรังนก​ราคา​ถูก​พอ​จะจับจ่าย​ได้​

น้า​ถูกล่าว​ “มีคน​มอบ​รังนก​นี้​ให้​น้า​มา คุณนาย​บอ​กว่า​ไม่ต้องการ​อาหารเสริม​ จึงขอให้​น้า​ตุ๋น​ให้​คุณ​กิน​ โดย​บอ​กว่า​คุณ​ท้อง​และ​ต้องการ​อาหารเสริม​”

หัวใจ​ของ​หลิน​ม่าย​รู้สึก​อบอุ่น​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​เธอ​ตั้งครรภ์​ และ​ทั้ง​ครอบครัว​มองว่า​เธอ​เป็น​สมบัติ​ล้ำค่า​

หลังจาก​ดื่ม​รังนก​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​นอนลง​อีกครั้ง​เพื่อ​พักผ่อน​

โทรศัพท์​ข้าง​เตียง​พลัน​ดัง​ขึ้น​

หลิน​ม่าย​รับสาย​ในขณะที่​นอน​อยู่​บน​เตียง​

เป็น​สาย​มาจาก​เถาจืออวิ๋น​ หล่อน​โทร​มาเพื่อ​ถามหลิน​ม่าย​ว่า​รู้สึก​อย่างไร​ที่​ได้​สวม​ชุด​ที่​หล่อน​ออกแบบ​เข้า​ร่วมงาน​ประกาศ​รางวัล​

หลิน​ม่าย​ตอบ​เธอ​ด้วย​คำ​ห้า​คำ​ “สะดุดตา​มาก​เลย​”

จากนั้น​เธอ​จึงเอ่ย​ถาม “ทำไม​ถึงไม่บอก​ฉัน​ว่า​ชุด​นั้น​ได้​รับรางวัล​รองชนะเลิศ​ใน​เทศกาล​แฟชั่น​มิลาน​ล่ะ​คะ​?”

“ก็​เพราะ​ลืม​น่ะ​สิ จะมีเหตุผล​อะไร​อีก​”

หลิน​ม่าย​พูดไม่ออก​ และ​เถาจืออวิ๋น​ก็​ไม่ได้​จริงจัง​กับ​รางวัล​นั้น​มาก​นัก​

หลิน​ม่าย​ถาม “เป็นเรื่อง​ยาก​มาก​เชียว​นะ​ที่จะ​ได้​รับรางวัล​จาก​เทศกาล​แฟชั่น​แห่ง​มิลาน​ พี่​ทำได้​ยังไง​?”

“เพราะ​คำแนะนำ​ของ​โรงเรียน​” เถาจืออวิ๋น​ตอบ​อย่าง​เย่อหยิ่ง​

เถาจืออวิ๋น​ยัง​บอก​เธอ​ด้วยว่า​ หลังจาก​คว้ารางวัล​รองชนะเลิศ​จาก​งานเทศกาล​แฟชั่น​แห่ง​มิลาน​และ​ได้รับ​โบนัส​ก้อน​โต​ ครอบครัว​ทั้ง​สามคน​ก็​ย้าย​ออกจาก​ห้องใต้ดิน​และ​ไป​อยู่​ใน​อพาร์ทเมนต์​

หล่อน​รู้สึก​ดี​ที่​ได้​เห็น​แสงแดด​ฉาย​ลอด​เข้ามา​ใน​ห้อง​

จากนั้น​หลิน​ม่าย​จึงถามซุบซิบ​ว่า​ ชาย​ที่​ชื่อ​อับราฮัม​ได้​สารภาพ​รัก​กับ​หล่อน​หรือไม่​?

เถาจืออวิ๋น​กล่าว​ “เขา​สารภาพ​ตรงไปตรงมา​มาก​”

“แล้ว​พี่​ตอบ​ไป​ว่า​ยังไง​?”

“แน่นอน​ว่า​ฉัน​ปฏิเสธ​!”

แม้หลิน​ม่าย​จะไม่เคย​พบ​กับ​อับราฮัม​ด้วยตัวเอง​ แต่​หลิน​ม่าย​ก็​กลัว​ว่า​เถาจืออวิ๋น​จะถูก​หลอก​ จึงขอให้​คน​ตรวจสอบ​อับราฮัม​ และ​เมื่อ​เห็น​รูปถ่าย​ของ​เขา​ก็​พลัน​รับรู้​ว่า​เขา​หล่อ​มาก​ และ​คุณ​สมบัติส่วนตัว​ของ​เขา​ก็ดี​เช่นกัน​

เขา​ช่างเป็น​ผู้ชาย​ที่​ยอดเยี่ยม​ แต่​เถาจืออวิ๋น​ไม่ชอบ​เขา​ แสดงว่า​หล่อน​ยังมี​ฟางจั๋วเยวี่ย​อยู่​ใน​ใจสินะ​?

หลิน​ม่าย​ไม่รู้เรื่อง​อารมณ์​ความสัมพันธ์​มาก​นัก​ เธอ​จึงไม่กล้า​เข้าไป​แทรกแซง​

เมื่อ​เธอ​กำลังจะ​วางสาย​ จู่ ๆ เถาจืออวิ๋น​ก็​พลัน​เอ่ย​ขึ้น​ “ม่าย​จื่อ​ ฉัน​เจอ​คนรู้จัก​ใน​มิลาน​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ “ถือ​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​มาก​นะ​ พี่​ซื้อ​ลอตเตอรี่​ได้​เลย​นะ​นี่​”

ใน​ยุค​นี้​ไม่ค่อย​มีใคร​ไป​เรียนต่อ​ต่างประเทศ​ และ​ผู้คน​ที่​ไป​อิตาลี​เพื่อ​เรียนต่อ​ก็​น้อยลง​

โอกาส​ที่​เถาจืออวิ๋น​จะพบ​คนรู้จัก​ใน​อิตาลี​นั้น​ไม่ได้​สูงกว่า​โอกาส​ใน​การ​ถูก​ลอตเตอรี่​มาก​นัก​

เธอ​ถามด้วย​ความสงสัย​ “ว่าแต่​ พี่​เจอ​ใคร​เหรอ​?”

“กู่​เยี่ยน​ คน​ที่​เธอ​เคย​ยกย่อง​มาตลอด​ไงล่ะ​ ยัง​จำหล่อน​ได้​ไหม​?”

“จำได้​” หลิน​ม่าย​จำผู้หญิง​คน​นี้​ได้​ ไม่ใช่เพราะ​ความสูง​หรือ​รูปร่างหน้าตา​ที่​พิเศษ​ของหล่อน​ แต่​เป็น​เพราะ​การพัฒนา​ตนเอง​ของหล่อน​

กู่​เยี่ยน​มาจาก​ชนบท​ เรียน​ไม่จบ​ชั้นประถม​และ​ไม่มีการศึกษา​ แต่กลับ​ไป​อิตาลี​เพื่อ​ไล่ตาม​ความฝัน​ของหล่อน​

ถึงกระนั้น​หลิน​ม่าย​ก็​ยัง​ประหลาดใจ​มาก​ และ​ถามเถาจืออวิ๋น​ “หล่อน​ไป​อิตาลี​ได้​อย่างไร​? แล้ว​หล่อน​เป็น​อย่างไรบ้าง​ใน​อิตาลี​?”

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​โทรศัพท์​ เถาจืออวิ๋น​กำลัง​ดื่ม​กาแฟ​ “หล่อน​เป็น​ผู้หญิง​ที่​กล้าหาญ​มาก​ ตอนแรก​ไม่รู้​ภาษาอิตาลี​สัก​คำ​ กลับ​กล้า​ที่จะ​ผจญภัย​ใน​อิตาลี​

ที่​สำคัญ​คือ​ ผู้หญิง​คน​นี้​ตั้งใจ​เรียน​มาก​ หล่อน​มาเร็ว​กว่า​ฉัน​เพียง​สอง​เดือน​ แต่​ก็​สื่อสาร​กับ​ชาวบ้าน​ได้​แล้ว​ แต่​เรื่อง​การงาน​ของหล่อน​ใน​อิตาลี​ไป​ได้​ไม่สวย​นัก​ โมเดลลิ่ง​หลาย​แห่ง​ชอบ​ใช้นางแบบ​ผิวขาว​ น้อย​คน​นัก​ที่จะ​ใช้นางแบบ​ผิวเหลือง​”

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “พี่​กับ​กู่​เยี่ยน​มาจาก​ประเทศ​จีน​ทั้งคู่​ และ​อยู่​ต่างประเทศ​ทั้งคู่​ หาก​ช่วย​อะไร​หล่อน​ได้​ก็​ช่วย​เถอะ​นะ​ คิด​เสีย​ว่า​ช่วย​คนบ้านเดียวกัน​ สิ่งที่​ฉัน​หมายถึง​คือ​การ​ช่วยเหลือ​ ไม่ใช่การ​ให้เงิน​หล่อน​ แต่​เป็นการ​ช่วยเหลือ​ใน​อาชีพ​การงาน​ของหล่อน​น่ะ​”

“เข้าใจ​แล้ว​ สอน​คน​ตกปลา​ดีกว่า​ยื่น​ปลา​ให้​พวกเขา​ ฉัน​เข้าใจ​ความจริง​ข้อ​นี้​อยู่​ล่ะ​”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ภรรยา​ทัง​อี้​นี่​แปลก​ๆ นะ​ ไม่เคย​ชมสามีตัวเอง​เลย​เหรอ​ ถ้าวันหนึ่ง​ต้อง​หย่ากัน​ก็​ไม่แปลกใจ​ล่ะ​

กู่​เยี่ยน​แข็งแกร่ง​มาก​ อยู่​อิตาลี​ทั้งที่​สกิล​ภาษาเป็น​ศูนย์​จนกระทั่ง​พูด​กับ​คน​โล​คอ​ล​ได้​อะ​

ไหหม่า​(海馬)ตอนที่​ 849 สาย​จาก​สหาย​สาว​

ปัญหา​อย่างหนึ่ง​เกิดขึ้น​แล้ว​ สามีคิด​ว่า​เธอ​กำลัง​ลำบากใจ​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​กิน​เกี๊ยว​น้ำ​ซุป​ไก่​ที่​น้า​ถูทำ​อย่าง​มีความสุข​ และ​หลังจาก​เช็ด​ปาก​ด้วย​ทิชชู​ เธอ​ได้ยิน​ฟางจั๋ว​หรา​นบ​อก​ว่า​จะพา​เธอ​ไปหา​หมอ​

หลิน​ม่าย​ต้องการ​ไป​เมืองหลวง​เพื่อ​ประชุม​ใน​วันนี้​ แต่​ไม่อยาก​ไป​โรงพยาบาล​

เธอ​ทำตัว​เหมือน​เด็ก​และ​กล่าว​ต่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น“​ฉัน​บอ​กว่า​ฉัน​สบายดี​นี่​คะ​ ทำไม​ฉัน​ต้อง​ไปหา​หมอ​ด้วย​”

“ผม​ไม่สบายใจ​ถ้าคุณ​ไม่ไปหา​หมอ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​รู้สึก​เป็นทุกข์​มาก​เมื่อ​คิด​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​อุ้มท้อง​ไป​ไต้หวัน​คนเดียว​และ​ไม่มีใคร​ดูแล​เธอ​

ในที่สุด​หลิน​ม่าย​ก็​ถูก​ฟางจั๋ว​หรา​น​ลาก​ไป​โรงพยาบาล​ แพทย์​จาก​แผนก​สูตินรีเวช​ของ​แผนก​ผู้ป่วยใน​ได้​ตรวจสอบ​และ​ยืนยัน​ว่า​เธอ​ไม่เป็นอะไร​ จากนั้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงปล่อย​ให้​เธอ​ไป​ทำงาน​ที่​เมืองหลวง​

ธุรกิจ​ทั้งหมด​ใน​สำนักงาน​ปักกิ่ง​ได้รับ​การ​จัดการ​อย่าง​ดี​โดย​ผู้จัดการ​ซุน​

ตลาด​ผัก​สอง​แห่ง​ซึ่งเปลี่ยน​จาก​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​เป็น​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ที่​ทัง​อี้​รับผิดชอบ​ ก็​ไป​ได้ดี​

นอกจากนี้​เขา​ยัง​เลือก​ผู้จัดการ​ตลาด​สอง​แห่ง​เพื่อ​อำนวยความสะดวก​ใน​การ​จัดการ​ของ​เขา​

เขา​รายงาน​กับ​หลิน​ม่าย​ว่า​ ชาว​สวนผัก​จำนวนมาก​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​ได้​ปลูก​ผัก​เรือนกระจก​ใน​เดือน​กันยายน​และ​ตุลาคม​ปี​นี้​

แต่​พวกเขา​มีตลาด​เพียง​สามแห่ง​ และ​พวกเขา​ไม่สามารถ​ซื้อ​ผัก​ใน​เรือนกระจก​มากมาย​ขนาด​นี้​ได้​

ทัง​อี้​ต้องการ​เปิด​ตลาด​มากขึ้น​ เพื่อ​ที่​เขา​จะได้​ช่วยเหลือ​ชาว​สวนผัก​มากขึ้น​

หลิน​ม่าย​ได้​เห็น​งบการเงิน​ของตลาด​ทั้งสอง​แห่ง​แล้ว​ จึงเลื่อนตำแหน่ง​ให้​ทัง​อี้​เป็น​ผู้จัดการทั่วไป​ของตลาด​ฝูตัว​ตัว​ทันที​ ปล่อย​ให้​เขา​จัดการ​ธุร​กิจการ​เปิด​ตลาด​ผัก​อีก​สอง​สามแห่ง​

แต่​ขอให้​เขา​จำไว้​ว่า​ ผลกำไร​ต้อง​มีความสำคัญ​เป็น​อันดับ​แรก​ และ​การ​ช่วยเหลือ​เกษตรกร​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​ความ​สะดวกสบาย​ อย่า​วาง​เกวียน​ไว้​ข้าง​หน้าม้า​

ทัง​อี้​พยักหน้า​ “รับทราบ​ครับ​”

วันนี้​เป็น​วันอาทิตย์​ หาก​ไม่มีประชุม​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ไป​ทำงาน​

การประชุม​ใน​วันอาทิตย์​ตรง​กับ​วัน​ว่าง​ของ​หลิน​ม่าย​ โดยปกติ​แล้ว​เธอ​ต้อง​ไป​มหาวิทยาลัย​ ดังนั้น​เธอ​จึงมีเวลา​จัดการ​บริษัท​ใน​วันอาทิตย์​เท่านั้น​

ดังนั้น​หลัง​การประชุม​ ทุกคน​สามารถ​กลับบ้าน​ได้​

แต่​ทัง​อี้​ไม่ได้​กลับบ้าน​ กลับ​ไป​ตรวจสอบ​ตลาด​ทั้ง​สามแห่ง​แทน​

หลิน​ม่าย​ไว้วางใจ​เขา​อย่าง​มาก​ ดังนั้น​เขา​ต้อง​ทำให้​ดี​

หลังจาก​เดิน​ตรวจ​ตลาด​ทั้ง​สามแห่ง​ก็​เป็นเวลา​เที่ยงวัน​

ทัง​อี้​ไป​ยัง​ร้าน​หลู่​ไช่ริมถนน​เพื่อ​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ที่​ภรรยา​ของ​เขา​ชอบ​กิน​ และ​ขี่​จักรยาน​ของ​เขา​อย่าง​รวดเร็ว​ตลอดทาง​กลับบ้าน​

เมื่อ​ภรรยา​เห็น​เขา​ก็​พลัน​เอ่ย​ถ่าม “ทำไม​คุณ​กลับมา​ช้าจัง?”

ทัง​อี้​ยื่น​หลู่​ไช่ที่​เขา​ซื้อ​มาให้​หล่อน​ “นี่​ไม่ใช่หลู่​ไช่ที่​คุณ​อยาก​กิน​หรอก​เหรอ​?”

เมื่อ​ภรรยา​ของ​เขา​ได้​เห็น​หลู่​ไช่ที่​ทัง​อี้​นำมา​ หล่อน​ก็​รู้​ทันที​ว่า​อาหาร​เหล่านั้น​มีราคาแพง​ จึงกล่าว​ด้วย​ความไม่พอใจ​เล็กน้อย​ “ทำไม​ถึงซื้อ​หลู่​ไช่มามากมาย​ขนาด​นี้​ สิ้นเปลือง​เสีย​เปล่าๆ​”

ทัง​อี้​กำลัง​หยอกล้อ​ลูกชาย​ของ​เขา​ใน​เปล​

ลูกชาย​ของ​เค้า​มีอายุ​เกือบ​หนึ่ง​ขวบ​แล้ว​ เมื่อ​ถูก​แกล้ง​หรือ​หยอกล้อ​ก็​มักจะ​หัวเราะ​คิกคัก​เสียงดัง​

เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งที่​ภรรยา​พูด​ เขา​ก็​พูดไม่ออก​ “ การ​ดูแล​ลูก​และ​ดูแล​บ้าน​ด้วย​ตัว​คนเดียว​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ผม​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ที่​คุณ​ชอบ​มาให้​เพื่อ​เป็น​ขวัญ​กำลังใจ​ จะเรียก​ว่า​เป็นการ​สิ้นเปลือง​โดย​เปล่าประโยชน์​ได้​ยังไง​?”

ภรรยา​ของ​เขา​หยุด​พูด​และ​นำ​อาหาร​ออก​มาจาก​ครัว​

ทัง​อี้​รีบ​ล้างมือ​และ​นั่งลง​ที่​โต๊ะ​อาหารเย็น​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​ร่วมกัน​

ภรรยา​อุ้ม​ลูก​วัย​แบเบาะ​มานั่ง​ตรงข้าม​เขา​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​

หล่อน​ป้อน​ไข่ตุ๋น​ให้​ทารก​น้อย​หนึ่ง​คำ​ จากนั้น​จึงคีบ​เนื้อ​ตุ๋น​ชิ้น​หนึ่ง​เข้า​ปาก​ และ​ถามทัง​อี้​ว่า​เขา​จ่าย​ค่า​เนื้อ​ตุ๋น​และ​หลู่​ไช่ไป​มาก​เพียงใด​

ทัง​อี้​กำลังจะ​บอก​ข่าวดี​เกี่ยวกับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ของ​เขา​ให้​กับ​ภรรยา​ฟัง

แต่​เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​ของ​ภรรยา​ เขา​ตอบ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​

ภรรยา​ได้​รู้​ก็​ยิ่ง​ต่อว่า​เขา​ กล่าว​หาว่า​เขา​ใช้เงิน​สิ้นเปลือง​โดย​เปล่าประโยชน์​ จากนั้น​ก็​เทศนา​ไป​หนึ่ง​ยก​ว่า​เป็น​แบบนี้​จะใช้ชีวิต​ต่อไป​ได้​อย่างไร​

ทัง​อี้​รอ​ให้​ภรรยา​ของ​เขา​ต่อว่า​จน​พอใจ​ จากนั้น​จึงบอก​ข่าวดี​กับ​ภรรยา​ว่า​ เขา​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​ผู้จัดการทั่วไป​ของตลาด​ผัก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​

เขา​ยัง​บอก​หล่อน​ด้วยว่า​หลังจากที่​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ เขา​จะได้รับ​เงินอุดหนุน​เพิ่มเติม​หลาย​สิบ​หยวน​ทุก​เดือน​

ดังนั้น​แน่นอน​ว่า​อาหาร​เหล่านี้​ไม่ได้​แพง​เกินไป​สำหรับ​เขา​ ไม่จำเป็นต้อง​มัธยัสถ์​เหมือน​ที่ผ่านมา​

ภรรยา​มอง​เขา​อย่าง​ว่างเปล่า​และ​ไม่พูด​อะไร​

ทัง​อี้​เลิกคิ้ว​และ​พูด​ด้วย​ความโมโห​ “ผม​บอก​คุณ​แล้ว​ว่า​คุณ​หลิน​ไม่มีทาง​เอาเปรียบ​ลูกน้อง​ คุณ​อาจจะ​บอ​กว่า​หล่อน​เอาเปรียบ​และ​กลั่นแกล้ง​ผม​ หล่อน​รังแก​ผม​ตรงไหน​? หล่อน​แค่​ทดสอบ​ผม​ก็​เท่านั้น​ พอ​ผม​จัด​การตลาด​ทั้งสอง​ได้ดี​ คุณ​หลิน​ก็​ทำการ​ส่งเสริม​และ​มอบ​โอกาส​ที่​ดี​ให้​กับ​ผม​”

เขา​กินข้าว​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​ รอคอย​คำชมเชย​จาก​ภรรยา​

ภรรยา​ยังคง​เอ่ย​วาจา​ขมขื่น​ “ คุณ​เป็น​คน​มีความสามารถ​ ก็​สมควร​ที่​คุณ​หลิน​จะเลื่อนตำแหน่ง​ให้​คุณ​ไม่ใช่เหรอ​? คุณ​เอง​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​สุนัข​ พอ​เจ้านาย​โยน​กระดูก​มาให้​ คุณ​ก็​คาบ​กิน​แล้ว​เพลิดเพลิน​กับ​ความสุข​นั้น​เหมือน​คนงี่เง่า​!

คำ​ถากถาง​ของ​ภรรยา​ราวกับ​น้ำเย็น​หนึ่ง​อ่าง​ราด​ลง​บน​หัว​ของ​ทัง​อี้​ ทำให้​เขา​ไม่อยาก​รับประทาน​อาหารเย็น​อีกต่อไป​

เขา​ไม่เข้าใจ​ว่าการ​ที่​ภรรยา​จะยกย่อง​หรือ​ชมเชย​เขา​เป็นเรื่อง​ยาก​สำหรับ​หล่อน​ถึงขนาด​นั้น​เลย​หรือ​?

หลัง​เสร็จ​การประชุม​ หลิน​ม่าย​ก็​กลับบ้าน​

ท้อง​อัน​ใหญ่โต​ทำให้​เธอ​เคลื่อนไหว​ลำบาก​มากกว่า​ตอนที่​ยัง​ท้อง​ไม่ใหญ่​

เธอ​เพิ่ง​ไป​พบ​แพทย์​และ​มีการประชุม​ จากนั้น​จึงกลับมา​นอน​บน​เตียง​อย่าง​เหนื่อยอ่อน​

น้า​ถูเดิน​เข้ามา​พร้อม​โจ๊ก​รังนก​ชามหนึ่ง​แล้ว​ขอให้​หลิน​ม่าย​ดื่ม​ขณะ​ยัง​ร้อน​อยู่​

หลิน​ม่าย​เอ่ย​ถามด้วย​ความสงสัย​ขณะ​ดื่ม​ “ไป​เอา​รังนก​มาจาก​ที่ไหน​คะ​?”

ใน​ยุค​ที่​สินค้า​อุปโภค​บริโภค​เพิ่งจะ​มีการ​ปรับราคา​สูงขึ้น​ อาหารเสริม​เช่น​รังนก​ก็​หา​ซื้อ​ได้​ไม่ง่าย​นัก​

หลิน​ม่าย​ไม่ซื้อ​เพราะ​ไม่มีรังนก​ราคา​ถูก​พอ​จะจับจ่าย​ได้​

น้า​ถูกล่าว​ “มีคน​มอบ​รังนก​นี้​ให้​น้า​มา คุณนาย​บอ​กว่า​ไม่ต้องการ​อาหารเสริม​ จึงขอให้​น้า​ตุ๋น​ให้​คุณ​กิน​ โดย​บอ​กว่า​คุณ​ท้อง​และ​ต้องการ​อาหารเสริม​”

หัวใจ​ของ​หลิน​ม่าย​รู้สึก​อบอุ่น​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​เธอ​ตั้งครรภ์​ และ​ทั้ง​ครอบครัว​มองว่า​เธอ​เป็น​สมบัติ​ล้ำค่า​

หลังจาก​ดื่ม​รังนก​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​นอนลง​อีกครั้ง​เพื่อ​พักผ่อน​

โทรศัพท์​ข้าง​เตียง​พลัน​ดัง​ขึ้น​

หลิน​ม่าย​รับสาย​ในขณะที่​นอน​อยู่​บน​เตียง​

เป็น​สาย​มาจาก​เถาจืออวิ๋น​ หล่อน​โทร​มาเพื่อ​ถามหลิน​ม่าย​ว่า​รู้สึก​อย่างไร​ที่​ได้​สวม​ชุด​ที่​หล่อน​ออกแบบ​เข้า​ร่วมงาน​ประกาศ​รางวัล​

หลิน​ม่าย​ตอบ​เธอ​ด้วย​คำ​ห้า​คำ​ “สะดุดตา​มาก​เลย​”

จากนั้น​เธอ​จึงเอ่ย​ถาม “ทำไม​ถึงไม่บอก​ฉัน​ว่า​ชุด​นั้น​ได้​รับรางวัล​รองชนะเลิศ​ใน​เทศกาล​แฟชั่น​มิลาน​ล่ะ​คะ​?”

“ก็​เพราะ​ลืม​น่ะ​สิ จะมีเหตุผล​อะไร​อีก​”

หลิน​ม่าย​พูดไม่ออก​ และ​เถาจืออวิ๋น​ก็​ไม่ได้​จริงจัง​กับ​รางวัล​นั้น​มาก​นัก​

หลิน​ม่าย​ถาม “เป็นเรื่อง​ยาก​มาก​เชียว​นะ​ที่จะ​ได้​รับรางวัล​จาก​เทศกาล​แฟชั่น​แห่ง​มิลาน​ พี่​ทำได้​ยังไง​?”

“เพราะ​คำแนะนำ​ของ​โรงเรียน​” เถาจืออวิ๋น​ตอบ​อย่าง​เย่อหยิ่ง​

เถาจืออวิ๋น​ยัง​บอก​เธอ​ด้วยว่า​ หลังจาก​คว้ารางวัล​รองชนะเลิศ​จาก​งานเทศกาล​แฟชั่น​แห่ง​มิลาน​และ​ได้รับ​โบนัส​ก้อน​โต​ ครอบครัว​ทั้ง​สามคน​ก็​ย้าย​ออกจาก​ห้องใต้ดิน​และ​ไป​อยู่​ใน​อพาร์ทเมนต์​

หล่อน​รู้สึก​ดี​ที่​ได้​เห็น​แสงแดด​ฉาย​ลอด​เข้ามา​ใน​ห้อง​

จากนั้น​หลิน​ม่าย​จึงถามซุบซิบ​ว่า​ ชาย​ที่​ชื่อ​อับราฮัม​ได้​สารภาพ​รัก​กับ​หล่อน​หรือไม่​?

เถาจืออวิ๋น​กล่าว​ “เขา​สารภาพ​ตรงไปตรงมา​มาก​”

“แล้ว​พี่​ตอบ​ไป​ว่า​ยังไง​?”

“แน่นอน​ว่า​ฉัน​ปฏิเสธ​!”

แม้หลิน​ม่าย​จะไม่เคย​พบ​กับ​อับราฮัม​ด้วยตัวเอง​ แต่​หลิน​ม่าย​ก็​กลัว​ว่า​เถาจืออวิ๋น​จะถูก​หลอก​ จึงขอให้​คน​ตรวจสอบ​อับราฮัม​ และ​เมื่อ​เห็น​รูปถ่าย​ของ​เขา​ก็​พลัน​รับรู้​ว่า​เขา​หล่อ​มาก​ และ​คุณ​สมบัติส่วนตัว​ของ​เขา​ก็ดี​เช่นกัน​

เขา​ช่างเป็น​ผู้ชาย​ที่​ยอดเยี่ยม​ แต่​เถาจืออวิ๋น​ไม่ชอบ​เขา​ แสดงว่า​หล่อน​ยังมี​ฟางจั๋วเยวี่ย​อยู่​ใน​ใจสินะ​?

หลิน​ม่าย​ไม่รู้เรื่อง​อารมณ์​ความสัมพันธ์​มาก​นัก​ เธอ​จึงไม่กล้า​เข้าไป​แทรกแซง​

เมื่อ​เธอ​กำลังจะ​วางสาย​ จู่ ๆ เถาจืออวิ๋น​ก็​พลัน​เอ่ย​ขึ้น​ “ม่าย​จื่อ​ ฉัน​เจอ​คนรู้จัก​ใน​มิลาน​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ “ถือ​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​มาก​นะ​ พี่​ซื้อ​ลอตเตอรี่​ได้​เลย​นะ​นี่​”

ใน​ยุค​นี้​ไม่ค่อย​มีใคร​ไป​เรียนต่อ​ต่างประเทศ​ และ​ผู้คน​ที่​ไป​อิตาลี​เพื่อ​เรียนต่อ​ก็​น้อยลง​

โอกาส​ที่​เถาจืออวิ๋น​จะพบ​คนรู้จัก​ใน​อิตาลี​นั้น​ไม่ได้​สูงกว่า​โอกาส​ใน​การ​ถูก​ลอตเตอรี่​มาก​นัก​

เธอ​ถามด้วย​ความสงสัย​ “ว่าแต่​ พี่​เจอ​ใคร​เหรอ​?”

“กู่​เยี่ยน​ คน​ที่​เธอ​เคย​ยกย่อง​มาตลอด​ไงล่ะ​ ยัง​จำหล่อน​ได้​ไหม​?”

“จำได้​” หลิน​ม่าย​จำผู้หญิง​คน​นี้​ได้​ ไม่ใช่เพราะ​ความสูง​หรือ​รูปร่างหน้าตา​ที่​พิเศษ​ของหล่อน​ แต่​เป็น​เพราะ​การพัฒนา​ตนเอง​ของหล่อน​

กู่​เยี่ยน​มาจาก​ชนบท​ เรียน​ไม่จบ​ชั้นประถม​และ​ไม่มีการศึกษา​ แต่กลับ​ไป​อิตาลี​เพื่อ​ไล่ตาม​ความฝัน​ของหล่อน​

ถึงกระนั้น​หลิน​ม่าย​ก็​ยัง​ประหลาดใจ​มาก​ และ​ถามเถาจืออวิ๋น​ “หล่อน​ไป​อิตาลี​ได้​อย่างไร​? แล้ว​หล่อน​เป็น​อย่างไรบ้าง​ใน​อิตาลี​?”

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​โทรศัพท์​ เถาจืออวิ๋น​กำลัง​ดื่ม​กาแฟ​ “หล่อน​เป็น​ผู้หญิง​ที่​กล้าหาญ​มาก​ ตอนแรก​ไม่รู้​ภาษาอิตาลี​สัก​คำ​ กลับ​กล้า​ที่จะ​ผจญภัย​ใน​อิตาลี​

ที่​สำคัญ​คือ​ ผู้หญิง​คน​นี้​ตั้งใจ​เรียน​มาก​ หล่อน​มาเร็ว​กว่า​ฉัน​เพียง​สอง​เดือน​ แต่​ก็​สื่อสาร​กับ​ชาวบ้าน​ได้​แล้ว​ แต่​เรื่อง​การงาน​ของหล่อน​ใน​อิตาลี​ไป​ได้​ไม่สวย​นัก​ โมเดลลิ่ง​หลาย​แห่ง​ชอบ​ใช้นางแบบ​ผิวขาว​ น้อย​คน​นัก​ที่จะ​ใช้นางแบบ​ผิวเหลือง​”

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “พี่​กับ​กู่​เยี่ยน​มาจาก​ประเทศ​จีน​ทั้งคู่​ และ​อยู่​ต่างประเทศ​ทั้งคู่​ หาก​ช่วย​อะไร​หล่อน​ได้​ก็​ช่วย​เถอะ​นะ​ คิด​เสีย​ว่า​ช่วย​คนบ้านเดียวกัน​ สิ่งที่​ฉัน​หมายถึง​คือ​การ​ช่วยเหลือ​ ไม่ใช่การ​ให้เงิน​หล่อน​ แต่​เป็นการ​ช่วยเหลือ​ใน​อาชีพ​การงาน​ของหล่อน​น่ะ​”

“เข้าใจ​แล้ว​ สอน​คน​ตกปลา​ดีกว่า​ยื่น​ปลา​ให้​พวกเขา​ ฉัน​เข้าใจ​ความจริง​ข้อ​นี้​อยู่​ล่ะ​”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ภรรยา​ทัง​อี้​นี่​แปลก​ๆ นะ​ ไม่เคย​ชมสามีตัวเอง​เลย​เหรอ​ ถ้าวันหนึ่ง​ต้อง​หย่ากัน​ก็​ไม่แปลกใจ​ล่ะ​

กู่​เยี่ยน​แข็งแกร่ง​มาก​ อยู่​อิตาลี​ทั้งที่​สกิล​ภาษาเป็น​ศูนย์​จนกระทั่ง​พูด​กับ​คน​โล​คอ​ล​ได้​อะ​

ไหหม่า​(海馬)ตอนที่​ 849 สาย​จาก​สหาย​สาว​

ปัญหา​อย่างหนึ่ง​เกิดขึ้น​แล้ว​ สามีคิด​ว่า​เธอ​กำลัง​ลำบากใจ​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​กิน​เกี๊ยว​น้ำ​ซุป​ไก่​ที่​น้า​ถูทำ​อย่าง​มีความสุข​ และ​หลังจาก​เช็ด​ปาก​ด้วย​ทิชชู​ เธอ​ได้ยิน​ฟางจั๋ว​หรา​นบ​อก​ว่า​จะพา​เธอ​ไปหา​หมอ​

หลิน​ม่าย​ต้องการ​ไป​เมืองหลวง​เพื่อ​ประชุม​ใน​วันนี้​ แต่​ไม่อยาก​ไป​โรงพยาบาล​

เธอ​ทำตัว​เหมือน​เด็ก​และ​กล่าว​ต่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น“​ฉัน​บอ​กว่า​ฉัน​สบายดี​นี่​คะ​ ทำไม​ฉัน​ต้อง​ไปหา​หมอ​ด้วย​”

“ผม​ไม่สบายใจ​ถ้าคุณ​ไม่ไปหา​หมอ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​รู้สึก​เป็นทุกข์​มาก​เมื่อ​คิด​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​อุ้มท้อง​ไป​ไต้หวัน​คนเดียว​และ​ไม่มีใคร​ดูแล​เธอ​

ในที่สุด​หลิน​ม่าย​ก็​ถูก​ฟางจั๋ว​หรา​น​ลาก​ไป​โรงพยาบาล​ แพทย์​จาก​แผนก​สูตินรีเวช​ของ​แผนก​ผู้ป่วยใน​ได้​ตรวจสอบ​และ​ยืนยัน​ว่า​เธอ​ไม่เป็นอะไร​ จากนั้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงปล่อย​ให้​เธอ​ไป​ทำงาน​ที่​เมืองหลวง​

ธุรกิจ​ทั้งหมด​ใน​สำนักงาน​ปักกิ่ง​ได้รับ​การ​จัดการ​อย่าง​ดี​โดย​ผู้จัดการ​ซุน​

ตลาด​ผัก​สอง​แห่ง​ซึ่งเปลี่ยน​จาก​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​เป็น​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ที่​ทัง​อี้​รับผิดชอบ​ ก็​ไป​ได้ดี​

นอกจากนี้​เขา​ยัง​เลือก​ผู้จัดการ​ตลาด​สอง​แห่ง​เพื่อ​อำนวยความสะดวก​ใน​การ​จัดการ​ของ​เขา​

เขา​รายงาน​กับ​หลิน​ม่าย​ว่า​ ชาว​สวนผัก​จำนวนมาก​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​ได้​ปลูก​ผัก​เรือนกระจก​ใน​เดือน​กันยายน​และ​ตุลาคม​ปี​นี้​

แต่​พวกเขา​มีตลาด​เพียง​สามแห่ง​ และ​พวกเขา​ไม่สามารถ​ซื้อ​ผัก​ใน​เรือนกระจก​มากมาย​ขนาด​นี้​ได้​

ทัง​อี้​ต้องการ​เปิด​ตลาด​มากขึ้น​ เพื่อ​ที่​เขา​จะได้​ช่วยเหลือ​ชาว​สวนผัก​มากขึ้น​

หลิน​ม่าย​ได้​เห็น​งบการเงิน​ของตลาด​ทั้งสอง​แห่ง​แล้ว​ จึงเลื่อนตำแหน่ง​ให้​ทัง​อี้​เป็น​ผู้จัดการทั่วไป​ของตลาด​ฝูตัว​ตัว​ทันที​ ปล่อย​ให้​เขา​จัดการ​ธุร​กิจการ​เปิด​ตลาด​ผัก​อีก​สอง​สามแห่ง​

แต่​ขอให้​เขา​จำไว้​ว่า​ ผลกำไร​ต้อง​มีความสำคัญ​เป็น​อันดับ​แรก​ และ​การ​ช่วยเหลือ​เกษตรกร​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​ความ​สะดวกสบาย​ อย่า​วาง​เกวียน​ไว้​ข้าง​หน้าม้า​

ทัง​อี้​พยักหน้า​ “รับทราบ​ครับ​”

วันนี้​เป็น​วันอาทิตย์​ หาก​ไม่มีประชุม​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ไป​ทำงาน​

การประชุม​ใน​วันอาทิตย์​ตรง​กับ​วัน​ว่าง​ของ​หลิน​ม่าย​ โดยปกติ​แล้ว​เธอ​ต้อง​ไป​มหาวิทยาลัย​ ดังนั้น​เธอ​จึงมีเวลา​จัดการ​บริษัท​ใน​วันอาทิตย์​เท่านั้น​

ดังนั้น​หลัง​การประชุม​ ทุกคน​สามารถ​กลับบ้าน​ได้​

แต่​ทัง​อี้​ไม่ได้​กลับบ้าน​ กลับ​ไป​ตรวจสอบ​ตลาด​ทั้ง​สามแห่ง​แทน​

หลิน​ม่าย​ไว้วางใจ​เขา​อย่าง​มาก​ ดังนั้น​เขา​ต้อง​ทำให้​ดี​

หลังจาก​เดิน​ตรวจ​ตลาด​ทั้ง​สามแห่ง​ก็​เป็นเวลา​เที่ยงวัน​

ทัง​อี้​ไป​ยัง​ร้าน​หลู่​ไช่ริมถนน​เพื่อ​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ที่​ภรรยา​ของ​เขา​ชอบ​กิน​ และ​ขี่​จักรยาน​ของ​เขา​อย่าง​รวดเร็ว​ตลอดทาง​กลับบ้าน​

เมื่อ​ภรรยา​เห็น​เขา​ก็​พลัน​เอ่ย​ถ่าม “ทำไม​คุณ​กลับมา​ช้าจัง?”

ทัง​อี้​ยื่น​หลู่​ไช่ที่​เขา​ซื้อ​มาให้​หล่อน​ “นี่​ไม่ใช่หลู่​ไช่ที่​คุณ​อยาก​กิน​หรอก​เหรอ​?”

เมื่อ​ภรรยา​ของ​เขา​ได้​เห็น​หลู่​ไช่ที่​ทัง​อี้​นำมา​ หล่อน​ก็​รู้​ทันที​ว่า​อาหาร​เหล่านั้น​มีราคาแพง​ จึงกล่าว​ด้วย​ความไม่พอใจ​เล็กน้อย​ “ทำไม​ถึงซื้อ​หลู่​ไช่มามากมาย​ขนาด​นี้​ สิ้นเปลือง​เสีย​เปล่าๆ​”

ทัง​อี้​กำลัง​หยอกล้อ​ลูกชาย​ของ​เขา​ใน​เปล​

ลูกชาย​ของ​เค้า​มีอายุ​เกือบ​หนึ่ง​ขวบ​แล้ว​ เมื่อ​ถูก​แกล้ง​หรือ​หยอกล้อ​ก็​มักจะ​หัวเราะ​คิกคัก​เสียงดัง​

เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งที่​ภรรยา​พูด​ เขา​ก็​พูดไม่ออก​ “ การ​ดูแล​ลูก​และ​ดูแล​บ้าน​ด้วย​ตัว​คนเดียว​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ผม​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ที่​คุณ​ชอบ​มาให้​เพื่อ​เป็น​ขวัญ​กำลังใจ​ จะเรียก​ว่า​เป็นการ​สิ้นเปลือง​โดย​เปล่าประโยชน์​ได้​ยังไง​?”

ภรรยา​ของ​เขา​หยุด​พูด​และ​นำ​อาหาร​ออก​มาจาก​ครัว​

ทัง​อี้​รีบ​ล้างมือ​และ​นั่งลง​ที่​โต๊ะ​อาหารเย็น​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​ร่วมกัน​

ภรรยา​อุ้ม​ลูก​วัย​แบเบาะ​มานั่ง​ตรงข้าม​เขา​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​

หล่อน​ป้อน​ไข่ตุ๋น​ให้​ทารก​น้อย​หนึ่ง​คำ​ จากนั้น​จึงคีบ​เนื้อ​ตุ๋น​ชิ้น​หนึ่ง​เข้า​ปาก​ และ​ถามทัง​อี้​ว่า​เขา​จ่าย​ค่า​เนื้อ​ตุ๋น​และ​หลู่​ไช่ไป​มาก​เพียงใด​

ทัง​อี้​กำลังจะ​บอก​ข่าวดี​เกี่ยวกับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ของ​เขา​ให้​กับ​ภรรยา​ฟัง

แต่​เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​ของ​ภรรยา​ เขา​ตอบ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​

ภรรยา​ได้​รู้​ก็​ยิ่ง​ต่อว่า​เขา​ กล่าว​หาว่า​เขา​ใช้เงิน​สิ้นเปลือง​โดย​เปล่าประโยชน์​ จากนั้น​ก็​เทศนา​ไป​หนึ่ง​ยก​ว่า​เป็น​แบบนี้​จะใช้ชีวิต​ต่อไป​ได้​อย่างไร​

ทัง​อี้​รอ​ให้​ภรรยา​ของ​เขา​ต่อว่า​จน​พอใจ​ จากนั้น​จึงบอก​ข่าวดี​กับ​ภรรยา​ว่า​ เขา​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​ผู้จัดการทั่วไป​ของตลาด​ผัก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​

เขา​ยัง​บอก​หล่อน​ด้วยว่า​หลังจากที่​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ เขา​จะได้รับ​เงินอุดหนุน​เพิ่มเติม​หลาย​สิบ​หยวน​ทุก​เดือน​

ดังนั้น​แน่นอน​ว่า​อาหาร​เหล่านี้​ไม่ได้​แพง​เกินไป​สำหรับ​เขา​ ไม่จำเป็นต้อง​มัธยัสถ์​เหมือน​ที่ผ่านมา​

ภรรยา​มอง​เขา​อย่าง​ว่างเปล่า​และ​ไม่พูด​อะไร​

ทัง​อี้​เลิกคิ้ว​และ​พูด​ด้วย​ความโมโห​ “ผม​บอก​คุณ​แล้ว​ว่า​คุณ​หลิน​ไม่มีทาง​เอาเปรียบ​ลูกน้อง​ คุณ​อาจจะ​บอ​กว่า​หล่อน​เอาเปรียบ​และ​กลั่นแกล้ง​ผม​ หล่อน​รังแก​ผม​ตรงไหน​? หล่อน​แค่​ทดสอบ​ผม​ก็​เท่านั้น​ พอ​ผม​จัด​การตลาด​ทั้งสอง​ได้ดี​ คุณ​หลิน​ก็​ทำการ​ส่งเสริม​และ​มอบ​โอกาส​ที่​ดี​ให้​กับ​ผม​”

เขา​กินข้าว​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​ รอคอย​คำชมเชย​จาก​ภรรยา​

ภรรยา​ยังคง​เอ่ย​วาจา​ขมขื่น​ “ คุณ​เป็น​คน​มีความสามารถ​ ก็​สมควร​ที่​คุณ​หลิน​จะเลื่อนตำแหน่ง​ให้​คุณ​ไม่ใช่เหรอ​? คุณ​เอง​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​สุนัข​ พอ​เจ้านาย​โยน​กระดูก​มาให้​ คุณ​ก็​คาบ​กิน​แล้ว​เพลิดเพลิน​กับ​ความสุข​นั้น​เหมือน​คนงี่เง่า​!

คำ​ถากถาง​ของ​ภรรยา​ราวกับ​น้ำเย็น​หนึ่ง​อ่าง​ราด​ลง​บน​หัว​ของ​ทัง​อี้​ ทำให้​เขา​ไม่อยาก​รับประทาน​อาหารเย็น​อีกต่อไป​

เขา​ไม่เข้าใจ​ว่าการ​ที่​ภรรยา​จะยกย่อง​หรือ​ชมเชย​เขา​เป็นเรื่อง​ยาก​สำหรับ​หล่อน​ถึงขนาด​นั้น​เลย​หรือ​?

หลัง​เสร็จ​การประชุม​ หลิน​ม่าย​ก็​กลับบ้าน​

ท้อง​อัน​ใหญ่โต​ทำให้​เธอ​เคลื่อนไหว​ลำบาก​มากกว่า​ตอนที่​ยัง​ท้อง​ไม่ใหญ่​

เธอ​เพิ่ง​ไป​พบ​แพทย์​และ​มีการประชุม​ จากนั้น​จึงกลับมา​นอน​บน​เตียง​อย่าง​เหนื่อยอ่อน​

น้า​ถูเดิน​เข้ามา​พร้อม​โจ๊ก​รังนก​ชามหนึ่ง​แล้ว​ขอให้​หลิน​ม่าย​ดื่ม​ขณะ​ยัง​ร้อน​อยู่​

หลิน​ม่าย​เอ่ย​ถามด้วย​ความสงสัย​ขณะ​ดื่ม​ “ไป​เอา​รังนก​มาจาก​ที่ไหน​คะ​?”

ใน​ยุค​ที่​สินค้า​อุปโภค​บริโภค​เพิ่งจะ​มีการ​ปรับราคา​สูงขึ้น​ อาหารเสริม​เช่น​รังนก​ก็​หา​ซื้อ​ได้​ไม่ง่าย​นัก​

หลิน​ม่าย​ไม่ซื้อ​เพราะ​ไม่มีรังนก​ราคา​ถูก​พอ​จะจับจ่าย​ได้​

น้า​ถูกล่าว​ “มีคน​มอบ​รังนก​นี้​ให้​น้า​มา คุณนาย​บอ​กว่า​ไม่ต้องการ​อาหารเสริม​ จึงขอให้​น้า​ตุ๋น​ให้​คุณ​กิน​ โดย​บอ​กว่า​คุณ​ท้อง​และ​ต้องการ​อาหารเสริม​”

หัวใจ​ของ​หลิน​ม่าย​รู้สึก​อบอุ่น​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​เธอ​ตั้งครรภ์​ และ​ทั้ง​ครอบครัว​มองว่า​เธอ​เป็น​สมบัติ​ล้ำค่า​

หลังจาก​ดื่ม​รังนก​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​นอนลง​อีกครั้ง​เพื่อ​พักผ่อน​

โทรศัพท์​ข้าง​เตียง​พลัน​ดัง​ขึ้น​

หลิน​ม่าย​รับสาย​ในขณะที่​นอน​อยู่​บน​เตียง​

เป็น​สาย​มาจาก​เถาจืออวิ๋น​ หล่อน​โทร​มาเพื่อ​ถามหลิน​ม่าย​ว่า​รู้สึก​อย่างไร​ที่​ได้​สวม​ชุด​ที่​หล่อน​ออกแบบ​เข้า​ร่วมงาน​ประกาศ​รางวัล​

หลิน​ม่าย​ตอบ​เธอ​ด้วย​คำ​ห้า​คำ​ “สะดุดตา​มาก​เลย​”

จากนั้น​เธอ​จึงเอ่ย​ถาม “ทำไม​ถึงไม่บอก​ฉัน​ว่า​ชุด​นั้น​ได้​รับรางวัล​รองชนะเลิศ​ใน​เทศกาล​แฟชั่น​มิลาน​ล่ะ​คะ​?”

“ก็​เพราะ​ลืม​น่ะ​สิ จะมีเหตุผล​อะไร​อีก​”

หลิน​ม่าย​พูดไม่ออก​ และ​เถาจืออวิ๋น​ก็​ไม่ได้​จริงจัง​กับ​รางวัล​นั้น​มาก​นัก​

หลิน​ม่าย​ถาม “เป็นเรื่อง​ยาก​มาก​เชียว​นะ​ที่จะ​ได้​รับรางวัล​จาก​เทศกาล​แฟชั่น​แห่ง​มิลาน​ พี่​ทำได้​ยังไง​?”

“เพราะ​คำแนะนำ​ของ​โรงเรียน​” เถาจืออวิ๋น​ตอบ​อย่าง​เย่อหยิ่ง​

เถาจืออวิ๋น​ยัง​บอก​เธอ​ด้วยว่า​ หลังจาก​คว้ารางวัล​รองชนะเลิศ​จาก​งานเทศกาล​แฟชั่น​แห่ง​มิลาน​และ​ได้รับ​โบนัส​ก้อน​โต​ ครอบครัว​ทั้ง​สามคน​ก็​ย้าย​ออกจาก​ห้องใต้ดิน​และ​ไป​อยู่​ใน​อพาร์ทเมนต์​

หล่อน​รู้สึก​ดี​ที่​ได้​เห็น​แสงแดด​ฉาย​ลอด​เข้ามา​ใน​ห้อง​

จากนั้น​หลิน​ม่าย​จึงถามซุบซิบ​ว่า​ ชาย​ที่​ชื่อ​อับราฮัม​ได้​สารภาพ​รัก​กับ​หล่อน​หรือไม่​?

เถาจืออวิ๋น​กล่าว​ “เขา​สารภาพ​ตรงไปตรงมา​มาก​”

“แล้ว​พี่​ตอบ​ไป​ว่า​ยังไง​?”

“แน่นอน​ว่า​ฉัน​ปฏิเสธ​!”

แม้หลิน​ม่าย​จะไม่เคย​พบ​กับ​อับราฮัม​ด้วยตัวเอง​ แต่​หลิน​ม่าย​ก็​กลัว​ว่า​เถาจืออวิ๋น​จะถูก​หลอก​ จึงขอให้​คน​ตรวจสอบ​อับราฮัม​ และ​เมื่อ​เห็น​รูปถ่าย​ของ​เขา​ก็​พลัน​รับรู้​ว่า​เขา​หล่อ​มาก​ และ​คุณ​สมบัติส่วนตัว​ของ​เขา​ก็ดี​เช่นกัน​

เขา​ช่างเป็น​ผู้ชาย​ที่​ยอดเยี่ยม​ แต่​เถาจืออวิ๋น​ไม่ชอบ​เขา​ แสดงว่า​หล่อน​ยังมี​ฟางจั๋วเยวี่ย​อยู่​ใน​ใจสินะ​?

หลิน​ม่าย​ไม่รู้เรื่อง​อารมณ์​ความสัมพันธ์​มาก​นัก​ เธอ​จึงไม่กล้า​เข้าไป​แทรกแซง​

เมื่อ​เธอ​กำลังจะ​วางสาย​ จู่ ๆ เถาจืออวิ๋น​ก็​พลัน​เอ่ย​ขึ้น​ “ม่าย​จื่อ​ ฉัน​เจอ​คนรู้จัก​ใน​มิลาน​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ “ถือ​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​มาก​นะ​ พี่​ซื้อ​ลอตเตอรี่​ได้​เลย​นะ​นี่​”

ใน​ยุค​นี้​ไม่ค่อย​มีใคร​ไป​เรียนต่อ​ต่างประเทศ​ และ​ผู้คน​ที่​ไป​อิตาลี​เพื่อ​เรียนต่อ​ก็​น้อยลง​

โอกาส​ที่​เถาจืออวิ๋น​จะพบ​คนรู้จัก​ใน​อิตาลี​นั้น​ไม่ได้​สูงกว่า​โอกาส​ใน​การ​ถูก​ลอตเตอรี่​มาก​นัก​

เธอ​ถามด้วย​ความสงสัย​ “ว่าแต่​ พี่​เจอ​ใคร​เหรอ​?”

“กู่​เยี่ยน​ คน​ที่​เธอ​เคย​ยกย่อง​มาตลอด​ไงล่ะ​ ยัง​จำหล่อน​ได้​ไหม​?”

“จำได้​” หลิน​ม่าย​จำผู้หญิง​คน​นี้​ได้​ ไม่ใช่เพราะ​ความสูง​หรือ​รูปร่างหน้าตา​ที่​พิเศษ​ของหล่อน​ แต่​เป็น​เพราะ​การพัฒนา​ตนเอง​ของหล่อน​

กู่​เยี่ยน​มาจาก​ชนบท​ เรียน​ไม่จบ​ชั้นประถม​และ​ไม่มีการศึกษา​ แต่กลับ​ไป​อิตาลี​เพื่อ​ไล่ตาม​ความฝัน​ของหล่อน​

ถึงกระนั้น​หลิน​ม่าย​ก็​ยัง​ประหลาดใจ​มาก​ และ​ถามเถาจืออวิ๋น​ “หล่อน​ไป​อิตาลี​ได้​อย่างไร​? แล้ว​หล่อน​เป็น​อย่างไรบ้าง​ใน​อิตาลี​?”

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​โทรศัพท์​ เถาจืออวิ๋น​กำลัง​ดื่ม​กาแฟ​ “หล่อน​เป็น​ผู้หญิง​ที่​กล้าหาญ​มาก​ ตอนแรก​ไม่รู้​ภาษาอิตาลี​สัก​คำ​ กลับ​กล้า​ที่จะ​ผจญภัย​ใน​อิตาลี​

ที่​สำคัญ​คือ​ ผู้หญิง​คน​นี้​ตั้งใจ​เรียน​มาก​ หล่อน​มาเร็ว​กว่า​ฉัน​เพียง​สอง​เดือน​ แต่​ก็​สื่อสาร​กับ​ชาวบ้าน​ได้​แล้ว​ แต่​เรื่อง​การงาน​ของหล่อน​ใน​อิตาลี​ไป​ได้​ไม่สวย​นัก​ โมเดลลิ่ง​หลาย​แห่ง​ชอบ​ใช้นางแบบ​ผิวขาว​ น้อย​คน​นัก​ที่จะ​ใช้นางแบบ​ผิวเหลือง​”

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “พี่​กับ​กู่​เยี่ยน​มาจาก​ประเทศ​จีน​ทั้งคู่​ และ​อยู่​ต่างประเทศ​ทั้งคู่​ หาก​ช่วย​อะไร​หล่อน​ได้​ก็​ช่วย​เถอะ​นะ​ คิด​เสีย​ว่า​ช่วย​คนบ้านเดียวกัน​ สิ่งที่​ฉัน​หมายถึง​คือ​การ​ช่วยเหลือ​ ไม่ใช่การ​ให้เงิน​หล่อน​ แต่​เป็นการ​ช่วยเหลือ​ใน​อาชีพ​การงาน​ของหล่อน​น่ะ​”

“เข้าใจ​แล้ว​ สอน​คน​ตกปลา​ดีกว่า​ยื่น​ปลา​ให้​พวกเขา​ ฉัน​เข้าใจ​ความจริง​ข้อ​นี้​อยู่​ล่ะ​”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ภรรยา​ทัง​อี้​นี่​แปลก​ๆ นะ​ ไม่เคย​ชมสามีตัวเอง​เลย​เหรอ​ ถ้าวันหนึ่ง​ต้อง​หย่ากัน​ก็​ไม่แปลกใจ​ล่ะ​

กู่​เยี่ยน​แข็งแกร่ง​มาก​ อยู่​อิตาลี​ทั้งที่​สกิล​ภาษาเป็น​ศูนย์​จนกระทั่ง​พูด​กับ​คน​โล​คอ​ล​ได้​อะ​

ไหหม่า​(海馬)ตอนที่​ 849 สาย​จาก​สหาย​สาว​

ปัญหา​อย่างหนึ่ง​เกิดขึ้น​แล้ว​ สามีคิด​ว่า​เธอ​กำลัง​ลำบากใจ​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​กิน​เกี๊ยว​น้ำ​ซุป​ไก่​ที่​น้า​ถูทำ​อย่าง​มีความสุข​ และ​หลังจาก​เช็ด​ปาก​ด้วย​ทิชชู​ เธอ​ได้ยิน​ฟางจั๋ว​หรา​นบ​อก​ว่า​จะพา​เธอ​ไปหา​หมอ​

หลิน​ม่าย​ต้องการ​ไป​เมืองหลวง​เพื่อ​ประชุม​ใน​วันนี้​ แต่​ไม่อยาก​ไป​โรงพยาบาล​

เธอ​ทำตัว​เหมือน​เด็ก​และ​กล่าว​ต่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น“​ฉัน​บอ​กว่า​ฉัน​สบายดี​นี่​คะ​ ทำไม​ฉัน​ต้อง​ไปหา​หมอ​ด้วย​”

“ผม​ไม่สบายใจ​ถ้าคุณ​ไม่ไปหา​หมอ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​รู้สึก​เป็นทุกข์​มาก​เมื่อ​คิด​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​อุ้มท้อง​ไป​ไต้หวัน​คนเดียว​และ​ไม่มีใคร​ดูแล​เธอ​

ในที่สุด​หลิน​ม่าย​ก็​ถูก​ฟางจั๋ว​หรา​น​ลาก​ไป​โรงพยาบาล​ แพทย์​จาก​แผนก​สูตินรีเวช​ของ​แผนก​ผู้ป่วยใน​ได้​ตรวจสอบ​และ​ยืนยัน​ว่า​เธอ​ไม่เป็นอะไร​ จากนั้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงปล่อย​ให้​เธอ​ไป​ทำงาน​ที่​เมืองหลวง​

ธุรกิจ​ทั้งหมด​ใน​สำนักงาน​ปักกิ่ง​ได้รับ​การ​จัดการ​อย่าง​ดี​โดย​ผู้จัดการ​ซุน​

ตลาด​ผัก​สอง​แห่ง​ซึ่งเปลี่ยน​จาก​ตลาด​ฮุ่ย​ห​มิน​เป็น​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​ที่​ทัง​อี้​รับผิดชอบ​ ก็​ไป​ได้ดี​

นอกจากนี้​เขา​ยัง​เลือก​ผู้จัดการ​ตลาด​สอง​แห่ง​เพื่อ​อำนวยความสะดวก​ใน​การ​จัดการ​ของ​เขา​

เขา​รายงาน​กับ​หลิน​ม่าย​ว่า​ ชาว​สวนผัก​จำนวนมาก​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​ได้​ปลูก​ผัก​เรือนกระจก​ใน​เดือน​กันยายน​และ​ตุลาคม​ปี​นี้​

แต่​พวกเขา​มีตลาด​เพียง​สามแห่ง​ และ​พวกเขา​ไม่สามารถ​ซื้อ​ผัก​ใน​เรือนกระจก​มากมาย​ขนาด​นี้​ได้​

ทัง​อี้​ต้องการ​เปิด​ตลาด​มากขึ้น​ เพื่อ​ที่​เขา​จะได้​ช่วยเหลือ​ชาว​สวนผัก​มากขึ้น​

หลิน​ม่าย​ได้​เห็น​งบการเงิน​ของตลาด​ทั้งสอง​แห่ง​แล้ว​ จึงเลื่อนตำแหน่ง​ให้​ทัง​อี้​เป็น​ผู้จัดการทั่วไป​ของตลาด​ฝูตัว​ตัว​ทันที​ ปล่อย​ให้​เขา​จัดการ​ธุร​กิจการ​เปิด​ตลาด​ผัก​อีก​สอง​สามแห่ง​

แต่​ขอให้​เขา​จำไว้​ว่า​ ผลกำไร​ต้อง​มีความสำคัญ​เป็น​อันดับ​แรก​ และ​การ​ช่วยเหลือ​เกษตรกร​ใน​เขตชานเมือง​ของ​เมืองหลวง​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​ความ​สะดวกสบาย​ อย่า​วาง​เกวียน​ไว้​ข้าง​หน้าม้า​

ทัง​อี้​พยักหน้า​ “รับทราบ​ครับ​”

วันนี้​เป็น​วันอาทิตย์​ หาก​ไม่มีประชุม​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ไป​ทำงาน​

การประชุม​ใน​วันอาทิตย์​ตรง​กับ​วัน​ว่าง​ของ​หลิน​ม่าย​ โดยปกติ​แล้ว​เธอ​ต้อง​ไป​มหาวิทยาลัย​ ดังนั้น​เธอ​จึงมีเวลา​จัดการ​บริษัท​ใน​วันอาทิตย์​เท่านั้น​

ดังนั้น​หลัง​การประชุม​ ทุกคน​สามารถ​กลับบ้าน​ได้​

แต่​ทัง​อี้​ไม่ได้​กลับบ้าน​ กลับ​ไป​ตรวจสอบ​ตลาด​ทั้ง​สามแห่ง​แทน​

หลิน​ม่าย​ไว้วางใจ​เขา​อย่าง​มาก​ ดังนั้น​เขา​ต้อง​ทำให้​ดี​

หลังจาก​เดิน​ตรวจ​ตลาด​ทั้ง​สามแห่ง​ก็​เป็นเวลา​เที่ยงวัน​

ทัง​อี้​ไป​ยัง​ร้าน​หลู่​ไช่ริมถนน​เพื่อ​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ที่​ภรรยา​ของ​เขา​ชอบ​กิน​ และ​ขี่​จักรยาน​ของ​เขา​อย่าง​รวดเร็ว​ตลอดทาง​กลับบ้าน​

เมื่อ​ภรรยา​เห็น​เขา​ก็​พลัน​เอ่ย​ถ่าม “ทำไม​คุณ​กลับมา​ช้าจัง?”

ทัง​อี้​ยื่น​หลู่​ไช่ที่​เขา​ซื้อ​มาให้​หล่อน​ “นี่​ไม่ใช่หลู่​ไช่ที่​คุณ​อยาก​กิน​หรอก​เหรอ​?”

เมื่อ​ภรรยา​ของ​เขา​ได้​เห็น​หลู่​ไช่ที่​ทัง​อี้​นำมา​ หล่อน​ก็​รู้​ทันที​ว่า​อาหาร​เหล่านั้น​มีราคาแพง​ จึงกล่าว​ด้วย​ความไม่พอใจ​เล็กน้อย​ “ทำไม​ถึงซื้อ​หลู่​ไช่มามากมาย​ขนาด​นี้​ สิ้นเปลือง​เสีย​เปล่าๆ​”

ทัง​อี้​กำลัง​หยอกล้อ​ลูกชาย​ของ​เขา​ใน​เปล​

ลูกชาย​ของ​เค้า​มีอายุ​เกือบ​หนึ่ง​ขวบ​แล้ว​ เมื่อ​ถูก​แกล้ง​หรือ​หยอกล้อ​ก็​มักจะ​หัวเราะ​คิกคัก​เสียงดัง​

เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งที่​ภรรยา​พูด​ เขา​ก็​พูดไม่ออก​ “ การ​ดูแล​ลูก​และ​ดูแล​บ้าน​ด้วย​ตัว​คนเดียว​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ผม​ซื้อ​ผัก​ตุ๋น​ที่​คุณ​ชอบ​มาให้​เพื่อ​เป็น​ขวัญ​กำลังใจ​ จะเรียก​ว่า​เป็นการ​สิ้นเปลือง​โดย​เปล่าประโยชน์​ได้​ยังไง​?”

ภรรยา​ของ​เขา​หยุด​พูด​และ​นำ​อาหาร​ออก​มาจาก​ครัว​

ทัง​อี้​รีบ​ล้างมือ​และ​นั่งลง​ที่​โต๊ะ​อาหารเย็น​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​ร่วมกัน​

ภรรยา​อุ้ม​ลูก​วัย​แบเบาะ​มานั่ง​ตรงข้าม​เขา​เพื่อ​รับประทาน​อาหาร​

หล่อน​ป้อน​ไข่ตุ๋น​ให้​ทารก​น้อย​หนึ่ง​คำ​ จากนั้น​จึงคีบ​เนื้อ​ตุ๋น​ชิ้น​หนึ่ง​เข้า​ปาก​ และ​ถามทัง​อี้​ว่า​เขา​จ่าย​ค่า​เนื้อ​ตุ๋น​และ​หลู่​ไช่ไป​มาก​เพียงใด​

ทัง​อี้​กำลังจะ​บอก​ข่าวดี​เกี่ยวกับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ของ​เขา​ให้​กับ​ภรรยา​ฟัง

แต่​เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​ของ​ภรรยา​ เขา​ตอบ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​

ภรรยา​ได้​รู้​ก็​ยิ่ง​ต่อว่า​เขา​ กล่าว​หาว่า​เขา​ใช้เงิน​สิ้นเปลือง​โดย​เปล่าประโยชน์​ จากนั้น​ก็​เทศนา​ไป​หนึ่ง​ยก​ว่า​เป็น​แบบนี้​จะใช้ชีวิต​ต่อไป​ได้​อย่างไร​

ทัง​อี้​รอ​ให้​ภรรยา​ของ​เขา​ต่อว่า​จน​พอใจ​ จากนั้น​จึงบอก​ข่าวดี​กับ​ภรรยา​ว่า​ เขา​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​ผู้จัดการทั่วไป​ของตลาด​ผัก​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​

เขา​ยัง​บอก​หล่อน​ด้วยว่า​หลังจากที่​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ เขา​จะได้รับ​เงินอุดหนุน​เพิ่มเติม​หลาย​สิบ​หยวน​ทุก​เดือน​

ดังนั้น​แน่นอน​ว่า​อาหาร​เหล่านี้​ไม่ได้​แพง​เกินไป​สำหรับ​เขา​ ไม่จำเป็นต้อง​มัธยัสถ์​เหมือน​ที่ผ่านมา​

ภรรยา​มอง​เขา​อย่าง​ว่างเปล่า​และ​ไม่พูด​อะไร​

ทัง​อี้​เลิกคิ้ว​และ​พูด​ด้วย​ความโมโห​ “ผม​บอก​คุณ​แล้ว​ว่า​คุณ​หลิน​ไม่มีทาง​เอาเปรียบ​ลูกน้อง​ คุณ​อาจจะ​บอ​กว่า​หล่อน​เอาเปรียบ​และ​กลั่นแกล้ง​ผม​ หล่อน​รังแก​ผม​ตรงไหน​? หล่อน​แค่​ทดสอบ​ผม​ก็​เท่านั้น​ พอ​ผม​จัด​การตลาด​ทั้งสอง​ได้ดี​ คุณ​หลิน​ก็​ทำการ​ส่งเสริม​และ​มอบ​โอกาส​ที่​ดี​ให้​กับ​ผม​”

เขา​กินข้าว​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​ รอคอย​คำชมเชย​จาก​ภรรยา​

ภรรยา​ยังคง​เอ่ย​วาจา​ขมขื่น​ “ คุณ​เป็น​คน​มีความสามารถ​ ก็​สมควร​ที่​คุณ​หลิน​จะเลื่อนตำแหน่ง​ให้​คุณ​ไม่ใช่เหรอ​? คุณ​เอง​ก็​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​สุนัข​ พอ​เจ้านาย​โยน​กระดูก​มาให้​ คุณ​ก็​คาบ​กิน​แล้ว​เพลิดเพลิน​กับ​ความสุข​นั้น​เหมือน​คนงี่เง่า​!

คำ​ถากถาง​ของ​ภรรยา​ราวกับ​น้ำเย็น​หนึ่ง​อ่าง​ราด​ลง​บน​หัว​ของ​ทัง​อี้​ ทำให้​เขา​ไม่อยาก​รับประทาน​อาหารเย็น​อีกต่อไป​

เขา​ไม่เข้าใจ​ว่าการ​ที่​ภรรยา​จะยกย่อง​หรือ​ชมเชย​เขา​เป็นเรื่อง​ยาก​สำหรับ​หล่อน​ถึงขนาด​นั้น​เลย​หรือ​?

หลัง​เสร็จ​การประชุม​ หลิน​ม่าย​ก็​กลับบ้าน​

ท้อง​อัน​ใหญ่โต​ทำให้​เธอ​เคลื่อนไหว​ลำบาก​มากกว่า​ตอนที่​ยัง​ท้อง​ไม่ใหญ่​

เธอ​เพิ่ง​ไป​พบ​แพทย์​และ​มีการประชุม​ จากนั้น​จึงกลับมา​นอน​บน​เตียง​อย่าง​เหนื่อยอ่อน​

น้า​ถูเดิน​เข้ามา​พร้อม​โจ๊ก​รังนก​ชามหนึ่ง​แล้ว​ขอให้​หลิน​ม่าย​ดื่ม​ขณะ​ยัง​ร้อน​อยู่​

หลิน​ม่าย​เอ่ย​ถามด้วย​ความสงสัย​ขณะ​ดื่ม​ “ไป​เอา​รังนก​มาจาก​ที่ไหน​คะ​?”

ใน​ยุค​ที่​สินค้า​อุปโภค​บริโภค​เพิ่งจะ​มีการ​ปรับราคา​สูงขึ้น​ อาหารเสริม​เช่น​รังนก​ก็​หา​ซื้อ​ได้​ไม่ง่าย​นัก​

หลิน​ม่าย​ไม่ซื้อ​เพราะ​ไม่มีรังนก​ราคา​ถูก​พอ​จะจับจ่าย​ได้​

น้า​ถูกล่าว​ “มีคน​มอบ​รังนก​นี้​ให้​น้า​มา คุณนาย​บอ​กว่า​ไม่ต้องการ​อาหารเสริม​ จึงขอให้​น้า​ตุ๋น​ให้​คุณ​กิน​ โดย​บอ​กว่า​คุณ​ท้อง​และ​ต้องการ​อาหารเสริม​”

หัวใจ​ของ​หลิน​ม่าย​รู้สึก​อบอุ่น​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​เธอ​ตั้งครรภ์​ และ​ทั้ง​ครอบครัว​มองว่า​เธอ​เป็น​สมบัติ​ล้ำค่า​

หลังจาก​ดื่ม​รังนก​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​นอนลง​อีกครั้ง​เพื่อ​พักผ่อน​

โทรศัพท์​ข้าง​เตียง​พลัน​ดัง​ขึ้น​

หลิน​ม่าย​รับสาย​ในขณะที่​นอน​อยู่​บน​เตียง​

เป็น​สาย​มาจาก​เถาจืออวิ๋น​ หล่อน​โทร​มาเพื่อ​ถามหลิน​ม่าย​ว่า​รู้สึก​อย่างไร​ที่​ได้​สวม​ชุด​ที่​หล่อน​ออกแบบ​เข้า​ร่วมงาน​ประกาศ​รางวัล​

หลิน​ม่าย​ตอบ​เธอ​ด้วย​คำ​ห้า​คำ​ “สะดุดตา​มาก​เลย​”

จากนั้น​เธอ​จึงเอ่ย​ถาม “ทำไม​ถึงไม่บอก​ฉัน​ว่า​ชุด​นั้น​ได้​รับรางวัล​รองชนะเลิศ​ใน​เทศกาล​แฟชั่น​มิลาน​ล่ะ​คะ​?”

“ก็​เพราะ​ลืม​น่ะ​สิ จะมีเหตุผล​อะไร​อีก​”

หลิน​ม่าย​พูดไม่ออก​ และ​เถาจืออวิ๋น​ก็​ไม่ได้​จริงจัง​กับ​รางวัล​นั้น​มาก​นัก​

หลิน​ม่าย​ถาม “เป็นเรื่อง​ยาก​มาก​เชียว​นะ​ที่จะ​ได้​รับรางวัล​จาก​เทศกาล​แฟชั่น​แห่ง​มิลาน​ พี่​ทำได้​ยังไง​?”

“เพราะ​คำแนะนำ​ของ​โรงเรียน​” เถาจืออวิ๋น​ตอบ​อย่าง​เย่อหยิ่ง​

เถาจืออวิ๋น​ยัง​บอก​เธอ​ด้วยว่า​ หลังจาก​คว้ารางวัล​รองชนะเลิศ​จาก​งานเทศกาล​แฟชั่น​แห่ง​มิลาน​และ​ได้รับ​โบนัส​ก้อน​โต​ ครอบครัว​ทั้ง​สามคน​ก็​ย้าย​ออกจาก​ห้องใต้ดิน​และ​ไป​อยู่​ใน​อพาร์ทเมนต์​

หล่อน​รู้สึก​ดี​ที่​ได้​เห็น​แสงแดด​ฉาย​ลอด​เข้ามา​ใน​ห้อง​

จากนั้น​หลิน​ม่าย​จึงถามซุบซิบ​ว่า​ ชาย​ที่​ชื่อ​อับราฮัม​ได้​สารภาพ​รัก​กับ​หล่อน​หรือไม่​?

เถาจืออวิ๋น​กล่าว​ “เขา​สารภาพ​ตรงไปตรงมา​มาก​”

“แล้ว​พี่​ตอบ​ไป​ว่า​ยังไง​?”

“แน่นอน​ว่า​ฉัน​ปฏิเสธ​!”

แม้หลิน​ม่าย​จะไม่เคย​พบ​กับ​อับราฮัม​ด้วยตัวเอง​ แต่​หลิน​ม่าย​ก็​กลัว​ว่า​เถาจืออวิ๋น​จะถูก​หลอก​ จึงขอให้​คน​ตรวจสอบ​อับราฮัม​ และ​เมื่อ​เห็น​รูปถ่าย​ของ​เขา​ก็​พลัน​รับรู้​ว่า​เขา​หล่อ​มาก​ และ​คุณ​สมบัติส่วนตัว​ของ​เขา​ก็ดี​เช่นกัน​

เขา​ช่างเป็น​ผู้ชาย​ที่​ยอดเยี่ยม​ แต่​เถาจืออวิ๋น​ไม่ชอบ​เขา​ แสดงว่า​หล่อน​ยังมี​ฟางจั๋วเยวี่ย​อยู่​ใน​ใจสินะ​?

หลิน​ม่าย​ไม่รู้เรื่อง​อารมณ์​ความสัมพันธ์​มาก​นัก​ เธอ​จึงไม่กล้า​เข้าไป​แทรกแซง​

เมื่อ​เธอ​กำลังจะ​วางสาย​ จู่ ๆ เถาจืออวิ๋น​ก็​พลัน​เอ่ย​ขึ้น​ “ม่าย​จื่อ​ ฉัน​เจอ​คนรู้จัก​ใน​มิลาน​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ “ถือ​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​มาก​นะ​ พี่​ซื้อ​ลอตเตอรี่​ได้​เลย​นะ​นี่​”

ใน​ยุค​นี้​ไม่ค่อย​มีใคร​ไป​เรียนต่อ​ต่างประเทศ​ และ​ผู้คน​ที่​ไป​อิตาลี​เพื่อ​เรียนต่อ​ก็​น้อยลง​

โอกาส​ที่​เถาจืออวิ๋น​จะพบ​คนรู้จัก​ใน​อิตาลี​นั้น​ไม่ได้​สูงกว่า​โอกาส​ใน​การ​ถูก​ลอตเตอรี่​มาก​นัก​

เธอ​ถามด้วย​ความสงสัย​ “ว่าแต่​ พี่​เจอ​ใคร​เหรอ​?”

“กู่​เยี่ยน​ คน​ที่​เธอ​เคย​ยกย่อง​มาตลอด​ไงล่ะ​ ยัง​จำหล่อน​ได้​ไหม​?”

“จำได้​” หลิน​ม่าย​จำผู้หญิง​คน​นี้​ได้​ ไม่ใช่เพราะ​ความสูง​หรือ​รูปร่างหน้าตา​ที่​พิเศษ​ของหล่อน​ แต่​เป็น​เพราะ​การพัฒนา​ตนเอง​ของหล่อน​

กู่​เยี่ยน​มาจาก​ชนบท​ เรียน​ไม่จบ​ชั้นประถม​และ​ไม่มีการศึกษา​ แต่กลับ​ไป​อิตาลี​เพื่อ​ไล่ตาม​ความฝัน​ของหล่อน​

ถึงกระนั้น​หลิน​ม่าย​ก็​ยัง​ประหลาดใจ​มาก​ และ​ถามเถาจืออวิ๋น​ “หล่อน​ไป​อิตาลี​ได้​อย่างไร​? แล้ว​หล่อน​เป็น​อย่างไรบ้าง​ใน​อิตาลี​?”

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​โทรศัพท์​ เถาจืออวิ๋น​กำลัง​ดื่ม​กาแฟ​ “หล่อน​เป็น​ผู้หญิง​ที่​กล้าหาญ​มาก​ ตอนแรก​ไม่รู้​ภาษาอิตาลี​สัก​คำ​ กลับ​กล้า​ที่จะ​ผจญภัย​ใน​อิตาลี​

ที่​สำคัญ​คือ​ ผู้หญิง​คน​นี้​ตั้งใจ​เรียน​มาก​ หล่อน​มาเร็ว​กว่า​ฉัน​เพียง​สอง​เดือน​ แต่​ก็​สื่อสาร​กับ​ชาวบ้าน​ได้​แล้ว​ แต่​เรื่อง​การงาน​ของหล่อน​ใน​อิตาลี​ไป​ได้​ไม่สวย​นัก​ โมเดลลิ่ง​หลาย​แห่ง​ชอบ​ใช้นางแบบ​ผิวขาว​ น้อย​คน​นัก​ที่จะ​ใช้นางแบบ​ผิวเหลือง​”

หลิน​ม่าย​กล่าว​ “พี่​กับ​กู่​เยี่ยน​มาจาก​ประเทศ​จีน​ทั้งคู่​ และ​อยู่​ต่างประเทศ​ทั้งคู่​ หาก​ช่วย​อะไร​หล่อน​ได้​ก็​ช่วย​เถอะ​นะ​ คิด​เสีย​ว่า​ช่วย​คนบ้านเดียวกัน​ สิ่งที่​ฉัน​หมายถึง​คือ​การ​ช่วยเหลือ​ ไม่ใช่การ​ให้เงิน​หล่อน​ แต่​เป็นการ​ช่วยเหลือ​ใน​อาชีพ​การงาน​ของหล่อน​น่ะ​”

“เข้าใจ​แล้ว​ สอน​คน​ตกปลา​ดีกว่า​ยื่น​ปลา​ให้​พวกเขา​ ฉัน​เข้าใจ​ความจริง​ข้อ​นี้​อยู่​ล่ะ​”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ภรรยา​ทัง​อี้​นี่​แปลก​ๆ นะ​ ไม่เคย​ชมสามีตัวเอง​เลย​เหรอ​ ถ้าวันหนึ่ง​ต้อง​หย่ากัน​ก็​ไม่แปลกใจ​ล่ะ​

กู่​เยี่ยน​แข็งแกร่ง​มาก​ อยู่​อิตาลี​ทั้งที่​สกิล​ภาษาเป็น​ศูนย์​จนกระทั่ง​พูด​กับ​คน​โล​คอ​ล​ได้​อะ​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท