มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน – ตอนที่ 19 โลกที่กว้างใหญ่

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

        เพียงไม่นาน อสูรร่างใหญ่ก็พุ่งเข้ามากระแทกกับอีกด้านของเนินหิน เสียงฝีเท้าคล้ายมีร่างหนัก หลงเหยียนเบาใจขึ้นมาเล็กน้อย มือที่จับหลงหลิงท่วมไปด้วยเหงื่อ

        เมื่ออสูรไม่พบพวกเขาจึงจากไป หลงเหยียนถอนหายใจเบาๆ คล้ายยกภูเขาออกจากอก ทว่าร่างกายยังสั่นเทาเพราะความกลัว ในที่สุดเขาก็ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้แล้ว

        “ข้าต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ ขอแค่ข้ากลายเป็นผู้แข็งแกร่งจึงจะควบคุมทุกอย่างได้ หากอยากเก่งขึ้น ข้าต้องกลับไปร่วมงานประลองแห่งตระกูล ต้องชิงตำแหน่งในตระกูลมาให้ได้ เช่นนั้นข้าจึงจะได้รับวิชาหมัดสายฟ้าแปดทิศ แล้วยังต้องกลับไปล้างมลทินด้วย”

        ในระยะเวลาสิบวัน หลงเหยียนคำนวณเวลาไว้หมดแล้ว เหมือนเขาจะปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ไม่ได้อีก วันนี้เขาต้องหาที่ปลอดภัยพักเอาแรงก่อน วันต่อมาค่อยเข้าไปตามหาหญ้าวิเศษในป่าลึกบนเทือกเขาหยุนหลัวต่อ หลงเหยียนเชื่อว่าเขาต้องแกร่งขึ้นจงได้

        …

        แสงจันทราปกคลุมไปทั่วฟ้า พวกเขาสองคนนอนมองดวงดาวบนทุ่งหญ้า จมูกได้กลิ่นหอมจางๆ ทำให้ในใจเกิดความรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก

        “รั่วอี หรือไม่เจ้ากลับไปดีกว่า ที่นี่อันตรายมากเกินไป”

        นางหลับตาปี๋ สูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ หลงเหยียนลุกขึ้นมาประคองศีรษะมองนาง เห็นหลงหลิงวางมือทั้งสองข้างไว้แนบตัว หันหน้าขึ้นฟ้าแล้วหลับไป ผมสีดำของนางปล่อยสยายบนพื้น หน้าผากมีเหงื่อที่ยังไม่ได้เช็ด ขนตางอนยาวสั่นกะพริบ ริมฝีปากงามได้รูป ปากน้อยๆ แลดูหวานฉ่ำ นางเป็นผู้หญิงที่งดงามมากเหลือเกิน

        หลงเหยียนนึกในใจ หากนางเป็นหญิงของตน เช่นนั้นคงมีความสุขมากสินะ สิบหกปีมานี้ นางไม่เคยใกล้ชิดหรือสัมผัสกายหญิงผู้ใดมาก่อน ไม่แปลกใจเลยที่ชายหนุ่มจะเกิดความรู้สึกแบบนี้เมื่อเข้าใกล้หญิงสาวเป็นครั้งแรก

        “ดูสิ คืนนี้ดวงจันทร์กลมและสว่างมากเลย งดงามจริงๆ”

        หลงเหยียนจ้องไปที่นาง “นั่นสิ แต่ข้ากลับพบว่าเจ้างดงามมากกว่าดวงจันทร์บนท้องฟ้า”

        “ข้าต้องขอบคุณ?”

        ดวงตาที่คมงามของหลงหลิงประกาย ความจริงตอนนั้นนางเกือบแต่งงานกับมังกรเขียวที่ชำนาญในการทำศึกแล้ว ทางบ้านนางเป็นคนจัดแจงแต่ก็ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน วันนี้ได้ใกล้ชิดหลงเหยียน นางกลับพบว่าตนต้องการความรักที่งดงามเช่นนี้

        อีกทั้งนิสัยของหลงเหยียนก็ยังเป็นชายแบบที่นางชอบเป็นพิเศษ…

        เป็นค่ำคืนที่แสนยาวนาน พวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีความในใจ ไม่อาจสงบจิตข่มตาลงได้… เมื่อผ่านความเป็นความตายด้วยกันมา ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงแน่นแฟ้นขึ้นไม่น้อย

        วันที่สอง หลงเหยียนยืดเส้นยืดสาย ลุกขึ้นยืน

        “ข้ามีความสุข มีความสุขมาก ถ้าข้าสามารถจับมือเจ้าในทุกๆ วัน อยู่เคียงข้างกันไปทั้งชีวิต ข้าว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ดีมากแน่”

        เมื่อเห็นหลงเหยียนมีความสุขมาก หลงหลิงก็ทำปากจู๋ “ให้มันน้อยๆ หน่อย ประเดี๋ยวสัตว์ป่ามาอีก ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าเจ้าจะหนีพ้นหรือไม่”

        หลงเหยียนหันกลับไปมองนาง แล้วยิ้ม “ถ้าข้าเป็นอะไรไป ใครจะปกป้องเจ้าเล่า”

        พวกเขาสองคนเดินทางกันต่ออย่างระมัดระวัง หลงหลิงส่งจิตออกไป สัมผัสพลังวิญญาณทั้งหมดที่อยู่รอบข้างเพื่อจะหนีสัตว์อสูรได้ทันการ

        นางไม่อยากให้หลงเหยียนถูกสัตว์อสูรเขมือบเร็วขนาดนั้น ไม่ว่าอย่างไรเจ้าหมอนี่ก็น่ารักดี อยู่กับเขาแล้วสบายใจไม่น้อย

        “ข้าขอถามหน่อย ได้ยินมาว่าสำนักบงกชมารของพวกเจ้าไม่เข้าใกล้ชาย เพราะเหตุใดพวกเจ้าจึงเกลียดแค้นผู้ชายเพียงนั้น? หรือมันเกี่ยวข้องอะไรกับหญิงชราในสำนักของพวกเจ้า?”

        หลงหลิงเหลือกตาใส่เขา “ข้าไม่รู้จักสำนักบงกชมารอะไรนั่นหรอก ข้าจะบอกให้ เวลาเดินหัดระวังหน่อย สังเกตให้มาก พูดให้น้อยหน่อย ข้าไม่อยากให้เจ้าตายระหว่างเดินทาง”

        …

        ในเทือกเขาหยุนหลัว มีภูเขารายล้อม ยิ่งไปกว่านั้น ภูเขาบางลูกสูงจนคล้ายเชื่อมเข้ากับท้องฟ้าแล้ว สูงจนมองไม่เห็นที่สิ้นสุด อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเน่าเสีย หลงเหยียนจับมือหลงหลิง แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปในป่าลึก

        “ดูเหมือนที่นี่มีแต่ป่ารกร้างที่กว้างสุดลูกหูลูกตา มีเพียงธาตุพลังจากธรรมชาติที่ช่วยให้พละกำลังของเขาเพิ่มเร็วขึ้น เมื่อไรที่ข้าฝึกจนถึงระดับชีพมังกรขั้นที่ห้า จึงจะเอาชนะหลงอวี่ซีได้ ทำให้นางไม่กล้าดูหมิ่นข้าอีก พละกำลังคือตัวชี้วัดทุกสิ่ง คือสิ่งที่จะยืนยันการมีตัวตนของข้า”

        หลงหลิงหยุดเดินกะทันหัน “เวลาสิบวัน? นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือ สถานที่เล็กๆ เช่นที่นี่ไม่มีทางมีธาตุพลังระดับสูงหรอก”

        “นี่เจ้ากำลังทำลายความหวังข้า? ตอนนั้นข้าใช้เวลาแค่หนึ่งวันในการขึ้นไปถึงขั้นที่สอง และตอนนี้ข้าอยู่ในเทือกเขาหยุนหลัว ย่อมมีโอกาสมากกว่าอยู่แล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะถอดใจหรือ คนเราอย่าด่วนตัดสินใคร สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร หากไม่มีความหวังแล้วจะสู้ต่อได้อย่างไร ขอแค่ยืนในจุดที่สูงจึงจะได้ยินเสียงปรบมือเยินยอ จึงจะได้รับการเคารพนับถือ ข้าไม่มีทางถอดใจหรอก ไม่มีทาง เพราะข้าคือหลงเหยียน คือคนรุ่นต่อไปของตระกูลหลง”

        เขามองไปเบื้องหน้า แล้วคำราม “ถ้าข้ายังไม่สามารถกำราบที่นี่ได้ แล้วข้าจะเอาอะไรไปกำราบคนที่เคยรังแกข้า ข้าจะลบคำสบประมาทได้อย่างไร!” เขาคำรามด้วยความโมโห ปลดปล่อยความในใจออกมาจนหมดสิ้น

        ลำแสงที่ร้อนแรงประกายจากดวงตาหลงเหยียน นั่นก็คือพลังแห่งความไม่ยอมแพ้

        หลงหลิงส่ายหน้า “ดูเหมือนเจ้าหมอนี่จะบ้าไปแล้วจริงๆ”

        หลงเหยียนมองนาง “จริงด้วย เมื่อครู่เจ้าบอกว่าที่นี่ไม่มีทางมีธาตุพลังระดับสูง คำนี้หมายความว่าอย่างไร?”

        “ฮ่าๆๆ แค่ดูก็รู้แล้วว่าเจ้ามันเป็นกบในกะลา เกรงว่าเจ้าคงไม่เคยเดินออกจากเมืองนี้มาก่อนเลยใช่หรือไม่ โลกนี้กว้างใหญ่ เพื่อตามหาเขา ข้าเคยท่องไปยังที่ต่างๆ เดินไปทั่วสามแดนเก้าพิภพ ที่นั่นมีเทือกเขาที่ทอดยาว ทุกที่ล้วนกว้างใหญ่กว่าที่นี่ คล้ายเป็นป่าของพวกมารอสูร ที่นั่นเป็นแดนของสัตว์เทพระดับสูง เป็นที่จองจำวิญญาณจำนวนมาก หากได้รับการถ่ายทอดจากผู้แข็งแกร่งระดับสูง ชะตาก็จะเปลี่ยนไปทันที แถมยังมีอาณาจักรแห่งท้องทะเล ในนั้นมีวิญญาณสัตว์ปีศาจ จุดรวมพลังของพวกเขาเป็นเหมือนยาบำรุงชั้นเลิศ สุดขอบฟ้าที่แห้งแล้งยังมีที่อาศัยของคนอสูร พวกเขาสามารถฝึกพลังเหมือนมนุษย์ มีพละกำลังที่แข็งแกร่ง หากชิงธาตุพลังของพวกเขาได้ พละกำลังจะเพิ่มทวีคูณ ที่ข้าพูดมา มีอะไรบ้างที่ไม่ใช่ยาบำรุงพลัง พวกเขาเข่นฆ่ากันเพื่อแย่งชิง อาศัยพลังคนอื่นมาเลื่อนขั้นพลังตัวเอง เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองด้วยชีวิตคนอื่น โลกภายนอกนั้นโหดร้ายมาก เป็นโลกที่เหนือจินตนาการเจ้า”

        หลงเหยียนผงะไป แล้วส่ายหน้าเล็กน้อย เขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

        “นี่เจ้า… เจ้าเห็นข้าเป็นเด็กสามขวบหรือ จะหลอกใครก็หัดศึกษามาด้วยสิ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้ากล้าขโมยคัมภีร์ออกมาจากสำนักบงกชมาร เจ้ารู้ไหม แคว้นหลงอู่ที่นั่นแข็งแกร่งแค่ไหน ยอดฝีมือระดับชีพมังกรขั้นที่เก้ามีมากโข เล่ากันว่าในเมืองหยุนจงยังมีผู้แข็งแกร่งระดับชีพสวรรค์ นั่นเป็นถึงบุคคลยิ่งใหญ่เสมือนเทพเจ้าเชียวนะ”

        หลงหลิงทำหน้าเบี้ยว…

        “พูดเล่นยังน้อยไป ข้าจะบอกให้ แคว้นเล็กๆ อย่างแคว้นหลงอู่น่ะ ในสายตาข้า แค่เป่าทีเดียวก็สลายหายไปหมดแล้ว แคว้นเล็กๆ แห่งนี้ก็เป็นเหมือนมดตัวน้อยในโลกที่แสนกว้างใหญ่ และโลกที่กว้างใหญ่ในที่นี้ก็เป็นเหมือนพื้นที่เล็กๆ ในสามแดนเท่านั้น เก้าพิภพกว้างใหญ่ยิ่งกว่า เจ้าเข้าใจที่ข้าพูดไหม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่จริงๆ”

        “ช่างเถิด ช่างเถิด ข้าพูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ ไม่ว่าอย่างไรชีวิตนี้เจ้าก็คงไม่มีโอกาสก้าวเข้าไปถึงตำแหน่งที่สูงแบบนั้นหรอก”

        หลงหลิงพูดจบก็เดินไปด้านหน้า หลงเหยียนชะงักไป มองแผ่นหลังของหลงหลิง จู่ๆ ก็เพิ่งพบว่านางรู้อะไรมากมาย หรือว่านางจะไม่ใช่คนที่นี่?

        ทันใดนั้น หลงเหยียนก็นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ตนช่วยชีวิตนาง นางบอกว่าตัวเองป่วยหนัก ทั้งที่สิ้นลมหายใจแล้ว แต่กลับยังรอดชีวิต อีกทั้งหลายวันที่อยู่ร่วมกันมา มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นมากมาย นางกลับไม่รู้จักสำนักบงกชมาร และไม่เคยพูดถึงวิชากายสุริยะที่เป็นคนมอบให้ตนมาก่อนด้วย หลงเหยียนเกิดความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ สรุปแล้วไป๋รั่วอีใช่ตัวนางจริงหรือไม่ หรืออาจเป็นคนอื่น?

        เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลงเหยียนก็ตกใจ เหงื่อไหลท่วมตัว…

        “นี่ เจ้ารอข้าก่อนสิ” หลงเหยียนเดินตามไป

        “พูดมาตามตรงนะ เรื่องที่เจ้าพูดเป็นแค่เรื่องที่เจ้าแต่งขึ้นมาเองใช่หรือไม่ แค่เป่าแคว้นหลงอู่ก็สลาย มันเป็นทักษะขั้นไหนกัน เรื่องที่เจ้าแต่งมาดูเหลือเชื่อกว่าข้าอีก! ถ้ามีจิตที่แกร่งกล้าเช่นนั้นจริง เพราะเหตุใดต้องมาหนีสัตว์ป่าอย่างอนาถในป่าแห่งนี้ล่ะ”

        หลงหลิงหันกลับมา แล้ววางมือไว้บนไหล่เขา “เจ้าหนุ่ม เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ ไว้มีโอกาส ข้าจะบอกเจ้าเองว่าเหตุอันใดข้าจึงมาที่นี่”

        ——————–

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

Status: Ongoing
ในช่วงเวลาคับขันของชีวิตมักทำให้ได้พบกับสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนไว้อยู่เสมอ ในชีวิตของ ‘หลงเยียน’ ผู้ไร้พลังวิญญาณก็เช่นกัน การพลัดตกลงเหวลึกทำให้เขาค้นพบกับซากอสูรมังกรสิ้นชีพ โดยพลังจากชิ้นส่วนวิญญาณมังกรเพียงเสี้ยวเดียวก็สามารถทำให้เขามีพลังวิญญาณยุทธขึ้นมาได้ มันจึงเป็นที่มาของการก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการพิสูจน์ตัวตนโดยมีตำแหน่งจอมยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานเป็นเดิมพัน! เขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการรวบรวมลูกแก้วแห่งมังกรหกลูกที่กระจายอยู่บนโลกอันกว้างใหญ่ หากเขาสามารถรวบรวบพลังวิญญาณมังกรทั้งหมดไว้ได้ หนทางสู่การเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งดินแดนจักรพรรดิมังกรก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท