ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 115

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

 

“ข้ากลับมาแล้ว อเลกเซีย”

 

“ยินดีต้อนรับกลับค่ะท่านเฮเลนา”

 

ในวังหลัง ที่ห้องของตัวเอง

เมื่อเข้าไป ก็พบอเลกเซียรออยู่เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา ดูเหมือนว่าเธอจะทำความสะอาดทั่วห้องอย่างดี บนพรมไม่มีรอยฝุ่นเลยสักรอย และกำแพงก็ได้รับการขัดจนเงาวับ ยิ่งไปกว่านั้นผ้าปูบนเตียงก็ได้รับการจัดไว้อย่างเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ

‘โอ้’ เธอหลุดอุทานออกมาอย่างชื่นชม

 

“ทำซะสะอาดขนาดนี้เชียวรึ”

 

“ระหว่างที่ท่านเฮเลนาไม่อยู่ข้าก็ไม่มีงานอะไร เลยจดจ่อกับการทำความสะอาดมากไปหน่อยค่ะ”

 

“จะพักผ่อนก็ได้แท้ ๆ”

 

“ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะต่อให้ท่านเฮเลนาไม่อยู่ข้าก็ยังเป็นนางกำนัลติดห้องอยู่ดีนี่คะ”

 

เฮเลนาไม่ค่อยรู้เรื่องงานของนางกำนัลละเอียดนัก

ทว่า แตกต่างจากสาวใช้ที่ปรนนิบัติรับใช้คน อเลกเซียนั้นเป็นนางกำนัลติดห้อง บางทีอาจมีกฎว่าต่อให้เจ้าของห้องจะไม่อยู่เธอก็ต้องคอยอยู่ที่ห้องก็เป็นไปได้

 

“ไปเที่ยวเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

 

“อา ก็สนุกดี ได้ไปสูดอากาศข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกันนะ”

 

“เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมแล้วค่ะ อีกไม่นานก็จะถึงเวลามื้อเย็นพอดี……”

 

‘หืม’ พูดถึงตรงนั้น อเลกเซียก็หยุด แล้วเหลือบตามอง

มองไปที่ถุงกระสอบซึ่งกำลังดิ้นไปมาอยู่ที่เอวของเฮเลนา

 

“……นั่นมัน เหมือนจะเป็นถุงกระสอบที่ข้าได้จัดเตรียมนะคะ”

 

“อา เตรียมถุงที่ทนทานแบบนี้มาให้มันช่วยได้มากเลยล่ะ เอามาถึงนี่ยังไม่มีขาดสักจุดเลย”

 

“……มีอะไรอยู่ข้างในหรือคะ?”

 

“งูน่ะ”

 

มันไม่ใช่เรื่องต้องปิดบังอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้ว เธอจึงตอบไปตามนั้น

แต่แรกเริ่มเดิมทีเธอก็ขอถุงที่แข็งแรงทนทานเพื่อที่งูดิ้นไปมามันจะได้ไม่ขาดอยู่แล้ว

 

“ท่านเฮเลนาคะ”

 

“หืม?”

 

“ก่อนอื่นโปรดนั่งลงตรงนั้นก่อนค่ะ”

 

อเลกเซียผายมือเชื้อเชิญ

ไปยังพื้นปูพรมตรงที่ไม่มีทั้งโซฟาหรือเก้าอี้อะไรให้นั่งทั้งนั้น

 

“เอ๋……?”

 

“โปรดนั่งลงตรงนั้นก่อนค่ะ”

 

เมื่อเจอกับคำพูดที่มีแรงกดดันอันยากจะอธิบาย เฮเลนาก็ไม่กล้าทวนถามอีก

อเลกเซียไม่ได้กำลังชี้ไปที่โซฟา แต่กำลังสั่งให้เธอนั่งลงตรงพื้นซะ

ทว่าเฮเลนาก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันของอเลกเซีย แล้วก็นั่งลงกับพื้นทั้งแบบนั้น

 

ในท่าคุกเข่าแบบเบญจางคประดิษฐ์

 

“อันดับแรกเลย ถุงกระสอบนั้น เพราะท่านเฮเลนาสั่งว่าให้เตรียม ข้าจึงได้จัดเตรียมให้”

 

“อืม”

 

“ข้าเองก็มีส่วนผิดเหมือนกันค่ะที่ไม่ได้ถามว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่ว่าท่านเฮเลนาได้นำถุงนั้นติดตัวออกไปขี่ม้าท่องเที่ยวทางไกล”

 

“อืม”

 

“แล้วก็ไปจับงูที่ปลายทางที่ไปเที่ยว สินะคะ”

 

“อืม”

 

“คิดอะไรของท่านอยู่กันคะ”

 

‘หืม’ เฮเลนาเอียงศีรษะอย่างฉงนใจเมื่อได้ยินวาจาของอเลกเซีย

แต่เริ่มเดิมทีเธอก็คิดที่จะจับงูมาอยู่ก่อนแล้ว เพราะมาริเอลหรือคลาริสซาบอกว่าไม่เคยกินมาก่อน เธอก็เลยคิดว่าจะให้พวกเธอได้ลิ้มรสดู

ไหน ๆ ก็มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวแล้ว การที่เธอจะถือจังหวะนี้จับมันมาด้วยเลยมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ใช่หรือไงกัน

 

“เอ่อ……ก็ งูอ่ะ”

 

“ไปจับมาจากที่ปลายทางที่ไปท่องเที่ยวทางไกลมา ข้าเข้าใจถูกใช่ไหมคะ?”

 

“อ อื้ม……”

 

“……ทำไมได้ถึงมีจิตวิญญาณนักเอาตัวรอดล้นเหลือซะขนาดนั้นกันคะ”

 

“ถึงจะพูดงั้นก็เหอะ……”

 

‘อา ปัดโธ่’ อเลกเซียดูจะหัวเสียขึ้นไปเรื่อย ๆ

เฮเลนาไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรที่มันพิสดารขนาดนั้นเลยแท้ ๆ

 

“ไปจับมาตอนไหนกันคะ”

 

“เอ่อ……ตอนแรกก็ขี่ม้าแข่งกันไปจนถึงลำธาร แล้วฝ่าบาทก็เริ่มนอนกลางวันตรงแถวนั้น ระหว่างนั้นข้าก็เลยแยกตัวออกไปจับมา”

 

“……เฮ้อ ปัดโธ่”

 

อเลกเซียกุมขมับอย่างคิดไม่ตกว่าควรจะเริ่มตักเตือนจากตรงไหนก่อนกันแน่

ก่อนที่จะพูดถึงการตักเตือน เจ้าตัวยังไม่คิดสักนิดเลยด้วยซ้ำว่าทำได้อะไรไม่ดีลงไป

 

“ก่อนอื่นนะคะท่านเฮเลนา……คิดจะเอางูนั่นมาใช้ทำอะไรหรือคะ?”

 

“กิน”

 

“ไม่ได้ค่ะ”

 

อเลกเซียส่ายหน้าทั้งที่ยังยืนกอดอก

ซึ่งเฮเลนาก็ได้แต่คุกเข่าแหงนหน้ามองอเลกเซีย

ทั้งที่เจ้านายของห้องนี้คือเฮเลนาแท้ ๆ ทำไมจุดยืนมันถึงได้กลับตารปัดกันแบบนี้นะ

 

“ปกติแล้วงูไม่ใช่ของกินนะคะ”

 

“งั้นหรอกรึ!?”

 

“ทำไมถึงตกใจเรื่องนั้นกันคะ……”

 

เมื่อได้ยินคำพูดที่คาดไม่ถึง เฮเลนาจึงเผลอขึ้นเสียง

สำหรับเฮเลนาแล้ว งูก็คือของกิน ไม่ได้เป็นอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น มันนับว่าเป็นแหล่งโปรตีนซึ่งหาได้ยากยิ่งในศึกสู้รบกลางป่า

การได้ยินว่ามันไม่ได้เอาไว้กิน จึงเป็นความจริงที่น่าตกใจอย่างยิ่ง

 

“แน่นอนว่าฝ่าบาทเองก็ได้เห็นเหมือนกันใช่ไหมคะ?”

 

“อา พอโดนถามว่ามีอะไรอยู่ในถุง ก็เลยตอบไปว่าเป็นงูน่ะ”

 

“แล้วไม่ได้โดนถามว่าจับมาทำไมหรือคะ?”

 

“ก็ตอบไปว่าจับมากิน”

 

“……แล้วฝ่าบาท ว่าอย่างไร?”

 

“พูดแค่ว่า ‘งั้นรึ’ น่ะ”

 

“นั่นมันปลงสนิทแล้วไม่ใช่หรือไงกันคะ”

 

เป็นแบบนั้นหรอกรึ

จะว่าไปแล้วเขาก็ทำหน้าเหมือนเหนื่อย ๆ อยู่จริง ๆ

 

“ท่านเฮเลนาคะ”

 

“อืม”

 

“หลังจากนั้น ก็ไปเพลิดเพลินกับการขี่ม้าท่องเที่ยว ทั้งที่มีงูคาอยู่ไว้ที่เอว สินะคะ”

 

“อื้ม”

 

“คนระดับอย่างข้ามาพูดอะไรแบบนี้ก็อาจเป็นการหมิ่นเบื้องสูง แต่ก็ต้องบอกว่าอดสงสารฝ่าบาทไม่ได้เลยค่ะ”

 

“ทำไมล่ะ”

 

ฟาร์มาสเองก็ดูจะสนุกดีนี่นา

เฮเลนาก็สนุก ฟาร์มาสก็สนุก ไม่ว่าจะคิดยังไง การไปขี่ม้าเที่ยวครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงไม่ใช่รึ

เช่นนั้นแล้วทำไมอเลกเซียถึงต้องมาสงสารด้วย

 

“อ่า……ช่างมันเถอะค่ะ เท่านี้ฝ่าบาทเองก็คงจะเข้าใจแล้วกระมังว่าท่านเฮเลนาเป็นคนแบบไหนกันแน่”

 

“……หมายความว่าไงน่ะ?”

 

“ถึงได้บอกแล้วไงค่ะ ว่าให้ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อยน่ะ……”

 

‘เฮ้อ’ อเลกเซียถอนหายใจแรงอย่างไม่คิดปิดบัง

ทว่า เฮเลนาก็ยังรู้สึกยากจะยอมรับอยู่ดี เธอทำผิดอะไรตรงไหนกัน ก็แค่จับงูกลับมาแท้ ๆ

ถึงหน้าตามันจะดูไม่น่าเอ็นดู แต่รสชาติก็เรียบง่ายสดชื่นคล้าย ๆ เนื้อไก่ ยิ่งกว่านั้นยังมีสรรพคุณชูกำลังอย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

 

“เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วมันก็ช่วยไม่ได้ค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้ข้าจะไปนำมื้อเย็นมาก่อนนะคะ”

 

“อ อา……เอ่อ ข้ายืนขึ้นได้รึยัง?”

 

“เชิญนั่งที่โซฟาได้ค่ะ”

 

ดูเหมือนช่วงการเทศนาจะจบลงแล้ว

แต่อันที่จริง ไม่รู้ทำไมมันรู้สึกอเลกเซียจะปลงไปแล้วซะมากกว่า

 

อ๊ะ จริงสิ—เธอนึกขึ้นมาได้ในจังหวะนั้น

 

“อเลกเซีย”

 

“ค่ะ”

 

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป……ข้าจะต้องจัดการฝึกให้ห้าคนโดยมีท่านแองเจลิกาเป็นตัวหลัก เป็นเวลาหนึ่งเดือน”

 

“ค่ะ ก็ได้รับทราบมาแล้วนะคะ”

 

“เกี่ยวกับเรื่องนั้นน่ะ ข้าตั้งใจว่าจะให้ทั้งห้าคนนอนค้างกันที่นี่ แล้วก็คิดว่าอยากจะให้สาวใช้หรือนางกำนัลพยายามอย่าเข้าใกล้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย”

 

“อ่า……เช่นนั้น แล้วเรื่องมื้ออาหารหรืออะไรทำนองนั้นล่ะคะ”

 

“แค่ห้ามเข้าใกล้ระหว่างการฝึกเท่านั้นเอง การเตรียมอาหารก็ขอให้เตรียมทุกมื้อตามเดิม ข้าอยากจะให้อเลกเซียช่วยรับหน้าที่คอยสั่งการคนรับใช้ของทั้งห้าคนนั้นน่ะ”

 

หากมีสาวใช้หรือนางกำนัลอยู่ด้วย ก็อาจนำไปสู่ความเหลาะแหละของพวกเธอเหล่านั้นได้ และในการฝึกทหารใหม่นั้น เราจะต้องขจัดความเหลาะแหละออกไปให้ได้มากที่สุด

ทว่า แม้จะกล่าวเช่นนั้นแต่จะให้ละเลยมื้ออาหารก็ไม่ถูกต้องนัก ถึงจะมีแผนฝึกให้พวกเธอได้มีประสบการณ์ต่อความหิวโหยอยู่ด้วยก็จริง แต่โดยปกติแล้วก็ต้องได้รับประทานอาหารครบถ้วนสามมื้อ มันถึงจะนำไปสู่การเสริมสร้างพลังกายได้

และผู้ที่เฮเลนาจะมอบหมายหน้าที่เช่นนี้ให้ได้ ก็มีแค่อเลกเซียซึ่งเธอไว้วางใจมากที่สุดเท่านั้น

 

“อย่างนี้นี่เอง……รับทราบแล้วค่ะ”

 

“อืม ก็แค่บอกว่าอย่าโผล่หน้ามาที่ห้องนี้หรือสถานที่ฝึกจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเท่านั้นเอง แต่หากพวกสาวใช้หรือนางกำนัลทำอะไรตามอำเภอใจทางนี้เองก็ลำบากเหมือนกัน ก็เลยอยากจะฝากให้ดูแลเรื่องนั้นทีน่ะ”

 

“ค่ะ รับทราบค่ะ”

 

‘อื้ม’ เมื่อเห็นอเลกเซียคำนับรับคำเรียบร้อย เฮเลนาก็พยักหน้าอย่างพอใจ

ตอนนี้ปูทางไว้เท่านี้ก่อนก็น่าจะเพียงพอแล้วกระมัง

ที่เหลือก็แค่เริ่มจัดการฝึกจริง ๆ เท่านั้น

 

บู้ตแคมป์นรกกำลังจะเปิดม่านแล้ว—

 

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท