ถึง 12 อัครสาวกปริศนา ‘สตรีสวรรค์’ มีอา จะดันหลุดรอดหนีไปได้ แต่พวกเราก็จัดการยึดเมืองได้สำเร็จอยู่ดี
ผู้รอดชีวิต? มีบ้างมั้ยเหรอ? ฉันฆ่าพวกมันไปหมดแล้วล่ะ
แล้วก็ จากตรงนี้ พวกเราก็เคลื่อนทัพต่อไปยังเมืองหลวง ระหว่างทางก็ทำลายเมืองที่เคลื่อนทัพผ่าน กับเก็บเอาชีวิตของมนุษย์ในเมืองนั่นไปด้วย
…หลังจากนั้น เวลาผ่านไป 1 เดือนหลังจากการบุกโจมตีอาณาจักรอัลเวร่าเริ่มต้นขึ้น
“เอาล่ะ พวกนายทุกคน การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว ฉันทำลายป้อมปืนใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ไปแล้ว พวกนักเวท ผู้คุ้มครอง ผู้วิเศษ ฝากด้วยนะ ลีน”
“ค่าาาา รับทราบค่ะ”
ในที่สุด พวกเราก็มาถึงศึกตัดสิน ณ เมืองหลวงของอาณาจักรอัลเวร่าซะที
สมกับเป็นเมืองหลวงล่ะนะ ใช้เวลานานเลยกว่าจะเจาะบาเรียนั่นได้
ผู้คุ้มครองทั้งหมดของเราได้ระดมพลแล้ว ฉันใช้เวทมนตร์เต็มกำลังร่วมกับการควบคุมสภาพอากาศของคุณเรน นี่ต้องใช้เวลาตั้ง 3 วันกว่าจะเจาะรูบนบาเรียได้ ไอ้บาเรียนี่มันแข็งขนาดไหนกันนะเนี่ย?
เพราะรูบนบาเรียที่เราเจาะได้มีขนาดใหญ่ ทหารระดับกลางหรือต่ำกว่าเลยให้ตั้งทัพรอไว้ก่อน ทหารระดับสูง ฉัน และก็ว่าที่ผู้บริหารอย่างคุณเชอรี่ รวมเป็นจำนวนประมาณ 150 คน ทำการบุกเข้าไปในเมืองภายใต้บาเรียนั่น จัดการพวกผู้คุ้มครองกับผู้วิเศษให้หมด แล้วก็ ทำลายเมจิกไอเท็มที่เสริมแกร่งให้บาเรียนี่ด้วย จะได้ยกเลิกเวทคุ้มครองนี่ ที่เหลือก็จบแล้ว ถึงจะมีบางจุดที่ต่างไปบ้าง แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติดี
“ท่านลีนคะ ช่วยมอบคำสั่งให้พวกเราด้วยค่ะ”
“ค่ะ… ถ้างั้น ฉันกับคุณเชอรี่จะเข้าไปก่อนนะคะ ช่องที่ฝ่าเข้าไปได้มีแค่ช่องเดียว เพราะงั้นจะต้องเจอกับการโจมตีระยะไกลถาโถมมาแน่ค่ะ เริ่มจากการรีบฆ่าพวกนั้นก่อนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่จากนั้น ต้องระวังตัวให้ดีด้วยค่ะ”
“““ครับ/ค่ะ!”””
และแล้ว ศึกตัดสินก็ได้เริ่มขึ้น ――― !
“…ไม่หนำใจเลยน่า”
ผ่านมาแค่ 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ
แค่นั้น เมืองหลวงก็ล่มสลายแล้ว
…ดูเหมือนพวกมันจะคิดว่าเราไม่มีทางพังเวทคุ้มครองได้ ก็เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรเผื่อเอาไว้เลย
โง่ชะมัด การเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดน่ะ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในสงครามนะ แต่พอพวกมันเห็นว่าพวกเราเผ่ามารโจมตีมา ก็เลยคิดดูถูกล่ะมั้ง นี่สมองปลาทองกันหรือไงถึงได้ลืมแล้วว่าพวกเรามีสเตตัสต่างกันขนาดไหน? อะ ไม่สิ แบบนั่นมันหยาบคายกับเผ่ามนุษย์มัจฉามากเลย งั้นก็ สมองมนุษย์จริงๆ เลย
แต่ว่า พวกขุนนางก็ลนลานจากการบุกโจมตีของพวกเรา แถมเจ้าพวกนี้ยังพยายามจะหนีด้วยเหรอเนี่ย? ไม่ต้องฟังแผนจากปาก ยังรู้เลยว่าพวกมันคิดจะทำอะไรกัน คงพยายามจะหนีไปอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เมอร์คิวเรียสผ่านทางแท่นเคลื่อนย้ายนั่นแหละ
คุณเชอรี่คงคาดเอาไว้แล้วล่ะ เพราะเธอบุกเข้าไปในปราสาทก่อนเลย แล้วก็ไปทำลายแท่นเวทเคลื่อนย้ายไปเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้น ไม่มีทางที่ใครจะหนีรอดไปได้แล้วล่ะ
เอาล่ะ หน้าที่กำจัดพวกมนุษย์ที่มีอาชีพทางเวทมนตร์ก็เสร็จแล้ว แถมดูเหมือนฉันจะจัดการคนที่เก่งที่สุด 10 อันดับแรกของประเทศนี้ไปด้วยแล้วล่ะมั้ง ฉันจะพักซักหน่อยแล้วกัน งานที่เหลือก็ปล่อยให้ทหารใต้บังคับของพวกเราจัดการก็พอ
“นะ- นี่เป็นไงบ้างครับ!? เป็นไวน์ชั้นเลิศเลยนะครับ!!”
“นี่แกน่ะ ดูฉันให้ดีๆ ก่อนมั้ย? ฉันดูโตพอจะดื่มแอลกอฮอล์แล้วหรือไง?”
“อึก! ต- ต้องขอโทษจริงๆ ครับ! เดี๋ยวผมนำน้ำผลไม้มาให้…”
“ไม่ต้อง พอที ตายไปได้แล้ว”
“อ๊าก!!”
ตอนนี้ฉันทำอะไรอยู่เหรอ?
ก็กำลังใช้เจ้าพวกชนชั้นสูงมาเป็นโต๊ะกับเก้าอี้ และก็เสิร์ฟของกินเท่านั้นเอง
ของชอบใหม่ของฉันเลย จับพวกคนใหญ่คนโตมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทำเหมือนตัวเองเป็นจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยม สนุกไม่เลวเลยล่ะ
“อ- เออ… ทำแบบนี้แล้ว ผมจะรอด-…”
“เป็นเก้าอี้แล้วพูดได้รึไง?”
“อึก… ม- ไม่ครับ……”
“…ลีน เธอดูชั่วร้ายมากนะตอนนี้”
“อ๊ะ คุณเรน ที่เมืองเป็นไงบ้างแล้วเหรอคะ?”
“จากผลงานของเธอ งานก็เลยเป็นไปได้ด้วยดีทีเดียว ขอบใจเธอมากที่จัดการเก็บพวกคนเก่งๆ ไปซะตั้งแต่เนิ่นๆ ทางนั้นก็เลยราบรื่นสุดๆ”
“เยี่ยมไปเลยสินะคะ ฉันเองก็ไม่อยากให้พวกเราต้องมีใครมาตายเพราะเจ้าพวกนี้เท่าที่จะทำได้ค่ะ”
“…ก็ไม่ได้ดีหรอกนะนั่น ถึงพวกมันจะเป็นมนุษย์ก็เถอะ แต่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ราชินีควรจะทำเลยนะ มองสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเหมือนเป็นแค่สิ่งของชิ้นนึงนะ”
“ขอโทษค่ะคุณเรน แต่ฉันเป็นแค่เจ้าหญิงแวมไพร์เองนะคะ ราชินีน่ะคือคุณแม่ของฉันต่างหาก”
“อ๋อ~ งั้นเหรอ…… เอาเถอะ ยังไงประเทศนี่มันก็จบแล้ว อ่า พอมาคิดๆ ดูแล้ว พวกเชื้อพระวงศ์ไปไหนกันแล้วล่ะ?”
“พวกนั้นเป็นเก้าอี้ที่นั่งไม่ค่อยสบาย ก็เลยทิ้งไปแล้วล่ะค่ะ นั่นไงคะ พวกก้อนถ่านที่กองๆ อยู่แถวๆ นั้น”
“……อ้อ”
พวกนั้นมันร่างกายกรอบแกรบอ่อนแอ นั่งไปแล้วก็ปวดก้น ฉันเลยโมโห เชือดมันทิ้ง แล้วก็เผามันให้เรียบร้อย
“อ่า แต่ว่า ฉันชักจะเบื่อแล้วสิคะ… เอาจริงๆ ฉันก็ไม่ใช่สาย S ซะหน่อย ฉันก็แค่สนุกที่ได้เหยียดหยามพวกมนุษย์ที่คิดว่าตัวเองสูงส่งดีนักเท่านั้นเองค่ะ”
“ฉันว่านั่นแหละที่เขาเรียกว่าสาย S น่ะ”
“ฉันหมายถึง ฉันไม่เคยมีความคิดแบบนี้กับเผ่ามารหรือโยมิเลยนะคะ… เอาล่ะ ขอจัดการให้เรียบร้อยก่อนนะคะ”
“จ้า จ้า!”
“อึม บ๊ายบาย ตู้ม!”
“…เอ๊ะ”
ฉันไม่ต้องการเก้าอี้ตัวนี้แล้ว เลยใช้เวทระเบิดลูกเล็กจัดการระเบิดทิ้งไป
“…ทามาย้า~ …ดอกไม้ไฟบานแล้ว~”
“คำพูดคำจาโหดร้ายจังเลยนะ…”
“จะว่าไป คุณเรนคะ มาที่นี่ มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่าคะ?”
“อ้อ ใช่ ฉันได้รับสายจากท่านจอมมารมา ท่านจะจัดประชุมด่วนของผู้บริหาร ก็เลยมาเรียกตัวทุกคนกลับน่ะ เพราะงั้น อาจจะเร็วไปซักหน่อย แต่เดี๋ยวเธอก็จะได้วันหยุดงานในอาณาเขตเผ่ามารแล้วนะ”
“เอ๋! จริงเหรอคะ! ลักกี้!”
“ไปจู๋จี๋กับโยมิให้หนำใจได้เลยนะ”
“ค่า………หืม? …นี่! พูดอะไรน่ะคะ?!”
พอฉันกับคุณเรนกลับมาถึงปราสาทจอมมาร และเข้ามาในห้องประชุม ทุกคนก็มารวมกันอยู่ก่อนแล้ว
“อะ ลีน กลับมาแล้วเหรอ!”
โยมิต้อนรับฉันด้วยรอยยิ้ม จนเหมือนฉันมองเห็นพลุฉลองลอยอยู่ในอากาศเลย
“……เลอค่า…”
“เอ๊ะ? อะไรเหรอ?”
“อะ ไม่มีอะไร คือเรื่องมัน…”
เกือบไปแล้ว น่ารักจนอยากเอาไว้บูชาเลยค่า
“…ลีน ทำไมไม่นั่งดีๆ ก่อนแล้วค่อยจู๋จี๋กันล่ะ”
“ฉ- ฉ- ฉ- ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ!”
หยาบคายที่สุดเลยค่ะ!
“…พอแล้วๆ ก่อนอื่น เหตุที่เราเรียกพวกเจ้ามานั้น ที่จริง ดูเหมือนว่า ณ ตอนนี้ ผู้กล้ารุ่นปัจจุบันจะได้ถูกส่งตวลงมาในสนามรบเสียที”
ด้วยคำพูดนั้น (ด้วยเหตุผลบางอย่าง) บรรยากาศสบายๆ ในตอนแรกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หน้าทุกคนเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะโยมิ เธอมีหน้าตาที่ถมึงทึงกว่าทุกทีเลย
“เอาเถิดๆ เรื่องนั้นน่ะไม่ต้องเป็นกังวลอะไรแต่อย่างใด”
และแค่ 2 วิ บรรยากาศตึงเครียดก็หายไปเลย
“…ไม่- ไม่ต้องกังวลเหรอคะ…”
“มีอะไรต้องให้พวกเจ้ากังวลด้วยฤ? ผู้กล้ารุ่นปัจจุบันนั้นมีค่าสเตตัสเฉลี่ยยังไม่ถึง 8,000 ดีด้วยซ้ำ อีกทั้งแม้ว่าจะมี 12 อัครสาวกอยู่ถึง 3 คนคอยติดตามไปด้วย แต่ก็เป็นเพียงเหล่าอัควรสาวกลำดับขั้นล่างๆ เท่านั้น นั่นก็ยิ่งไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่เลยแม้แต่นิด เพียงส่งโยมิ ลีน ซากุระ หรือเกรย์ไป จากนั้น ให้ซากุระกางเวทยับยั้งการเคลื่อนย้าย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”
พูดตรงๆ แบบไม่มีช่องให้แย้งเลยค่ะ
…เอาล่ะ ฉันจะฆ่าผู้กล้านั่นให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม
TN: 身も蓋もない (Mi mo futa mo nai) หมายถึง พูดตรงๆ หรือ พูดจาขวานผ่าซาก
อุฮุฮุ ฉันจะฆ่าแกยังไงดีน้า~
จะฆ่าทุกคนรอบตัวแกดี~? หรือจะเหยียบขยี้ไอ้แท่งโสโครกท่อนล่างของแกดี~? หรือจะจับแกเลียพื้นดินจนกว่าจะสะอาดเงาวับดี~? หรือจะค่อยดึงเล็บของแกออกมาทีละเล็บพลางให้แกค่อยๆ นับถอยหลังจาก 1,000 ไปทีละ 7 ดี~? หรือจะค่อยๆ ลอกหนังของแก แล้วเผามันทิ้งเพื่อปิดจ๊อบดี~?
อื้อ~ แต่จับถ่วงให้จมน้ำก็ไม่เลวนะ ทุบมันจนกว่าจะตายก็ใช้ได้… แกจะทนให้ฉันกระทืบได้ใช่มั้ย? ม่าย ม่าย~ อย่าสับสนสิ
“…โอ้~ ลีน? ได้ยินเราไหม?”
“เอ๋!? อะ ขอโทษด้วยค่ะ!”
“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นฤ? เมื่อครู่นั้น มีออร่าทะมึนแผ่มาจากตัวเจ้าเลย ใบหน้าสวยๆ ของเด็กสาวที่กำลังจะได้ไปเที่ยวเล่นเมื่อครู่นี้น่าขนลุกขึ้นมาทีเดียว”
หยาบคายที่สุดเลยค่ะ!!
“…เปล่าค่ะ …คือ ช่างมันเถอะค่ะ… ท่านจอมมารคะ งานสังหารผู้กล้าครั้งนี้ ขอให้ฉันเป็นคนจัดการได้มั้ยคะ?”
“โห? เราไม่มีปัญหาหรอก… แต่น่าแปลกเสียจริงที่เจ้าเลือกงานที่มีเหยื่อให้ไล่ฆ่าจำนวนน้อยแบบนี้”
หยาบคายที่สุดเลยค่ะ!!!
…ก็จริงอยู่ เพราะมันสนุกดีที่ได้ถล่มพวกมนุษย์ในสมรภูมิใหญ่ๆ ฉันเลยขอให้มอบหมายหน้าที่ให้ฉันได้เข้าร่วมในสงครามที่จะได้เชือดมนุษย์เป็นพันเป็นหมื่น แต่ไม่เอาน่า
“ถ้าเช่นนั้น งานสังหารผู้กล้า เราจะมอบหมายให้ลีนเป็นผู้รับผิดชอบ และนี่อาจแปลกเสียหน่อย แต่หัวข้อหลักของการประชุมในครั้งนี้นั้นกำลังจะเริ่มต้นต่อจากนี้”
…ยังมีหัวข้อที่สำคัญกว่าผู้กล้าด้วยเหรอคะเนี่ย?
แหม จะให้ค่ากับผู้กล้านี่น้อยไปแล้วมั้ยคะ?
“แม้ว่าอาจปุบปับไปเสียหน่อย แต่ว่า… เราจะจัดตั้งคณะผู้บริหารตำแหน่งใหม่ขึ้น”
ตำแหน่งใหม่?
“คณะผู้บริหารตำแหน่งใหม่… ต่างจากพวกเรา 12 คนอย่างนั้นเหรอครับ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น บางคนจะถูกดึงตัวมาจากผู้บริหารกลุ่มเดิมด้วย คณะผู้บริหารตำแหน่งใหม่นั้น กล่าวคือ เป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพจอมมารที่เราได้เลือก เหตุนั้นเพราะเหล่าผู้บริหารของกองทัพจะถูกตัดสินด้วยปริมาณผลงานที่ทำต่อกองทัพ แต่ตำแหน่งใหม่นี้จะตัดสินด้วยความสามารถแทน หรือนั่นคือ เป็นการวัดกันที่พลังของปัจเจกบุคคลล้วนๆ”
“ทำไมถึงต้องทำแบบนั้นล่ะคะ?”
“…เหตุผลนั้น เรียบง่าย… เหล่าคนที่เรากำลังจะเอ่ยชื่อมานี้นั้นแข็งแกร่งเกินไป อยู่ในระดับที่เหนือกว่ากรอบของผู้บริหารไปแล้ว ในฐานะผู้บริหาร หากให้คนเหล่านี้มาทำงานตามปกติ ความสามารถที่มีนั้นก็คงเสียเปล่าเป็นแน่ เราตั้งใจจะส่งคนเหล่านี้ไปในสนามรบบ่อยขึ้น และเน้นทำงานแบบใช้แรงมากกว่าแทน”
…หืม? ถ้างั้น ก็แปลว่า……
“…แสดงว่าก็ไม่ต้องมานั่งทำงานเอกสารด้วยใช่มั้ยคะ!?”
“มาคำถามแรกเจ้าก็ถามเรื่องแบบนี้เลยฤ?”
…ย้า!
เลือกฉันด้วยนะคะ! เลือกฉันด้วยนะคะ! เลือกฉันด้วยนะคะ!
ฉันไม่อยากต้องมานั่งจมอยู่ในกองเอกสารนั่นอีกแล้วน้า! พอถล่มประเทศเสร็จที ฉันก็แทบจะต้องตายคาเอกสารรายงานและก็อะไรพวกนั้น ถึงร่างกายฉันจะแข็งแรงพอที่จะไม่ต้องนอนแล้วก็เถอะ! ไม่เอาแล้วน้า!
“เอาเถิด ที่สำคัญคือการเลือกบุคลากร ในด้านการประกาศอย่างเป็นทางการนั้นเอาไว้ในคราหลังก็แล้วกัน… ตำแหน่งที่ 4 เป็นของเกรย์ ตำแหน่งที่ 3 เป็นของซากุระ…”
มาสิ! มาสิ!
“…ตำแหน่งที่ 2 เป็นของลีน ตำแหน่งที่ 1 …หัวหน้าของกลุ่มนี้คือโยมิ เอาตามนี้”
……ย้าาาาาาาา!
“…มีอะไรอย่างนั้นฤ ลีน สีหน้าเจ้าเปลี่ยนไปเป็นร้อยแบบเชียวนะเมื่อครู่นี้… เอาเถิด และด้วยเหตุนี้ พวกเจ้าจะถูกแต่งตั้งเป็นผู้บริหารตำแหน่งใหม่… [ขุนพลจตุเทวอสุรา] แห่งกองทัพจอมมาร อย่าลืมเปลี่ยนฉายาของตัวเองกันเสียด้วย”
“…ตาม …รับสั่ง …ครับ…”
“เดี๋ยวดิฉันไปบอกซากุระอีกทีนึงนะคะ”
“อ่าาา… นี่ฉันไม่ได้ถูกเลือกเหรอเนี่ย~ เอาเถอะ ฉันเองก็อายุมากแล้ว เรื่องนั้นก็คงช่วยไม่ได้ล่ะนะ”
“ก็เรนน่ะแก่ที่สุดในบรรดาพวกเราเลยนี่นา!”
“รูส ออกมานี่ซิ”
“อูว… นี่ ตำแหน่งที่ 1 เลยเหรอ…”
“ไม่เป็นไรนะ โยมิ ฉันจะคอยช่วยเธอจากตำแหน่งที่ 2 เอง”
“ลีน…!”
“อีกอย่าง! ไม่มีงานเอกสารแล้ว!”
“จริงเหรอ!?”
“ขอเราพูดเสียหน่อยนะ อย่างที่เรากล่าวไว้ก่อนหน้านี้ งานเอกสารนั้นแม้ว่าจะน้อยกว่าตอนที่พวกเจ้าเป็นผู้บริหาร แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยหรอกนะ”
““เอ๋~!””
TN: ควรรู้สึกยังไงดีที่มีเหล่าผู้ใหญ่มากมายมาร่วมด้วยช่วยกันต่อเรือลำน้อยให้เด็กใหม่ 2 คนนี้ 55555