หลงเหยียนมองนาง แล้วคำนวณในใจ ‘ดูเหมือนการที่ข้าจะแกร่งขึ้นก็ไม่ใช่ความฝันลมๆ แล้งๆ อีกต่อไปแล้ว เมื่อมีเทพหญิงที่จิตแกร่งขนาดนี้อยู่ข้างกาย มีหรือที่พลังของบิดาจะอยู่กับที่ อีกหน่อย หน้าที่หาหญ้าวิเศษก็มอบให้เป็นหน้าที่นางแล้วกัน’
เดินหน้าไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เขาก็เห็นชัดแล้ว ปิดความตื่นเต้นไม่อยู่ “หา… นั่นมันหญ้าคืนชีพนี่”
ตำราในตระกูลหลงมีบันทึกถึงหญ้าวิเศษหลากหลายชนิด ในบันทึกบอกว่าหญ้าคืนชีพเป็นหญ้าเศษระดับเหลืองกลาง เล่ากันว่ามันเป็นหญ้าวิเศษที่หายากมาก เป็นหญ้าที่ดูดซึมธาตุพลังจากฟ้าดิน คล้ายมีจิตวิญญาณเช่นนั้น เหนือหัวมีหงอนคล้ายหงอนไก่ มีหางที่มักหมุนเปลี่ยนไปตามทิศทางดวงอาทิตย์ มันเป็นยาบำรุงร่างกายชั้นเลิศสำหรับหลงเหยียน และเมื่อเข้าใกล้ หญ้าคืนชีพจะหนีทันที
หลงเหยียนโน้มตัวลงต่ำ เข้าไปใกล้หญ้าฟีนิกซ์อย่างไม่รีบร้อน จะปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้ ไม่นานหญ้าคืนชีพก็พบหลงเหยียน ใบและดอกที่คล้ายหงอนไก่เริ่มเคลื่อนไหว
“แย่แล้ว มันคิดจะหนี”
หลงหลิงยื่นมือไปจับเขา “ไม่ต้องตาม จากที่ข้าสัมผัสแล้ว มันไม่หนีหรอก”
“เชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว” หลงเหยียนตื่นตระหนก ระเบิดความเร็วพุ่งออกไปทันที วิ่งตรงเข้าไปหาหญ้าคืนชีพ
ไม่นานเขาก็พุ่งตามหญ้าคืนชีพเข้าใต้หุบเขาที่ลึกลงไป รอบด้านเต็มไปด้วยต้นหญ้าแห้งเหี่ยว ส่วนหญ้าคืนชีพนั้นได้ซ่อนตัวกลางพุ่มหญ้าเรียบร้อยแล้ว
“เชื่อฟังหน่อยน่า ช่างน่าประหลาดเสียจริง นี่ข้ากำลังเล่นซ่อนหากับต้นหญ้าหรือนี่”
“ช้าก่อน จะเข้าไปอีกไม่ได้แล้ว” หลงหลิงจับหลงเหยียนเอาไว้ ข้างหน้าอันตราย
พวกเขาสองคนคลานบนพื้น ตรวจสอบรอบข้างอย่างเงียบๆ ทันใดนั้นพื้นก็สั่นสะเทือน กลางทุ่งหญ้าแห้งเหี่ยว หญ้าคืนชีพยืดตัวตรง
“โฮก!”
เสียงสัตว์อสูรคำรามติดต่อกันหลายครั้ง ไม่นานสัตว์ป่าก็พุ่งออกมา มันมีเขี้ยวแหลมคม เสียงหายใจดูรุนแรง พวกมันล้อมหญ้าคืนชีพเอาไว้ตรงกลาง
“หา… นั่นมันตัวอะไร?” สัตว์อสูรสี่ตัว ร่างกายสีน้ำตาล ทุกตัวมีความยาวประมาณสองเมตร ปากแหลมยาว มันสามารถอ้าปากได้กว้างมาก เขี้ยวที่แหลมคมปรากฏ ท่าทางดุร้ายเอาการ
หลงหลิงกดหน้าลงต่ำมาก
“ห้ามส่งเสียงดังนะ มันคือปีศาจหมาป่าจันทรา ประสาทการรับรู้ต่อกลิ่นและเสียงเป็นเลิศ”
“โฮก!” เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง รังสีสังหารบนตัวถูกปล่อยออกมาทั้งหมด หลงเหยียนกลัวมาก ปีศาจอสูรปรากฏตัว เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นของความตาย หรือตนเพิ่งพบหญ้าวิเศษก็ต้องปล่อยไปให้ปีศาจอสูรพวกนี้เอาไปครองแล้วหรือ?
ถ้าไม่มีหญ้าวิเศษ พละกำลังของเขาจะสูงขึ้นได้อย่างไร? การรับรู้ที่เป็นเลิศ หลงเหยียนใช้พลังวิญญาณสัมผัสดูแล้ว ปีศาจหมาป่าจันทรามีพลังอยู่ระดับเหลืองขั้นที่สี่
และนั่นก็หมายความว่า ปีศาจตัวนั้นมีพละกำลังเหนือกว่าเขามาก ระดับการบำเพ็ญของปีศาจอสูร เทียบเท่าระดับการฝึกพลังของมนุษย์
‘จะทำเช่นไรดี ต่อให้มีกายสุริยะช่วยปกป้องร่างกาย แต่ต้องถูกเขี้ยวแหลมนั่นเคี้ยวแหลกแน่ อย่างไรเสียข้าก็ยังมีความหวัง เสี่ยงตายดูสักครั้งแล้วกัน นี่เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่ข้าเหลือแล้ว’
หากไม่ลองเสี่ยงชีวิต ชีวิตก็คงจบเห่ นี่คือความคิดเดียวในหัวของหลงเหยียน
เมื่อนึกถึงข้อนี้ หลงเหยียนก็เตรียมพุ่งเข้าไปชิงหญ้าวิเศษ ทว่ากลับถูกหลงหลิงห้ามไว้ก่อน
“ช้าก่อน เจ้าจะใจร้อนไปไหน เจ้าอยากตายแล้วหรือ ข้าลืมบอกเจ้าไป เจ้าเห็นรอบๆ ตัวหญ้าคืนชีพไหม ข้าสัมผัสได้ว่ายังมีหญ้าวิเศษอีกสองต้น เจ้าลองหาดู”
เป็นอย่างที่หลงหลิงคิด เขาพบหญ้าวิเศษอีกสองต้นจริงด้วย มันอยู่ในตำแหน่งที่พิเศษมาก นั่นคือดอกราตรีเก้าหางและเซียนธารา
“พระเจ้า!” หลงเหยียนตื่นตระหนก เขาเก็บความตะลึงไว้ไม่อยู่
“โฮก!” และนั่นก็เป็นเหตุทำให้หมาป่าจันทราพบการเคลื่อนไหวของหลงเหยียน
กลิ่นอายพลังที่พุ่งทะลุเข้ามาทางพวกเขา
หลงเหยียนอยากตายเสียตั้งแต่วินาทีนี้ “สามต้นเชียวนะ หญ้าวิเศษทั้งหมดสามต้น เซียนธาราสามารถช่วยบำรุงกระดูกของผู้ฝึกพลังได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผิวพรรณผ่อง ส่วนดอกราตรีเก้าหางคือพืชที่มีธาตุพลังช่วยสร้างความสมดุลของพลังปราณในกาย”
แต่ตอนนี้หมาป่าจันทราสี่ตัวกำลังเข้าใกล้ หลงเหยียนจึงรู้สึกสะอึกในใจ
เวลานี้ จู่ๆ ก็มีกลิ่นอายที่ป่าเถื่อนพุ่งเข้ามาทางนี้เช่นกัน
หลงเหยียนสามารถสัมผัสได้ถึงรังสีที่แข็งแกร่ง ต่อให้จะยังอยู่ห่างกันมาก
“ห้ามขยับ ดูเหมือนจะมีสัตว์อสูรอื่นมาชิงหญ้าวิเศษแล้ว”
หลงเหยียนหมอบลงพื้น จ้องไปยังตรงหน้าอย่างระมัดระวัง เป็นอย่างที่คิด เสือที่มีเขาอยู่บนหัวเดินออกมาจากพุ่มหญ้า รังสีสังหารเย็นยะเยือก ดูน่าเกรงขาม ตัวสีแดง บนหัวมีลายเสือสามเส้น ตัวยาวประมาณสามเมตร
หมาป่าจันทราสี่ตัวสัมผัสได้ถึงการมาของมันเช่นกัน พวกมันระวังตัวมากขึ้น เดินถอยหลังเล็กน้อย จ้องไปทางพยัคฆ์เขาเดียวตรงหน้าด้วยสายตาดุร้าย
“นี่มัน… นี่มันปีศาจพยัคฆ์เขาเดียวในตำนาน…” หลงเหยียนอึ้งทันทีที่เห็น
วิญญาณที่แข็งแกร่งไม่อาจสัมผัสถึงระดับของปีศาจอสูรตัวนี้ คาดว่ามันต้องมีพลังสูงกว่าตนมาก
“ระวังด้วย มันคือปีศาจอสูรขั้นห้า พวกเราซ่อนอยู่ตรงนี้ก่อนดีกว่า รอพวกมันต่อสู้กันแล้ว พวกเราค่อยแอบชิงหญ้าวิเศษหนี” หลงเหยียนหันมามองหลงหลิง แล้วพยักหน้า
“โฮก!” พยัคฆ์เขาเดียวส่งเสียงขู่ดังสนั่น ขาหลังเริ่มออกแรง นี่คือวิธีการโจมตีของมัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ ผู้กล้าจะเป็นฝ่ายชนะ
ระหว่างปีศาจอสูรไม่จำเป็นต้องมากพิธี ถ้าจะสู้ก็สู้กันเลย พยัคฆ์เขาเดียวมีร่างใหญ่ มันกระโจนพุ่งเข้าไปทางหมาป่าจันทราสี่ตัว พยัคฆ์เขาเดียวมีร่างใหญ่ทว่ากลับเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว จากนั้นปีศาจอสูรทั้งห้าตัวก็ฟัดเหวี่ยงกันอย่างดุดัน ต่างก็เผยธาตุแท้ของอสูรออกมาจนสิ้น
ทว่าหมาป่าจันทราก็ว่องไวมากเช่นกัน แค่พริบตาเดียว พยัคฆ์เขาเดียวก็ใช้กรงเล็บของตนกดหมาป่าจันทราเอาไว้บนพื้น ใช้เขาเดียวของตนแทงทะลุผิวหนังมัน เลือดสาดพุ่งไปทั่ว หมาป่าจันทราสามตัวที่เหลือไร้ซึ่งความกลัว คล้ายไปกระตุ้นต่อมสังหารของพวกมันแล้วเช่นนั้น
“พละกำลังของพยัคฆ์เขาเดียวระดับห้ากับหมาป่าจันทราระดับสี่สี่ตัวต่างกันมากขาดนั้นเลยหรือ?” หลงเหยียนรู้สึกเสียวสันหลัง หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวหลิงลากตนไว้ ต่อให้มีวิชากายสุริยะช่วย แต่เวลานี้ตนคงกลายเป็นศพไปแล้ว การโจมตีของพวกมันดุดันมาก ยิ่งไปกว่านั้น หลงเหยียนยังสัมผัสได้ว่า การโจมตีของหมาป่าจันทราจะเหมือนกันทุกครั้ง และนั่นก็เป็นทักษะการต่อสู้ของปีศาจอสูร
“พล่ามน่ะ พวกปีศาจอสูร การเปลี่ยนแปลงทุกระดับชั้นของมันยากลำบากมาก ถ้าเป็นสัตว์ป่าทั่วไปก็แล้วไป แต่พวกปีศาจเกิดมาพร้อมประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยม มีความคิดที่ว่องไวเป็นพิเศษ”
เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ หมาป่าจันทราอีกสองตัวก็ถูกพยัคฆ์เขาเดียวฆ่าตายพร้อมกัน ตัวหนึ่งถูกถลกหนัง ส่วนอีกตัวถูกเขากดลงพื้น พยัคฆ์เขาเดียวร่างใหญ่อ้าปากปรากฏเขี้ยวแหลม กัดหัวหมาป่าจันทราจนแหลก
วินาทีนั้นทำให้หลงเหยียนมิอาจทนเห็นสภาพนั้นได้จริงๆ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว หลงเหยียนรู้สึกว่าเกิดเป็นปีศาจนั้นแสนอนาถ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพละกำลังเท่านั้น เมื่อแข็งแกร่งก็เท่ากับเป็นใหญ่
ยังเหลือหมาป่าจันทราตัวสุดท้าย มันคำรามขู่ ก่อนจะถอยหลังสองสามก้าว หลงเหยียนคิดว่าเหลือมันแค่ตัวเดียว สุดท้ายต้องเลือกหนีเอาชีวิตรอดแน่นอน แต่ทันใดนั้นหมาป่าจันทราก็กระโจนเข้าไปอีกครั้ง
พยัคฆ์เขาเดียวปล่องรังสีแห่งความโหดเหี้ยม ร่างกะพริบ ความเร็วของมันปานสายฟ้า ก่อนจะปรากฏตัวกัดที่คอหมาป่าจันทรา เมื่อร่างของหมาป่าจันทราร่วงลงบนพื้น มันก็สิ้นลมหายใจแล้ว
“โฮก!” พยัคฆ์เขาเดียวส่งเสียงคำรามอีกครั้ง จากนั้นก็หันมามองพุ่มหญ้าทางหลงเหยียนกับหลงหลิงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปหาหญ้าวิเศษทั้งสามต้น ร่างและรังสีที่แผ่กระจายออกมาแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ที่มันมี
พยัคฆ์เขาเดียวทำจมูกฟึดฟัดหลายครั้ง คำรามเสียงดังอย่างต่อเนื่อง ดูออกได้เลยว่าเวลานี้มันตื่นเต้นมากเพียงใด ร่างกระตุก จากนั้นก็ดูดธาตุพลังจากต้นหญ้าคืนชีพที่กลัวจนสั่น แล้วเดินจากไป
มันไม่แม้แต่จะมองต้นหญ้าวิเศษที่เหลืออีกสองต้นเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่ามันจากไปแล้ว หลงเหยียนตื่นเต้นมาก ยังดีที่มันเหลือหญ้าวิเศษไว้สองต้น ในเมื่อเป็นเดรัจฉาน มันไม่รู้จักการหลอมหญ้าวิเศษ มากสุดก็แค่กลืนกินเข้าไปเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย ไม่ได้ให้การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่นัก หลงเหยียนจึงรู้สึกเสียดายมาก
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลงเหยียนก็ตื่นเต้นมากกว่าเดิม เขาทนรอไม่ไหวแล้ว
“เสี่ยวหลิง ปีศาจอสูรไปแล้ว เร็ว พวกเรารีบไปชิงหญ้าวิเศษอีกสองต้นที่เหลือกันเถิด”
“เฮ้อ เกรงว่ามันคงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น…”
หลงหลิงยังพูดไม่ทันขาดคำ หลงเหยียนก็ทนรอไม่ไหว พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วประดุจลูกธนู
มือเพิ่งยื่นไปคว้าต้นหญ้า ทันใดนั้นเบื้องหลังก็มีเสียงคำรามดังขึ้น…
“โฮก!” พยัคฆ์เขาเดียวเดินออกมาจากกลางพุ่มหญ้า
——————–