มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน – ตอนที่ 10 การต่อสู้ที่ตระการตา

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

        หลงเหยียนกระเด็นถอยหลังไปหนึ่งก้าว ส่วนเซียวปิงหลานกระเด็นถอยหลังไปประมาณสามก้าว ก่อนจะล้มลงบนพื้น

        “อะไร? หลาน พี่หลานกลับถูกเจ้าหมอนั่นบีบให้ถอย ซ้ำยังล้มลงบนพื้นอีก? เป็นไปได้อย่างไร?”

        วินาทีนี้ ทุกคนเบิกตาโพลง ไม่อยากเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตัวเองสักเท่าไร ทว่าความจริงก็คือความจริง รอยยิ้มบนใบหน้าพวกเขาทุกคนชะงักไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะหลงเอ้าอวี หัวใจของเขาเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าตอนที่ถูกตบหน้าเมื่อครู่เสียอีก

        หลงเหยียนปรับสมดุลในการยืน จากนั้นจึงเป่าหมัดของตนแล้วยิ้มอย่างชื่นมื่น “รู้สึกอย่างไร พี่หลานของข้า ตอนนี้รู้สึกรับไม่ได้แล้วใช่หรือไม่? หมัดทะลวงฟ้าของเจ้าก็ไม่เห็นจะแน่สักเท่าไร เมื่อเทียบกับข้าแล้ว เจ้าคิดเช่นไรบ้าง?”

        เซียวปิงหลานล้มอยู่บนพื้น สีหน้าดูตกใจเป็นอย่างมาก ท่าทางเหมือนตกใจจนแทบเป็นลม เขาจ้องไปที่หลงเหยียน สภาพในตอนนี้ทำให้เห็นแล้วรู้สึกปวดใจ

        “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้! พลังของเจ้า? เพราะเหตุใดถึงเพิ่มขึ้นมากเพียงนี้ หรือที่ผ่านมาเจ้าซ่อนพลังของตนมาตลอด? ก่อนหน้านี้เจ้าก็ล้มหลงเอ้าอวี ตอนนี้ยังมากดทับข้าอีก!”

        เมื่อนึกถึงตอนที่พบเขาอยู่กับหญิงจากสำนักบงกชมาร นึกถึงเรื่องที่เขาพยายามซ่อนพลังตัวเอง หรือที่เขาทำทั้งหมดนี้เพราะมีเป้าหมาย?

        หลงเหยียนเดินเข้าไปหาเขา ฝีเท้าเบาบาง

        “พละกำลังที่เจ้าหมอนี่แสดงออกมาเมื่อครู่อยู่ในขั้นที่สาม หรือเขาแกร่งขึ้นอีก?” เซียวปิงหลานคิดในใจ

        ดูจากพละกำลังของหมัดทะลวงฟ้า ทักษะการใช้กระบวนท่าของหลงเหยียน ดูเหมือนแกร่งกว่าเขาจริงๆ แต่เซียวปิงหลานยังมีวิชาอื่นช่วย นั่นก็คือหมัดลงทัณฑ์ เขาไม่เชื่อว่าหลงเหยียนจะใช้หมัดลงทัณฑ์เป็นเหมือนกัน ต่อให้เขาจะเป็นอัจฉริยะ ก็ไม่มีทางบรรลุวิชาระดับสูงกว่าเดิมได้

        ครั้งก่อน ตอนเจอกันที่โรงสุรา หลงเหยียนใช้หมัดลงทัณฑ์โจมตีเขาจากข้างหลัง เพียงแต่ครั้งนั้นหมัดไม่ได้แสดงพลังที่น่ากลัวออกมา ส่วนเขาเองก็ไม่ได้ยินว่าหลงเหยียนตะโกนว่าอะไร

        ถึงแม้จะเป็นทักษะการต่อสู้ระดับกลาง แต่ไม่มีทางที่เขาจะฝึกสำเร็จก่อนเวลาหนึ่งถึงสองปีแน่

        เมื่อนึกถึงข้อนี้ เขาก็ใช้มือยันพื้นลุกขึ้น ฟึ่บ… ร่างลุกขึ้นมายืนนิ่งแล้วจ้องไปที่หลงเหยียน

        “เจ้าอย่านึกว่าพอเริ่มมีพละกำลังหน่อยก็ผยอง เจ้าลืมไปแล้วหรือ ข้ามีพลังอยู่ขั้นที่สี่เชียวนะ”

        เมื่อนึกถึงข้อนี้ เซียวปิงหลานก็ระเบิดเสียงคำราม ร่างกายรวบรวมพลังปราณที่แข็งแกร่งกว่าตอนแรก รังสีที่มหาศาล ทำให้คนรอบข้างต่างก็พากันถอยกรูด

        ทันใดนั้น คลื่นที่ทะลุทะลวงเริ่มแปรปรวน คนในตระกูลหลงเริ่มอุทาน “พี่หลานเก่งกาจยิ่งนัก ข้าไม่เชื่อว่าครั้งนี้เจ้าหลงเหยียนนั่นยังจะหนีน้ำมือพี่หลานพ้นอีก”

        “รีบดูนั่นเร็ว พี่หลานใช้วิชาหมัดลงทัณฑ์ซึ่งเป็นวิชาระดับกลางแล้ว พละกำลังเพิ่มขึ้นจากหมัดทะลวงฟ้าสิบเท่า ครั้งนี้ หลงเหยียนต้องตายสถานเดียว” พวกเขาไม่เชื่อหรอกว่าหลงเหยียนจะใช้วิชาหมัดลงทัณฑ์ได้เช่นกัน

        ทว่าหลงเหยียนกลับไม่สนใจคำสบประมาทของทุกคน เวลานี้ พลังหยางจากแสงอาทิตย์โอบล้อมร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง หลงเหยียนจ้องไปที่เซียวปิงหลานอย่างใจเย็น

        “หมัดลงทัณฑ์งั้นหรือ?”

        ถ้าหลงจ้านเห็นเหตุการณ์ต่อไปที่จะเกิดขึ้น ไม่รู้จริงๆ ว่าสีหน้าของเขาจะเป็นอย่างไร บุตรชายของตนถูกทำร้าย ตอนนี้เซียวปิงหลานก็ถูกเขาจัดการเช่นกัน อีกทั้งหลงเหยียนอยากให้ถึงเวลานั้นเร็วๆ

        “ได้ งั้นข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าหมัดลงทัณฑ์ที่ผสานพลังหยางเข้าไปน่ากลัวแค่ไหน”

        พวกเขาทั้งสองระเบิดเสียงคำรามพร้อมกัน พื้นแหลกละเอียด ร่างทะยานขึ้นไปบนห้วงอากาศ แล้วหมัดของทั้งสองก็กระแทกใส่กัน หมัดทั้งสี่ส่งออกไปด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า

        พลังจากหมัดทะลวงฟ้าถูกส่งออกมาจากหลังเท้า ส่วนหมัดลงทัณฑ์จะถูกส่งออกมาพร้อมหมัดที่พุ่งออกไปพร้อมความเร็ว วันนี้หลงเหยียนต้องการล้มเซียวปิงหลานให้ได้ ทำให้เขาไม่มีกำลัง ไม่กล้าไปผยองที่ไหนอีก

        หลงเหยียนต้องการสร้างบาดแผลในใจเซียวปิงหลานไปตลอดกาล หลังจากวันนี้ เมื่อไรที่นึกถึงหลงเหยียน เขาเป็นต้องสั่นผวา

        พวกเขาทั้งคู่ใช้วิชาหมัดลงทัณฑ์ แต่หมัดของหลงเหยียนผสานไปด้วยพลังหยางที่ร้อนแรง ทำให้แกร่งกว่าหมัดของเซียวปิงหลานหลายเท่า

        “ตูม!”

        หลังเหวี่ยงหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง ร่างของเซียวปิงหลานก็บาดเจ็บหนัก กระดูกนิ้วมือของเขาแตกเพราะแรงกระแทกอย่างรุนแรง กระดูกซี่โครงก็หักไปหลายท่อนเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขายากจะยอมรับก็คือ ขณะที่ร่างกายเซียวปิงหลานโรยตัวลงมา ห้วงอากาศมีเลือดสีแดงสดลอยลงมาระลอกหนึ่ง

        เขากระอักเลือดกลางอากาศ จากนั้นร่างก็หล่นกระแทกพื้น

        ขณะนี้หลงเหยียนโรยตัวลงอย่างมั่นคง เท้าเหยียบบนหน้าอกเขา

        หลงเหยียนใช้ปลายเท้าเตะไปข้างหน้า เสยคางเซียวปิงหลาน ร่างเขาลอยขึ้น เวลานี้ หลงเหยียนพุ่งออกไปด้วยความเร็ว ร่างกะพริบ ปรากฏตัวแล้วใช้มือบีบคอของเขา

        ยกตัวเซียวปิงหลานขึ้นมา

        แววตาหลงเหยียนนั้นเลือดเย็นจนน่ากลัว ทั้งหมดนี้เกิดจากการถูกเหยียดหยามมานาน และในที่สุดวันนี้เขาก็ได้เอาคืนอย่างสาสมแล้ว

        ขณะที่ลูกหลานในตระกูลหลงเห็นหลงเหยียนในร่างที่น่ากลัวอีกครั้ง ต่างก็ถอยหลังด้วยความขลาด ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวา ยิ่งกว่านั้น ร่างกายหลงเอ้าอวีกำลังสั่นเทา แววตาที่แน่วแน่ทำให้พวกเขาตกใจกลัว

        “หา! นี่มันอะไรกัน? หลาน พี่หลานแพ้งั้นเหรอ? เกิดอะไรขึ้น? พี่หลานเป็นยอดฝีมือขั้นที่สี่เชียวนะ” ครั้งนี้ ทุกคนเบิกตาโพลง ไม่กล้าเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

        “เร็ว รีบพาข้าออกจากที่นี่” หลงเอ้าอวีร้อนรนขึ้นมาทันที คนพวกนั้นตกใจกลัวตั้งแต่แรกแล้ว คล้ายไม่ได้ยินเสียงหลงเอ้าอวีเช่นนั้น

        ตอนนี้ไม่มีใครกล้าสงสัยในพลังของหลงเหยียนอีก ความแข็งแกร่งของเขาแสดงออกมาให้เห็นจนทุกคนหมดข้อสงสัย อีกทั้งยังเอาชนะเซียวปิงหลานที่มีพลังชีพมังกรขั้นที่สี่ได้แล้ว

        แววตาของหลงเหยียนเต็มไปด้วยเลือด พละกำลังที่นิ้วเพิ่มขึ้นมาก

        “เซียวปิงหลาน เมื่อนก่อนข้ายอมทนเจ้าเยี่ยงสุนัขตัวหนึ่ง เจ้าไม่ได้เพิ่งรังแกข้าแค่วันสองวัน ในที่สุดตอนนี้ข้าก็มีโอกาสแก้แค้น วันนี้ข้าจะเอาชีวิตเจ้า”

        “อะไร? เจ้าหมอนี่อยากฆ่าคน เขาอยากฆ่าเซียวปิงหลาน ถ้าเซียวกงเป้ารู้เข้าต้องกลายเป็นเรื่องแน่”

        ขณะที่ผู้คนรอบตัวกำลังมองหลงเหยียนด้วยความตื่นตระหนก เซียวปิงหลานกลับลืมตาขึ้น พ่นเลือดออกจากปาก ท่าทางเขาในตอนนี้ดูดุร้ายมาก

        จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่อ่อนแรง “แน่จริงเจ้าก็ฆ่าข้าเลยสิ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะกล้า”

        “นี่เจ้าจะตายอยู่แล้วยังไม่ยอมแพ้อีก? ได้ ข้ามีวิธีมากมายที่จะคร่าชีวิตเจ้า” หลังพูดจบเขาก็มุ่งหน้าไปทางเซียวปิงหลาน

        คนที่ล้อมดูรอบๆ มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจ

        หลงเหยียนเดินก้าวใหญ่เข้าไปชี้หน้าพวกเขา “พวกเจ้าดูเอาไว้ ข้าจะทำให้เขากลายเป็นขันทีไปตลอดชีวิต”

        คำพูดนี้ คล้ายเป็นเสียงสายฟ้าที่ผ่าลงกลางใจ

        “หลงเหยียน เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้”

        “เจ้านึกว่าข้าไม่กล้าไม่ใช่หรือ” จากนั้นหลงเหยียนก็หยิบกริชออกมา

        เมื่อมองหลงเหยียนที่เหี้ยมโหด ความโกรธแค้นที่มีบนใบหน้าเขาค่อยๆ จางหายไป ในที่สุดเขาก็ยอมรับกับจุดจบของการต่อสู้นี้แล้ว ยอมรับว่าหลงเหยียนไม่ใช่หลงเหยียนคนเดิมอีกต่อไป

        เขากลัวแล้วจริงๆ กลัวอย่างมิอาจหาใดเปรียบ ความผวาปกคลุมร่าง ร่างกายสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่น

        “สั่นแล้วเหรอ?”

        “ฝันร้ายเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น ฟังไว้ให้ดี ชาตินี้เจ้าถูกกำหนดให้กลายเป็นขันทีแล้ว”

        “ยังไม่ลงมืออีก?” หลงเหยียนข่มขวัญเจ้าหมอนั่น

        แววตาที่ดุร้ายจ้องไปยังหลงเอ้าอวี เวลานี้ ในใจเขาเริ่มเกิดความคิดอยากฆ่าตัวตาย ไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว…

        ขณะที่หลงเหยียนทิ้งกริชเล่มนั้นไว้บนพื้น เขารู้สึกเหมือนสติแทบหลุด ใกล้เป็นบ้าแล้ว

        “เพราะ… เพราะอะไรถึงเป็นข้า?”

        “ถ้าเจ้าไม่ทำ ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นขันทีแทน” หลงเหยียนพูดขู่

        เพราะเขาเคยสัญญาว่าจะแก้แค้นแทนหลงหยุนฉี ไม่ว่าอย่างไรแค้นนี้ก็ต้องชำระ

        แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่จะทำให้ชื่อเสียงของน้องหยุนฉีเสื่อมเสีย มีหรือหลงเหยียนจะพูดต่อหน้าคนมากมาย?

        ทันใดนั้น ด้านหลังก็มีเสียงที่หยิ่งทะนงดังขึ้น

        “หยุดเดี๋ยวนี้”

        เงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว พุ่งชนคนที่รายล้อมออก จากนั้นนางก็พบเซียวปิงหลานที่บนร่างกายไม่มีอะไรคลุม

        หญิงสาวที่พุ่งเข้ามาเห็นภาพตรงหน้าใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดตา แล้วถอยหลังไปหลายก้าว

        ก่อนจะใช้สายตาที่ตกใจมองไปทางหลงเหยียน

        หลงเหยียนมองคนที่เดินเข้ามาชัดแล้ว นางก็คือหลงอวี่ซี บุตรสาวของลุงใหญ่หลงห้าวนั่นเอง

        ——————–

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

Status: Ongoing
ในช่วงเวลาคับขันของชีวิตมักทำให้ได้พบกับสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนไว้อยู่เสมอ ในชีวิตของ ‘หลงเยียน’ ผู้ไร้พลังวิญญาณก็เช่นกัน การพลัดตกลงเหวลึกทำให้เขาค้นพบกับซากอสูรมังกรสิ้นชีพ โดยพลังจากชิ้นส่วนวิญญาณมังกรเพียงเสี้ยวเดียวก็สามารถทำให้เขามีพลังวิญญาณยุทธขึ้นมาได้ มันจึงเป็นที่มาของการก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการพิสูจน์ตัวตนโดยมีตำแหน่งจอมยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานเป็นเดิมพัน! เขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการรวบรวมลูกแก้วแห่งมังกรหกลูกที่กระจายอยู่บนโลกอันกว้างใหญ่ หากเขาสามารถรวบรวบพลังวิญญาณมังกรทั้งหมดไว้ได้ หนทางสู่การเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งดินแดนจักรพรรดิมังกรก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท