มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน – ตอนที่ 23 ข้าจะปกป้องเจ้าเอง

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

        หลงเหยียนระเบิดคำราม ทันใดนั้น หยกรูปมังกรในร่างกายหลงเหยียนเริ่มสั่นอย่างรุนแรง คล้ายรอบตัวมีของบางอย่างปนกลิ่นอายที่คุ้นเคยทำให้มันตื่นตระหนก

        “นี่…”

        หลงเหยียนดีใจจนพูดไม่ออก เขาจำได้ว่าตอนนั้นชายชราเคยบอกว่า หยกมังกรในร่างกายเขาสามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณมังกร มันจะเป็นเหมือนตัวนำทาง ช่วยให้รวบรวมเศษวิญญาณมังกรทั้งหมดได้ครบ

        “บ้าคลั่งไหมเล่า ทำให้พลังข้าบ้าคลั่งมากกว่านี้สิ” วินาทีนั้นเอง พลังปราณทะลุผ่านร่างกายหลงเหยียน หยกมังกรดูดรวบรวมเศษวิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่รอบๆ

        ในเมื่อได้รับการสืบทอดวิญญาณมังกรบนเขาหยุนอู่แล้ว เช่นนั้นการพบเศษวิญญาณมังกรในเวลานี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

        อนาคอนดาม้วนรัดตัวหลงเหยียนลอยขึ้นสูง มันกดหน้าลง เขี้ยวแหลมกำลังเลื่อนเข้ามาประสานกัน ร่างขนาดใหญ่บีบรัดหลงเหยียนไว้ตรงกลาง สถานการณ์ในตอนนี้อันตรายมาก

        “โครม!” ทันใดนั้นพื้นก็สั่นสะเทือน ก่อนที่วิญญาณมังกรที่ร่างใหญ่กว่าเงามังกรที่ตนพบก่อนหน้านั้นผุดขึ้นมาจากใต้พื้น จากนั้นก็ทะยานขึ้นฟ้า รังสีที่มหาศาลก็พุ่งเข้าสู่ร่างกายหลงเหยียน คล้ายเป็นน้ำที่ทะลักเขื่อนเช่นนั้น

        วิญญาณมังกรในร่างกายหลงเหยียนและเสี้ยววิญญาณมังกรประสานกัน ทำให้ดูแข็งแกร่งมากกว่าเดิม เขารู้สึกได้ว่าพลังที่อยู่ในร่างกายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

        “ทำลายกายสุริยะ” หลงเหยียนระเบิดคำราม แล้วเขี้ยวที่แหลมคมก็กำลังประสานกัน

        “ตูม!” หลงเหยียนใช้มือโจมตีอนาคอนดา จับเขี้ยวของมันเอาไว้แน่น

        อยู่ระหว่างความเป็นและความตาย พลังปราณในร่างกายหลงเหยียนลดลงอย่างรวดเร็ว

        หลงเหยียนคาอยู่กลางปากอนาคอนดา

        “อะไร? อนาคอนดาตัวนี้มีพลังอยู่ระดับที่หก หรือว่าพละกำลังของมันน่ากลัวขนาดนี้เชียวหรือ” สุดท้ายแล้วเขาก็หนีออกจากปากอนาคอนดาไม่สำเร็จ

        ครั้งนี้หลงเหยียนสิ้นหวังแล้ว จิตใจหมองหม่น ทันใดนั้นก็พบเงาของใครอยู่เบื้องล่าง “นี่เจ้าบื้อ เพราะอะไรถึงไม่รีบหนีเล่า รีบไสหัวไปเร็ว ข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้วนะ”

        “เจ้าอยากตายมิใช่หรือ งั้นข้าจะร่วมตายกับเจ้าเอง” หลงหลิงร้องตะโกน ไม่ได้จากไป ทว่ารอบตัวนางกลับถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาว ร่างกายค่อยๆ ลอยขึ้น ทันใดนั้น เงาสีขาวก็ลอยออกจากร่างไป๋รั่วอี เป็นเงาของสตรีที่งดงามไร้ที่ติ

        วินาทีนั้น หลงเหยียนเบิกตาโต สตรีที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาว เผยรังสีของความยิ่งใหญ่และสูงส่ง ผิวพรรณผุดผ่องเสมือนเป็นความฝัน สว่างแวววาวคล้ายอัญมณีสีใส นางลอยอยู่ตรงข้ามหลงเหยียน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังส่งยิ้มมาให้เขา

        นิ้วที่เรียวงามขยับ ฟิ้ว… ละอองแสงสีขาวพุ่งทะลุลวงเข้าไปทางอนาคอนดา

        วินาทีนี้ สติหลงเหยียนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว เขี้ยวแหลมหล่นลงประสานกัน…

        หลงเหยียนรู้สึกเหมือนร่างกายถูกโจมตีครั้งรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความเจ็บปวดกระจายไปทั่ว

        ส่วนละอองแสงนั้นพุ่งเข้าไปในร่างกายอนาคอนดา ทันใดนั้น ร่างกายมันก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรง อ้าปากปล่อยหลงเหยียนออกมา ตูม… หล่นลงพื้น

        หลงเหยียนทนความเจ็บ เงยหน้าขึ้นมองร่างอนาคอนดาที่กำลังบิดเบี้ยว ภาพตรงหน้าทำให้เขาตกตะลึง

        เขาไม่ได้ตกตะลึงกับอนาคอนดาที่กำลังบิดตัวไปมา แต่เป็นหญิงโฉมงามกลางแสงสว่างที่ไม่จางไปจากหัว

        ร่างที่งดงามไร้ที่ติลอยอยู่กลางอากาศ กลิ่นหอมโชยไปทั่ว แววตาเยือกเย็น หลงเหยียนกำลังจ้องไปที่นาง นัยน์ตาจ้องไปที่ขาเรียวยาวและขาวผ่อง สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ อีกเสี้ยวเดียวเขาก็คงถูกอนาคอนดากัดกินแล้ว

        เพียงแค่แสงสว่างที่ปรากฏก็ทำให้หลงเหยียนรู้สึกว่านั่นคือความงดงามที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกใบนี้ และนางก็คือจิตเทพที่ใช้ชีวิตอยู่กับตนมาหลายวัน

        จิตของนางแข็งแกร่งจนสามารถแปลงกายในร่างที่สมบูรณ์ เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย และเมื่อร่างนั้นร่วงลงมา หลงเหยียนทนความเจ็บ กระโดดเข้าไปรับร่าง

        “โครม!” ศพที่ไร้จิตวิญญาณกระแทกลงบนตัวหลงเหยียนอย่างแรง

        ร่างกายที่บาดเจ็บหนักไม่ทันฟื้นฟูกลับเจ็บปวดมากกว่าเดิมหลายเท่า พลังปราณกำลังรักษาบาดแผลในส่วนที่เสียหาย หลงเหยียนนอนอยู่บนพื้น มองอนาคอนดาตัวนั้น ร่างกายหล่นลงสู่พื้นหญ้าผ่านหัวของหลงเหยียนไป แล้วสติของเขาก็เริ่มเลือนราง

        หลงเหยียนใช้มือขวาในการคลานไปด้านหน้า สมองว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะหมดสติไป

        “หลิงเอ๋อ หลิงเอ๋อ…” เขายังเปล่งเสียงเรียกไม่หยุด

        ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร หลงเหยียนรีบลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน

        ฝืนลุกขึ้น หันไปมองซ้ายมองขวา ข้างกายกลับพบเพียงศพของไป๋รั่วอีที่ตายไปแล้ว

        “เสี่ยวหลิง เสี่ยวหลิง เจ้ายังอยู่ไหม เจ้ายังอยู่หรือไม่?” น้ำตาไหลตามใบหน้าลงอย่างช้าๆ

        ศพไร้ลมหายใจ นาทีนี้หลงเหยียนแทบเป็นบ้า

        หลายวันที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับหลงหลิง ภาพเหตุการณ์ของทั้งคู่ยังวนเวียนในสมองเขาซ้ำไปซ้ำมา ทุกคำพูดที่ออกมาจากปากนางยังคงดังกึกก้องในใจ

        “จริงด้วย เสี่ยวหลิงบอกว่าถ้าไม่จำเป็น จิตจะออกจากร่างกายไม่ได้ ถ้าออกมาแล้วจะใช้ได้สูงสุดถึงขั้นที่เก้า เช่นนั้นเงาของนางจะจางหายไป แล้วกลับไปหล่อเลี้ยงในร่างจริงอีกครั้ง”

        “นางต้องยังมีชีวิตอยู่แน่ ต้องไม่จากข้าไปเช่นนี้แน่ บางทีอาจเป็นเพราะนางอ่อนแอมาก…” หลงเหยียนหาเหตุผลมาปลอบใจตัวเอง

        เมื่อนึกถึงหลงหลิงที่ช่วยชีวิตตนในวินาทีสุดท้าย ก่อนที่นางจะหายตัวไป หลงเหยียนก็รู้สึกปวดใจคล้ายหัวใจป่นปี้

        “ข้าไม่เคยเสียใจเช่นนี้มาก่อน ตอนที่ท่านพ่อขับข้าออกจากตระกูลหรือจะเป็นตอนที่ท่านแม่จากไป ข้ายังไม่เสียใจเช่นนี้มาก่อนเลย” ความจริงแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ตัว เวลานี้หัวใจของหลงเหยียนเริ่มมีนางเข้ามาแแล้ว นางที่เป็นเพียงเงาและปรากฏตัวให้เห็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

        “นี่! เป็นถึงชายชาตรี แต่กลับร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าสตรี เจ้าไม่อายบ้างหรืออย่างไร” ด้านหลังหลงเหยียนมีเสียงที่แผ่วเบาดังขึ้น

        หลงเหยียนหันกลับไปมองนาง ทันใดนั้นก็ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก

        “เสี่ยวหลิง เป็นเจ้าจริงๆ เจ้ากลับมาแล้วหรือ”

        “พล่ามน่า ถ้าไม่ใช่เพราะข้าใช้พลังขั้นที่เก้าโจมตีจนอนาคอนดาถอย เจ้าคงถูกมันกินไปนานแล้ว ตอนนี้คงกลายเป็นอุจจาระในท้องมันไปเสียแล้ว”

        หลงเหยียนดีใจอย่างหาใดเปรียบ “เจ้าอ่อนแอมาก มา ข้าแบกเจ้าเอง ขอแค่เจ้าไม่จากข้าไปก็พอ”

        หลงหลิงกัดริมฝีปาก “งั้นพวกเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถิด อนาคอนดาถูกข้าทำร้ายบาดเจ็บ ไปก่อนที่มันจะกลับมา”

        หลงเหยียนพยักหน้า แล้วลุกขึ้นไปยกหลงหลิงขึ้นหลัง

        “คือว่า… เรื่องในวันนี้ ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้อีกแล้ว ดูเหมือนชาตินี้ข้าคงตอบแทนบุญคุณเจ้าไม่หมด หรือไม่สู้เจ้าอยู่กับข้าไปตลอดเลยดีหรือไม่ ให้ข้าได้ตอบแทนเจ้า”

        ด้านหลังกลับเงียบไป ไม่มีเสียงตอบรับ

        “หืม หลับไปแล้วหรือ ดูเหมือนนางคงอ่อนแรงมากจริงๆ”

        เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แสงอาทิตย์ส่องลอดเข้ามาได้แค่เล็กน้อย ต้นไม้และใบไม้ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ทำให้ในนี้ชื้นและเย็นมาก

        เทือกเขาหลัวหยุน ศพเกลื่อนพื้น หลงเหยียนที่ผ่านวิบากความเป็นความตายมาก่อน สุดท้ายวางหลงหลิงไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่

        กลางมือรวบรวมพลังปราณเอาไว้ วางลงบนหลังนางอย่างแผ่วเบา ทั้งคู่นั่งขัดสมาธิ ก่อนที่หลงเหยียนจะส่งไออุ่นระลอกหนึ่งเข้าสู่ร่างกายนาง ทว่าไม่นานพลังปราณก็หายไป

        “เจ้าบื้อ ข้าเป็นแค่จิต ทำแบบนี้ไปก็ไม่มีความหมายหรอก รีบทำเวลาเถิด เลื่อนระดับพลังของเจ้าดีกว่า นั่นจึงจะเป็นเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่” หลังจากพูดจบ หลงหลิงก็ก้มหน้าลง จมเข้าสู่ห้วงแห่งการหลับใหล

        “เฮ้อ ดูเหมือนร่างกายเจ้าจะอ่อนแรงมากเหลือเกิน ช่างเถอะ รอให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นก่อน ตอนนี้มีหญ้าวิเศษถึงสามต้น แถมยังได้เสี้ยววิญญาณมังกรมาอีกส่วนหนึ่ง เชื่อเถิด ข้าต้องแกร่งขึ้นกว่าเดิมให้ได้ ข้าเป็นถึงชายชาตรี ข้าต้องปกป้องเจ้าได้แน่”

        ——————–

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

มหาพิภพ เทพมังกรสยบราชัน

Status: Ongoing
ในช่วงเวลาคับขันของชีวิตมักทำให้ได้พบกับสมบัติล้ำค่าที่ซ่อนไว้อยู่เสมอ ในชีวิตของ ‘หลงเยียน’ ผู้ไร้พลังวิญญาณก็เช่นกัน การพลัดตกลงเหวลึกทำให้เขาค้นพบกับซากอสูรมังกรสิ้นชีพ โดยพลังจากชิ้นส่วนวิญญาณมังกรเพียงเสี้ยวเดียวก็สามารถทำให้เขามีพลังวิญญาณยุทธขึ้นมาได้ มันจึงเป็นที่มาของการก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการพิสูจน์ตัวตนโดยมีตำแหน่งจอมยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานเป็นเดิมพัน! เขาต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการรวบรวมลูกแก้วแห่งมังกรหกลูกที่กระจายอยู่บนโลกอันกว้างใหญ่ หากเขาสามารถรวบรวบพลังวิญญาณมังกรทั้งหมดไว้ได้ หนทางสู่การเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งดินแดนจักรพรรดิมังกรก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท