มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน – ตอนที่ 14 ออกไปจากตระกูลหลงเถอะ

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

        สิ่งที่หลงเหยียนกังวลใจคือหลงจ้านร่วมมือกับเซียวกงเป้าและอาจทำเรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลหลง ซึ่งหลงเหยียนต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกบิดาตนให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้เซียวกงเป้ากำลังสนทนากับบิดาของเขาในหอรวมจิต

        “เขาตั้งใจไม่ปล่อยให้ข้ามีโอกาสเข้าใกล้ท่านพ่อชัดๆ ปล่อยเซียวปิงหลานมาต่อกรกับข้า อีกด้านหนึ่งก็ตามติดท่านพ่อเป็นเงา”

        เพื่อความปลอดภัยของคนในตระกูลหลง หลงเหยียนตัดสินใจแล้ว ไม่ว่ายังไง ตนต้องนำเรื่องนี้ไปบอกหลงอีให้ได้

        “พี่เหยียน ท่านมั่นใจจริงหรือว่าท่านพ่อร่วมมือกันกับเซียวกงเป้า”

        หลงเหยียนพยักหน้า “ฉะนั้นตอนนี้ข้าจึงต้องรีบมาขัดขวาง ต่อให้ข้าไม่ยอมรับว่าเขาเป็นลุงสองของข้า แต่ในเมื่อเขาเป็นพ่อเจ้า เพื่อเจ้า ข้าจะปล่อยให้เขาทำผิดมากไปกว่านี้ไม่ได้ มิเช่นนั้น เราอาจขัดขวางแผนการนี้ไม่ทัน ถึงตอนนั้น ทุกอย่างคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว”

        หลงหยุนฉีรู้ดี หลงเหยียนทำเพื่อความปลอดภัยของตระกูลหลง ในใจจึงรู้สึกตื้นตันมาก

        “เจ้ารอข้าข้างนอกนะ…” ขณะที่พูดหลงเหยียนก็เดินเข้าไปในตำหนักใหญ่

        ณ หอรวมจิต หลงเหยียนเห็นท่าทางดุร้ายของเซียวกงเป้า ใจกระตุกวูบ แล้วหันหน้าไปมองหลงอี

        “ท่านพ่อ”

        หลงอีเกิดความสงสัย “เหยียนเอ๋อ เจ้ามาได้อย่างไร ข้าเคยบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ ถ้าไม่มีอะไรอย่ามาที่หอรวมจิต!”

        “ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องอยากรายงานท่าน…”

        เมื่อพูดจบ เขาก็มองไปทางเซียวกงเป้า เจ้าหมอนี่แสดงสีหน้าราบเรียบ คล้ายไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น หลงเหยียนคิดในใจ ‘เจ้าหมอนี่เล่ห์เหลี่ยมมาก ดูไม่ออกเลยว่ากำลังตื่นเต้น แต่เขาต้องตกใจมากแน่ว่าเพราะอะไรข้าถึงยังอยู่ที่นี่ อีกทั้งยังไม่เป็นอะไรด้วย’

        เขาแสดงท่าทีอย่างเป็นธรรมชาติ แต่คาดว่าในใจต้องตื่นตระหนกคล้ายคลื่นพายุกลางทะเล

        “เหยียนเอ๋อ เจ้าเสียมารยาทแล้ว รีบคารวะลุงเซียวเร็ว”

        หลงเหยียนไม่อยากพูดอะไรอีก เซียวกงเป้าลุกขึ้นยืน รังสีที่แข็งแกร่งกำลังมุ่งมาทางหลงเหยียน แสร้งยิ้มเล็กน้อยแต่สายตากลับดูเฉียบคม เขามีพลังระดับชีพมังกรขั้นที่เก้า แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา ต่อให้เป็นท่านพ่อก็คงสู้เขาไม่ได้

        “ฮ่าๆๆๆ ที่แท้เขาก็คือคุณชายแห่งตระกูลหลงหรือนี่ แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กมีพรสวรรค์ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไม่มีวิญญาณยุทธ์ แต่ตอนนี้ข้ากลับรู้สึกได้ถึงพลังปราณที่อยู่ในตัวเจ้า”

        ฟิ้ว!

        เซียวกงเป้าร่างกะพริบแล้วมาปรากฏตรงหน้าหลงเหยียน จ้องเขม่นมาที่เขา มือขนาดใหญ่บีบข้อมือหลงเหยียนอย่างแรง หลงเหยียนรู้สึกร่างกายเหมือนถูกช็อตอย่างไรอย่างนั้น ความเจ็บปวดนั้นชัดเจนทำให้หลงเหยียนกัดฟันอดกลั้น

        “ไม่เลว ชีพมังกรขั้นที่สาม” เขาปล่อยมือจากหลงเหยียน แล้วเซียวกงเป้าก็ใช้สายตาที่ดุร้ายมองหลงเหยียน

        คล้ายผ่านสงครามครั้งใหญ่มาเช่นนั้น หลงเหยียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อครู่ทำร้ายเซียวปิงหลานบาดเจ็บหนัก คาดว่าตอนนี้เซียวกงเป้ายังไม่รู้เรื่อง

        “เหยียนเอ๋อคารวะลุงเซียว…” เขาฝืนพูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

        เซียวกงเป้าลูบหัวหลงเหยียน ถ้าฝ่ามือนี้ฟาดลงไป หัวกะโหลกของหลงเหยียนต้องแตกกระจายแน่ ทว่าเขากลับพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “หลานเหยียนเอ๋อ เจ้ามีเรื่องอยากคุยกับพ่อเจ้ามิใช่หรือ เช่นนั้นลุงเซียวขอตัวก่อนก็แล้วกัน!”

        การเคลื่อนไหวของเขาแลดูเป็นธรรมชาติ ทว่ากลับไม่ยอมยกมือออกจากหัวหลงเหยียน

        หลงเหยียนหันไปมองเขา แล้วพูด “ลุงเซียวไม่รู้หรือว่าข้าต้องการพูดสิ่งใด? ท่านวางมือลงบนหัวข้า เป็นการข่มขวัญข้าหรือ?”

        “หา!” เซียวกงเป้านึกไม่ถึงว่าเจ้าหลงเหยียนจะบังอาจขนาดนี้

        “ที่นี่คือตระกูลหลง ถ้าทำร้ายข้าบาดเจ็บ ท่านพ่อและท่านปู่ไม่มีทางปล่อยให้ท่านออกไปง่ายๆ แน่” หลงเหยียนข่มขู่เขาโดยไร้ซึ่งความกลัว จ้องตาเขาด้วยความกล้า

        เด็กคนนี้อายุยังน้อย ทว่ากลับมีนิสัยก้าวร้าวเช่นนี้ เกรงว่าอนาคตคงรับมือยาก

        “ฮ่าๆๆ” เซียวกงเป้าแสร้งหัวเราะ หากแววตากลับแสดงออกมาคล้ายอยากสังหารหลงเหยียนเสียตั้งแต่นาทีนี้

        เวลานี้เอง จู่ๆ หอรวมจิตก็มีเสียงคำรามดังขึ้น หลงจ้านตะโกนเข้ามาข้างใน ร่างพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว แล้วจับแขนหลงเหยียนแน่น

        “เจ้าไปก่อเรื่องอะไรมา!”

        เขามองหลงอีครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองเซียวกงเป้า

        “สหายเซียว หลานเอ๋อบาดเจ็บหนัก ตอนนี้ข้าให้คนส่งไปรักษาแล้ว”

        เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงจ้านพูด เซียวกงเป้าก็แสร้งทำเหมือนไม่รู้เรื่อง

        “เกิดอะไรขึ้น?”

        หลงจ้านหันกลับมามองหลงเหยียน แล้วพูด “เป็นฝีมือเจ้าเด็กนี่ เขาทำร้ายหลานเอ๋อจนเจ็บหนัก”

        “อะไรนะ?” รังสีบนนตัวเซียวกงเป้าแผ่กระจายลงมาปกคลุมหลงเหยียน

        หลงอีเองก็ประหลาดใจ หรือหลงเหยียนเข้ามาหาตนเพราะอยากรายงานเรื่องนี้?

        “เหยียนเอ๋อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น รีบอธิบายกับลุงเซียวเร็ว”

        หลงเหยียนสะบัดมือออกจากหลงจ้าน แล้วมองหลงอี

        “ท่านพ่อ ถ้าจะให้พูด เรื่องนี้คงยากที่จะอธิบาย ข้าบอกได้แค่ว่าข้าทำร้ายเขาจากความตั้งใจ เพราะพวกเขาเป็นคนเริ่มลงมือก่อน…”

        หลงอีผู้นำตระกูลสะอึกในใจ ส่วนเซียวกงเป้าร่างสั่นเทาด้วยความโกรธ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร แล้วหันหน้าไปมองหลงจ้าน

        หลงจ้านระเบิดโมโห “ครั้งก่อนเจ้าก็ทำร้ายอวีเอ๋อ ข้าเห็นแก่ที่พวกเจ้าเป็นพี่น้องกันเลยไม่เอาเรื่อง แต่ยิ่งอยู่เจ้าก็ยิ่งไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ มีพละกำลังนิดหน่อย เจ้าก็ลืมตัวแล้วหรือ วันนี้เจ้ายังทำร้ายหลานเอ๋ออีก เขาเป็นแขกของตระกูลเรา ถ้าคนอื่นเอาเรื่องนี้ไปพูด พวกเขาจะมองว่าเราต้อนรับแขกเช่นไร”

        “หลงจ้าน เจ้าไม่ต้องแสร้งมาโยนความผิดให้ข้า ข้าจะไม่รู้ได้ยังไงว่าพวกเจ้ากำลังคิดจะทำสิ่งใดอยู่ ปกติหลงเอ้าอวีกับเซียวปิงหลานรังแกข้ามาตลอด พวกเจ้าเคยสั่งสอนเขาบ้างหรือไม่ วันนี้ก็แค่ต่างจากเมื่อก่อน พละกำลังข้ายังด้อย ไม่อาจควบคุมได้ เลยทำให้เขาบาดเจ็บ”

        หลงจ้านพูดด้วยเสียงที่เย็นเยือก “มีวาทศิลป์ดีนี่ แต่เพราะอะไรข้าถึงได้ยินมาว่า เจ้าไม่เพียงแค่อยากฆ่าหลานเอ๋อ แต่ยังอยากตอนเขาด้วยล่ะ หรือนี่ก็เป็นข่าวปลอม? อายุน้อยแค่นี้แต่จิตใจกลับโหดร้ายเหลือเกิน ถ้ายังไม่สั่งสอนให้หลาบจำ อนาคตต้องทำผิดมหันต์แน่ วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง”

        หลงจ้านไม่พูดพร่ำทำเพลง รังสีพลังที่มหาศาลปกคลุมร่างหลงเหยียน ก่อตัวกลายเป็นลานกว้าง ทำให้หลงเหยียนไม่อาจหนีการโจมตีนี้พ้น

        เขารู้ดีว่าเมื่อไรที่หลงจ้านลงมือ ตนต้องถูกฆ่าตายภายในเวลาไม่กี่นาทีแน่

        เวลานี้เอง หลงอีเดินเข้าไปขวางการโจมตีของหลงจ้าน ป้องกันรังสีโจมตีที่แผ่กระจายไปทั่ว ใบหน้าแลดูเย็นเยือก

        “พี่รอง อย่าเพิ่งลงมือกับหลงเหยียน ข้าขอถามเขาให้ชัดเจนก่อน!”

        หลงอีมองหลงเหยียน ใบหน้าเคร่งขรึม “เหยียนเอ๋อ ข้าหวังอยากให้เจ้าโตเป็นผู้ใหญ่มาโดยตลอด อนาคตเป็นชายชาตรีที่น่าภูมิใจ ข้าขอถามเจ้า เรื่องในวันนี้เป็นเหมือนที่ลุงสองพูดหรือไม่?”

        หลงเหยียนก้มหน้า “พวกเขาเป็นฝ่ายมารังแกข้าก่อน!” หลงเหยียนอยากแก้ตัว

        ทันใดนั้น ฝ่ามือใหญ่ก็ฟาดลงบนใบหน้าหลงเหยียน เพียะ หลงเหยียนถูกตบเข้าอย่างจัง

        “คุกเข่าลงซะ เรื่องในวันนี้ เจ้ายอมรับหรือไม่ว่าตัวเองทำผิด!”

        หลงเหยียนคุกเข่าลงบนพื้น เงยหน้าที่แดงก่ำขึ้น ในใจรู้สึกเสียใจอย่างอดไม่ได้ ทว่ากลับพูดด้วยเสียงที่แน่วแน่ “ท่านพ่อ ข้า… ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด”

        “ยังไม่รู้จักยอมรับผิดอีก” หลงอีถีบไหล่ของหลงเหยียนต่อหน้าหลงจ้าน ดูออกว่าเรื่องในวันนี้ทำให้เขาโมโหมากจริงๆ

        หลงเหยียนล้มลงบนพื้น รู้สึกเจ็บปวด ทว่าความเจ็บปวดที่กายหรือจะสู้ความเจ็บปวดในใจ

        เขาทำใจแข็ง ลุกขึ้นยืน แล้วจ้องหลงอี

        “ท่านพ่อ ท่านคิดว่าการที่ท่านตีข้า แล้วพวกเขาจะปล่อยข้าไปงั้นหรือ? ความจริงพวกเขาอยากให้ข้าตายด้วยซ้ำ เพราะพวกเขามีสาเหตุอื่น”

        หลงจ้านคำรามขึ้นมาก่อน “เจ้าทำร้ายหลานเอ๋อจนบาดเจ็บ แล้วยังมีหน้ามาพูดอีก!”

        เซียวกงเป้ารีบเดินขึ้นหน้า มองหลงอีแล้วเค้นถาม “สหายหลง หลานเหยียนทำร้ายลูกชายข้าบาดเจ็บ ท่านเป็นถึงผู้นำตระกูล หรือท่านจะไม่จัดการเรื่องนี้?” พวกเขารีบพูดแทรก ไม่ปล่อยให้หลงเหยียนมีโอกาสพูด

        หลงอีเงยหน้าถอนหายใจยาวๆ มองไปทางหลงเหยียน “เหยียนเอ๋อ เจ้าเป็นคนใจร้อน แข็งกระด้าง ถ้ายังไม่รีบสั่งสอนเสียตอนนี้ อนาคตเข้าสู่สังคม เป็นเจ้าเองที่ต้องเสียเปรียบ ข้าไม่อยากตีเจ้าแล้ว เจ้าออกไปจากตระกูลหลงเถิด”

        ——————–

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

Status: Ongoing
ในช่วงเวลาคับขันของชีวิตมักทำให้ได้พบกับสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนไว้อยู่เสมอ ในชีวิตของ ‘หลงเยียน’ ผู้ไร้พลังวิญญาณก็เช่นกัน การพลัดตกลงเหวลึกทำให้เขาค้นพบกับซากอสูรมังกรสิ้นชีพ โดยพลังจากชิ้นส่วนวิญญาณมังกรเพียงเสี้ยวเดียวก็สามารถทำให้เขามีพลังวิญญาณยุทธขึ้นมาได้ มันจึงเป็นที่มาของการก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการพิสูจน์ตัวตนโดยมีตำแหน่งจอมยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานเป็นเดิมพัน! เขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการรวบรวมลูกแก้วแห่งมังกรหกลูกที่กระจายอยู่บนโลกอันกว้างใหญ่ หากเขาสามารถรวบรวบพลังวิญญาณมังกรทั้งหมดไว้ได้ หนทางสู่การเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งดินแดนจักรพรรดิมังกรก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท