ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 376 เห็นแก่ตัวเหมือนเสิ่นเถี่ยจวิน

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 376 เห็นแก่ตัวเหมือนเสิ่นเถี่ยจวิน

ตอนที่ 376 เห็นแก่ตัวเหมือนเสิ่นเถี่ยจวิน

หลังจบงานปาร์ตี้ที่ห้องเต้นรำของเซี่ยไห่ เซี่ยตงที่กลับถึงบ้านก็นอนไม่หลับตลอดทั้งคืนเมื่อนึกถึงคำที่เซี่ยไห่บ่นกับเขาเรื่องเสิ่นอวี้อิ๋ง ดังนั้นเขาจึงตั้งใจว่าจะไปหาเซี่ยหลานในเช้าวันรุ่งขึ้น

เสิ่นเถี่ยจวินและเสิ่นอวี้อิ๋งเดินทางไปต่างเมืองแล้ว เซี่ยหลานจึงกลับมาอาศัยอยู่ในอาคารพักอาศัยอีกครั้ง

เซี่ยตงแวะไปหาหล่อนเป็นพิเศษก่อนไปทำงานตอนเช้า ซึ่งขณะนี้เซี่ยหลานกำลังทำอาหารมื้อเช้า วางแผนว่าจะนำไปส่งให้พ่อของหล่อนในภายหลัง ช่วงหลังมานี้ชายชรารับหน้าที่ดูแลเสิ่นอวี้หลงเต็มเวลา เซี่ยหลานจึงต้องไปส่งอาหารให้พวกเขาทุกเช้า ตอนเย็นค่อยมาเปลี่ยนหน้าที่กับเขา

เมื่อเห็นเซี่ยตงมาหาเวลานี้ เซี่ยหลานก็ประหลาดใจมาก “เสี่ยวตง ทำไมถึงมาที่นี่ได้?”

เซี่ยตงนั่งบนโซฟา หลังจากรอให้เซี่ยหลานเตรียมอาหารเช้าบรรจุลงในกล่องอาหารแบบเก็บความร้อน เขาก็เอ่ยปากถาม “พี่สาว อวี้อิ๋งป่วยเป็นโรคอะไร?”

เซี่ยหลานหันหลังให้เขา สีหน้าของหล่อนหมองลงเล็กน้อย “ไม่เป็นอะไรมาก แค่ท้องไส้ไม่ดี”

“แค่ท้องไส้ไม่ดี จำเป็นต้องออกไปรักษานอกเมืองเลยเหรอ?”

เซี่ยตงยืนขึ้น เดินไปหาเซี่ยหลานและมองหน้าเธอ “พี่สาว ถ้าพี่ไม่สะดวกที่จะบอกผม ผมก็จะไม่ถามเซ้าซี้ แต่จากนี้พี่จะต้องอบรมสั่งสอนอวี้อิ๋งให้ดี”

เซี่ยตงเล่าให้เซี่ยหลานฟังเกี่ยวกับเนื้อหาอันน่ารังเกียจที่ถูกบันทึกไว้ในไดอารี่ของเสิ่นอวี้อิ๋งซึ่งเขาได้ยินคนอีกฝั่งบอกมาอีกทีหนึ่ง

เซี่ยตงกล่าวถึงเสิ่นอวี้อิ๋งด้วยน้ำเสียงผิดหวังมาก “ตอนที่ย้ายมาไห่เฉิงเป็นครั้งแรก หล่อนโกหกพวกเราถึงสองเรื่อง แต่นั่นเป็นเพราะทุกคนรู้สึกผิดต่อหล่อน จึงไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ให้หล่อนรู้สึกแย่ อาจจะเป็นเพราะหล่อนติดนิสัยชอบพูดจาไร้สาระ หรือเป็นเพราะหล่อนอยากสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเอง การโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ เลยเป็นที่ยอมรับได้

“แต่สมัยหล่อนอยู่ในชนบท หล่อนร้ายกาจถึงขนาดเล่นกับความรู้สึกคนอื่น หลอกเอาเงินจากผู้ชาย แสดงว่าอุปนิสัยของหล่อนน่ะมันเกินเยียวยา ขืนยังปล่อยให้หล่อนทำแบบนั้นต่อไปก็จะต้องประสบกับความสูญเสียไม่ช้าก็เร็ว ในฐานะพ่อแม่ พี่ไม่ควรตามใจหล่อนมากเกินไป ต้องรีบดัดนิสัยหล่อนให้ทัน หล่อนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้าไม่รักนวลสงวนตัว อีกหน่อยเข้าสังคมปัญหาคงตามมาไม่จบสิ้นแน่”

เซี่ยหลานหรี่ตาลง ตอบกลับว่า “ฉันรู้แล้ว”

เซี่ยตงพูดเสริมว่า “นอกจากนี้ พี่อย่าลืมไปบอกเสิ่นเถี่ยจวินด้วย ว่าจากนี้ไปอย่าสร้างปัญหาให้กับเซี่ยเซี่ยอีก เขาเป็นคนจงใจสลับตัวเด็กเองแท้ ๆ ต่อให้ไม่ยอมคุกเข่าขอโทษก็ไม่เป็นไรหรอก แต่เขายังกล้าแบกหน้าตัวเองไปหาเซี่ยเซี่ยเพื่อเอาเรื่องหล่อนอีกเหรอ?”

“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?” เซี่ยหลานหันไปมองเซี่ยตงและถามอย่างสงสัย

“น่าจะช่วงก่อนที่พวกเขาจะไปเมืองอื่น ผู้เฒ่าเสิ่น เสิ่นเสี่ยวเหมย และเสิ่นเถี่ยจวินบุกไปชำระบัญชีเซี่ยเซี่ยถึงบ้าน เซี่ยเซี่ยเป็นลูกสาวของเซี่ยเหลย หลานของเซี่ยไห่และเซี่ยอวี่ ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ในไห่เฉิง ตระกูลเซี่ยกับตระกูลเฉินนับว่าดองกันอย่างสมบูรณ์ คิดว่าพวกเขาจะยอมทนเห็นเซี่ยเซี่ยถูกรังแกไหมล่ะ? อย่าปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดจนอยู่ในจุดที่สู้พวกเขาไม่ได้เลย”

เซี่ยหลานรับฟังคำพูดของเซี่ยตง มือที่ห้อยตกอยู่ข้างลำตัวสั่นเทาเล็กน้อย

เซี่ยตงมองไปที่เซี่ยหลาน พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นยิ่ง

“พี่สาว คราวนี้พอเสิ่นเถี่ยจวินกลับมา รีบดำเนินการขั้นตอนการหย่าร้างให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด พี่ไม่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวของพวกเขาอีกต่อไป”

เซี่ยหลานตอบกลับ “ฉันเข้าใจแล้ว”

“โอเค งั้นผมไปแล้วนะ”

หลังจากที่เซี่ยตงจากไป เซี่ยหลานก็เข้าไปในห้อง หยิบสมุดบันทึกสภาพชำรุดทรุดโทรมออกมาจากลิ้นชักในห้องนอน

หล่อนได้เห็นในสิ่งที่เซี่ยตงเพิ่งพูดถึงแล้ว

ก่อนเสิ่นเถี่ยจวินจะจากไป เขาถึงมอบสมุดเล่มนี้ให้หล่อนอ่าน

บอกแค่ว่าเขาไปได้มันมาจากหลินเซี่ย

แต่ไม่ได้บอกว่าที่ได้มาก็เพราะพวกเขาบุกไปก่อปัญหาให้หลินเซี่ย

เมื่อเซี่ยหลานเห็นเนื้อหาในสมุดไดอารี่ คืนนั้นทั้งคืนหล่อนก็ข่มตานอนไม่หลับ

หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกสาวของตนถึงได้กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย

หล่อนเคยเล่นกับความรู้สึกของผู้ชาย เคยใส่ร้ายพี่ชายตัวเอง จิตใจของผู้หญิงคนนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อทุกคนมาตั้งแต่เด็ก

หล่อนเขียนในสมุดไดอารี่ว่า ตอนที่ยังเด็ก หล่อนได้ยินบทสนทนาระหว่างหมอแผนจีนเย่กับหลินต้าฝู ทำให้หล่อนคาดเดาอยู่ในใจเสมอว่าตัวเองไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของหลินต้าฝู ดังนั้นไม่ว่าหลินต้าฝูจะปฏิบัติดีต่อหล่อนขนาดไหนก็ตาม หล่อนก็ยังคงรังเกียจตระกูลหลิน

ความเกลียดชังนั้นยังลามไปถึงหลิวกุ้ยอิง เหตุเพราะหล่อนไม่สามารถสืบรู้ประสบการณ์ชีวิตที่แท้จริงของตัวเองจากหลิวกุ้ยอิงได้ จนพาลรู้สึกไปเองว่าหลิวกุ้ยอิงกำลังขัดขวางไม่ให้หล่อนมีชีวิตที่ดี

เซี่ยหลานยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า

สมควรแล้วที่หล่อนเป็นลูกสาวของเสิ่นเถี่ยจวิน

หล่อนถึงได้เห็นแก่ตัวพอ ๆ กับเสิ่นเถี่ยจวินอย่างนั้น

เซี่ยหลานโยนสมุดไดอารี่กลับเข้าไปในลิ้นชักในห้องนอน

ความจริงแล้ว เสิ่นเถี่ยจวินคิดจะทำลายสมุดเล่มนี้ไม่ให้เหลือซาก เพื่อที่จะปกปิดเรื่องนี้จากหล่อน

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ยังเลือกที่จะมอบสมุดไว้ให้หล่อนก่อนจะออกเดินทาง

เซี่ยหลานพอจะคาดเดาเจตนาของเสิ่นเถี่ยจวินได้

หลังจากที่เสิ่นอวี้อิ๋งรู้ความจริง หล่อนก็เริ่มเกลียดพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง

เสิ่นอวี้อิ๋งเคยแสดงให้หล่อนเห็นมากกว่าหนึ่งครั้ง ว่าอยากจะใช้ชีวิตหลังจากนี้อยู่กับแม่มากกว่า

แต่เนื่องจากหล่อนต้องคอยดูแลเสิ่นอวี้หลงที่ยังหลับไหลไม่ได้สติ จึงไม่มีเวลาดูแลหล่อนมากพอ

เสิ่นเถี่ยจวินอาจกลัวว่าลูกสาวของตัวเองจะเลือกติดตามแม่แทนที่จะเป็นพ่อ เขาถึงมอบสมุดเล่มนี้ให้หล่อนเสีย เพื่อให้หล่อนผิดหวังในตัวเสิ่นอวี้อิ๋งอย่างสิ้นเชิง

ตราบใดที่หล่อนบอกชัดว่าไม่ต้องการลูกสาวคนนี้ อวี้อิ๋งก็จะจำยอมติดตามผู้เป็นพ่อในที่สุด

หลังจากใช้ชีวิตสมรสกันมานานยี่สิบปี ไม่มีใครรู้จักธาตุแท้ของเสิ่นเถี่ยจวินได้ดีไปกว่าหล่อนแล้ว

เซี่ยหลานปิดประตู ถือกล่องอาหารแล้วเดินเท้าไปส่งอาหารให้พ่อที่บ้านอีกหลังหนึ่ง

ผู้เฒ่าเซี่ยกำลังนั่งอยู่บนขอบเตียง ถือหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ในมือ อ่านออกเสียงคำต่อคำ

หลังจากอ่านจบ เขาก็ปิดหนังสือ มองดูเด็กหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงแล้วพูดเบา ๆ

“อวี้หลง ได้ยินสิ่งที่ตาอ่านให้หลานฟังในวันนี้ไหม?”

“ตาเชื่อว่าอวี้หลงต้องได้ยินแน่ และอีกไม่นานก็จะตื่นขึ้นมามองตา”

“ถ้าหลานตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ตาจะสอนหลานอ่านหนังสือเอง”

ผู้เฒ่าเซี่ยเริ่มสะอื้นในขณะที่พูด เขาลูบหน้าผากของเสิ่นอวี้หลง “หลานรักเอ๋ย เธอหลับมานานกว่าครึ่งปีแล้ว ถึงเวลาที่เธอต้องตื่น แม่เธอแทบจะแบกรับความทุกข์ทรมานไว้ไม่ไหวแล้ว”

เซี่ยหลานยืนอยู่ที่ประตู มองดูพ่อผู้ชราของตัวเองที่กำลังพูดคุยเพียงฝ่ายเดียวกับเด็กหนุ่มบนเตียงด้วยเสียงสะอื้น ทันใดนั้นหล่อนก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา

ในโลกนี้ คงมีเพียงสมาชิกในครอบครัวของหล่อนเท่านั้นที่รู้สึกสงสารเห็นใจในสิ่งที่หล่อนกำลังเจออยู่ตอนนี้

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยพูดอะไรทำนองนี้ต่อหน้า แต่พวกเขาคือคนที่เข้าใจความยากลำบากของหล่อนเป็นอย่างดีที่สุด พวกเขาคือคนที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแบ่งบรรเทาความวิตกกังวลของหล่อน

เซี่ยหลานพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมอารมณ์ตัวเอง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเดินเข้าไปในห้อง “พ่อ ฉันมาแล้วค่ะ”

ขณะที่ผู้เฒ่าเซี่ยหันกลับมา เขาก็ปาดน้ำตาโดยเร็วเช่นกัน “ทำไมวันนี้ถึงได้มาสายนัก? พ่อหิวจะแย่แล้ว”

เซี่ยหลานพูดยิ้ม ๆ “ถ้าอย่างนั้นมากินข้าวกันเถอะค่ะ”

หล่อนวางกล่องอาหารลงบนโต๊ะ ผู้เฒ่าเซี่ยวางหนังสือลง ล้างมือ และเริ่มรับประทานอาหาร

เซี่ยหลานเตรียมอาหารเหลวสำหรับเสิ่นอวี้หลงโดยเฉพาะ หล่อนนั่งลงและป้อนให้เขา

แต่แล้วก็รู้สึกเศร้าใจเป็นพิเศษเมื่อเห็นว่าใบหน้าของผู้เป็นพ่อเต็มไปด้วยรอยยับย่นของวัยชรา

ช่วงเวลาที่เขาควรจะมีความผาสุกในชีวิตครอบครัว เขายังต้องทำงานหนักเพื่อช่วยดูแลลูกชายให้หล่อน เซี่ยหลานมองไปที่พ่อด้วยความรู้สึกผิด เอ่ยคำขอบคุณออกมา “พ่อ ขอบคุณนะคะ”

“ขอบคุณเรื่องอะไร?”

เซี่ยหลานไม่อาจระงับอารมณ์ของหล่อนได้ทันทีที่พูดเหตุผลออกไป “ขอบคุณที่แม้ฉันจะเจอเรื่องหนักหนา แต่พ่อก็ยังอยู่ข้าง ๆ ฉันน่ะค่ะ”

“เด็กโง่เอ๋ย ฉันเป็นพ่อของแกนะ ถ้าฉันไม่ช่วยแกแบ่งเบาภาระ แล้วใครจะทำแทนล่ะ?”

ผู้เฒ่าเซี่ยพูดเบา ๆ “ที่จริงแม่ของแกก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่แกเจอมากเหมือนกัน เพียงแต่หล่อนมีบุคลิกเย็นชาเสมอ และไม่ชอบขี้หน้าเสิ่นเถี่ยจวิน ก็เลย…”

เซี่ยหลานขัดจังหวะคำพูดของพ่อ ยิ้มอย่างขมขื่น “แม่พูดถูกทุกอย่างค่ะ”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

สงสารเซี่ยหลานเหลือเกิน เป็นคนแบกทุกอย่างเลย ถึงเวลาปล่อยสิ่งที่แบกแล้วล่ะค่ะ ปล่อยให้ตระกูลเสิ่นมันล่มสลายด้วยตัวมันเองเถอะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท