บทที่ 827 หลี่จิ่วเต้า ‘ข้าไม่กินกระดูก!’
ตู้ม!
โลงศพสีดำขนาดใหญ่ลอยละลิ่วตกลงไปภายในนิกายอวี้ซวี ทำให้ทั่วทั้งนิกายอวี้ซวีสั่นสะเทือน!
สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนตื่นตะลึง สีหน้าแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก ส่งโลงศพคู่มาในงานแต่ง? นี่มันหมายความว่าอย่างไร? เห็นได้ชัดเจนว่ามาเพื่อสร้างปัญหา!
ผู้ใดกันที่หาญกล้าถึงเพียงนี้?
สุนัขสีดำได้แสดงความไร้เทียมทานออกมาก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งหลี่จิ่วเต้าผู้อยู่เบื้องหลังก็ยังลึกล้ำจนไม่อาจหยั่งถึง เช่นนั้นแล้วผู้ใดกันยังมาสร้างความวุ่นวายเช่นนี้?
ใบหน้าของหลี่จิ่วเต้าเย็นเยียบอย่างหามองได้ยาก ภายในดวงตาเปี่ยมด้วยความดุดัน
การส่งโลงศพมาในงานแต่ง นับว่าน่ารังเกียจเกินไป ไฟโทสะพลุ่งพล่านในใจของเขา!
“ใช้ชีวิตที่เหลือครองคู่อยู่ร่วมกันไปจนแก่เฒ่า ข้าส่งของขวัญชิ้นสุดท้ายให้พวกเจ้าโดยตรง ความรักของพวกเจ้าจะคงอยู่ไปจนตาย!”
มีสิ่งมีชีวิตก้าวออกมาพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณที่พวกข้าเอาใจใส่ถึงเพียงนี้ พวกข้าดีเพียงใดพวกเจ้าก็ลองพิจารณาดู!”
มันเป็นสิ่งมีชีวิตภายนอกที่ทั้งร่างมีเพียงโครงกระดูก สวมใส่ชุดเกราะเหล็ก ถือดาบใหญ่เอาไว้ในมือ
หลังจากนั้นก็มีโครงกระดูกอีกจำนวนมากปรากฏออกมา พวกมันต่างก็เป็นทัพหน้าของปรโลก แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เป็นถึงขุนพลผีที่สามารถควบคุมทหารม้านับหมื่นแสนของปรโลกได้
มารดามันเถิด…ช่างกล้าพูดออกมาได้!
ส่งโลงศพมาในวันแต่งงาน ทว่ายังคงสามารถเอ่ยวาจาเช่นนั้นออกมาได้!
นี่คือผู้ใดกัน!
เหล่าศิษย์นิกายอวี้ซวีอดเกิดความขุ่นเคืองขึ้นมาไม่ได้ ยังจะมีสิ่งใดชวนโมโหมากกว่านี้อีกหรือไม่? ผีเหล่านี้ช่างน่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง!
ฟุ่บ!
ในตอนนั้นเอง พลันมีกระดาษสีทองจำนวนมากโปรยปรายลงมาจากฟ้า นี่คือกระดาษเงินกระดาษทองที่เผาให้กับผู้ตายหลังเสียชีวิต ของพวกนี้ก็มาจากสิ่งมีชีวิตอื่นที่มาถึง
“พวกข้าเองก็มาส่งของขวัญเช่นกัน! พวกข้าโปรยกระดาษเงินกระดาษทองไปทั่วฟ้าก็เพื่อส่งวิญญาณพวกเจ้า!”
มีสิ่งมีชีวิตส่งเสียงหัวเราะพร้อมเดินออกมาจากความว่างเปล่า จากนั้นก็หันไปทางขุนพลผีแล้วเอ่ยออกมา “ของขวัญของพวกข้าเป็นเช่นไรบ้าง? ช่างเข้ากับของขวัญที่พวกเจ้าส่งมอบเสียจริง!”
นี่เป็นอสูรร้ายที่ตัวใหญ่มโหฬารประหนึ่งขุนเขา ด้านบนหัวมีอยู่หนึ่งเขา หางสะบัดไปมาราวมังกรพลิ้วไหว ลมหายใจดุร้ายสะท้านฟ้า สามารถบดบังดวงตะวันเหนือสวรรค์ทั้งเก้าชั้น
นอกจากนี้อสูรร้ายตนอื่น ๆ ก้าวออกมา แต่ละตัวล้วนน่าสะพรึงกลัว ไม่ได้เป็นเพียงอสูรร้ายธรรมดาทั่วไป ฟ้าดินถึงกับสั่นสะเทือนด้วยลมหายใจของมัน เกิดเป็นภาพอันน่าตื่นตะลึง
พวกมันเป็นทัพหน้าของฝั่งปริภูมิเวลา ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นเดียวกัน พร้อมรับช่วงต่อเนื่องจากโลงศพสีดำของปรโลก โปรยปรายกระดาษเงินกระดาษทองลงมาจากทั่วฟ้า
สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนสัมผัสได้ถึงความกดดัน รวมกระทั่งเหล่าผู้แข็งแกร่งจากจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ ด้วย ต่างไม่อาจทานทนต่อลมหายใจอันดุดันที่แผ่ออกมาจากร่างของอสูรร้ายได้ รู้สึกประหนึ่งความตายกำลังย่างกรายมาหาพวกมัน!
ปรโลก ปริภูมิเวลา…!
พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงกฎเกณฑ์ที่ไหลเวียนบนร่างของผีและอสูรร้ายเหล่านั้น สิ่งนี้ทำให้พวกเขาอดหวาดผวาไม่ได้ พลังปรโลกและปริภูมิอันแสนลึกลับต่างมาปรากฏตัวที่นี่!
ในจักรวาลโกลาหลที่พวกเขาอาศัยอยู่ ล้วนมีกฎแห่งปรโลกและปริภูมิเวลา พวกเขาต่างถูกควบคุมเอาไว้ ไม่อาจกำจัดออกไปได้ จึงไวต่อสัมผัสของกฎแห่งปรโลกและปริภูมิเวลาเป็นอย่างมาก
พลังทั้งสองลึกล้ำเกินเข้าใจ ไม่อาจคาดเดาได้ ไม่สามารถหยั่งถึงต้นกำเนิดความเป็นมาได้อย่างชัดเจน กล่าวกันว่ากระทั่งในเทวโลกเองก็มีกฎปรโลกและปริภูมิเวลาอยู่เช่นกัน
‘พวกมันมาที่นี่เพื่อวางกฎเกณฑ์อย่างนั้นหรือ?’
‘มีความเป็นไปได้อย่างมาก!’
ยอดฝีมือระดับสูงบางคนคิดขึ้นมาในใจ
อาณาจักรแห่งนี้แตกต่างจากจักรวาลโกลาหลที่พวกเขาอยู่อย่างเห็นได้ชัด ไม่มีกฎของปรโลกและปริภูมิเวลาดำรงอยู่ พวกเขาจึงวิเคราะห์ขึ้นมาทันทีว่าปรโลกและปริภูมิเวลามาด้วยเหตุใด
เพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกหลี่จิ่วเต้าจะสามารถรับมือได้หรือไม่!
‘จะรับมือได้อย่างไร! กองกำลังลึกลับทั้งสองนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก รายละเอียดเบื้องลึกอันใดก็ไม่เปิดเผยออกมาเลย…’
มียอดฝีมืลอบส่ายหัว ภายในใจเอ่ยว่าตนเองคิดมากเกินไปแล้ว แม้ว่าพวกหลี่จิ่วเต้าจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทว่าปรโลกและปริภูมิเวลาก็น่ากลัวยิ่งกว่า ไม่อาจต้านทานได้อย่างสิ้นเชิง
นี่มันอันใดกัน?
หนึ่งส่งโลงศพ อีกหนึ่งส่งกระดาษเงินกระดาษทอง!
ยั่วโทสะยิ่งกว่านี้ก็ไม่มีอีกแล้ว!
บนร่างพวกลั่วสุ่ยเต็มไปด้วยจิตสังหารแผ่กระจาย พวกเขาล้วนไม่มีผู้ใดสามารถอดทนได้!
…
ด้านนอกเมืองชิงซาน ริมแม่น้ำสายเล็ก
“นี่…สมควรตายเสียจริง!”
เสียงของต้นหลิวเย็นเยียบ เต็มไปด้วยความคิดอยากสังหารคน
มันกำลังมีความสุขที่ได้มองดูฉากงานแต่งของสือเฟิง ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา มันจะไม่โกรธได้อย่างไร ถึงขั้นคิดต้องการจะตรงไปยังสถานที่แห่งนั้นทันทีเพื่อสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากปรโลกและปริภูมิเวลา!
“พวกมันช่างบังอาจเสียจริง! พิจารณาจากสถานการณ์แล้ว พวกมันจะต้องมุ่งเป้าไปหาคุณชายเป็นแน่!”
เจ้าก้อนหินเองก็กำลังมองดูทางสือเฟิง มันเองก็โกรธมากไม่แพ้กัน
สือเฟิงไม่เคยออกจากจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ เช่นนั้นจะไปเกี่ยวพันกับปรโลกและปริภูมิเวลาได้อย่างไร มีความเป็นไปได้อย่างมากที่สิ่งมีชีวิตจากปรโลกและปริภูมิเวลาจะมุ่งเป้ามาที่คุณชาย!
“พวกมันไม่รอดแล้ว! คุณชายไม่มีทางปล่อยพวกมันไปโดยง่าย!”
ต้นหลิวเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา
หากเป็นยามปกติก็แล้วไปเถิด ทว่าวันนี้เป็นงานแต่งของสือเฟิง ปรโลกกับปริภูมิเวลากล้าดีเช่นไรมาก่อความวุ่นวายเช่นนี้ คุณชายย่อมไม่มีทางปล่อยพวกมันไปอย่างแน่นอน!
…
ณ นิกายอวี้ซวี
“เป็นเช่นไรบ้าง ชอบของขวัญที่พวกข้ามอบให้หรือไม่?”
ขุนพลผีหัวเราะออกมาเสียงดัง เวลาที่มันเฝ้ารอคอยมาถึงแล้ว อาศัยความสนใจในงานแต่งส่งโลงศพ ประกาศศักดาการมาถึงของพวกมัน
“พวกเจ้าน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!”
สือเฟิงกัดฟัน โทสะสูงเทียมฟ้า วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขา ทว่ากลับเกิดสถานการณ์ทำให้งานแต่งไม่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ เขาจึงโกรธเป็นอย่างยิ่ง
“หยางย่อมมีกฎหยาง หยินย่อมมีกฎหยิน ทว่าอาณาจักรแห่งนี้ไม่มีกฎหยินมานามากแล้ว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างจะต้องกลับมาเหมือนเดิม อาณาจักรแห่งนี้จะมีกฎหยินอีกครั้ง!”
ขุนพลผีหัวเราะเยาะออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
“กฎปริภูมิเวลาในสถานที่แห่งนี้ก็ยุ่งเหยิงเช่นกัน จำเป็นต้องฟื้นกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้ง!”
อสูรร้ายแห่งปริภูมิเวลาคำรามออกมาอย่างเย็นชา เรื่องราวทั้งหมดจะต้องถูกสะสางลงในวันนี้
ก่อนหน้ามีเรื่องพวกจักรพรรดินีที่ลงมือต่อสู้ใหญ่โตในซากปริภูมิเวลา ต่อจากนั้นก็มีต้นหลิวที่บังคับให้พวกมันพาเข้าไปยังชั้นแรกของเทวโลก
เรื่องราวเหล่านี้ พวกมันล้วนแล้วไม่ลืม ทั้งพวกจักรพรรดินีและต้นหลิวต่างมาจากอาณาจักรแห่งนี้ ดังนั้นพวกมันจึงต้องการจะสะสาง!
ส่วนหลี่จิ่วเต้า พวกมันยิ่งไม่อาจปล่อยไปได้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนการกระทำอันยั่วยุดูแคลนปรโลกและปริภูมิเวลาย่อมต้องเป็นหลี่จิ่วเต้าอย่างแน่นอน!
อันใดกัน หลี่จิ่วเต้าไม่เข้าใจสิ่งที่ได้ยินแม้แต่น้อย
ทว่าภายในใจของเขายังคงกรุ่นโกรธอยู่ ต้องการจะลงมือด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นคงเป็นการยากที่จะบรรเทาความเกลียดชังในใจของเขาลงได้
“เป็นตัวอันใดกัน จึงกล้ามาก่อความวุ่นวายที่นี้! พวกเจ้ายังนับว่าโชคดีไปที่ข้าไม่กินกระดูก!”
สีหน้าของหลี่จิ่วเต้าเย็นชา เขาโกรธน้อยครั้งเป็นอย่างยิ่ง ยามนี้กำลังถูกขุนผลผีและอสูรปริภูมิเวลาทำให้เปี่ยมไปด้วยโทสะ
หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังอสูรปริภูมิเวลา “ส่วนพวกเจ้าทั้งหมดจะต้องกลายเป็นอาหารบนจานสำหรับเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานแต่ง!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างสั่นสะท้าน ผู้แข็งแกร่งที่สุดอย่างหลี่จิ่วเต้าต้องการจะลงมือด้วยตนเองหรือ?
คิดดูแล้ว สิ่งมีชีวิตจากปรโลกและปริภูมิเวลาล้วนแล้วแต่น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง หากให้คนของเขาลงมือเกรงว่าจะไม่ไหว
ภายในใจของพวกเขาเกิดความเฝ้าคอยขึ้นมา หลี่จิ่วเต้าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจะทรงพลังถึงเพียงใด?
ทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผยออกมาในตอนนี้!
หลี่จิ่วเต้าก้าวออกไปเบื้องหน้า ชายเสื้อสะบัดพลิ้ว เขาต้องการลงมือสังหารผีและอสูรร้ายเหล่านี้ด้วยตนเอง!
บนร่างของหลี่จิ่วเต้าไร้แสงใดเปล่งออกมา ดูแล้ว ‘ธรรมดา’ เป็นอย่างมาก ทว่าหลังจากเขาก้าวออกมาเบื้องหน้าแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งหลายต่างสามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันน่าหวาดหวั่นที่กระเพื่อมแผ่กระจาย
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้กดทับลงบนหัวใจของพวกเขาโดยตรง ชวนให้หวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง พวกเขารู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังยืนอยู่หน้าประตูแห่งความตาย เหงื่อเย็นเยียบหลั่งรินออกมาทั่วร่าง
จิตวิญญาณของพวกเขาสั่นสะท้านไม่หยุด ร่างกายสั่นระริกไม่อาจสงบลงได้!