อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต – ตอนที่ 21 ชายผู้สูญเสียความทรงจำ

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ชายผู้สูญเสียความทรงจำ

 

ดูเหมือนว่าความทรงจำของฉันจะหายไป

 

เรื่องราวในอดีตไม่หลงเหลือในหัวเลย

 

อย่างน้อยก็โชคดีที่ว่าสามัญสำนึกของฉันยังทำงานได้ดี จึงสามารถเข้าใจได้ว่าอะไรเป็นเรื่องควรหรือไม่ควรทำ

 

 

 

「คัตซึน หิวแล้วอ้า」

 

「พี่ฮาคัวเนี่ยน้า รีบไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว」

 

 

เสียงดังนั้นมาจากห้องนั่งเล่น

 

คัตสึกิ ชิราคาว่า

 

นั่นคือชื่อของฉัน

 

พี่ฮาคัวทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลใกล้บ้านของพวกเรา โดยเธอเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉันในอุบัติเหตุจนสูญเสียความทรงจำเอาไว้

 

เธอคือผู้มีพระคุณและครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของฉัน

 

 

 

「พี่ฮาคัว ทำตัวเป็นเด็ก 3 ขวบไปได้นะ 」

 

「อึก…ก็เอาจริงๆ อายุยังไม่ถึง 1 ขวบเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่เป็นไรๆ 」

 

「เฮ้อ ช่วยไม่ได้สินะ」

 

 

ฉันวางข้าวกล่องที่ห่อไว้ด้วยผ้าใกล้กับจุดที่พี่สาวของฉันอยู่ ก่อนจะค่อยๆ เดินไปยังโต๊ะที่เตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว

 

 

 

「นี่ครับ ข้าวกล่อง ถึงจะไม่ใช่ของทำเองทั้งหมดก็เถอะ」

 

「อื้อ ไม่เป็นไรหรอก…ว่าแต่ข้างในมีอะไรบ้างน้อ? 」

 

 

ฉันเริ่มเรียนวิธีทำอาหารเมื่อเดือนก่อน

 

ให้พูดกันตามตรงฝีมือของฉันก็ยังไม่ได้ดีอะไรมากหรอก ครึ่งหนึ่งในนั้นก็เลยเป็นอาหารแช่แข็งเอามาอุ่นเฉยๆ

 

แม้จะยังไม่เท่าก่อนเสียความทรงจำไป แต่นับจากนี้แหละ ฉันจะค่อยๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

 

 

 

「สุดยอดความภูมิใจ ฮิโนมารุ เบนโตะยังไงล่ะ」

 

「ถามจริงมีแค่ข้าวกับบ๊วยเนี่ยนะ!? 」

 

「ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่าพี่ ไม่ได้หนักขนาดนั้น มากินข้าวเช้ากันเถอะ」

 

 

ฉันต้องรีบกินข้าวแล้วไปทำงานำพาร์ทไทม์ด้วย

 

ถ้าไม่ได้พี่มาช่วยหางานใหม่ให้ฉัน ฉันคงติดอยู่แต่ในบ้านนี้แน่ๆ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่ต้องการเป็นภาระแบบนั้น ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงหาได้เร็วขนาดนั้นแต่มันเป็นงานที่ค่อนข้างดีฉันเลยไม่คิดอะไรมาก

 

 

 

「ขอบคุณสำหรับอาหาร」

 

「ขอบคุณสำหรับอาหาร」

 

 

หลังทานอาหารเช้าเสร็จ ฉันกับพี่ก็เตรียมตัวไปทำงาน

 

 

 

「นี่ คัตซึน」

 

「หือ? 」

 

「ตอนนี้นายสนุกหรือเปล่า? 」

 

 

ขณะที่ฉันกำลังเตรียมตัวไปทำงาน อยู่ดีๆ พี่ก็ถามขึ้น

 

บางทีเธออาจจะเป็นห่วงที่ฉันเสียความทรงจำในอดีตไป

 

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่กังวลหรอก

 

 

 

 

「ฮ่าๆ พี่นี่ก็ถามแปลก อื้อผมสนุกกับการใช้ชีวิตดี ถึงแม้จะจำอะไรไม่ได้เลยก็เถอะ!」

 

「……โอะ อื้อ ถ้าเป็นแบบนั้น…ก็ดีแล้ว…ดีแล้ว」

 

 

สีหน้าของพี่ดูเศร้าๆ ไป

 

พอเห็นแบบนี้ใจฉันก็อยากจะรีบฟื้นความทรงจำให้เร็วละสิ

 

ฉันทำการหยิบกระเป๋าออกไปทำงานด้วยความมุ่งมั่นนั้น

 

 

 

「เอาละ ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ」

 

『โฮก!』

 

「โอ๊ะ เกือบลืมนายไปเลยชิโระ」

 

 

สิ่งที่แอบมุดเข้ามาในกระเป๋าของฉันก็คือสุนัขจักรกล ชิโระ

 

ส่วนชื่อก็มาจากร่างกายที่เป็นสีขาวของมัน เหนือสิ่งใดมันน่ารักและเป็นมิตร

 

แต่ฉันก็รู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่หุ่นยนต์ธรรมดาหรอก ฉันจึงบอกเขาว่าอย่าให้คนอื่นเห็นตัว

 

 

「ไปดีมาดีล่ะ」

 

「ไปละนะครับ」

 

 

ฉันตอบพี่แล้วออกประตูบ้าน

 

ผ่านมาสามเดือนแล้วตั้งแต่ที่ฉันเสียความทรงจำ

 

ถึงจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ฉันก็มั่นใจว่านี่คือวิถีชีวิตของฉันที่เคยใช้มาในอดีตแน่นอน

 

 

 

 

สถานที่ที่ฉันทำงานคือร้านกาแฟที่ไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ที่ฉันอาศัยอยู่

 

ร้านดูเป็นสไตล์คลาสสิกเรียบง่ายที่เสิร์ฟเพียงกาแฟทั่วไปและของหวานปกติที่หาได้ในร้านกาแฟ ทว่ามันก็ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้มากพอสมควร

 

 

 

 

「ยินดีต้อนรับครับ คุณลูกค้ามากันกี่ท่านครับ? 」

 

「2 ค่ะ」

 

「2 คนสินะครับ เชิญทางนี้เลยครับ ผมจะพาไปที่โต๊ะ」

 

 

หลังจากพา 2 สาวไปยังโต๊ะแล้ว ฉันก็นำเมนูไปให้พวกเธอดูและรอออเดอร์จากลูกค้าโดยการทำนั่นนี่ไปก่อน

 

บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างสบายๆ ไม่ดูวุ่นวาย ระหว่างนั้นลูกค้าทั้งสองก็คุยกันระหว่างดูเมนู

 

 

 

「ดูเหมือนว่าจะยังหาตัวอัศวินดำคุงกันไม่เจอเลย」

 

「เขาเป็นเพียงแค่เด็กมอปลายเองใช่ไหมล่ะ? พอเห็นแบบนี้แล้วก็น่าสงสารจริงๆ 」

 

「ถ้าพวกเอเลี่ยนมันบุกมาอีกจะยังไงกันดีน้า……」

 

 

อัศวินดำเหรอ

 

ฉันหยุดเช็ดโต๊ะทันที

 

ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นก่อนที่ฉันจะได้สติ แต่ก็ได้คนที่ถูกเรียกว่าอัศวินดำจัดการไปแล้ว

 

จากที่ได้ยินหลังเหตุการณ์นั้นเขาได้สูญเสียความทรงจำไปและหายสาบสูญ เอาเถอะฉันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ก็ได้แค่หวังว่าจะยังมีชีวิตอยู่นะ

 

 

「ขอโทษนะคะ」

 

「ครับ」

 

 

พอได้ยินเสียงเรียกของลูกค้า

 

ฉันก็มุ่งหน้าไปยังโต๊ะทันที

 

ในฐานะคนทำงานแล้วก็ต้องตั้งใจเสียหน่อย

 

 

 

 

ช่วงค่ำนั้นจะต่างจากตอนกลางวันตรงแทบไม่มีลูกค้าเลย

 

พอทำงานเสร็จฉันก็มาเช็ดจาน

 

 

 

「ตอนแรกฉันก็ไม่คิดจะจ้างนายหรอกนะ」

 

 

อยู่ดีๆ มาสเตอร์ผู้เจ้าของร้านก็เดินมาพูดกับฉัน

 

ฉันจึงหยุดมือแล้วหันไปมองเขาที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ใกล้กับพัดลมระบายอากาศ

 

 

 

「ปกติเค้าพูดกันตรงๆ แบบนี้เหรอครับ」

 

「ก็ตอนแรก คนมันคิดแบบนั้นจริงนี่ เจ้าเด็กนี่」

 

 

มาสเตอร์สวมเสื้อผ้าสีดำและมีผ้าโพกหัวกำลังพ่นควันบุหรี่ออกมาระหว่างคุย

 

 

「เหมือนกับผมเลยที่รู้สึกว่ามาสเตอร์นี่เป็นมาสเตอร์จังนะ ก็เพราะบุหรี่ที่คุณสูบนี่แหละ」

 

「ไอ้เด็กบ้า แค่บุหรี่มันจำไปทำกาแฟดีๆ ได้ที่ไหนเห้ย ฝีมือกาแฟของฉันมันก็ต้องดีด้วยสิ ไม่งั้นคนมันจะมาเข้าร้านหรือไง」

 

「ครับๆ รู้แล้วครับ」

 

 

ฉันยิ้มออกมาแล้วก็กลับไปขยับมือต่อ

 

 

「…ตอนคุณพี่สาวชิราคาวะมา สภาพของแกเหมือนเด็กน้อยที่ตัวติดกับพี่สาวจนห่างกันไปได้เลยนี่นะ สภาพตอนนั้นฉันมองยังไงแกก็ไม่น่ารอดได้ เลยกะว่าจะเอารับมาทำงานแล้วเนี่ย」

 

「คนมันรู้สึกกังวลเพราะเสียความทรงจำนี่ครับ」

 

 

อันที่จริงฉันกลัวการที่ต้องออกไปข้างนอกด้วย

 

กลัวการเจอใครสักคน

 

ถ้ามีคนที่รู้จักฉันมาทักจำทำยังไงดี

 

สิ่งเหล่านี้มันน่ากลัวเหลือเกิน

 

 

 

「สูญเสียความทรงจำสิน้า…นึกภาพไม่ออกเลยวุ้ยว่ามันรู้สึกยังไง」

 

「ผมเองก็อธิบายไม่ถูก แต่ว่า…มันเหมือนมีช่องว่างภายในใจที่ปิดไม่ได้สักที」

 

 

 

แม้จะทำอะไรกับมันไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามกัน่ตอไป

 

 

「แม้จะต้องพยายามนึกอะไรให้ออก แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องนึกเรื่องอะไรดีหรือเพราะอะไรถึงจำอะไรไม่ได้เลย มันเหมือนกับมีเมฆหมอกคอยปกคลุมให้ความทรงจำมันคลุมเครือตลอดเวลาครับ」

 

「……รู้สึกลำบากใจไหม? 」

 

「ไม่หรอกครับ เพราะพี่ฮาคัวกับมาสเตอร์คอยดูแลเป็นอย่างดีนี่นา」

 

「ฮ่าๆ ทำไงได้ก็แกมันเป็นคนความจำเสื่อมที่มีฝีมือ」

 

 

มาสเตอร์ยิ้มออกมาก่อนจะดับบุหรี่ในมือ

 

จากนั้นก็เดินไปนั่งเก้าอี้ที่เคาน์เตอร์แล้วคุยกับฉันต่อ

 

 

「ประหลาดใจกับคนแบบแกจริงๆ …แต่เอาเถอะ หากว่าจำอดีตไม่ได้ก็แค่ปล่อยมันให้เป็นอดีตต่อไปเถอะ」

 

「……ครับ? 」

 

 

ฉันเอียงคอสงสัย

 

 

「แกก็คือแกนั่นแหละ เอ้าบอกมาสิแกชื่ออะไร? 」

 

「เอ๋? 」

 

「ถามก็ตอบมาสิ」

 

 

มาสเตอร์จี้ฉัน

 

ชื่อของฉันเหรอ

 

จากที่พี่บอกชื่อของฉันคือ

 

 

「คัตสึกิ ชิราคาวะ」

 

「ใช่ไหมล่ะ มันก็แค่นั้นเอง ไม่จำเป็นต้องไปฝืนนึกถึงอดีตหรอก แกก็เป็นตัวของแกเองเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว」

 

 

แบบนั้นก็ได้สินะ

 

นั่นสิ หากทำได้คงดี

 

ฉันนึกภาพพี่ที่กังวลได้มา

 

 

 

 

「แต่จะให้พี่ฮาคัวมากังวลเกี่ยวกับผมตลอดก็คงไม่ดี….」

 

「งั้นเหรอ? แต่จากที่ฉันเห็นความทรงจำของนายน่าจะกลับ…ไม่สิ ช่างมันเถอะ」

 

「? 」

 

 

หลังเขาพูดอะไรบางอย่างคนเดียว เขาก็ยืนขึ้นราวกับบอกว่าหมดเวลาคุยแล้ว

 

ฉันก็เช็ดจานเสร็จพอดี จึงเตรียมตัวจะกลับ ก็พบว่ามาสเตอร์กำลังหยิบอาหารออกมาจากตู้เย็น

 

 

 

 

「เอ้า รับไปสิ แล้วก็เอาไปฝากคุณพี่สาวชิราคาวะด้วย」

 

「เอ๋ จะดีเหรอครับ? 」

 

 

เอาอาหารเย็นมาให้กันแบบนี้?!

 

แถมยังมีส่วนของพี่อีก ใจดีจริงๆ!!

 

 

「……ทำหน้ามีความสุขเชียวนะ」

 

「ครับ!! อาหารที่บ้านก็จะหมดแล้วด้วย! เพราะพี่ฮาคัวเขากินเยอะมากเลย!!」

 

「ไอ้เด็กนี่พูดยังกับจะบอกให้ให้ฉันขึ้นเงินเดือนให้แกมากกว่านี้เลยนะ!!」

 

 

ฉันรับอาหารมาและขอบคุณเขาที่เตรียมอาหารมาให้กับฉัน

 

แม้จะเริ่มทำงานมาได้แค่ 2 เดือนแต่ฉันก็สัมผัสได้ว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะกับฉันจริงๆ

 

 

「พี่ฮาคัวคงชอบน่าดู」

 

หลังทำงานเสร็จ ฉันก็เดินไปตามท้องถนนที่มืดมิด

 

ไม่มีใครอยู่รอบๆ นี้เลยในขณะที่เดินไปตามแสงไฟอันน้อยนิด โดยปลายทางคืออพาร์ตเมนต์ที่พี่สาวของฉันกำลังรออยู่

 

 

 

 

「ฉันก็คือฉันเหรอ」

 

 

ฉันนึกถึงสิ่งที่มาสเตอร์บอก

 

ยังไงตัวฉันตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่

 

ถึงจะจำเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้ และไม่รู้ว่าความทรงจำจะกลับมาเมื่อไหร่

 

แต่จะให้กังวลต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์

 

 

 

「……เอาละ พรุ่งนี้ก็มาพยายามกันต่อ!」

 

 

ฉันรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

 

มีเจ้านายที่ใส่ใจ มีพี่สาวที่รักและคอยดูแลเป็นครอบครัวที่ดี

 

การใช้ชีวิตของฉันก็สงบสุข

 

 

「เอ๋? 」

 

 

มีใครอยู่ตรงหน้าฉันกันนะ?

 

ฉันสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ใต้แสงไฟของเสาตรงถนน ที่กะพริบไปมาราวกับจะพังแหล่มิพังแหล่

 

หากสังเกตให้ดีๆ แล้ว เธอกำลังสวมชุดอะไรบางอย่างที่คลุมปิดทั้งตัวและหัวเอาไว้ เป็นสาวคอสเพลเหรอ?

 

จากนั้นสิ่งที่ดูเหมือนนาฬิกาสีทองบนข้อมือของเธอก็เริ่มเกิดความผิดปกติขึ้น

 

 

「———หึ กำลังหาตัวอยู่พอดี」

 

 

หญิงสาวคนนั้นคงเข้าใจผิดว่าฉันเป็นคนรู้จักและโบกมือให้กับฉัน

 

ทุกคนผิด?

 

อย่างน้อยเท่าที่จำได้ฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อน หรือจะเป็นคนรู้จักของฉันก่อนเสียความทรงจำ

 

 

 

「ค -คุณเป็นใครเหรอครับ? 」

 

「……ลืมกันซะแล้วเหรอ? ฉันคนนี้อ่ะน่ะ? ทั้งที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของฉันไปแท้ๆ? 」

 

「ทำลาย เอ๋!? 」

 

 

ดะดะดะเดี๋ยวก่อนนะ นี่ฉันเคยไปทำอะไรแย่ๆ กับเธอไว้เหรอ?!

 

อยู่ดีๆ เธอคนนั้นก็พูดอย่างหัวเสียออกมา ก่อนจะหัวเราะแล้วถอดหน้ากากที่คลุมทั้งหัวออก

 

 

 

「เอา ฉันไง แอ็กซ์จังผู้นี้นี่เอง! แกลืมใบหน้าที่เคยเจอเมื่อ 3 เดือนก่อนไปแล้วหรือไง」

 

 

ใบหน้าของภายหน้ากากนั้น ชวนให้รู้สึกขนลุก

 

คำวาตุ๊กตาที่มีชีวิตดูจะเหมาะสมกับการอธิบายตัวเธอในตอนนี้ เธอจ้องฉันโดยไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ

 

แม้บรรยากาศจะทำตัวสบายๆ แต่ดวงตาและท่าทางที่แสดงออกมาฉันรู้สึกว่าเธอเป็นตัวอันตราย

 

 

 

「หือ? ที่เค้าบอกว่าแกสูญเสียความทรงจำไป เป็นเรื่องจริงเหรอ? 」

 

「เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมเสียความทรงจำไปจริงๆ ถ้าไม่รังเกียจช่วยเล่าให้ฟังทีได้ไหมว่าผม―――」

 

 

 

 

ก่อนที่ฉันจะพูดพบ ก็มีบางอย่างผ่านหน้าฉันไป

 

ข้าวกล่องที่เต็มไปด้วยอาหารซึ่งมาสเตอร์ให้มา ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนและตกลงกับพื้น

 

 

「ยกโทษให้ไม่ได้ ยกโทษให้แกไม่ได้เด็ดขาด ลืมไปแล้วงั้นเหรอ? อย่างมาล้อกันเล่น….」

 

 

น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไป

 

อะไรกัน? เสียงนั่น แต่ฉันรู้แล้วว่ามันไม่ปกติแล้ว!

 

ในขณะที่ฉันเตรียมตัวจะวิ่งหนี หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าแอ็กซ์ก็เงยหน้าขึ้น

 

 

 

「แกกล้าใช้ชีวิตอย่างสงบสุขทั้งที่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงกัน!!」

 

 

หลังตะโกนออกมาภาพโฮโลแกรมที่ปกคลุมร่างของเธอเอาไว้ก็หายไปเผยให้เห็นถึงอวัยวะภายในของเธอ

 

ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอไม่หลงเหลือผิวหนังอยู่และถูกแทนด้วยเครื่องจักร ส่วนท้องก็เหมือนกับการนำเศษชิ้นส่วนต่างๆ เข้ามาประกอบกัน ความกลัวได้แล่นเข้ามาในใจฉันทันที

 

 

 

「โฮโลแกรมหายไปแล้วงั้นเหรอ หึช่างหัวมันเถอะ ยังไงฉันก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไป!!」

 

「คึก」

 

「ฉันจะฆ่าแก ฆ่าแกให้ได้」

 

『INVASION START!!』

 

 

ดวงตาจักรกลของเธอจ้องมายังฉัน ก่อนจะเอามือไปสัมผัสกับนาฬิกาตรงมือซ้ายของเธอ

 

ทันใดนั้นร่างของเธอก็เปลี่ยนไป――สูทสีทองได้ปกคลุมร่างของเธอ

 

ทว่ามันกลับยิ่งน่าขนลุกกว่าเดิมเพราะชิ้นส่วนต่างๆ ของสูทได้ยื่นออกมาอย่างผิดรูปร่าง ดวงตาของเธอก็ไม่ได้ถูกหน้ากากปิดเอาไว้ ฉันจึงมองเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าของเธอชัดเจน

 

สัตว์ประหลาด

 

แม้รูปร่างจะเหมือนพวกเซ็นไต แต่ยังไงก็เป็นสัตว์ประหลาดวายร้ายแน่นอน

 

 

 

 

「ตายซ้าาาาาา!!」

 

 

มีบางอย่างพุ่งออกมาจากมือของสัตว์ประหลาดร่างทอง

 

เมื่อฉันตกใจจนก้าวขาไม่ออก ชิโระก็กระโดดออกมาจากกระเป๋าเพื่อปกป้องฉัน

 

 

 

「ช-ชิโระ!」

 

『โฮก!!』

 

「ตะ ต้องหนี!!」

 

「แกจะหนีไปหนายยยยย」

 

 

ฉันวิ่งโดยมีชิโระอยู่ในอ้อมแขน ทว่าแขนอีกข้างของฉันก็โดนคว้าเอาไว้

 

ก่อนที่แขนของฉันจะถูกแรงบีบบนขยี้ ร่างกายของฉันก็ตอบสนองกลับไปเอง

 

 

 

「ย้ากกกก!!」

 

 

ฉันเตะเข่าของเธอให้เสียการทรงตัว ก่อนจะใช้เข่ากระแทกเข้าที่หน้าอีกที

 

มือของเธอหลุดออกจากแขนฉัน ในระหว่างที่เธอกำลังร้องเสียงหลงออกมา ฉันก็รีบวิ่งหนีทันที

 

 

 

「ทั้งที่ไม่เคยต่อยตีกับใครมาก่อนแท้ๆ …ได้ยังไงกัน!」

 

 

ฉันวิ่งหนีต่อด้วยความประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวของตัวเอง

 

เส้นทางที่ฉันหนีไปไม่ใช่อพาร์ตเมนต์ของพี่สาวตัวเอง

 

ทางที่ฉันเลือกคือสวนสาธารณะที่คนไม่ค่อยผ่านและน่าจะมีที่ซ่อน แถมไม่ไกลจากตรงนั้นมีป้อมตำรวจ ดังนั้นคงต้องหาที่หลบดีๆ ในนั้นเสียก่อน

 

 

 

「แฮก แฮก แฮก」

 

『โฮก』

 

「ไม่เป็นไร..ฉันไม่เป็นไร……」

 

 

ฉันนั่งพักหายในในเครื่องเล่นตรงสนามเด็กเล่น

 

แม้จะว่าด้วยความเร็วสุดแรงเกิด แต่แปลกใจที่ฉันไม่ได้เหนื่อยเท่าที่คิดไว้

 

 

 

「ว่าแต่ไอนั่นมันตัวอะไรกัน…สัตว์ประหลาดงั้นเหรอ? 」

 

 

ทำไมเธอถึงเล็งฉันกันล่ะ

 

ไม่เข้าใจเลยสักนิด

 

 

 

「ทำไมกัน……」

 

――จงสู้

 

「หา!? 」

 

――จงสู้

 

 

อยู่ดีๆ ฉันก็ได้ยินเสียงบางอย่าง

 

พอหันไปรอบๆ ก็ไม่มีใครอยู่

 

มันคือเสียงที่ดังก้องในหัวของฉัน

 

 

 

 

「ค-ใครกัน……」

 

「เจอตัวแล้ว」

 

「คึก!? 」

 

 

ในระหว่างที่ฉันได้ยินเสียงแปลกๆ อีกฝ่ายก็เจอตัวฉันแล้ว ฉันถูกคว้าหน้าอกแล้วโยนไปที่กลางสวน

 

ในขณะที่ฉันถูกแรงกระแทกซัดเข้าที่ร่าง อีกฝ่ายก็เอามือจับคอของฉันยกให้ลอยขึ้น

 

 

 

 

「อุก……」

 

「เกิดอะไรขึ้นกับแกที่สูญเสียความทรงจำไปกันนะ? ทำไมช่างดูกระจอกงอกง่อยขนาดนี้!!!!」

 

『โฮกกก!!』

 

 

ชิโระพยายามกระโดดใส่อีกฝ่ายเพื่อช่วยฉันที่ถูกจับเอาไว้ แต่มันก็ถูกฟาดจนร่วงลงกับพื้น

 

 

 

「คิดจริงเหรอว่าอุปกรณ์ชีวมวลจะเอาชนะฉันที่แปลงร่างแล้วได้? 」

 

「ชิโระ……!」

 

「เอาละ จากนี้จะขอเอาคืนทบต้นดอกให้สาแก่ใจสักที!!」

 

 

ฉันถูกฟาดลงกับพื้นอีกครั้ง

 

ฉันจะมาตายแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด

 

สายตาที่พร่ามัวของฉันเห็นชิโระที่พยายามเข้ามาช่วยฉัน

 

แม้ว่าร่างของมันจะเกิดประกายไฟและมีรอยแตกร้าวขึ้น มันก็ยังเป็นห่วงฉัน…

 

 

「จะปล่อยให้สูญเสียอะไรไปแล้วอีกไม่ได้เด็ดขาด」

 

 

 

―――ใช่แล้ว

 

 

เสียงนั้นดังก้องขึ้นในหัวของฉันอีกครั้ง

 

และราวกับมันเป็นพลังให้ฉันลุกขึ้นยืนได้อีก

 

 

 

―――จงสู้

 

 

「เออ ถึงไม่บอกก็จะทำอยู่แล้ว」

 

 

 

―――ตะโกนมันออกมา

 

 

 

「ฉันจะสู้!!」

 

 

ฉันตะโกนสุดเสียงใส่สัตว์ประหลาดที่ใกล้เข้ามา

 

ทันใดชิโระก็ตอบสนองต่อเสียงตะโกนของฉันและคำรามออกมา

 

ดวงตาของมันเปล่งประกายแสงสีเหลืองออกมา แล้วแสงนั้นก็ส่องมายังเอวของฉันแล้วกลายเป็นสายเข็มขัด ร่างของชิโระได้เปลี่ยนไปกลายเป็นอุปกรณ์บางอย่างที่พอดีมือ

 

 

 

 

―――สำหรับแกน่ะ แบบนี้ดีแล้ว

 

 

ฉันมองดูชิโระในมือสลับกับสัตว์ประหลาด

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันเข้าใจได้ทันทีว่าต้องทำอะไรต่อ

 

ความสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นพลันหายไปทั้งหมด

 

 

 

「…ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงมุ่งเป้ามายังฉัน หรืออยากจะฆ่าฉัน!!」

 

「หึ ป่านนี้แล้วยังจะมาพูด―――」

 

「แต่ว่า―――」

 

 

ฉันนำชิโระไปประกบกับหัวเข็มขัดเบาๆ ก่อนจะกดปุ่มที่อยู่ข้างๆ

 

 

 

「ฉันก็รู้แล้วว่าต้องทำยังไงกับเธอดี!!」

 

『AWAKENING!!』

 

 

เมื่อเสียงนั้นดังขึ้นฉันทำการปัดหัวเข็มขัดไปทางด้านซ้ายทันที

 

สนามพลังงานลึกลับก่อตัวขึ้นรอบๆ หัวเข็มขัด

 

 

 

『DUST→→→LUPUS DRIVER!!!!』

 

 

ร่างกายของฉันขยับราวกับรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อ ฉันแตะส่วนด้านบนของหัวเข็มขัดอีกที

 

 

「แปลงร่าง!!」

 

『FIGHT FOR RIGHT!!』

 

 

ทันใดนั้นนสูทสีดำก็ปกคลุมร่างกายตั้งแต่ส่วนคอของฉันลงไป ก่อนที่ชุดเกราะสีขาวจะก่อตัวขึ้นในสนามพลังงาน

 

มันค่อยๆ เข้ามาประกบร่างของฉันทีละชิ้นๆ จนสุดท้ายก็มีหน้ากากที่สามารถปิดทั้งหัวของฉันได้มาประกอบที่หัว

 

 

 

『SAVE FORM!!! COMPLETE……』

 

 

เสียงนั้นบอกราวกับเป็นสัญญาณแห่งการสิ้นสุดการแปลงร่างแล้ว

 

ไรเดอร์ชุดเกราะสีขาวพร้อมเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดสีทองแล้ว

 

***

 

Dust Driver ถูกเปลี่ยนเป็น Lupus Driver เนื่องจากความผูกพันและเจตจำนงแห่งการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในตอนต่อสู้กับเวก้านั้นมันได้หายไป ตัวเขาตอนนี้ไม่ได้มีพวกเรดอยู่เคียงข้าง พลังที่สามารถดึงออกมาได้จึงไม่เต็มร้อย อีกทั้งความทรงจำของเขาก็หายไปอีกด้วย

 

—————

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Status: Ongoing
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท